ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - ตอนที่ 406 ยืมเงินอีกครั้ง
ตอนที่ 406 ยืมเงินอีกครั้ง
เขาเคยใจดีต่อแม่และน้องสาวของตัวเอง แต่พวกเขากลับไม่ยอมให้เขาได้กินเนื้อสักคำ
หากเป็นเพียงครั้งเดียว เขาคงไม่ขุ่นเคืองใจนัก ทว่าเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแค่ภายในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้
จู่ ๆ จางต้าหูก็รู้สึกท้อแท้เล็กน้อยเมื่อเขานึกถึงสิ่งที่แม่เฒ่าจางพูดเกี่ยวกับตัวเขาเสมอ
เมื่อเห็นว่าจางต้าหูมีท่าทีเช่นนี้ จางซิ่วเอ๋อรู้สึกพึงพอใจมากขึ้นเล็กน้อย
ถึงพลบค่ำ นางก็เดินออกจากบ้านตระกูลจางและกลับบ้าน
เมื่อเดินเข้าใกล้ทางเข้าป่าผีสิง จางซิ่วเอ๋อถูกคนรู้จักหยุดเอาไว้
จางซิ่วเอ๋อขมวดคิ้วมุ่น เพราะคนตรงหน้าของนางคือรุ่ยเซียง
คราวที่แล้วนางกับรุ่ยเซียงไม่ได้ทะเลาะกันแต่อย่างใด แต่ก็ถือว่าเป็นการแยกย้ายกันไปโดยไม่มีความสุขนัก แล้วรุ่ยเซียงมายืนขวางนางเพื่ออะไรกัน?
บ้านของรุ่ยเซียงไม่ได้อยู่แถวนี้ แต่นางกลับปรากฏตัวที่นี่ เห็นได้ชัดว่ากำลังรอจางซิ่วเอ๋ออยู่!
ตอนนี้ทั้งสองได้พบกันแล้ว จางซิ่วเอ๋อจึงไม่สามารถแสร้งทำเป็นไม่เห็นได้
นางพยักหน้าเล็กน้อย “รุ่ยเซียง ช่างบังเอิญจริง”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ จางซิ่วเอ๋อก็วางแผนว่าจะแสร้งว่าทำเป็นไม่รู้ว่ารุ่ยเซียงรอนางอยู่ตรงนี้และเดินต่อไปข้างหน้า
แต่รุ่ยเซียงเอื้อมมือออกมาขวางทางตรงหน้าจางซิ่วเอ๋อเอาไว้
จางซิ่วเอ๋อขมวดคิ้วและมองรุ่ยเซียงอย่างไม่เข้าใจ “รุ่ยเซียง เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“ซิ่วเอ๋อ ข้ามีเรื่องต้องคุยกับเจ้า!” รุ่ยเซียงกล่าวอย่างเคร่งขรึม
จางซิ่วเอ๋อชี้ไปทางบ้านผีสิง “วันนี้มืดแล้ว ชุนเถารอข้าอยู่ที่บ้าน ค่อยคุยกันวันหลังเถอะ”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าเมื่อใดที่รุ่ยเซียงมองหาตน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีสักครั้ง นางคิดอยากกำจัดเค้าลางปัญหา ส่วนในอนาคตงั้นหรือ? ในอนาคตนางก็เพียงซ่อนตัวจากรุ่ยเซียงและไม่ไปเกี่ยวข้องด้วยอีก
และถ้ารุ่ยเซียงไม่โง่และรู้ว่าตนกำลังหลบเลี่ยงนางอยู่ นางก็ไม่ควรมาใช่หรือไม่?
ความจริงแล้วรุ่ยเซียงไม่ได้โง่เขลา แต่เพราะนางเป็นคนไร้ยางอาย!
นางรู้อย่างชัดเจนว่าจางซิ่วเอ๋อไม่ต้องการที่จะพบหน้าตนในยามนี้ แต่นางก็ยังยืนกรานที่จะมา!
“ซิ่วเอ๋อ! ข้าไม่สามารถเสียเวลาไปมากกว่านี้ได้!” รุ่ยเซียงคว้าแขนของจางซิ่วเอ๋อเอาไว้ ดูเหมือนว่านางจะไม่ยอมให้จางซิ่วเอ๋อจากไปโดยง่าย
จางซิ่วเอ๋อขมวดคิ้วและมองรุ่ยเซียง “เกิดอะไรขึ้น?”
