ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 241 ตีกัน
บทที่ 241 ตีกัน
งานแบบนั้นออกจากบ้านไปคราวหนึ่งใช้เวลาเพียง 20 วัน แต่เมื่อถึงเวลาแล้วจางต้าเหอก็ไม่ยอมกลับบ้าน กลับอาศัยกินดีอยู่ดีในเมือง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ยกตำลึงเงินให้แม่เฒ่าจางทั้งหมด
บางครั้งที่แม่เถาไปหาในเมือง พวกเขาก็แอบกินข้าวโรงเตี๊ยมกัน
ดูก็รู้ว่าสองสามีภรรยาไม่ได้ให้ตำลึงเงินทั้งหมดกับแม่เฒ่าจาง
สู้สองสามีภรรยาจางต้าหูที่ทั้งซื่อทั้งกตัญญูได้ที่ไหนกัน…..
แน่นอนว่าต่อให้ผู้ใหญ่บ้านซ่งรู้เรื่องพวกนี้ก็ไม่มีทางพูดออกมาหรอก เรื่องที่เขารู้เขาไม่แม้แต่จะบอกแม่เฒ่าซ่งด้วยซ้ำ เขารู้ดีว่าภรรยาตัวเองเป็นคนเช่นไร
เขารู้แน่นอนว่าหากบอกแม่เฒ่าซ่งไป แม่เฒ่าซ่งที่เป็นคนปากไม่มีหูรูดคงได้แพร่งพรายออกไปแน่
เขาไม่อยากยุ่งเรื่องครอบครัวคนอื่นเลยสักนิด จะดีหรือเลวเพียงใด คำพูดนี้ก็จะแพร่งพรายออกไปจากบ้านพวกเขาไม่ได้
ต้องยอมรับว่าผู้ใหญ่บ้านซ่งเป็นคนฉลาด
“ผู้ใหญ่บ้าน อย่าไปฟังที่นางพูดเหลวไหลนะเจ้าคะ!” แม่เถารีบออกมาโต้แย้งคำพูดของหยางชุ่ยฮวา
“จางต้าหูยืนยันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจางเป่าเกินเป็นคนทำ?” ผู้ใหญ่บ้านซ่งหรี่ตาถาม
แม่เถารีบบอก “จางต้าหูเป็นพวกเดียวกับนาง ต้องพูดเข้าข้างนางอยู่แล้ว!”
จางต้าหูเบิกตากว้างมองแม่เถา “พี่สะใภ้ ท่านพูดแบบนี้ได้อย่างไร ถึงเป่าเกินจะทำผิดไปแต่ข้าก็ไม่ได้คิดจะโทษเป่าเกินเลยนะ ท่านใส่ร้ายข้าเช่นนี้ได้อย่างไร?”
“หนอยแน่จางต้าหู! ข้ากับพี่ชายเจ้ารักเจ้าขนาดนี้ เวลานี้เจ้ากลับรวมหัวกับครอบครัวแม่โจวมารังแกพวกเรา!” แม่เถาโวยวาย
จางต้าหูพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ “พี่สะใภ้ ข้าพูดความจริงนะขอรับ…..”
จางต้าหูเป็นเหมือนท่อนไม้ เวลานี้เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ แบบแค่ให้จางเป่าเกินออกมาขอโทษเท่านั้น ทำไมแม่เถาถึงไม่ยอมล่ะ? แล้วยังหาว่าเขาโป้ปดอีก…..
คำพูดของแม่เถาทำให้จางต้าหูเจ็บปวดอยู่เล็กน้อย
ผู้ใหญ่บ้านซ่งหรี่ตา “เอาล่ะ ข้าจำได้ว่าจางเป่าเกินกลับมาบ้านแล้วใช่ไหม? ตอนนี้เขาอยู่ไหนล่ะ? ถ้าเขาไม่ได้ทำแล้วจะหลบหน้าทำไม? บอกเขาให้รีบออกมาอธิบายให้รู้เรื่องเถอะ!”
