ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - ตอนที่ 417 ล้างบาป
ตอนที่ 417 ล้างบาป
“รุ่ยเซียง ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นโสเภณีมาก่อน ข้าเพียงคิดว่าเจ้าได้พบเจอเรื่องน่าสมเพชเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นคนใหม่ที่พังพินาศจนแตกต่างไปจากเดิมเช่นนี้!” จางซิ่วเอ๋อ อกล่าวคำอย่างเย็นชา
รุ่ยเซียงจ้องเขม็ง “จางซิ่วเอ๋อ นังสารเลว! เจ้ากล้าดีอย่างไร!”
“เหตุใดข้าต้องยอมรับในสิ่งที่ข้าไม่ได้ทำ? และหากเจ้ากล้าที่จะทำแสดงว่าเจ้ากำลังพูดถึงเรื่องระหว่างตนกับหวังกลากเกลื้อน!” จางซิ่วเอ๋อกล่าวเยาะเย้ย
รุ่ยเซียงได้ยินเช่นนั้นจึงมองเข้าไปในฝูงชน
ในเวลานี้ หวังกลากเกลื้อนก็ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนเช่นกัน
ใบหน้าของหวังกลากเกลื้อนน่าเกลียดยิ่ง แม้ว่าเรื่องระหว่างเขากับรุ่ยเซียงจะเป็นเรื่องจริง ทว่าชื่อเสียงของเขาก็ไม่ได้ดีนัก เขาไม่กลัวหากทุกคนจะพูดถึงเขาในที่ลับ แต่เมื่อท ทุกสิ่งถูกดึงออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชน ใบหน้าของเขาจึงบิดเบี้ยวอย่างไม่น่าดู
ในเวลานี้ หวังกลากเกลื้อนยืนขึ้นและมองที่จางซิ่วเอ๋อด้วยแววตาข่มขู่ “ลองกล่าวออกมาอีกหนึ่งประโยคดีหรือไม่?”
จางซิ่วเอ๋อมองหวังกลากเกลื้อนด้วยแววตาที่ไม่ยอมแพ้ “ข้าพูดอะไร?”
คนอย่างหวังกลากเกลื้อน เดิมทีเปรียบเหมือนกับคนที่หมายังไม่อยากเห่า คนส่วนใหญ่ไม่เต็มใจที่จะยั่วยุเขา เพราะหากมีเรื่องขัดแย้ง ทุกคนก็มีสิทธิ์แบกรับความผิดได้
เมื่อเห็นว่าจางซิ่วเอ๋อไม่ยอมแพ้ หวังกลากเกลื้อนจึงก้าวไปข้างหน้า “หากเจ้าพูดมากกว่านี้ เชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถฆ่าเจ้าได้!”
จางซิ่วเอ๋อหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยิน “เจ้ากำลังพยายามจะบอกว่าต้องการฆ่าข้างั้นหรือ? การฆาตกรรมทำให้ติดคุก!”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ จางซิ่วเอ๋อหยุดเล็กน้อย “แล้วเจ้าแน่ใจหรือว่าสามารถฆ่าข้าได้? เจ้าได้เรียนรู้บทเรียนจากครั้งล่าสุดหรือไม่?”
ขณะที่จางซิ่วเอ๋อกล่าวคำ ดวงตาของนางหรี่ลงเล็กน้อย
หวังกลากเกลื้อนคิดถึงเรื่องในบ้านผีสิงทันที เมื่อได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของเขาพลันซีดเผือด เขามองจางซิ่วเอ๋อด้วยความไม่เชื่อถือ “เจ้ารู้เรื่องนั้นด้วยหรือ?”
จางซิ่วเอ๋อกล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดถึงอะไร แต่ข้าบอกได้หนึ่งประการว่าจางซิ่วเอ๋อไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถสร้างความขุ่นเคืองให้ได้ อย่าคิดจะรบกวนข้าดีกว่ า มิฉะนั้นจะไม่มีใครเอาชีวิตรอดออกมาจากบ้านผีสิงของข้าได้!”
