ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 238 สั่งสอน
บทที่ 238 สั่งสอน
ที่จางอวี่หมินออกมาแสดงตัวในเวลานี้ก็เพราะรู้สึกว่าตอนนี้คนมามากแล้ว หยางชุ่ยฮวาไม่มีทางข่วนหน้านางเป็นรอยต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้หรอก บวกกับถ้านางไม่ได้ช่วยแม่เฒ่าจาง นางก็กลัวว่าแม่เฒ่าจางจะคิดบัญชีกับตนในภายหลัง
จางอวี่หมินจึงรู้สึกว่าการที่ตนออกมาแสดงจุดยืนตอนนี้มีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสีย
“โอ๊ะ นี่ลูกสาวบ้านเจ้าใช่ไหม? ดูท่าทางอายุพอ ๆ กับซิ่วเอ๋อเลยนี่ ผิวขาวนวลละออเชียว” หยางชุ่ยฮวาเอ่ยชมด้วยรอยยิ้มที่ไม่ได้มาจากใจเลยสักนิด
จางอวี่หมินฟังแล้วได้ใจขึ้นมาเล็กน้อย ใช่แล้ว ในหมู่บ้านนี้นางผิวขาวเป็นอันดับต้น ๆ เลยล่ะ!
คนอื่นในหมู่บ้านขาวสู้นางไม่ได้หรอก!
“แต่น่าสงสารซิ่วเอ๋อสามพี่น้อง แต่ละคนผอมเอา ๆ” หยางชุ่ยฮวาแค่นเสียงเย็น
“แล้วอย่างไรเล่า? ก็เพราะพวกนางดื้อไม่ยอมกินข้าวดี ๆ แบบนี้จะโทษข้ารึ?” แม่เฒ่าจางยังเอาหน้าอยู่ ไม่อยากยอมรับว่าตนรักลูกสาวแต่ทำไม่ดีกับหลานสาว
“เรื่องนี้ย่อมไม่โทษเจ้า เช่นนั้นเรามาพูดเรื่องเหมยจื่อดีกว่า เหมยจื่อเป็นน้องสาวข้า ตอนแต่งเข้าบ้านเจ้ายังเป็นเด็กสาวสดใสอยู่เลย แต่เจ้าดูตอนนี้สิว่าเหมยจื่อโดนพวกเจ้าย่ำยีขนาดไหน?” หยางชุ่ยฮวาพูดอย่างเกรี้ยวกราด
แม่เฒ่าจางตอบอย่างไม่แยแส “บ้านเราไม่ได้ย่ำยีนางหรอกนะ โชคชะตาของนางต่ำต้อยเอง คนที่มีลูกชายไม่ได้เป็นตัวขาดทุนทั้งนั้นแหละ นางเป็นแบบนี้ก็เพราะเหนื่อยกับการเลี้ยงบรรดาตัวขาดทุน!”
“เจ้าชื่ออะไรนะ หยางชุ่ยฮวาใช่ไหม? เจ้ารีบไสหัวออกจากบ้านข้าไปซะ บ้านข้าไม่ต้อนรับเจ้า!” แม่เฒ่าจางแค่นเสียงเย็น
“ข้าไม่ไปโว้ย! ข้ายังพูดเรื่องของเหมยจื่อไม่จบ! ตอนนี้ในท้องนางยังมีลูกอีกคนนะ! พวกเจ้าไม่ช่วยกันดูแลไม่เท่าไร แต่กล้าดีอย่างไรถึงทำกับเหมยจื่อแบบนี้!” หยางชุ่ยฮวากัดฟันพูด
“แม่โจวท้องนี่ ทำไมตอนนี้ถึงไม่ออกมาล่ะ? เอ๊ะ หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”
“ก็ไม่แน่นะ คนตระกูลโจวไม่ได้มาที่หมู่บ้านเราหลายปีแล้ว อยู่ ๆ ตอนนี้กลับมาหา ต้องเป็นเพราะเกิดเรื่องใหญ่กับแม่โจวแน่ ๆ”
“โห ไม่คาดคิดเลยว่าครอบครัวแม่โจวก็มีคนดุดันเช่นนี้ด้วย ทำไมเมื่อก่อนไม่เห็นมีใครออกหน้าให้แม่โจวเลยล่ะ?”
