ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - ตอนที่ 380 คำเรียกขาน
ตอนที่ 380 คำเรียกขาน
ท่านหมอเมิ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เจ้าสามารถเรียกข้าว่าพี่ใหญ่เมิ่งหรือชื่อของข้า เชียวเหยียน ก็ได้ ”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกสงสัยขึ้นมาเมื่อได้ยินเช่นนี้ คนโบราณนั้นเข้มงวดในเรื่องของคำพูดอย่างยิ่งและไม่ปล่อยให้คนท ที่ไม่สนิทกันเรียกหาด้วยคำเช่นนี้ แต่ในวันนี้ทำไมท่านหมอเมิ่งจึงกระทำเช่นนี้?
อีกทั้งนางยังเรียกอีกฝ่ายว่าท่านอาเมิ่งมานาน เหตุใดจึงเปลี่ยนเป็นพี่ใหญ่เมิ่ง?
จางซิ่วเอ๋อไม่เข้าใจ จึงถามออกไปตามปกติ “ท่านไม่ชอบที่ข้าเรียกขานท่านแก่เกินอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อท่านหมอเมิ่งได้ยินเช่นนี้ เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวตอบ “เอาล่ะ เช่นนั้นเจ้าอยากเรียกข้าว่าอะไรก็ตามใ ใจเจ้า”
จางซิ่วเอ๋อคุ้นเคยกับมันมาก จึงยากที่จะเปลี่ยนแปลงคำพูดของตน ดังนั้นนางจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อย่างนั้นข้าก็จ จะเรียกท่านว่าท่านอาเมิ่ง” สิ่งสำคัญที่สุดก็คือหากคนในหมู่บ้านรู้ว่านางเรียกขานท่านหมอเมิ่งว่าพี่ใหญ่เมิ่ง ย ย่อมมีคนเข้าใจผิดมากขึ้น
ส่วนท่านหมอเมิ่งก็ไม่ได้คิดบังคับจางซิ่วเอ๋อนัก
เมื่อคิดดูแล้วมันก็เป็นเพียงชื่อเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้นจางซิ่วเอ๋อคงเปลี่ยนคำเรียกขานเป็นธรรมดา
จางซิ่วเอ๋อจะทราบได้อย่างไรว่าการที่ท่านหมอเมิ่งขอให้เปลี่ยนคำเรียกขานอย่างกระทันหันนี้ทั้งหมดเป็นเพราะการส สนทนาของแม่โจว ตอนนี้เขาไม่สามารถถือตนว่าเป็นผู้อาวุโสของจางซิ่วเอ๋อได้อีกต่อไป
“อย่างไรก็ตาม ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลยว่าแม่ข้าเป็นอย่างไรบ้าง?” จางซิ่วเอ๋อเปลี่ยนเรื่อง
ท่านหมอเมิ่งกล่าวตอบอย่างอบอุ่น “อาการของแม่เจ้าดีมาก ตราบใดที่ยังดูแลตนเองดีเช่นนี้ เด็กจะเกิดมาอย่างปลอดภัย ”
จางซิ่วเอ๋อถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ข้าทำให้ท่านต้องลำบากแล้ว ข้าไม่รู้ว่าค่าตรวจในคราวนี้ค คือ…”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าตนต้องชำระค่ารักษา
เมื่อท่านหมอเมิ่งได้ยินเช่นนั้น เขาเงยหน้ามองจางซิ่วเอ๋อแล้วถามออกไปทันที “เจ้าต้องการให้ค่ารักษากับข้าในตอน นนี้อย่างนั้นหรือ?” เนื่องจากพวกเขากำลังจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว จึงไม่ควรจะมานั่งกังวลเกี่ยวกับเรื่องค่ารั กษาพยาบาล
ใบหน้าของจางซิ่วเอ๋อเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “หากท่านไม่รับค่ารักษา ในอนาคตข้าก็คงจะอับอายที่ต้องรับการรักษาจากท่า านอีก”
เมื่อคิดว่าหากทั้งสองไม่จัดการเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์ จางซิ่วเอ๋อคงจะไม่สบายใจนัก หากเขารีบร้อนเกินไป มันคงท ทำให้จางซิ่วเอ๋อต้องอึดอัด ท่านหมอเมิ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สิบเหรียญทองแดง”
จางซิ่วเอ๋อหยิบสิบเหรียญทองแดงออกมาอย่างรวดเร็วและมอบมันให้ท่านหมอเมิ่ง
ท่านหมอเมิ่งถือเหรียญทองแดงที่อุ่นตามอุณหภูมิของร่างกายจางซิ่วเอ๋อไว้ในมือ อย่างไม่เป็นธรรมชาติ เขากล่าวเสีย ยงทุ้ม “เช่นนั้นข้าขอตัว”
หลังจากพูดจบ เขาก็ไม่รอให้จางซิ่วเอ๋อกล่าวอะไร ท่านหมอเมิ่งก้าวขาและเดินจากไปทันที
จางซิ่วเอ๋อพลันสงสัยขึ้นมา เหตุใดนางจึงรู้สึกว่าท่านหมอเมิ่งทำตัวแปลกไป?
