ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 256 รังเกียจอย่างจริงจัง
บทที่ 256 รังเกียจอย่างจริงจัง
ถึงอย่างไรเมื่อวานนี้เนี่ยหย่วนเฉียวก็ป่วยแทบตายแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะทำอะไรด้วยตัวเองได้แน่
นอกจากนี้นางเป็นคนที่พอมีความรู้พื้นฐานอยู่บ้าง จึงรู้ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างมากพวกเขาก็แค่นอนด้วยกัน และไม่มีทางตั้งครรภ์เพียงเพราะนอนบนเตียงเดียวกันเด็ดขาด! เมื่อนึกถึงสถานการณ์เมื่อคืนของเนี่ยหย่วนเฉียวแล้ว นางก็เข้าใจดีว่าตนคงนอนกับคนใกล้ตาย
แม้ว่าเรื่องนี้จะทำให้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกกระอักกระอ่วนและคิดว่ามันไม่เหมาะสม นางก็จะไม่ชดใช้ตัวเองเพราะเรื่องนี้!
แต่ในชั่วพริบตา ความคิดมากมายก็ผุดขึ้นมาในหัวของจางซิ่วเอ๋อ ดังนั้นจางซิ่วเอ๋อจึงพูดประโยคนั้นออกมา
เนี่ยหย่วนเฉียวตกใจกับปฏิกิริยาของจางซิ่วเอ๋อ เขารู้สึกว่าจางซิ่วเอ๋อต้องโมโหจนเป็นแบบนี้ จึงรีบพูดขึ้นมา “แม่นางซิ่วเอ๋อ… ข้า…”
“หยุดนะ ข้ารู้ว่าเจ้าจะพูดอะไร แต่ตอนนี้รีบลืมสิ่งที่เจ้ากำลังจะพูดเสีย! หุบปากและฟังข้า!” จางซิ่วเอ๋อกล่าวเตือน
เนี่ยหย่วนเฉียวมองจางซิ่วเอ๋ออย่างซับซ้อน พลางคิดในใจว่าจางซิ่วเอ๋อถูกเรื่องเมื่อครู่กระตุ้นจนสมองมีปัญหาหรือไม่ถึงได้เป็นแบบนี้? ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของเขาโดยแท้
หัวใจของเนี่ยหย่วนเฉียวท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกผิดอีกครั้ง
ใช่แล้ว เนี่ยหย่วนเฉียวในตอนนี้จะบอกจางซิ่วเอ๋อว่าเขาจะรับผิดชอบ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมื่อวานหรือเรื่องที่จางซิ่วเอ๋อเกือบตายหลังจากแต่งงานกับเขา เขาควรจะรับผิดชอบ
แน่นอนว่าเนี่ยหย่วนเฉียวคิดเช่นนี้ แต่เขากลับไม่รู้สึกลำบากใจแม้แต่น้อยจนรู้สึกแปลกใจ เขาไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกว่าความรับผิดชอบเป็นเรื่องน่าลำบากใจ แต่กลับ… มีความคาดหวังบางอย่าง
แต่เนี่ยหย่วนเฉียวไม่เคยคิดเลยว่าจางซิ่วเอ๋อที่เขาเจอไม่เพียงแต่ไม่ต้องให้เขารับผิดชอบ แต่ยังกังวลว่าเขาจะเป็นภาระของนางอีกด้วย
จางซิ่วเอ๋อพูดเหมือนเทถั่ว “เมื่อคืนเจ้าป่วย ข้าแค่ใจดีมาดูแลเจ้าเท่านั้นเอง! การนอนบนเตียงของเจ้าเมื่อวานนี้อาจจะเป็นการรบกวนเจ้า แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ใส่ใจมากเกินไปนะ”
“เจ้าเป็นผู้ชายคงไม่ขี้งกขนาดนั้นหรอกใช่ไหม? เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการแต่งงานของเจ้าหรอก! ”
“เจ้าไม่ต้องขอบใจข้าหรอก เรื่องนี้พวกเราเพียงแค่ปล่อยมันผ่านไป วันหลังห้ามพูดถึงอีก! ข้าไม่ต้องการให้เจ้ารับผิดชอบ และยิ่งไม่สามารถรับผิดชอบเจ้าได้ ถ้าเจ้ายังพูดถึงเรื่องนี้อีกล่ะก็ ต้องขอโทษด้วย ตอนนี้เจ้าเก็บข้าวของสัมภาระแล้วเดินจากไปเถอะ ข้าไม่ต้อนรับเจ้าแล้ว”
จางซิ่วเอ๋อพูดจบก็หยุดมองเนี่ยหย่วนเฉียวแล้วถามว่า “เจ้าเข้าใจใช่ไหม? ”
เนี่ยหย่วนเฉียวเข้าใจความหมายของจางซิ่วเอ๋อ ว่าถ้าเขาพูดอีกสักประโยคจางซิ่วเอ๋อก็จะไล่เขาออกไปแล้ว!
