ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - ตอนที่ 418 ยุยง
ตอนที่ 418 ยุยง
ท่านหมอเมิ่งกล่าวคำอย่างอบอุ่น “ระหว่างเจ้ากับข้า ไม่จำเป็นต้องสุภาพนักหรอก”
จางซิ่วเอ๋อมองท่านหมอเมิ่ง ในแววตาของนางยังมีความเหินห่างอยู่บ้าง
ท่านหมอเมิ่งสังเกตเห็นสิ่งนี้ เขายิ้มออกมาพร้อมกล่าวอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไร”
จางซิ่วเอ๋อเข้าใจความหมายของท่านหมอเมิ่ง ท่านหมอเมิ่งบอกนางว่าไม่เป็นไร เขาสามารถรอให้นางค่อย ๆ เปลี่ยนความคิดของตนเองทีละน้อยได้
เมื่อจางซิ่วเอ๋อได้ยินเช่นนี้ นางจึงผ่อนคลายจิตใจได้บ้าง “ต้องรบกวนท่านแล้ว”
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ จางซิ่วเอ๋อนึกถึงเหตุการณ์ล่าสุดในหมู่บ้านได้ในทันที
นางพูดต่อ “มีบางอย่างที่ข้าไม่ได้ทราบอย่างชัดเจนนัก แต่ข้าควรจะบอกท่าน”
ท่านหมอเมิ่งมองหน้านางพร้อมกับรอรับฟัง
จางซิ่วเอ๋อกล่าวต่อ “เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีหลายคนในหมู่บ้านลือกันว่าข้าเคยเป็นนางโลมและยังมีความสัมพันธ์กับบุรุษอื่น”
“ที่ข้าต้องการบอกท่านก็คือวันนั้นข้าถูกลักพาตัวไปเป็นนางโลมจริง ๆ ส่วนเรื่องชู้สาวของข้ากับผู้อื่นนั้น ไม่มีอะไร เป็นเพียงคนนั้นบังเอิญเห็นข้ากับหนิงอัน” จางซิ่วเอ๋อกล ล่าวออกไปอย่างตรงไปตรงมา
หากมีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ก็ถือว่าไม่เป็นไร แต่หากมีคนรู้มากขึ้น หมายความว่าทุกคนจะใช้จุดนี้คอยเป่าหูท่านหมอเมิ่ง ซึ่งนางก็ไม่อาจทราบได้ว่าท่านหมอเมิ่งสนใจเรื่องน นี้หรือไม่
ความจริงแล้วนางไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องนี้กับท่านหมอเมิ่ง
แต่นางต้องการรู้ว่าท่านหมอเมิ่งคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งมันอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจของนางในอนาคต
ดวงตาของท่านหมอเมิ่งหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อได้ฟังคำพูดเหล่านั้น ในที่สุดเขาพยักหน้ารับและพูดว่า “ข้ารับทราบแล้ว”
จางซิ่วเอ๋อไม่เห็นสิ่งอื่นใดนอกจากความอ่อนโยนในท่าทีของท่านหมอเมิ่ง จางซิ่วเอ๋ออดไม่ได้ที่จะถามต่อ “ท่านอยากพูดอะไรบ้างหรือไม่? รู้สึกโกรธบ้างหรือไม่?”
