ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - ตอนที่ 402 ใจกว้าง
ตอนที่ 402 ใจกว้าง
เนี่ยหย่วนเฉียวและเถี่ยเสวียนไม่กลับมา
จางซิ่วเอ๋อไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะคิดว่าพวกเขาคงกำลังพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกสงสัย นอกจากนี้จากซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนตัวใหญ่ทั้งสองจะอดอาหารตาย
“ท่านอาเมิ่ง เดินระวังด้วยเจ้าค่ะ” เมื่อท่านหมอเมิ่งกำลังจะจากไป จางซิ่วเอ๋อก็ออกมาส่งเขา
ท่านหมอเมิ่งพยักหน้าพร้อมกล่าวอย่างอ่อนโยน “คิดให้ถี่ถ้วน หากเจ้ายังตัดสินใจไม่ได้ ข้าก็จะไม่ทำให้เจ้าต้องรู้สึกยากลำบากแน่นอน”
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้า “ขอบคุณ”
ขอบคุณที่อดทนต่อข้าในตอนที่ข้าลำบากที่สุด ขอบคุณที่ดึงข้าขึ้นมาเมื่อข้าทุกข์ยากที่สุด
จางซิ่วเอ๋อกลับเข้ามาในบ้านหลังจากส่งท่านหมอเมิ่งเสร็จสิ้นแล้ว
แม่โจวดึงแขนของจางซิ่วเอ๋อไว้ “ซิ่วเอ๋อ ท่านหมอเมิ่งพูดอะไรก่อนจะกลับไปหรือไม่?”
จางซิ่วเอ๋อมองแม่โจวพร้อมกล่าวว่า “ท่านแม่ เขาไม่ได้พูดอะไร”
เช่นนั้นแม่โจวจึงถอนหายใจ “ตราบใดที่ท่านหมอเมิ่งไม่รู้สึกอึดอัดเพราะสิ่งที่เจ้าพูด ก็ไม่เป็นไร”
จางซิ่วเอ๋อมองแม่โจว นางอดไม่ได้ที่จะกระตุ้นแม่โจว
นางคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยคำ “ท่านแม่ ข้าจะจัดการเรื่องนี้กับท่านหมอเมิ่งเอง ไม่ต้องห่วง” ความหมายของถ้อยคำเหล่านี้คือแม้ว่านางจะไม่ได้อยู่กับท่านหมอเมิ่งในอนาคต นางก็ได ด้แต่คาดหวังว่าแม่โจวจะไม่เสียใจมากเกินไป
แม่โจวรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที “ซิ่วเอ๋อ เจ้าคิดกับท่านหมอเมิ่งเช่นนี้งั้นหรือ? เมื่อก่อนข้าเคยถามเจ้าแล้ว และเจ้าก็กล่าวชัดเจนว่าท่านหมอเมิ่งเป็นคนดี”
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้า “ท่านหมอเมิ่งเป็นคนดีจริง ๆ แต่เวลานั้นข้าไม่ทราบว่าท่านแม่หมายความถึงอะไรเมื่อถามคำนั้นกับข้า”
“แต่มันก็สายเกินไปแล้วที่เจ้ามารู้เรื่องตอนนี้ ซิ่วเอ๋อ แม่รู้ว่าเจ้าคิดเองได้ แต่เรื่องนี้แม่ยังหวังให้เจ้าฟังแม่บ้าง อาจมีคนรวยกว่าท่านหมอเมิ่งในแปดหมู่บ้านนี้ แต่ไม่ม มีบุรุษที่ไหนจะติดดินและสามารถทำให้เจ้าใช้ชีวิตอย่างมั่นคงได้มากเท่าท่านหมอเมิ่งอีกแล้ว” แม่โจวกล่าวคำจริงจัง
“ท่านแม่ ข้าเข้าใจสิ่งที่ท่านพูดมา แต่สำหรับเรื่องนี้ข้ายังต้องคิดก่อน” จางซิ่วเอ๋อกล่าวช้า ๆ
แม่โจวพยักหน้าเมื่อได้ยินเช่นนี้ นางรู้สึกว่าจางซิ่วเอ๋อปฏิเสธในวันนี้เพียงเพราะตกใจ อีกสักพักนางก็จะยอมแพ้ และในที่สุดนางย่อมคิดเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนและเข้าใจทุกอย่างได้ ในที่สุด
