ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - ตอนที่ 408 รู้สึกแย่
ตอนที่ 408 รู้สึกแย่
หลังจากที่จางซิ่วเอ๋อกลับมาถึงบ้าน นางก็ตักน้ำล้างหน้า และเก็บเสื้อผ้าที่แห้งแล้วเข้าบ้านก่อนจะเข้านอน
ก่อนเข้านอน นางมองตรงไปที่ห้องของหนิงอันและเถี่ยเสวียน
ห้องนั้นมืดมิดเงียบสงัด
จางซิ่วเอ๋อคิดอยู่สักครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังกลับ
นางไม่รู้ว่าเนี่ยหย่วนเฉียวและเถี่ยเสวียนไปไหน และทำไมเวลานี้พวกเขายังไม่กลับมา
ครั้นจันทราลอยเด่นอยู่กลางฟ้า จางซิ่วเอ๋อผู้หลับตั้งแต่หัวค่ำจึงตื่นขึ้นมากลางดึก นางนอนกระสับกระส่ายอยู่ครู่หนึ่งจึงพบว่ามันยากที่จะนอนต่อได้
นางรู้สึกร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก จางซิ่วเอ๋อรู้สึกได้ว่าตนเองกำลังหงุดหงิดมาก
นางสวมเสื้อผ้าพร้อมกับเดินออกไปที่ลานบ้าน
ยามมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนไร้ซึ่งเมฆบัง มีเพียงแสงจันทร์สาดส่อง ลานบ้านจึงสว่างไสวเป็นพิเศษ
จางซิ่วเอ๋อถอนหายใจเล็กน้อย
และในขณะนี้เอง จางซิ่วเอ๋อก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
นางเงี่ยหูฟังอย่างระมัดระวังและมองไปที่ต้นไม้คอเบี้ยวในสนาม ต้นไม้นั้นมีทรงพุ่มหนาทึบเสียจนจางซิ่วเอ๋อไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในได้
นางพึมพำเสียงแผ่ว “อาจจะเป็นนกป่ากระมัง”
ยอดของต้นไม้คอเบี้ยวขยับอีกครั้งขณะที่นางบ่น
คราวนี้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าไม่สามารถนั่งเฉย ๆ ได้อีกต่อไป เรื่องนี้มันประหลาดเกินไปแล้ว!
จางซิ่วเอ๋อไม่ค่อยเชื่อตำนานเรื่องการแขวนคอ แต่นางก็คิดว่าหากไม่มีลมย่อมไร้คลื่น เมื่อจางซิ่วเอ๋อได้ยินการเคลื่อนไหวนี้ นางจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตระหนกในใจ
หากนางไม่เข้าไปดูให้เห็นกับตา นางก็คงไม่สบายใจ และไม่สามารถนอนหลับลงได้ในวันนี้
หลังไตร่ตรองแล้ว จางซิ่วเอ๋อตัดสินใจเดินไปดู อย่างน้อยก็เพื่อยุติความกังวลในใจ
จางซิ่วเอ๋อเดินตรงไปที่นั่น และโน้มตัวเข้าไป
ใต้ต้นไม้ จางซิ่วเอ๋อเห็นเงาสีดำขนาดใหญ่อยู่บนต้นไม้
นางรู้สึกหวาดกลัว
ในขณะนี้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่ามีลมหนาวพัดผ่านร่างกายของตน ราวกับว่ามีบางอย่างพุ่งลงมา และก่อนที่นางจะทันได้เห็นว่ามันคืออะไร เงานั้นก็คว้าร่างกายนางเอาไว้
จางซิ่วเอ๋อตื่นตระหนก “ใคร!”
นางมั่นใจได้ทันทีว่านี่คือมนุษย์!