เนื่องจากนางไม่อาจหนีพ้น จางซิ่วเอ๋อจึงต้องรอให้รุ่ยเซียงพูด
“ซิ่วเอ๋อ เป็นเรื่องเดิม เจ้าให้ข้ายืมเงินหน่อยได้หรือไม่?” รุ่ยเซียงพูดเรื่องนี้อีกครั้ง
เมื่อจางซิ่วเอ๋อได้ยินเช่นนี้ นางกล่าวตอบ “ข้าเคยบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือ? ว่าข้าไม่สามารถช่วยเรื่องนี้ได้”
“ซิ่วเอ๋อ! หากเป็นเมื่อก่อนข้าคงพอเชื่อว่าเจ้าไม่มีเงิน! แต่วันนี้ทุกคนเห็นแล้วว่าท่านหมอเมิ่งมอบสินสอดทองหมั้นแก่เจ้า! ข้าได้ยินมาว่ามีของมีค่ามากมายในหีบสินสอด!” รุ่ยเซียงยืนกราน
ในใจของจางซิ่วเอ๋อรู้สึกรังเกียจขึ้นมา
แม้ว่านางจะยอมรับสิ่งของเหล่านี้ แต่ทั้งหมดล้วนเป็นสินสอดทองหมั้นจากท่านหมอเมิ่ง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับรุ่ยเซียง?
และในโลกนี้ไม่มีเหตุผลใดที่คนนอกอย่างรุ่ยเซียงจะมายุ่งวุ่นวายกับสินสอดทองหมั้นผู้อื่นได้!
จางซิ่วเอ๋อนึกถึงแม่เฒ่าจางและจางอวี่หมินที่คิดฉกฉวยสินสอดทองหมั้น แม้ว่าพฤติกรรมของพวกนางจะดูน่ารังเกียจ แต่มันก็เพราะมีเรื่องราวบางอย่างก่อนหน้า ก็ใครกันเล่าบอกให้นางเกิดมาในตระกูลจาง?
แต่สำหรับรุ่ยเซียงแล้วมันแตกต่างออกไป
ทั้งสองไม่ใช่ญาติกัน! รุ่ยเซียงไม่มีสิทธิ์ใดที่จะมาคิดถึงสินสอดทองหมั้นนี้เลย!
“รุ่ยเซียง พวกมันเป็นของท่านหมอเมิ่ง และในอนาคตข้าย่อมคืนให้แก่ท่านหมอเมิ่ง” จางซิ่วเอ๋อกล่าวจริงจัง สิ่งที่นางพูดออกมาคือเรื่องจริง
หากนางไม่ได้แต่งงานกับท่านหมอเมิ่ง ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเก็บสินสอดเหล่านี้ไว้ มันจะต้องถูกส่งกลับไปแน่นอน
แต่ถึงนางต้องแต่งงานกับท่านหมอเมิ่ง นางก็ต้องคืนมันให้กับเขาอยู่ดี!
เพราะสิ่งของทั้งหมดนี้เป็นของท่านหมอเมิ่ง!
รุ่ยเซียงโต้กลับทันที “ท่านหมอเมิ่งเป็นของเจ้าแล้วมิใช่หรือ? ก็เจ้ากำลังจะแต่งงานกับเขา แล้วทุกสิ่งในตระกูลเมิ่งก็เป็นของเจ้า! นอกจากนี้ท่านหมอเมิ่งยังมอบสินสอดทองหมั้นแก่เจ้า เจ้าไม่ควรโง่เขลาส่งของพวกนี้กลับไปใช่หรือไม่?”
จางซิ่วเอ๋อมองรุ่ยเซียงเงียบ ๆ พร้อมกับลอบคิดในใจว่า หากไม่ยอมให้ส่งสินสอดเหล่านี้กลับไปให้ท่านหมอเมิ่ง เจ้าต้องการให้ข้าใช้สินสอดทองหมั้นทั้งหมดนี้เพื่อช่วยเหลือเจ้าหรือไร?
แน่นอน ในเวลานี้จางซิ่วเอ๋อยังคิดรักษาใบหน้าของรุ่ยเซียงอยู่ ดังนั้นนางจึงคิดในใจและไม่ได้พูดกล่าวมันออกไป
จางซิ่วเอ๋อไตร่ตรองคำพูดสักครู่ก่อนจะกล่าวตอบ “รุ่ยเซียง ข้าจะจัดการกับสินสอดทองหมั้นอย่างไรนั้นมันก็เป็นเรื่องของข้า”
นางพูดมันออกมาเพียงครึ่งคำเท่านั้น และนางอายที่จะพูดกล่าวอีกครึ่งคำที่เหลือ ซึ่งนั่นก็คือ มันไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า!