อีกไม่นาน จางซิ่วเอ๋อจะต้องตระหนักได้อย่างแน่นอน
หัวใจของแม่โจวผ่อนคลายลงเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยคำ “ซิ่วเอ๋อ แม่รู้สึกเสียใจต่อเรื่องของเจ้าเสมอ หากวันนั้นข้ากล้าหาญสักนิด ข้าจะไม่ปล่อยให้ย่าของเจ้าส่งเจ้าไปที่บ้านตระกูลเนี่ย ได้ ตอนนี้ข้าได้แต่หวังว่าเจ้าจะได้แต่งงานกับคนธรรมดา มีชีวิตที่เรียบง่าย”
เมื่อเทียบกับที่จางซิ่วเอ๋อต้องแบกรับชื่อแม่ม่ายตัวน้อยแต่ใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่งแล้ว แม่โจวอยากให้จางซิ่วเอ๋อได้แต่งงานกับผู้ชายที่สามารถดูแลนางได้มากกว่า
ในหัวใจของแม่โจว ไม่ว่าสตรีจะแข็งแกร่งเพียงใด สุดท้ายแล้วก็ยังต้องพึ่งพาบุรุษอยู่วันยังค่ำ
โดยธรรมชาติแล้ว จางซิ่วเอ๋อเข้าใจได้ดีกว่าตอนนี้แม่โจวกำลังคิดอะไรอยู่
นางรู้ด้วยว่าแม้ตนจะบอกความจริงที่ยิ่งใหญ่ของแม่โจวในยามนี้ นางก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของแม่โจวได้ในคำพูดเดียว
ท้ายที่สุด แม่โจวเป็นเพียงสาวชนบทในยุคโบราณ และความคิดของนางแตกต่างไปจากความคิดของตนอย่างแน่นอน
จางซิ่วเอ๋อจึงทำได้เพียงกล่าวคำอย่างคลุมเครือ “ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านกำลังทำเพื่อตัวข้า แต่ท่านวางใจเถิดว่าข้าจะไม่ปล่อยให้ตนเองต้องถูกทำร้าย แล้วไม่ต้องกังวลกับเรื่องน นี้เลย ข้าจะคิดเกี่ยวกับมันอย่างรอบคอบและถี่ถ้วน”
แม่โจวพยักหน้ารับพร้อมเอ่ยคำ “เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อน”
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้า “ข้าจะไปส่งท่าน”
จางซิ่วเอ๋อกังวลมาก เพราะความรีบร้อนของแม่โจวในวันนี้ทำให้นางรู้สึกแพ้ท้องขึ้นมา
เมื่อมารดาและบุตรสาวมาถึงบ้านตระกูลจาง ภายในครอบครัวจางก็เกิดความโกลาหลแล้ว
จางต้าหูขึ้นไปบนภูเขาเพื่อตัดฟืน และไม่นานหลังจากที่เขากลับมา เขาได้รู้ว่าท่านหมอเมิ่งมอบสินสอดทองหมั้นให้แก่จางซิ่วเอ๋อ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะแม่เฒ่าจางและจางอวี่หมินพูดก กล่าว
ในขณะนี้ แม่เฒ่าจางเหยียดนิ้วออกไปจิ้มหน้าผากของจางต้าหู “จางต้าหู! ข้าให้กำเนิดสวะอย่างเจ้าได้เช่นไร? ภรรยาของเจ้าปล่อยให้ลูกสาวของเจ้าแต่งงานใหม่แล้ว เรื่องนี้เจ้าไม่รู้เล ลยงั้นหรือ?”
แม่โจวไม่ได้บอกจางต้าหูถึงเรื่องนี้เลย
เหตุผลหลักคือแม่โจวไม่ต้องการให้ตระกูลจางเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องของจางซิ่วเอ๋อ ลูกสาวของนางทนทุกข์มามากเพียงพอแล้วและตอนนี้นางกำลังจะมีครอบครัวที่ดี เช่นนี้จะปล่อยให้ตระก กูลจางเข้ามาวุ่นวายได้อย่างไร?