ท่านหมอเมิ่งมองจางซิ่วเอ๋ออย่างอ่อนโยน “นั่นเป็นเพียงอดีตเท่านั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันจะไม่ส่งผลต่อความคิดข้าที่มีต่อเจ้า ข้าทราบดีว่าเจ้าเป็นเด็กดีเสมอมา”
เมื่อเห็นว่าท่านหมอเมิ่งเป็นเช่นนี้ แววตาของจางซิ่วเอ๋อพลันอ่อนลงเล็กน้อย
แต่ในใจนางยังรู้สึกแปลกประหลาด ท่านหมอเมิ่งคล้ายจะเป็นน้ำอุ่น ไม่ร้อน ไม่เย็น บางครั้งความใจดีนี้ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นมาก แต่บางครั้งความอ่อนโยนเช่นนี้ก็ทำให้นางรู้สึกว่ามั นมีบางอย่างที่ผิดธรรมชาติไปสักหน่อย
จางซิ่วเอ๋อรู้ว่าการเลือกท่านหมอเมิ่ง หมายถึงการเลือกความมั่นคงของชีวิต แต่… หัวใจของนางยังคงเต็มไปด้วยความสับสน
ท่านหมอเมิ่งไม่ได้อยู่ที่นี่นานนัก เป็นเพราะเขากังวลถึงชื่อเสียงของจางซิ่วเอ๋อ
ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ต่อหน้ากันในฐานะคนนอก แม้พวกเขาจะหมั้นหมายกันแล้ว แต่สุดท้ายทั้งสองยังไม่ได้แต่งงานกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องง่ายหากผู้อื่นคิดจะนินทาจางซิ่วเอ๋อ
ท่านหมอเมิ่งมีน้ำใจต่อผู้อื่นอย่างยิ่ง
เมื่อท่านหมอเมิ่งจากไปแล้ว จางซิ่วเอ๋อรู้สึกลังเลใจ
นางไม่รู้ว่านางจะสามารถเข้ากับท่านหมอเมิ่งได้หรือไม่
นางยกมือขึ้นหยิบผลไม้แช่อิ่ม ครั้นผลไม้แช่อิ่มเข้าปาก ความหวานชุ่มฉ่ำของมันก็อวลอยู่ในปากของนางและทำให้หัวใจของนางชุ่มชื้นขึ้นทีละน้อย ซึ่งรสหวานนี้ได้ติดอยู่ในปากเป็น นเวลานาน
จางซิ่วเอ๋อกำลังตกอยู่ในห้วงความคิด ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้ยินเสียงสับฟืนในลานบ้าน น้ำเสียงนั้นดูคล้ายกับว่าจะกำลังเจ็บปวดไม่น้อย
เมื่อท่านหมอเมิ่งกลับออกมา เขาถูกแม่ม่ายหลิวขวางทางไว้
แม่ม่ายหลิวเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
ดังนั้นระหว่างรอท่านหมอเมิ่งออกมา แม่ม่ายหลิวจึงยืนรออยู่ที่ริมถนน
“พี่ใหญ่เมิ่ง! ท่านไม่รู้หรือว่าตอนนี้คนในหมู่บ้านกล่าวถึงจางซิ่วเอ๋ออย่างไร?” แม่ม่ายหลิวมองท่านหมอเมิ่งอย่างคาดหวัง นางหวังว่าท่านหมอเมิ่งจะไม่รู้อะไรเลยและถูกจางซิ่วเอ๋อ หลอกลวง
แต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น ท่านหมอเมิ่งพยักหน้าและตอบว่า “เจ้ากำลังพูดถึงซ่องนางโลมลับใช่หรือไม่?”
แม่ม่ายหลิวพยักหน้าและพูดว่า “ท่านรู้แล้วหรือ? ท่านคิดอย่างไร? ท่านไม่อยากแต่งงานกับจางซิ่วเอ๋อหลังจากที่รับรู้เรื่องนี้ใช่หรือไม่? จางซิ่วเอ๋อเป็นเพียงสุนัขตัวเมียที่ไม่เห หมือนเดิมอีกต่อไป! นางไม่คู่ควรกับท่าน!”
ท่านหมอเมิ่งกล่าวเสียงต่ำด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย “จะเหมาะสมหรือไม่เป็นสิ่งที่ข้าควรพูด ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ไม่ใช่ความจริง แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงก็ตาม แต่มันก็เป็นเพราะน นางไร้ซึ่งอำนาจจะต่อสู้! ข้ารู้แค่เพียงหลังจากนางแต่งงานกับข้าแล้ว ข้าจะให้ชีวิตใหม่แก่นาง นางจะไม่ขาดทั้งเสื้อผ้าและอาหารเพื่อที่จะได้มีชีวิตที่มั่นคงเสียที”
คำพูดของท่านหมอเมิ่งคล้ายกับดาบคมแทงทะลุหัวใจของแม่ม่ายหลิว
“แล้วข้าล่ะ? ข้าก็ถูกบีบบังคับเช่นกัน! เหตุใดท่านจึงไม่มีน้ำใจให้แก่ข้าบ้าง?” น้ำเสียงของแม่ม่ายหลิวเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
นางคิดเสมอว่าท่านหมอเมิ่งไม่ชื่นชอบพฤติกรรมของนาง เขาจึงไม่ต้องการจะอยู่กับตน แต่วันนี้แม่ม่ายหลิวเข้าใจอย่างชัดเจนแล้วว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นดั่งเช่นที่นางคิด!