“โอ๊ย พวกเราดูเรื่องนี้ให้จบก่อนเถอะแล้วค่อยว่ากัน”
หยางชุ่ยฮวาพูดประโยคนี้จบก็มีคนไม่น้อยเริ่มคาดเดาไปต่าง ๆ นานา เวลานี้จึงมีแต่เสียงวิจารณ์กันเซ็งแซ่ไม่ขาด
บางคนที่มีบ้านอยู่ใกล้บ้านตระกูลจางและได้ยินข่าวแว่ว ๆ มาบ้าง บัดนี้จึงลดเสียงต่ำลงพลางกล่าว “ได้ข่าวว่าครรภ์แม่โจวไม่นิ่ง นางเกือบตายท้องกลมแล้ว”
“ตายจริง ทำไมแม่โจวไม่รู้จักระวังตัวเลยเล่า? นางมีลูกสาวมาสามคนติดแล้วนะ หากในท้องเป็นลูกชายจะเสียหายขนาดไหน!”
หยางชุ่ยฮวาได้ยินประโยคที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูด จึงแค่นหัวเราะเสียงเย็นและกล่าวต่อ “พวกเจ้าคิดว่าเหมยจื่อไม่ใส่ใจลูกในท้องหรือ? นางมีลูกมาสามคนแล้ว เวลาแบบนี้ต้องระวังเรื่องอะไรบ้างนางจะไม่รู้เลยหรือ? ครั้งนี้เหมยจื่อและลูกในท้องของนางโดนคนตระกูลจางทำร้ายจนเกือบถึงแก่ชีวิต!”
“จางเป่าเกินล่ะ? เขาไปไหน? ออกมาเดี๋ยวนี้นะ! เขาเพิ่งจะอายุเท่าไรเอง ทำไมจิตใจถึงอำมหิตขนาดนี้!” หยางชุ่ยฮวาโวยวายเสียงดัง
แม่เถาที่ตอนแรกยังยืนดูอย่างเมามัน พอได้ยินว่าจู่ ๆ หยางชุ่ยฮวาพุ่งเป้าไปที่จางเป่าเกินก็เกิดร้อนตัวขึ้นมา
ตอนหยางชุ่ยฮวาทะเลาะกับแม่เฒ่าจาง นางยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ยืนมองสุนัขกัดกันจนขนเต็มปากได้ แต่ถ้าเกี่ยวพันถึงลูกชายของนางก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แม่เถาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและถามอย่างระแวง “เจ้านี่ตลกจริง ๆ มาบ้านข้าแล้วทำกิริยาดุดันใส่ท่านแม่ข้า อย่างไรเสียแม่ข้าก็เป็นผู้ใหญ่กว่าเจ้า เจ้าทำแบบนี้ได้อย่างไร? ตอนนี้เจ้ายังจะรังแกลูกชายข้าอีก อย่างไรเขาก็เป็นรุ่นลูกหลานของเจ้านะ! เจ้าไม่อายบ้างหรือไร!”
หยางชุ่ยฮวาหรี่ตา “ข้าไม่มีบุญพอจะมีผู้ใหญ่เป็นย่าโฉดที่ขายหลานสาวตัวเอง และไม่มีบุญพอที่จะมีลูกหลานเป็นคนที่จงใจผลักป้าสะใภ้ตัวเองหรอกนะ”
หยางชุ่ยฮวาพูดได้เข้าใจง่ายพอแล้ว คนที่ไม่โง่ต่างรู้ความหมด
จางเป่าเกินเป็นคนผลักแม่โจว ตั้งใจทำให้แม่โจวตายท้องกลม
หยางชุ่ยฮวาพูดเสียงดัง “ในเมื่อคนตระกูลจางทำเรื่องที่หน้าด้านขนาดนี้ได้ ก็คงไม่กลัวทุกคนรู้ เช่นนั้นข้าจะสาธยายให้ทุกคนได้ฟังในบัดนี้…..”
หยางชุ่ยฮวากล่าวต่อ “จางเป่าเกินผลักเหมยจื่อล้มโดยไร้สาเหตุ คนตระกูลจางไม่ตำหนิจางเป่าเกินนั้นไม่เท่าใด แต่หลังจากเกิดเรื่องกับเหมยจื่อแล้วพวกเขาทำอย่างไรรู้ไหม? พวกเขาโยนเหมยจื่อไปไว้ในห้องเก็บฟืนให้นางดับดิ้นไปเอง ถ้าไม่ใช่ว่าหลานสาวข้ากตัญญูตามหมอมา ตอนนี้เหมยจื่อคงไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว!”