แม่เถามองไปทางห้องอย่างหวั่นใจ
หยางชุ่ยฮวามีดวงตาเป็นประกาย ขณะนี้ได้ก้าวอย่างฉับไวไปทางห้องนั้นแล้ว
จางซิ่วเอ๋อเห็นแบบนั้นแล้วชักเป็นห่วง จางเป่าเกินเป็นพวกไม่รู้หนักเบา เดี๋ยวหยางชุ่ยฮวาจะโดนจางเป่าเกินทำร้ายเอา
แต่เห็นได้ชัดว่าจางซิ่วเอ๋อกังวลเกินเหตุ เพราะโจวหู่เดินตามไปแล้ว
โจวหู่เป็นผู้ชายซื่อ ๆ เหมือนกัน ทว่าแตกต่างจากจางต้าหูที่กตัญญูจนโง่เขลา
โจวหู่เชื่อฟังคำพูดของภรรยาตนมาก เขาไม่ใช่คนช่างพูดช่างจาและทะเลาะกับใครไม่ค่อยเป็น แต่หยางชุ่ยฮวาชี้ตรงไหนเขาสามารถไปตีถึงนั่นได้
ต้องยอมรับว่าแม้หยางชุ่ยฮวาจะดุ แต่เป็นคนมีวาสนาดี ถึงได้เจอผู้ชายอย่างโจวหู่
“พวกเจ้าจะทำอะไร” แม่เถาพุ่งเข้าไปหวังจะขวางทั้งสองไว้
ยิ่งนางทำแบบนี้ยิ่งแสดงให้เห็นว่านางมีลับลมคมใน หยางชุ่ยฮวาจึงตบตีกับแม่เถาในบัดดล จังหวะนี้เองโจวหู่ก็ได้ก้าวเข้าไปในห้องก่อนจะลากตัวจางเป่าเกินที่หน้าตาไม่เต็มใจเดินโซซัดโซเซออกมา
“ตัวคนก็อยู่ที่บ้านนี่? วุ่นวายกันขนาดนี้แล้วยังจะหลบอยู่ทำไม? รีบออกมาอธิบายทุกอย่างให้ชัดซะ!” ผู้ใหญ่บ้านซ่งพูดอย่างรำคาญใจ
ผู้ใหญ่บ้านซ่งรู้ว่าการพูดแบบนี้คงจะทำให้คนตระกูลจางไม่พอใจ แต่….เขามีปัญหากับคนตระกูลจางมานานแล้ว ถึงหนนี้จะต้องพูดอะไรอีกก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
“เจ้าปล่อยข้านะ! เจ้าทำอะไรเนี่ย? แม่ข้าบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าข้าไม่ได้ผลักนังแพศยาแม่โจวนั่น!” จางเป่าเกินพูดอย่างโอหัง
โจวหู่ได้ยินแล้วก็ตบหน้าจางเป่าเกินไปฉาดหนึ่ง จนจางเป่าเกินมึนงงไปหมด
“ข้าจะสั่งสอนเจ้าแทนพ่อเจ้าเอง เรียกว่าท่านป้าซะ!” โจวหู่ถลึงตาและบอก
“เจ้าบอกข้ามานะ! เจ้าเป็นคนผลักเหมยจื่อใช่ไหม?” โจวหู่หิ้วคอจางเป่าเกินและกัดฟันพูด
จางเป่าเกินยังคิดจะปฏิเสธ ขณะนั้นโจวหู่ยกมือขึ้นอีกครั้ง “ถ้าเจ้ากล้าโกหก ข้าจะอัดเจ้าจนพ่อเจ้ายังจำเจ้าไม่ได้”
เวลานี้จางต้าเหอทนไม่ไหวอีกต่อไป “เจ้าจะทำอะไร! เจ้าปล่อยลูกชายข้าเดี๋ยวนี้นะ!”
ถึงจางเป่าเกินจะร่างใหญ่ขนาดไหนก็ยังสู้ผู้ใหญ่เต็มตัวอย่างโจวหู่ไม่ได้ อีกอย่างโจวหู่ยังเป็นผู้ชายกำยำมีพละกำลังเหนือกว่าคนอื่นอีกด้วย
พอเห็นว่าเหตุการณ์นี้กำลังจะกลายเป็นสงครามระหว่างบุรุษ ผู้ใหญ่บ้านซ่งย่อมต้องเอ่ยปากห้าม
“จางต้าเหอ! เจ้าหยุดอยู่ตรงนั้นนะ เจ้าจะทำอะไร? จะทำร้ายผู้อื่นหรืออย่างไร? ถ้าจางเป่าเกินผลักแม่โจวจริงต่อให้เขาจะตีจางเป่าเกินก็สมควรแล้ว!”
“แล้วเจ้าฟังซิ เมื่อครู่นี้จางเป่าเกินพูดอะไรออกมา! มีอย่างที่ไหนเรียกป้าตัวเองแบบนั้น!”