ก่อนหน้านี้ท่านหมอเมิ่งดูไม่หวั่นไหวมากเท่านี้ แต่ท่านหมอเมิ่งคนปัจจุบันกลับดูแตกต่างไปมาก
เมื่อจางซิ่วเอ๋อกำลังไตร่ตรองเรื่องนี้อยู่ ก็มีใครบางคนแตะไหล่ของจางซิ่วเอ๋อจากด้านหลัง
“ซิ่วเอ๋อ!”
จางซิ่วเอ๋อหันกลับมา “รุ่ยเซียง?”
วันนี้รุ่ยเซียงสวมชุดสีชมพูอ่อน ใบหน้าถูกตบแต่งด้วยแป้งชั้นบางๆ ทำให้นางดูอ่อนเยาว์กว่าปกติเล็กน้อย
จางซิ่วเอ๋อเกิดความสงสัยในใจ นางเคยได้ยินมาว่าครอบครัวของรุ่ยเซียงนั้นปฏิบัติต่อรุ่ยเซียงไม่ดีนัก
แต่เมื่อมองชุดของรุ่ยเซียงแล้ว รุ่ยเซียงกลับดูไม่เหมือนกับคนที่ถูกครอบครัวรังเกียจ
แต่นี่เป็นเรื่องของครอบครัวรุ่ยเซียง นับตั้งแต่วันที่นางรู้ว่ารุ่ยเซียงและหวังกลากเกลื้อนติดต่อกัน จางซิ่วเ เอ๋อจึงตัดสินใจว่าจะอยู่ให้ห่างจากรุ่ยเซียง ตอนนี้เองนางก้าวถอยหลังเพื่อออกห่างจากรุ่ยเซียงทันที
รุ่ยเซียงชี้ไปที่ทิศทางที่ท่านหมอเมิ่งเดินออกไป “ข้าเห็นมันหมดแล้ว!”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินน้ำเสียงของรุ่ยเซียงที่เปล่งออกราวกับได้ล่วงรู้ความลับของตน
จางซิ่วเอ๋อตอบกลับ “รุ่ยเซียง หากเจ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อน”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าตนกับรุ่ยเซียงไม่เหมือนกันเลยสักนิด และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอ อีก หากเป็นเช่นนี้ รุ่ยเซียงก็จะกล่าวถึงเรื่องของท่านหมอเมิ่งแน่นอน
หากรอให้รุ่ยเซียงพูดออกมา นางคงไม่มีความสุขนัก ออกไปตอนนี้เสียยังจะดีกว่าปล่อยให้รุ่ยเซียงมีโอกาสได้พูดพร ร่ำ
ตอนนี้ทั้งสองเป็นสหายกันไม่ได้ แต่ยังสามารถกระทำเช่นนี้ได้อยู่
มิฉะนั้นนางเกรงว่าตนจะไม่สามารถควบคุมตนเอง จนรู้สึกรังเกียจรุ่ยเซียงไปมากกว่านี้
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องอื่น แค่พูดถึงสถานการณ์ของท่านหมอเมิ่งนี้ก็ทำให้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกไม่ชอบรุ่ยเซียงแล้ว
แน่นอน ว่ารุ่ยเซียงย่อมสามารถคบค้าสมาคมกับผู้ใดก็ได้ เป็นอิสระของรุ่ยเซียง
แต่มีคำกล่าวที่ดีว่า ผู้คนมักจะดึงดูดสิ่งที่คล้ายคลึงกัน หากรุ่ยเซียงรู้ว่าหวังกลากเกลื้อนเป็นคนประเภทใด แล้วยังคบหาสมาคมกับหวังกลากเกลื้อนอยู่ เช่นนี้นางจะเป็นคนแบบใดเล่า? นอกจากนี้หวังกลากเกลื้อนยังมีภรรยาแล้ว ว!
รุ่ยเซียงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้ “ซิ่วเอ๋อ ข้าก็แค่อยากคุยกับเจ้าสักสองสามคำ เหตุใดจึงรีบ บร้อนนัก?”