เนี่ยหย่วนเฉียวรู้สึกว่าสมองของตนไม่อาจประมวลผลได้ทันอยู่พักหนึ่ง การกระทำของจางซิ่วเอ๋อนั้นล้ำลึกเกินกว่าที่ตัวเขาจะเข้าใจได้!
แต่เนี่ยหย่วนเฉียวก็เข้าใจความคิดของจางซิ่วเอ๋อและรู้ว่าจางซิ่วเอ๋อจริงจังมาก
นางรังเกียจเขาอย่างจริงจังและไม่ต้องการให้เขารับผิดชอบ
เนี่ยหย่วนเฉียวรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกสตรีรังเกียจเช่นนี้!
ดังคำกล่าวที่ว่ากรรมตามสนอง ก่อนหน้านี้มีสตรีจำนวนไม่น้อยที่พยายามเกาะติดเนี่ยหย่วนเฉียว แต่เนี่ยหย่วนเฉียวไม่แม้แต่จะมองสักครั้ง ทุกครั้งล้วนแล้วแต่จัดการด้วยความเฉยชา ครั้งนี้จึงมาเจอคนที่ทำตัวเฉยชาใส่บ้าง
จางซิ่วเอ๋อมองเนี่ยหย่วนเฉียวที่ตะลึงงันอย่างพอใจ “ในเมื่อเจ้าไม่พูด ก็เท่ากับว่าเจ้าเห็นด้วยกับข้าแล้ว!”
เนี่ยหย่วนเฉียวคิดอยู่พักหนึ่งก็รู้สึกว่าถึงจะถูกปฏิเสธทั้งที่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก แต่สิ่งที่ควรพูดก็ควรจะต้องพูด
ดังนั้นเนี่ยหย่วนเฉียวจึงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “หากเจ้าต้องการข้าสามารถ…”
จางซิ่วเอ๋อกลอกตา “เจ้าไม่เข้าใจเหรอ? อะไรก็ตามที่เจ้าอยากพูด! ข้าไม่เต็มใจ! ”
เนี่ยหย่วนเฉียว “…”
เนี่ยหย่วนเฉียวมองจางซิ่วเอ๋อที่ตอนนี้มีท่าทางตื่นตระหนก ในใจก็คิดว่าการที่จางซิ่วเอ๋อเป็นแบบนี้ คงเป็นเพราะตื่นเต้นเกินไปแน่ ๆ ถึงได้เป็นเช่นนี้
เขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อนกับเรื่องนี้ จึงปล่อยให้จางซิ่วเอ๋อใจเย็นลงก่อน
ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นสตรี เมื่อเจอเรื่องแบบนี้ก็ยากที่จะสงบใจลงได้
เอาล่ะ เขาจะให้เวลาขบคิดกับจางซิ่วเอ๋อ ตราบใดที่จางซิ่วเอ๋อเต็มใจ! เขาจะต้องรับผิดชอบต่อจางซิ่วเอ๋ออย่างแน่นอน!