สิ้นเสียงของจางซิ่วเอ๋อ จางซิ่วเอ๋อมีปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณ นางยกขาขึ้นตีเข่าไปที่ตำแหน่งต่ำลงมาหนึ่งส่วนสามของร่างฝ่ายตรงข้ามทันที
หลังจากถูกลักพาตัวไป จางซิ่วเอ๋อจึงระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ในเวลานี้เมื่อนางพบสิ่งไม่ชอบมาพากล แน่นอนว่าปฏิกิริยาแรกของนางคือการปกป้องตนเอง
ในยุคปัจจุบัน จางซิ่วเอ๋อเคยเรียนรู้ทักษะการป้องกันตัวจากศัตรูมาก่อน
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นางตั้งใจงัดสิ่งเหล่านั้นออกมาทบทวน เพื่อป้องกันสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
ไม่ผิดหรอก มันย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ
เมื่อสตรีในยุคโบราณพบเจอเรื่องเช่นนี้ มันเป็นเรื่องยากที่จะป้องกันตนเองด้วยวิธีเดียวกันกับจางซิ่วเอ๋อ
พวกนางย่อมรู้สึกขัดเขินที่จะใช้วิธีดังกล่าว แล้วจะใช้มันปกป้องตนเองได้อย่างไร?
แต่จางซิ่วเอ๋อไม่สนใจเรื่องพวกนี้
ท่านี้ค่อนข้างหยาบคาย แต่นางจะไม่ใช้มันกับผู้คนทั่วไป นางจะใช้มันกับคนที่หยาบคายต่อนางเท่านั้น! และตอนนี้คนตรงหน้ากำลังรั้งนางไว้อย่างไม่ทราบเหตุผล เช่นนี้แขกที่ไม่ได้ร รับเชิญจึงกลายเป็นคนหยาบช้าไปโดยสมบูรณ์!
จางซิ่วเอ๋อลงมืออย่างรวดเร็ว จากนั้นเกิดเสียงอู้อี้ดังขึ้น
มือของชายผู้นั้นคลายออกเล็กน้อยเพื่อปล่อยจางซิ่วเอ๋อ
จางซิ่วเอ๋อก้าวถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก ในเวลานี้นางยังคงไม่ลืมที่จะสังเกตคนตรงหน้าอย่างระมัดระวัง
เมื่อจางซิ่วเอ๋อเห็นคนตรงหน้าชัดเจนแล้ว นางก็ตกตะลึงเล็กน้อย
ใบหน้าของนางเผยความประหลาดใจ ในที่สุดนางจึงเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงงุนงง “หนิงอัน?”
ถูกต้องแล้ว คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของนางคือเนี่ยหย่วนเฉียว! แต่จางซิ่วเอ๋อไม่คิดเลยว่าเนี่ยหย่วนเฉียวที่ไม่กลับบ้านมาหนึ่งวันจะมานอนอยู่บนต้นไม้แทนที่จะกลับเข้าไปนอนในบ้า าน
เนี่ยหย่วนเฉียวที่กำลังตกอยู่ในสภาวะมึนเมาในตอนแรกค่อย ๆ คลายความงุนงง กลายเป็นความเจ็บปวดเข้ามาแทนที่ทีละน้อย
ดวงตาของเขาค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นและในที่สุดก็เห็นจางซิ่วเอ๋อตรงหน้าอย่างชัดเจน
“เหตุใดข้าจึงมาอยู่ตรงนี้?” เนี่ยหย่วนเฉียวถามเสียงทุ้ม น้ำเสียงของเขาแตกพร่า
เมื่อจางซิ่วเอ๋อได้ยินคำถามของเนี่ยหย่วนเฉียว นางรู้สึกจนปัญญา “เจ้าไม่รู้งั้นหรือว่าเหตุใดจึงขึ้นไปนอนบนต้นไม้? ตอนกลางคืนเจ้าไม่กลับเข้าบ้าน แล้วเจ้าขึ้นไปทำอะไรบนต้นไม้น นั่น? ข้าไม่รู้ว่าบนต้นไม้มีอะไรอยู่ และใครใช้ให้เจ้าขึ้นไปบนนั้นจนทำข้าหวาดกลัว?”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ จางซิ่วเอ๋อหยุดลงเล็กน้อย นางตระหนักได้ว่าเมื่อครู่นางเพิ่งลงมือกับหนิงอันอย่างไร้ความปรานี เช่นนี้จึงอดไม่ได้ที่จะเขินอาย
