ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - ตอนที่ 413 ส่งข่าว
ตอนที่ 413 ส่งข่าว
มีน้ำนมจึงนับว่าเป็นแม่ คือคำอธิบายถึงคนอย่างแม่เฒ่าหลิว
นางไม่ใช่คนดี แต่ในเวลานี้จางซิ่วเอ๋อมีประโยชน์จริง ๆ และนี่เป็นเหตุผลที่จางซิ่วเอ๋อยินดีที่จะช่วยเหลือแม่เฒ่าหลิว
นางอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ และเป็นไปไม่ได้ที่นางจะเป็นศัตรูต่อทุกคนในหมู่บ้าน จางซิ่วเอ๋อเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี
เมื่อจางซิ่วเอ๋อมาถึงบ้านตระกูลจาง นางก็เห็นแม่เฒ่าหลิวแอบกวักมือเรียกนางอยู่ด้านหลังกองฟืน
จางซิ่วเอ๋อมองอย่างสงสัย และในที่สุดนางก็เดินไปที่นั่น
ไม่ว่าอย่างไรแม่เฒ่าหลิวก็เป็นหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง และตอนนี้ก็อยู่ในหมู่บ้าน ย่อมไม่อันตราย คงจะไม่เป็นไรหากนางจะเดินเข้าไป นอกจากนี้แม่เฒ่าหลิวยังไม่มีเหตุผลที่จะทำร้ายตน ด้วย
หลังจากรอจนจางซิ่วเอ๋อเดินมาถึง แม่เฒ่าหลิวก็กล่าวขึ้น “ข้าว่าแล้วว่าจะต้องเจอเจ้าได้ที่นี่”
แม้จางซิ่วเอ๋อจะไม่เข้าใจ แต่ก็ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของนาง “ท่านกำลังรอพบข้างั้นหรือ?”
“ใครรอพบเจ้ากัน!” แม่เฒ่าหลิวรีบพูด
“เจ้ารู้หรือยัง ตอนนี้มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแล้ว!” แม่เฒ่าหลิวกล่าวอย่างมีนัยยะ
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกตกประหม่าเมื่อฟังน้ำเสียงของแม่เฒ่าหลิว “เรื่องใหญ่อะไรหรือเจ้าคะ?”
“รุ่ยเซียงบอกกล่าวต่อทุกคนว่านางเห็นเจ้าในซ่องนางโลมลับ! นังนี่ช่างน่าเกลียดนัก! มันถึงกับใส่ร้ายเจ้าเช่นนี้!” แม่เฒ่าหลิวกล่าวคำอย่างไม่พอใจ
ต่อหน้ารุ่ยเซียง แม่เฒ่าหลิวไม่ได้พูดอะไร และดูเชื่อถือรุ่ยเซียงอยู่พอสมควรอีกด้วย
แต่เมื่อนางเผชิญหน้ากับจางซิ่วเอ๋อในตอนนี้ แม่เฒ่าหลิวก็ทำท่าราวกับไม่เชื่อคำของรุ่ยเซียง
จางซิ่วเอ๋อขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเรื่องนี้
นางรู้ว่าสิ่งที่แม่เฒ่าหลิวกล่าวออกมาเป็นความจริง
หลังตีตัวออกจากรุ่ยเซียงแล้ว นางก็รู้สึกว่ารุ่ยเซียงไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายอีกต่อไป บางทีรุ่ยเซียงอาจเป็นคนป่าวประกาศเรื่องนี้จริง ๆ ก็ได้ ดังนั้นนางจึงข่มขู่รุ่ยเซี ยงกลับ แต่นางก็ไม่คิดว่ารุ่ยเซียงจะเริ่มต้นเรื่องราวได้รวดเร็วเช่นนี้
ดูเหมือนว่ารุ่ยเซียงกังวลเรื่องงานแต่งงานของนางกับท่านหมอเมิ่งจริง ๆ ดังนั้นรุ่ยเซียงจึงต้องการทำลายเรื่องดี ๆ ของนางโดยเร็ว
จางซิ่วเอ๋อระงับเพลิงโทสะในใจ แล้วจึงกล่าวตอบ “ขอบคุณท่านยิ่ง หากวันใดข้าไปขายพะโล้อีก ข้าจะมอบอะไรให้ท่านได้ลิ้มลองแน่นอน”
จางซิ่วเอ๋อไม่ใช่คนโง่ นางรู้ดีว่าเหตุใดแม่เฒ่าหลิวจึงเต็มใจช่วยเหลือนาง ดังนั้นนางจึงกล่าวสัญญาเป็นมั่นเหมาะ
แม่เฒ่าหลิวเห็นว่ามันเป็นเพียงคำสัญญาว่าจะได้รับผลประโยชน์ ดังนั้นนางจึงพยายามอย่างหนัก “ซิ่วเอ๋อ ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนดี อย่าโมโหนักเลย คราวหน้าหากข้าเห็นว่ารุ่ยเซียงพูดจา าไม่ดีถึงเจ้าอีก คอยดูเถิด ข้าจะเป็นคนฉีกปากของนางเอง!”