ใบหน้าของรุ่ยเซียงกล่าวคำด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความเสน่หา “เอาล่ะ ซิ่วเอ๋อไม่ต้องกังวล ข้าจะไม ม่บอกท่านหมอเมิ่งกับสิ่งที่ข้าเห็นบนภูเขาแน่นอน อย่าได้เพิกเฉยต่อข้าเพราะเรื่องนี้เลย นอกจากนี้เจ้าก็เห็นข ข้ากับพี่ใหญ่หวังด้วยมิใช่หรือ? พวกเราทั้งคู่ต่างเสมอกันแล้ว!”
จางซิ่วเอ๋อแสดงออกอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ในเวลานี้นางจะไม่ยอมคล้อยตามเพราะคำพูดเพียงคำสองคำของรุ่ยเซียงหรอก
จางซิ่วเอ๋อมองรุ่ยเซียงด้วยสายตาจริงจัง “รุ่ยเซียง ข้าไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นบนภูเขาหรอก และข้าก็ไม่สนว่ าท่านหมอเมิ่งจะรู้เรื่องนี้หรือไม่”
จะเกิดอะไรขึ้นหากท่านหมอเมิ่งรู้ว่านางและหนิงอันไปที่ภูเขาด้วยกัน?
นอกจากนี้ท่านหมอเมิ่งยังรู้ว่าหนิงอันอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันกับตน!
แต่ท่านหมอเมิ่งไม่เคยเผยท่าทางใด ๆ แล้วเขาก็ยังไม่คิดเข้าใจผิดด้วย!
นางกำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง และแน่นอนว่านางย่อมไม่กลัวอะไรเลยเป็นธรรมดา!
นอกจากนี้ รุ่ยเซียงดูเหมือนจะกระตือรือร้นที่จะสืบความลับของนาง มันทำให้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกอึดอัดยิ่ง
“ซิ่วเอ๋อ เราสองคนมีความสัมพันธ์กันอย่างไร เหตุใดในเวลาเช่นนี้เจ้าจึงคิดปกปิดข้าอยู่? ข้าก็เพิ่งเห็นเจ้ากับ บท่านหมอเมิ่งอยู่ด้วยกัน แล้วเจ้าก็ยังจะพูดว่าเจ้าไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับท่านหมอเมิ่งงั้นหรือ?” รุ่ยเซียงยังค คงดื้อรั้น
เมื่อเผชิญหน้ากับความดื้อรั้นของรุ่ยเซียง ความอดทนของจางซิ่วเอ๋อก็หมดลงเช่นกัน
ถูกต้อง นางกับรุ่ยเซียงมีความสัมพันธ์แบบที่ถือได้ว่าเคยเป็นสหายร่วมกันมา แต่ถึงแม้คนที่ใกล้ชิดกับจางซิ่วเอ๋อ อจะมาถามไถ่จางซิ่วเอ๋อเช่นนี้ จางซิ่วเอ๋อย่อมรู้สึกไม่มีความสุข
อย่าว่าแต่เรื่องนี้เลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รุ่ยเซียงทำเช่นนี้
เสียงของจางซิ่วเอ๋อดังขึ้น “รุ่ยเซียง! ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่รับฟังลมกลับทำนายฝน* ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่า านหมอเมิ่ง ตอนนี้ท่านหมอเมิ่งมาตรวจสอบอาการแม่ของข้าเท่านั้น… อย่าได้คาดเดาไปทั่ว”
*ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด*
“ในเมื่อเจ้าไม่เกี่ยวอะไรกับท่านหมอเมิ่ง! ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็แนะนำให้ข้ารู้จักกับท่านหมอเมิ่งเสียสิ!” รุ่ยเซีย ยงโพล่งออกมาทันที
เมื่อจางซิ่วเอ๋อได้ยินเช่นนี้ นางมองรุ่ยเซียงด้วยความตื่นตระหนก “เจ้า…”
“เจ้าทำได้หรือไม่?” รุ่ยเซียงถาม
จางซิ่วเอ๋อขมวดคิ้วพร้อมส่ายศีรษะ “ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าเรื่องนี้ได้ ท่านหมอเมิ่งมักจะมาที่หมู่บ้านบ่อยครั้ง ห หากเจ้าอยากรู้จักท่านหมอเมิ่งก็เพียงแค่ไปที่นั่น”
……………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เหมือนคนรอบข้างพยายามยัดเยียดท่านหมอให้ซิ่วเอ๋ออย่างไรไม่รู้สิเนี่ย แล้วรุ่ยเซียงนี่จะมาทำอะไรท่านหมอเนี่ย ย เชื่อสิว่าต่อจากนี้ต้องเข้าใจไปว่าซิ่วเอ๋อหวงท่านหมอ
ไหหม่า(海馬)