ไม่ว่าอย่างไร หนิงอันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายนางในขณะที่กระโดดลงมา เป็นเพราะหนิงอันเคลื่อนไหวเร็วเกินไป นางจึงมองไม่เห็นว่าบุคคลตรงหน้าเป็นใครจึงปล่อยท่วงท่าโหดเหี้ยมออก
แม้หนิงอันจะเป็นผู้มีทักษะการต่อสู้ ทั้งสมรรถภาพทางกายของเขายังดีกว่าคนทั่วไปมาก แต่… สถานที่ที่เขาถูกเตะอย่างแรงนั้นเป็นกล่องดวงใจ นางคิดว่าคงไม่มีที่ใดเจ็บปวดได้เท่ าบริเวณนี้อีกแล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จางซิ่วเอ๋อรู้สึกผิดเล็กน้อย
ท้ายที่สุด เมื่อนางใช้กำลัง นางคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีหากหยุดยั้งแขกที่ไม่ได้รับเชิญตรงหน้าได้…
จางซิ่วเอ๋อประหลาดใจเล็กน้อยว่า…
นางออกแรงมากเกินไปหรือไม่? เนี่ยหย่วนเฉียวคงจะไม่เป็นหมันเพราะนางจริง ๆ ใช่ไหม? แล้วหากเป็นเช่นนั้น
จางซิ่วเอ๋อไม่กล้าที่จะคิดไปไกลกว่านี้
นางถามออกไปอย่างติดขัด “หนิงอัน ข้าอยากถาม… ข้าหมายถึง เจ้า… เอ่อ… มีอาการเจ็บปวดตรงไหนบ้างไหม? ถ้ามี มีตรงไหน? เอ่อ ข้า…”
เมื่อจะกล่าวเรื่องนี้ จางซิ่วเอ๋อไม่รู้เลยว่าควรจะพูดมันออกไปอย่างไร
นางจะถามออกไปได้อย่างไร?
หากหนิงอันกลายเป็นหมันเพราะตัวนางจริง ๆ นางสามารถรับผิดชอบหนิงอันได้อย่างนั้นหรือ? สำหรับบุรุษแล้ว! นี่คือของสำคัญยิ่ง
เนี่ยหย่วนเฉียวมองจางซิ่วเอ๋อที่กำลังตื่นตระหนกเพราะความรู้สึกผิด
จางซิ่วเอ๋อที่เขาเคยรู้จักมักจะใช้ฟันและเล็บมือในการต่อสู้ แต่ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อรู้จักวิธีการทำให้น้องชายของเขาต้องเจ็บหนัก
หลังจากความเจ็บปวดผ่านพ้นไปแล้ว ดวงตาของเนี่ยหย่วนเฉียวเริ่มมึนงง
เหตุผลที่เขายังไม่ได้กลับบ้านจนถึงตอนนี้ก็เพราะเขากำลังดื่มอยู่ในป่าด้านหลัง
คราวนี้เขาแค่อยากจะเมาเพื่อปลดปล่อยความรู้สึกที่ว่างเปล่าและอึดอัดในใจ แน่นอนว่าความรู้สึกที่ไม่สบายใจ ไม่ได้ทำให้เขาดื่มน้อยลง
เมื่อเนี่ยหย่วนเฉียวได้ยินจางซิ่วเอ๋อถามเช่นนี้ เขาลืมไปแล้วว่าก่อนหน้าเกิดอะไรขึ้น แต่เขากลับตอบออกมาจากส่วนลึกในจิตใจ “ข้ารู้สึกอึดอัด อึดอัดอย่างยิ่ง”
ใช่ ตอนนี้เขาอึดอัดใจนัก!
เพียงแค่คิดว่าจางซิ่วเอ๋อยอมรับสินสอดทองหมั้นของท่านหมอเมิ่ง หัวใจของเขาคล้ายจะแตกสลาย! ราวกับว่าบางสิ่งที่สำคัญมากในหัวใจเขาถูกใครบางคนพรากเอาไป!
จางซิ่วเอ๋อตื่นตระหนกทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ในเวลานี้จางซิ่วเอ๋อเริ่มคิดหาวิธีอย่างตื่นตระหนก! สวรรค์ ข้าควรทำอย่างไร ดูเหมือนว่าข้าจะใช้แรงมากเกินไปจนทำให้หนิงอันกลายเป็นขันทีเสียแล้ว!
…………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
น่าสงสาร อกหักเมาเหล้าไม่พอยังโดนกระแทกกล่องดวงใจอีก จะเป็นหมันไหมเนี่ย
ไหหม่า(海馬)