คนอื่นอาจไม่เข้าใจว่าจางซิ่วเอ๋อหมายถึงอะไร พวกเขากำลังคิดว่าจางซิ่วเอ๋อกำลังคุกคามหวังกลากเกลื้อนด้วยการเอ่ยชื่อบ้านผีสิง
ทว่าหวังกลากเกลื้อนกลับเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ และเข้าใจว่าจางซิ่วเอ๋อกำลังพูดถึงครั้งสุดท้ายที่เขาเข้าไปในบ้านผีสิง
เขาคิดเสมอว่าจางซิ่วเอ๋อไม่รู้ และมันก็นานแล้วตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น หวังกลากเกลื้อนหายเป็นปกติและรอยแผลเป็นก็ไม่มีความเจ็บปวดแล้ว แต่วันนี้จางซิ่วเอ๋อเตือนหวังกล ลากเกลื้อนจนจดจำรายละเอียดที่เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์
จางซิ่วเอ๋อถอนหายใจอย่างเย็นชาพร้อมกล่าวกับหวังกลากเกลื้อน “ที่เจ้ารีบออกมาปกป้องรุ่ยเซียงนั่นเป็นเพราะเจ้าสองคนมีความสัมพันธ์กันจริง ๆ ใช่หรือไม่?”
หวังกลากเกลื้อนมองจางซิ่วเอ๋อ เขาขยับริมฝีปากและต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่เขากลัวเรื่องก่อนหน้านี้อยู่และมันยากยิ่งที่จะพูดอะไรในตอนนี้
เมื่อทุกคนเห็นหวังกลากเกลื้อนมีท่าทีเช่นนี้ พวกเขารู้ทันทีว่าหวังกลากเกลื้อนยอมรับแล้ว
จางซิ่วเอ๋อเหลือบมองรุ่ยเซียง “รุ่ยเซียง ไม่สำคัญเลยว่าเจ้าจะไปทำชั่วอะไรที่ใด แต่เจ้าไม่ควรที่จะสาดน้ำสกปรกใส่ผู้อื่นเพื่อปกปิดสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้ ข้าไม่ได้สกปรกเช่นเจ้า!”
หลังจากที่จางซิ่วเอ๋อพูดจบ นางไม่ได้ทะเลาะกับรุ่ยเซียงต่อ นางหันหลังและเดินกลับบ้าน
รุ่ยเซียงถูกทิ้งให้ยืนอยู่คนเดียว ใบหน้าของนางแดงก่ำราวกับว่าเลือดทั้งหมดมารวมอยู่บนใบหน้า
รุ่ยเซียงจ้องหวังกลากเกลื้อน “เจ้ามีประโยชน์อะไรบ้าง? จางซิ่วเอ๋อไม่คิดเกรงกลัวเจ้าด้วยซ้ำ!”
เมื่อหวังกลากเกลื้อนได้ยินเช่นนี้ เขาก็โมโหทันที “เจ้าเกลี้ยกล่อมข้าอย่างไร้ยางอาย และตอนนี้ยังมีหน้ามาพูดจาเช่นนี้อีกหรือ?”
เมื่อทั้งสองกล่าวออกมาเช่นนี้ เรื่องทั้งหมดจึงไม่จบลงง่าย ๆ
เมื่อทุกคนเห็นฉากนี้ พวกเขาจะไม่เข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างไร? ในเวลานี้ยังมีบางคนในหมู่บ้านที่รู้สึกว่าสิ่งที่รุ่ยเซียงพูดออกมานั้นเป็นความจริง แต่เพราะนางไม่มีหลักฐาน
สิ่งนี้ทำให้คนจำนวนไม่น้อยพูดกล่าวว่าพวกเขากำลังวิ่งไล่ลมและเงา
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น จางซิ่วเอ๋อไม่ได้กล่าวให้ชัดเจนนัก
วันรุ่งขึ้น เมื่อได้พบกับนางหลิว นางได้ยินจากนางหลิวว่าทุกคนชื่นชมยินดีในความโชคร้ายของตน ว่ากันว่าแม่หลูยังคงปกป้องรุ่ยเซียงเมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคน แต่เมื่อกลับเข้าบ้า านแม่หลูจะไม่จัดการกับรุ่ยเซียงได้อย่างไร
เสียงกรีดร้องดังลั่นจนได้ยินทั้งหมู่บ้าน
เมื่อจางซิ่วเอ๋อได้ยินเช่นนี้ นางไม่มีท่าทีใด ๆ เห็นได้ชัดว่านางไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อรุ่ยเซียงอีกต่อไปแล้ว
นางยังรู้ด้วยว่าคำพูดที่นางโต้เถียงกับรุ่ยเซียงนั้นค่อนข้างดุร้าย แต่เมื่อรุ่ยเซียงกล่าวถึงนาง มันไม่ใช่เพราะจิตใจที่ชั่วร้ายงั้นหรือ?
จางซิ่วเอ๋อไม่ต้องการทะเลาะกับผู้คนและต้องการมีเมตตาต่อผู้อื่น แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ทุกคนในโลกจะคิดเช่นนี้
ในสถานการณ์เช่นนี้จางซิ่วเอ๋อมักจะพูดว่าหากผู้คนเคารพนาง นางก็จะเคารพผู้อื่น และหากผู้อื่นทำให้นางขุ่นเคือง นางก็จะแก้แค้น!