แม้จางซิ่วเอ๋อจะตกลงไปในบ่อโคลน ท่านหมอเมิ่งก็ยังคงชื่นชอบนาง
ท่านหมอเมิ่งไม่เคยดูถูกนางเลยแม้สักครั้ง แต่ไม่มีส่วนใดในร่างกายของนางที่ถูกตาต้องใจของท่านหมอเมิ่งเลย
“เมิ่งซิวหยวน! ข้าขอสาปแช่งเจ้า จะไม่มีวันใดที่เจ้าจะได้อยู่กับจางซิ่วเอ๋ออย่างสงบสุข!” ใบหน้าของแม่ม่ายหลิวดูไม่น่าชมนัก
ท่านหมอเมิ่งมองแม่ม่ายหลิว ในแววตาของเขาเผยความน่าสงสารออกมาเล็กน้อย
หากท่านหมอเมิ่งมีสายตาที่แตกต่างออกไปจากนี้ แม่ม่ายหลิวอาจจะยังคงรู้สึกมีความสุข
แต่ท่านหมอเมิ่งกลับมีท่าทางเช่นนี้
ความสุภาพและอ่อนโยนปะปนด้วยความสงสารเล็กน้อยนี้ราวกับว่ากำลังมองดูผู้ป่วยระยะสุดท้าย แม่ม่ายหลิวถูกกระตุ้นด้วยสายตานี้อย่างสมบูรณ์
ร่างกายของนางสั่นสะท้านขึ้นมาอีกครั้ง นางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่อาจสรรหาถ้อยคำดี ๆ ได้
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง แม่ม่ายหลิวจึงพยายามขยับริมฝีปากที่สั่นเทา “ท่าน ท่าน ท่านช่างประเสริฐนัก”
เสียงนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ท่านหมอเมิ่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ดูเหมือนว่าตราบใดที่แม่ม่ายหลิวไม่ใส่ร้ายจางซิ่วเอ๋อ ไม่ว่าแม่ม่ายหลิวจะพูดอะไร เขาก็จะไม่สนใจคำพูดของแม่ม่ายหลิว
ในเวลานี้ บรรยากาศภายในบ้านตระกูลจางก็อึมครึมไม่แพ้กัน
จางอวี่หมินกล่าวออกมาอย่างโกรธเคืองกับแม่เฒ่าจาง “ท่านแม่ จางซิ่วเอ๋อมันช่างโอหังเสียจริง! ท่านหมอเมิ่งก็ตาบอดเช่นกัน หลังจากมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น ท่านหมอเมิ่งก็ยังเต็ มใจแต่งงานกับนังสวะจางซิ่วเอ๋อ!”
“เป็นเช่นนั้น แล้วข้าควรทำอย่างไรดี? แม้ว่าข้าจะจับจางซิ่วเอ๋อยัดกรงหมูหรือจะส่งมันไปบวชชีบนภูเขา ก็ไม่มีผู้ใดในหมู่บ้านเห็นดีเห็นงามด้วย นังสารเลวจางซิ่วเอ๋อ ไม่ว่านางจ จะมีสิ่งใดนางก็เอาไปมอบให้แม่ซ่งเสียหมดสิ้น! ตอนนี้หัวหน้าหมู่บ้านเลยให้ความสำคัญต่อจางซิ่วเอ๋อมากนัก!”
ดวงตาของจางอวี่หมินแปรเปลี่ยนเล็กน้อย “ท่านแม่ แม้เราไม่สามารถควบคุมจางซิ่วเอ๋อได้ แต่ถึงจางซิ่วเอ๋อจะเป็นม่าย นางก็ยังมีครอบครับของสามีอยู่ ตระกูลเนี่ยจะทนมองจางซิ่วเอ๋อ แต่งงานใหม่ได้หรือไรเจ้าคะ?”
เมื่อแม่เฒ่าจางได้ยินเช่นนี้ แววตาของนางก็เป็นประกาย นางลืมเรื่องนี้ไปสนิท เมื่อนึกได้นางก็ตบต้นขาตนเองพร้อมอุทานอย่างตื่นเต้น “ใช่แล้ว ข้าลืมเรื่องของตระกูลเนี่ยไปหมดสิ้น น!”
เมื่อนึกถึงตระกูลเนี่ย แม่เฒ่าจางรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ครั้งสุดท้ายนางได้รับผลประโยชน์มากมายจากตระกูลเนี่ยทีเดียว
แม้ว่าจะมีการกล่าวว่าตระกูลเนี่ยไม่ได้มีสัมพันธ์ที่ดีต่อแม่เฒ่าจางนักในคราวแรก แต่คนเช่นแม่เฒ่าจางนั้นไร้ยางอายและหลงลืมสิ่งเหล่านั้นหมดสิ้นแล้ว ความไม่พอใจถูกลบเลือน และจดจ จำได้เพียงผลประโยชน์ที่เคยได้รับเท่านั้น
………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ทำอะไรซิ่วเอ๋อไม่ได้ก็ดึงตระกูลเนี่ยมาจัดการกับซิ่วเอ๋ออีกแล้ว น่าเผาบ้านนี้ทิ้งจริง ๆ
ไหหม่า(海馬)