จางซิ่วเอ๋อรู้ดีว่าแม่เฒ่าหลิวก็เพียงพูดลอย ๆ เว้นแต่ว่ารุ่ยเซียงจะขัดแย้งกับแม่เฒ่าหลิวโดยตรง เช่นเดียวกับแม่เฒ่าจาง แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ทำอะไรให้ แต่แม่เฒ่าหลิวก็แค่ทะเลา าะด้วยเท่านั้น
เพราะสุดท้ายแล้ว แม่เฒ่าหลิวจะไม่สู้กับรุ่ยเซียงเพียงเพื่อตัวนาง
แต่นางไม่มีสัมพันธ์กับผู้ใดเลยในหมู่บ้านนี้ หากมีสักคนที่คอยส่งข่าวให้ ก็ย่อมดีกว่าการไม่มีใครเลย
จางซิ่วเอ๋อยืนคุยกับแม่เฒ่าหลิวอยู่สักพักหนึ่งก่อนจะเข้าไปส่งอาหารให้แม่โจว
จางต้าหูทำตามสัญญาของจางซิ่วเอ๋อเมื่อวานนี้ และตอนนี้เขากำลังรอจางซิ่วเอ๋อมาส่งอาหารอยู่ที่บ้าน
ทันทีที่ฝนหยุดตกในวันนี้ แม่เฒ่าจางก็สั่งให้จางต้าหูไปทำงาน แต่เขากำลังคิดถึงของกินอยู่ จางต้าหูจึงไม่ออกไป และมันก็ทำให้แม่เฒ่าจางโกรธ
จางซิ่วเอ๋อหยิบหมูพะโล้และหมั่นโถวออกมาก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ฝนตก ข้าจึงทำขาหมูน้ำแดงไม่ได้ คงต้องเป็นวันอื่นแทนเจ้าค่ะ”
จางต้าหูรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าไม่มีขาหมูน้ำแดงให้กิน แต่ในไม่ช้าเขาก็เห็นพะโล้ชามใหญ่วางตรงหน้า
พะโล้สีน้ำตาลไหม้กับน้ำมันลอยเยิ้มบนผิวทำให้ผู้คนเริ่มอยากอาหารตั้งแต่แรกเห็น
และหมั่นโถวสีขาวก็ทำให้น้ำลายของจางต้าหูเริ่มไหล
“แค่นี้ก็พอแล้ว! แค่นี้ก็พอแล้ว!” จางต้าหูกล่าวซ้ำไปซ้ำมา สำหรับจางต้าหูแล้ว เขาพอใจกับเนื้อสัตว์ตรงหน้าอย่างยิ่ง
แม่เฒ่าจางไม่ค่อยพอใจนักเมื่อได้ยินการเคลื่อนไหวในบ้าน นางยืนอยู่ที่หน้าต่างและพูดว่า “ต้าหู เจ้ากำลังกินอะไร?”
จู่ ๆ ข้างในห้องก็เงียบไปครู่หนึ่ง
จางซิ่วเอ๋อและแม่โจวต่างจ้องมองที่จางต้าหู
จางต้าหูกล่าวด้วยน้ำเสียงอู้อี้หลังจากนั้น “ข้าไม่ได้กินอะไรเลย”
“ต้าหู หากเจ้ากินเนื้อ ก็เหลือสักชิ้นสองชิ้นให้แม่ของเจ้าบ้าง ข้าอดอยากปากแห้งหมดแล้ว” แม่เฒ่าจางกล่าวต่อ
จางต้าหูลังเล “เรื่องนั้น…”
แม่โจวมองจางต้าหูพร้อมกล่าว “นี่เป็นของจางซิ่วเอ๋อ ท่านไม่มีสิทธิ์เรียกหาผู้อื่น!”