จางซิ่วเอ๋อหยุดพูดชั่วคราวก่อนจะกล่าวเสริม “ส่วนเรื่องเงิน ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้จริง ๆ”
ใบหน้าของรุ่ยเซียงพลันมืดมนเมื่อได้ยินเช่นนั้น “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าหมายความว่าตอนนี้เจ้าไม่สามารถให้ข้ายืมเงินได้งั้นหรือ?”
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้าเมื่อได้ยินเช่นนั้น นางอาจจะทำให้ผู้อื่นขุ่นเคืองใจด้วยการทำเช่นนี้ แต่นางก็ไม่ยอมตบหน้าตัวเองให้ดูอ้วนหรอก วันเวลาที่อยู่อาศัยบ้านหลังนั้นก็ใช่ว่าจะดี จึงรู้สึกเห็นใจผู้อื่นเท่านั้น
รุ่ยเซียงดูเหมือนจะโศกเศร้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น นางยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา แต่เพราะมันมืดแล้วจางซิ่วเอ๋อจึงไม่ทราบว่ารุ่ยเซียงมีน้ำตาจริงหรือไม่
แม้ว่าจางซิ่วเอ๋อจะเห็นว่ารุ่ยเซียงร้องไห้จริง ๆ มันก็ไม่ทำให้นางใจอ่อนลงได้
“ซิ่วเอ๋อ เราสองเป็นสหายร่วมตายกันมิใช่หรือ? ตอนนี้ข้ากำลังมีปัญหา เจ้าไม่ให้ข้ายืมเงินจริงหรือ?” รุ่ยเซียงเผยน้ำเสียงโศกเศร้า
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกใจอ่อนเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แต่นางพลันนึกถึงความคิดที่ก้าวร้าวของรุ่ยเซียงก่อนหน้านี้ จึงรีบตอบกลับทันที “รุ่ยเซียง หากเจ้าประสบปัญหาจริง ๆ ข้าอาจช่วยได้ แต่สำหรับเรื่องเงินแล้ว…ข้าช่วยไม่ได้”
เป็นเพราะความสัมพันธ์เดิมระหว่างเจ้าของร่างคนเก่ากับรุ่ยเซียงค่อนข้างดีต่อกัน
หากรุ่ยเซียงป่วย นางก็สามารถเรียกหาหมอให้รุ่ยเซียงได้
หากครอบครัวของรุ่ยเซียงขับไล่นางออกจากบ้าน นางก็ยังสามารถช่วยเหลือได้
แต่ที่จริงแล้ว ชัดเจนว่ามันไม่มีอะไรเช่นนี้เกิดขึ้นกับรุ่ยเซียง และสิ่งที่รุ่ยเซียงกำลังทำอยู่ตอนนี้ก็ช่างไร้เหตุผลจริง ๆ จางซิ่วเอ๋อจึงไม่คิดที่จะช่วยเหลือนางเลย
รุ่ยเซียงได้ยินคำพูดนั้น นางหลุดออกมาจากอารมณ์โศกเศร้าพร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “ซิ่วเอ๋อ ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ไม่คิดปฏิบัติต่อข้าในฐานะสหายสินะ!”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อได้ยิน ใช่ ถูกต้องแล้ว นางไม่ได้คิดว่ารุ่ยเซียงเป็นเพื่อนเลย นั่นเป็นเพราะรุ่ยเซียงได้ทำสิ่งหนึ่งลงไป และนางไม่เห็นด้วยกับสิ่งนั้น
ดังคำกล่าวที่ว่า ต่างมรรคาไม่อาจหารือ นางไม่สามารถบังคับตนเองให้เป็นเพื่อนกับรุ่ยเซียงได้!
ที่สำคัญที่สุดก็คือ! จางซิ่วเอ๋อเกลียดชังยิ่งนักกับคนที่ใช้ความรักฉันมิตรสหายมาข่มขู่เรียกร้องบางสิ่งจากผู้อื่น
หากเจ้าช่วยข้าเรื่องนี้ เจ้าคือสหาย และหากเจ้าไม่ช่วย เจ้าก็ไม่ใช่สหาย ความคิดเช่นนี้ช่างไร้เหตุผลอย่างแท้จริง!
เพียงมองจากความคิดของรุ่ยเซียงในตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าในใจของรุ่ยเซียงก็ไม่ได้มองว่านางเป็นสหาย!
เพราะเป็นเช่นนี้ นางจึงไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย!
จางซิ่วเอ๋อกล่าวคำด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก “รุ่ยเซียง ข้าขอโทษด้วย แต่หากเจ้าจะคิดเช่นนั้นก็เชิญตามสบาย”
……………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จู่ๆ จะมาขอยืมเงิน ญาติกันหรือก็ไม่ใช่ สนิทไหมก็ไม่ได้สนิท งงมากแม่
ไหหม่า(海馬)