หากเป็นเมื่อก่อน แม่โจวคงไม่ปิดบังเรื่องนี้กับจางต้าหู
แต่ตอนนี้แม่โจวเริ่มระมัดระวังตนเองแล้ว และแม่โจวก็ไม่มั่นใจว่าท่านหมอเมิ่งจะมาขอแต่งงานจริงหรือไม่ ดังนั้นนางจึงเก็บซ่อนเรื่องนี้เอาไว้
เมื่อเผชิญกับคำดุด่าของแม่เฒ่าจาง จางต้าหูก็หน้าแดงก่ำ “ท่านแม่ หากท่านหมอเมิ่งมาขอแต่งงานจริง ๆ ก็นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดี”
ในใจของจางต้าหู เขารู้สึกว่าอย่างไรจางซิ่วเอ๋อก็ยังเป็นสตรี ทั้งนางปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะชนในทุกวันและตอนนี้ผู้คนในหมู่บ้านต่างก็ชี้นิ้วไปที่นาง
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว จางต้าหูจึงไม่มีความคิดเห็นใดเกี่ยวกับการแต่งงานของจางซิ่วเอ๋อ
“แน่นอนว่าข้าไม่มีปัญหาที่นางจะแต่งงานกับใคร แต่ดูสิ่งที่ภรรยาของเจ้ากระทำเสียก่อน! ท่านหมอเมิ่งควรจะนำสินสอดทองหมั้นมาไว้ที่นี่! นางจะเก็บสินสอดเหล่านั้นไว้เป็นของส่วนตัว ได้อย่างไร? นางคือหลานสาวของตระกูลจาง! แล้วมีเหตุผลใดที่หลานสาวผู้นั้นจะได้รับสินสอดทองหมั้นเหล่านี้?” แม่เฒ่าจางถามกลับ
จางอวี่หมินกล่าวต่อ “พี่ชายสี่ ซิ่วเอ๋อยิ่งชั่วร้ายขึ้นทุกวัน ไม่เพียงแต่นางจะไม่เห็นพวกเราในสายตาเท่านั้น แต่นางยังไม่เห็นว่าท่านเป็นพ่อของนางด้วยซ้ำ! ท่านต้องสั่งสอนน นางให้ดีกว่านี้!”
จางต้าหูกล่าวอย่างขุ่นเคือง “ท่านแม่ อวี่หมิน ไม่ว่าเจ้าจะพูดอย่างไร หากจางซิ่วเอ๋อได้แต่งงานกับท่านหมอเมิ่งจริง ๆ มันนับว่าเป็นเรื่องน่ายินดี อย่าได้สนใจเรื่องอื่นเลย”
จางต้าหูไม่เห็นสินสอดทองหมั้น ดังนั้นเขาจึงไม่มีความเห็นเกี่ยวกับมัน และแน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะคิดเรื่องนี้เช่นกัน
แต่แม่เฒ่าจางและจางอวี่หมินได้เห็นสินสอดทองหมั้นอันใจกว้างด้วยตาของพวกเขาเอง ในเวลานี้หัวใจของพวกเขาต่างร้อนรน สิ่งของดี ๆ เช่นนั้นมันควรเป็นของพวกเขา แล้วจางซิ่วเอ๋อจะเก ก็บสิ่งของทั้งหมดไว้เพียงคนเดียวได้อย่างไร?
“ต้าหู! นังสารเลวแม่โจวกับนังตัวขาดทุนจางซิ่วเอ๋อมันมอบความสุขใดให้แก่เจ้า? ทีนี้รู้หรือยังว่าควรต้องพูดคุยกับพวกมันอย่างไร?” แม่เฒ่าจางกล่าวอย่างโกรธเคือง
เมื่อเผชิญหน้ากับแม่เฒ่าจาง จางต้าหูผู้นี้ทำได้เพียงก้มหน้าลง เขาไม่กล้าที่จะโต้ตอบแม้เพียงครึ่งคำ
แต่ยิ่งจางต้าหูเป็นเช่นนี้ แม่เฒ่าจางยิ่งโกรธมากขึ้น
“ข้าต้องตรากตรำอย่างหนักเพื่อเลี้ยงดูเจ้ามา แล้วยังต้องกัดฟันให้เจ้าได้ตบแต่งกับภรรยาอีก แต่ตอนนี้เจ้ารู้เพียงวิธีที่จะปกป้องเมียตนเองและลูกที่ให้กำเนิดมาเท่านั้น! แล้วใน นหัวใจของเจ้ามีแม่เช่นข้าอยู่บ้างหรือไม่?” เมื่อกล่าวออกมาเช่นนี้ แม่เฒ่าจางเริ่มคร่ำครวญ
“อวี่หมิน เหตุใดข้าจึงต้องอยู่อย่างยากลำบากเช่นนี้ เหตุใดข้าจึงให้กำเนิดสิ่งที่ไร้ศีลธรรมเช่นนี้ออกมา หากวันนั้นข้ารู้ ข้าคงบีบคอมันตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง!” เสียงของแม่เฒ่าจ จางยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ
…………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
น่าเอาประทัดไปโยนใส่บ้านนัก รำคาญพวกสัมภเวสีขอส่วนบุญพวกนี้จริงๆ
ไหหม่า(海馬)