ขณะที่จางต้าหูกำลังจะอ้าปากตอบตกลง เขาก็ถูกแม่โจวเอ่ยเรียกสติกลับมา และไม่อาจเรียกใครมาร่วมวงได้
ในเวลานี้เขาจึงพูดเสียงอ่อย “ท่านแม่ ซิ่วเอ๋อให้เหมยจื่อกิน มันไม่มีส่วนของเราเลยขอรับ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น แม่เฒ่าจางก็เหลือบมองไปตามเสียงด้วยความโกรธเคือง นางถึงกับเกลียดชังจางซิ่วเอ๋ออยู่ในใจ ทั้งหมดเป็นเพราะจางซิ่วเอ๋อ นังชั้นต่ำตัวน้อยผู้นี้! จางต้าหูถึงไม ม่ฟังคำพูดของนาง!
แม่เฒ่าจางโมโหจนเดินออกจากบ้าน
เมื่อนางออกมา นางก็เห็นคนจับกลุ่มพูดคุยกันอยู่ใต้ต้นหวายฉู่
“โอ้ นั่นแม่เฒ่าจางนี่ เหตุใดจึงไม่คิดอับอายแล้วยังกล้าออกมาเดินเล่นอีก?” แม่ม่ายหลิวกล่าวเสียงดัง
แม่เฒ่าจางตอบโต้อย่างไม่พอใจ “อะไรกัน? ถนนตรงนี้เป็นของบ้านเจ้าหรือไร? เจ้ามีปัญหาอะไรหรือหากข้าจะออกมาเดินเล่น?”
“เจ้าคงแก่ชรามากจนไม่รู้ว่าหลานสาวตัวดีของเจ้าสร้างความอับอายอีกแล้ว! เจ้าคงยังไม่รู้ว่าหลานสาวของเจ้าลอบไปขายตัวในซ่องนางโลมลับ! ข้าอยากจัดการแม่นางผู้นี้มานานแล้ว ไม่ นึกเลยว่าจะมีโอกาส!” หลังจากแม่ม่ายหลิวกล่าวจบ นางปิดปากพร้อมกับหัวเราะอย่างพอใจ
ฮึ่ม นางจัดการกับจางซิ่วเอ๋อไม่ได้ เช่นนี้จึงคิดให้แม่เฒ่าจางไปสร้างปัญหาให้กับจางซิ่วเอ๋อแทน
“อะไรนะ? เจ้าพูดอะไร? จางซิ่วเอ๋อไปขายตัวในซ่องนางโลมหรือ?” แม่เฒ่าจางเริ่มสนใจ
นางไม่ได้กล่าวเยาะเย้ยออกมาทันที แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง เพราะนางไม่เคยนับว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นหลานสาว เมื่อได้ยินคำพูดทั้งหมดในเวลานี้ สิ่งที่นางรู้สึกกลับไม่ใช่ความโกรธ แต่เป็นความสุขแทบจะสำลัก!
“จริงไหมล่ะ? ก็รุ่ยเซียงเห็นมันกับตา!” แม่ม่ายหลิวพูดคำเหล่านี้เสียงดัง และเมื่อนางพูด เสียงของนางก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเกรงว่าคนอื่น ๆ จะไม่ได้ยิน
แม่เฒ่าจางพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “ข้ารู้ดีเสมอว่านังผู้นี้มิใช่หาเงินโดยขาวสะอาด! แน่นอนว่านางย่อมใช้ขาเพื่อหาเงิน!”
หญิงชราผู้นี้ช่างปากร้าย นี่คือย่าที่กำลังพูดถึงหลานสาวตนเองงั้นหรือ? ไม่ว่าอย่างไรถ้อยคำนี้ก็น่าเกลียดยิ่งนัก!
แววตาของแม่ม่ายหลิวแปรเปลี่ยนเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าลูกสาวของเจ้า อวี่หมินกำลังจะแต่งงานหรอกหรือ? ชื่อเสียงอันเลวร้ายของจางซิ่วเอ๋อกำลังแพร่กระจายออกไป มันจะส่งผลต่ออวี่หมินของ เจ้า! ให้ข้าบอกวิธีจัดการเรื่องนี้ดีกว่า!”
“ส่งจางซิ่วเอ๋อขึ้นไปบวชชีบนภูเขาซะ! หรือไม่ก็เอานางยัดใส่กรงหมูถ่วงน้ำ ด้วยวิธีนี้จะทำให้ผู้อื่นทราบว่าตระกูลจางไม่ยกโทษให้คนชั่วช้าเช่นนาง ไม่เช่นนั้นคนอื่นจะคิดว่าอวี่ห หมินของเจ้ามิใช่สตรีที่ดี แล้วมันจะส่งผลกระทบต่ออนาคตการแต่งงานของอวี่หมินด้วย” แม่ม่ายหลิวพูดด้วยรอยยิ้ม
………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวเจอซิ่วเอ๋อจัดการทบต้นทบดอก แล้วจะหน้าม้านกันทั้งบาง
ไหหม่า(海馬)