การที่รุ่ยเซียงเผชิญหน้ากับชะตากรรมเช่นนี้ มันคือผลตอบแทนจากการกระทำของนางเอง!
ไม่กี่วันต่อมา
ท่านหมอเมิ่งได้มาที่หมู่บ้านชิงสืออีกครั้ง
คราวนี้ท่านหมอเมิ่งนำของขวัญมาให้ แม้ว่าพวกเขาจะกล่าวว่าของขวัญเหล่านี้ถูกห่อมาอย่างดี แต่ก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าข้างในมีอะไรอยู่ แต่เมื่อทุกคนเห็นท่านหมอเมิ่งถือของ งบางอย่างมาให้จางซิ่วเอ๋อ พวกเขาล้วนแต่มีความคิดหลากหลายในใจ ทั้งยังคาดเดากันไปต่าง ๆ นา ๆ
แต่ไม่ว่าคนเหล่านี้จะคาดเดาอย่างไร ในใจของพวกเขาก็ชัดเจนถึงบางสิ่ง
นั่นคือท่านหมอเมิ่งต้องเคยได้ยินข่าวลือในหมู่บ้านบ้างแล้ว แต่ท่านหมอเมิ่งยังคงไม่คิดเลิกรากับจางซิ่วเอ๋อ
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนล้วนอิจฉาจางซิ่วเอ๋อที่นางได้พบคนดีอย่างเช่นท่านหมอเมิ่ง
เมื่อเห็นว่าท่านหมอเมิ่งกำลังมองหานาง นางรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
ที่บ้านผีสิง
ท่านหมอเมิ่งมอบสิ่งของในมือพร้อมกล่าวอย่างอบอุ่น “ข้ามีบางสิ่งจะมอบให้แก่เจ้า”
จางซิ่วเอ๋อมองของสิ่งนั้นพร้อมกล่าวว่า “ข้ายังไม่สามารถรับของจากท่านได้”
นางรู้สึกกังวลเล็กน้อย หากตอนนี้นางยอมรับของจากท่านหมอเมิ่งและค่อยคิดเรื่องระหว่างพวกเขาในภายหลัง เมื่อนางไม่ต้องการที่จะอยู่กับท่านหมอเมิ่งจริง ๆ มันก็ไม่ค่อยยุติธรรมนั ก
แม้ว่าท่านหมอเมิ่งจะไม่ได้คิดเรื่องนี้ แต่นางก็ยังคงคิด
“เหตุใดเจ้าจึงไม่ลองเปิดดูก่อนว่ามันคือสิ่งใด?” ท่านหมอเมิ่งถามด้วยรอยยิ้ม
จางซิ่วเอ๋อลังเลพร้อมพูดว่า “เรื่องนั้น…”
“มันไม่ใช่ของมีราคาอะไรเลย เพียงแต่ห่อดูดีไปหน่อยเท่านั้น” ท่านหมอเมิ่งกล่าวอีกครั้ง
เช่นนี้ทำให้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกเขินอายที่จะปฏิเสธ นางคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ แกะห่อต่อหน้าท่านหมอเมิ่ง
สิ่งนั้นไม่ได้มีราคามากนัก มันเป็นเพียงกล่องไม้กล่องหนึ่ง
มีขวดและเหยือกอยู่ภายในกล่อง นางเหลือบดูและเห็นว่ามันเป็นผลไม้แช่อิ่มหลายชนิด
ท่านหมอเมิ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบกินยา แต่ช่วงนี้เจ้าอาจจะต้องกินยามากหน่อย เจ้าสามารถเก็บของเหล่านี้ไว้ได้ แม้เจ้าจะไม่ได้กินยา แต่เจ้าก็ยังกินมันแทนอา าหารว่างได้”
นางรู้สึกว่าท่านหมอเมิ่งผู้นี้รู้จักนางเล็กน้อย และเขารู้ว่าหากส่งสิ่งของราคาแพงมาให้ จางซิ่วเอ๋อจะไม่ยอมรับมันอย่างแน่นอน
หากเป็นอย่างอื่น จางซิ่วเอ๋อก็อาจไม่ชื่นชอบ
เมื่อจางซิ่วเอ๋อเห็นของสิ่งนี้ นางก็ไม่อาจปฏิเสธได้
นางยิ้มและกล่าวตอบ “ขอบคุณเจ้าค่ะ”
……………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ตัดตัวปัญหาไปได้แล้วหนึ่ง เหลือเรื่องปัญหาหัวใจนี่แหละที่ต้องเคลียร์
ไหหม่า(海馬)