ทุกคนได้ยินแล้วตาโตมองคนตระกูลจางที่อยู่ที่นี่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอึ้งกับวิธีการของตระกูลจาง
แม้ว่าเรื่องที่แม่สามีสั่งสอนลูกสะใภ้จะเป็นเรื่องปกติมาก แต่เรื่องนี้ก็นับว่าเกินไป ต่อให้ลูกสะใภ้จะไม่ดี แต่เด็กในท้องลูกสะใภ้ก็เป็นสายเลือดของตระกูลจางนะ
แม่เฒ่าจางสัมผัสได้ถึงสายตาตำหนิและไม่เห็นด้วยมากมาย ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว
นางโกรธจนชี้หน้าหยางชุ่ยฮวาและกล่าว “หยางชุ่ยฮวา เจ้ามาพูดเหลวไหลที่บ้านข้าแบบนี้มีจุดประสงค์อะไร?”
หยางชุ่ยฮวาแค่นเสียง “ข้าหรือพูดเหลวไหล? ข้าจะได้ประโยชน์อะไรรึ? สรุปให้ฟังเลยก็คือ ถ้าข้าป่วนจนน้องข้าใช้ชีวิตร่วมกับจางต้าหูต่อไปไม่ได้ ข้าก็ต้องรับเหมยจื่อกลับบ้านและเลี้ยงดูนาง ถ้าไม่ใช่ว่าข้าโมโหจริง ๆ ข้าจะเหนื่อยทำเรื่องที่ไม่เป็นผลดีไปทำไม?”
“ข้ายอมรับว่าก่อนหน้านี้ข้าไม่ค่อยได้ใส่ใจเหมยจื่อ ไม่ได้ทำหน้าที่พี่สะใภ้ แต่วันนี้ข้ามายืนอยู่ตรงนี้แล้วก็จะพูดให้ชัดเจน เหมยจื่อเป็นคนมีครอบครัว ใช่ว่าใครอยากจะทำอะไรนางก็ได้!”
“เรื่องที่พวกเจ้าตระกูลจางกระทำก่อนหน้านี้ข้าจะไม่เอาความ แต่วันนี้พวกเจ้าต้องนำตัวไอ้ระยำจางเป่าเกินออกมา ให้มันคุกเข่าโขกหัวยอมรับความผิด และสัญญาว่าหลังจากนี้จะไม่มีปัญหากับเหมยจื่ออีก!” หยางชุ่ยฮวาหัวเราะเย็น
เป้าหมายที่หยางชุ่ยฮวามาในวันนี้ หนึ่งก็เพื่อทวงความยุติธรรม ส่วนสองน่ะหรือ?
เป้าหมายอีกอย่างของหยางชุ่ยฮวานั้นธรรมดามาก ก็คือการข่มขวัญคนตระกูลจาง ให้คนตระกูลจางได้เห็นดีบ้าง คราวหน้าที่คนพวกนี้จะรังแกแม่โจวจะได้คิดชั่งใจสักหน่อย!
ที่แม่โจวถูกรังแกขนาดนี้แน่นอนว่าเป็นเพราะแม่โจวไม่มีลูกชาย แต่นั่นยังไม่ใช่สาเหตุหลัก
ถ้าเป็นแม่เถาที่ไม่มีลูกชายบ้าง แม่เฒ่าจางคงไม่ปฏิบัติเช่นนี้ต่อแม่เถาแน่นอน!
ให้พูดตรง ๆ ก็คือ นอกจากจางต้าหูจะไม่เข้าข้างแม่โจวแล้ว ยังรวมหัวกับคนตระกูลจางรังแกนางด้วย อีกทั้งแม่โจวยังไม่ค่อยข้องแวะกับคนในครอบครัว นิสัยส่วนตัวหรือก็อ่อนแอ จนคนอื่นเห็นว่ารังแกง่าย
โบราณกล่าวไว้ว่า หากจะบีบลูกพลับให้เลือกลูกที่นิ่ม
ในสายตาคนตระกูลจางแล้ว แม่โจวก็คือลูกพลับที่นิ่ม!
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สั่งสอนให้หนัก ๆ ไปเลยค่ะ เชียร์
แล้วก็ไปลากตัวไอ้เด็กชั่วนั่นมาให้ได้นะคะ
ไหหม่า(海馬)