แม่เถาได้ยินจึงพุ่งเป้าไปที่ผู้ใหญ่บ้านซ่ง “ผู้ใหญ่บ้าน ท่านหมายความว่าอย่างไร? นี่ท่านตั้งใจจะช่วยคนนอกหมู่บ้านเหรอเจ้าคะ?”
“เจ้าพูดจาอะไรของเจ้า? ผู้ใหญ่บ้านทำแบบนี้ก็เพื่อชื่อเสียงของหมู่บ้านเรานะ!” คนผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น
คนผู้นั้นเป็นญาติของผู้ใหญ่บ้านซ่ง ไม่ว่าเมื่อใดก็ต้องออกมาพูดเข้าข้างผู้ใหญ่บ้านซ่ง
ครั้นคนผู้นี้เอ่ยเตือน ทุกคนก็ได้สติจากคำพูดของแม่เถา
แม่เถากำลังยุแยงตะแคงรั่วอย่างเห็นได้ชัด หวังจะให้คนในหมู่บ้านเป็นปรปักษ์กับผู้ใหญ่บ้านซ่ง ทว่าหากคิดดูดี ๆ แล้ว การที่ผู้ใหญ่บ้านซ่งทำเช่นนี้ก็เพื่อชื่อเสียงของหมู่บ้านไม่ใช่หรือ?
“แม่เถา! เจ้าไม่ควรจะพูดเช่นนี้เลยนะ ต่อให้พวกเราเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน แต่เรื่องที่จางเป่าเกินทำมันเกินไป ผู้ใหญ่บ้านซ่งทำตามกฎเกณฑ์โดยไม่เข้าข้างพวกเดียวกันก็ถูกแล้ว!”
“ใช่แล้ว อีกอย่างที่ผู้ใหญ่บ้านซ่งทำแบบนี้ก็เพื่อคนทั้งหมู่บ้าน เราจะปล่อยให้ปลาเน่าตัวเดียวทำให้เหม็นไปทั้งข้องไม่ได้!”
แม่เถาหน้าเขียว แต่เวลานี้ก็ไม่อาจเถียงอะไรได้
ผู้ใหญ่บ้านซ่งมองโจวหู่พร้อมกล่าว “สหายโจวหู่ เรียกอย่างนี้ได้ใช่ไหม เจ้าจงให้เกียรติข้าเถอะ อย่าเพิ่งตีจางเป่าเกินเลย เรามาสืบสวนดูก่อน ถ้าจางเป่าเกินเป็นคนทำจริง เจ้าจะตีเขาอย่างไรข้าก็จะไม่แย้งสักคำ”
โจวหู่พยักหน้า “ข้ายังไม่ตีเขาหรอก เดี๋ยวถึงเวลาเขาจะบอกว่าโดนทำร้ายจนต้องฝืนยอมรับแล้วจะแย่เอา”
ผู้ใหญ่บ้านซ่งมองโจวหู่อย่างปลื้มใจ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยข้องแวะกับคนในครอบครัวแม่โจวเลย พอวันนี้ได้มาสัมผัสจึงพบว่าคนในครอบครัวแม่โจวไม่ใช่แค่ฝีมือเหี้ยมโหด แต่ยังสุขุมและมีสมองด้วย ดีกว่าคนตระกูลจางไม่รู้ตั้งกี่เท่า
ดูท่าจางซิ่วเอ๋อจะมีนิสัยเหมือนคนตระกูลโจว
แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมแม่โจวถึงมีนิสัยอ่อนแอแบบนั้น……
ผู้ใหญ่บ้านสั่งให้คนอื่นไปเชิญแม่โจวออกมา ตอนนี้ร่างกายของแม่โจวดีขึ้นบ้างแล้ว พอจะลงมาเดินได้บ้าง
จางซิ่วเอ๋อสงสารแม่โจวมาก เวลานี้จึงเดินออกมาจากฝูงชนไปพยุงแม่โจวด้วยตัวเอง
ไม่รอให้ผู้ใหญ่บ้านซ่งถามอะไรต่อ สือโถวก็พุ่งเข้ามา มองแม่โจวและก่นด่า “เจ้ามันตัวขาดทุน กินดีทุกวันไม่รู้จักแบ่งข้าบ้าง! คราวหน้าถ้ามีโอกาสข้าจะทำให้ลูกในท้องเจ้าหลุดให้ได้!”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ถ้ามีความรู้สึกอยากฟาดปากเด็กสองคนให้ฟันร่วงนี่จะผิดไหมคะ
ไหหม่า(海馬)