จางซิ่วเอ๋อเห็นเนี่ยหย่วนเฉียวเงียบลงจึงเดินออกไป
ทันทีที่นางเปิดประตู ก็เห็นจางชุนเถาที่มีสีหน้าแปลก ๆ ยืนอยู่หน้าประตู
จางซิ่วเอ๋ออึ้งไปเล็กน้อย นางเพิ่งคุยกับเนี่ยหย่วนเฉียวมา จางชุนเถาคงไม่ได้ยินใช่ไหม?
จางชุนเถามองจางซิ่วเอ๋อด้วยดวงตาแดงก่ำ “พี่สาว…”
“ทำไมเจ้าถึงร้องไห้?” จางซิ่วเอ๋อรู้สึกราวกับสมองบวม
จางซิ่วเอ๋อจะรู้ได้อย่างไรว่าจางชุนเถากำลังคิดอะไรอยู่?
แม้ว่าจางชุนเถาจะไม่ได้ฟังบทสนทนาทั้งหมดของทั้งสองคน แต่นางก็ได้ฟังมาคร่าว ๆ
นางรู้สึกว่าจางซิ่วเอ๋อจะปฏิเสธเนี่ยหย่วนเฉียวเพราะนาง จางซิ่วเอ๋อไม่อยากแต่งงานเพราะเป็นห่วงนางที่เป็นน้องสาว เพราะไม่ว่าใครจะแต่งภรรยาก็ไม่อยากพกขวดน้ำมันไปด้วย
นอกจากนี้จางซิ่วเอ๋อยังต้องการที่จะดูแลนางและจางซานหยา
ยิ่งจางชุนเถาคิดมากเท่าใด นางก็ยิ่งซาบซึ้งมากขึ้นเท่านั้น นางยิ่งคิดมากเท่าใด นางก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเท่านั้น และนางก็รู้สึกว่าตนทำผิดกับจางซิ่วเอ๋อ
จางชุนเถาเช็ดน้ำตาอย่างรีบร้อน “ลมพัดทรายเข้าไปในตาน่ะเจ้าค่ะ” นางอธิบายอย่างอ่อนแรง
นางไม่อยากให้จางซิ่วเอ๋อเห็นนางเป็นแบบนี้ แล้วเกิดความกังวลตามมา
ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อกำลังอารมณ์เสียอยู่ เมื่อเห็นจางชุนเถาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว นางก็ไม่ได้พูดอะไรอีก พูดแทนว่า “เช่นนั้นก็ทำอาหารกินเถอะ” ”
เนี่ยหย่วนเฉียวอยู่ในห้องลูบริมฝีปากตัวเอง
สัมผัสที่อ่อนโยนของเมื่อวานตอนนี้ดูเหมือนจะยังคงมีเสน่ห์อยู่
จางซิ่วเอ๋อจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อวานที่นางผายปอดให้เนี่ยหย่วนเฉียว เนี่ยหย่วนเฉียวยังมีสติอยู่! เหตุผลที่เขาแสร้งไม่รู้สึกตัวก็เพราะตกใจและไม่รู้ว่าตนควรจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ดังนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้ตัว แน่นอนว่าหลังจากนั้นเขาก็สลบไปจริง ๆ แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เนี่ยหย่วนเฉียวก็รู้สึกได้ถึงจุมพิตนั้น
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจางซิ่วเอ๋อถึงทำแบบนั้น แต่เขาก็รู้ว่าถ้าจู่ ๆ เขาแสดงออกว่ามีสติ อาจทำให้จางซิ่วเอ๋อตกใจ
ใช่แล้ว เขาไม่อยากทำให้จางซิ่วเอ๋อตกใจ
หากเป็นสตรีอื่นเข้าใกล้เนี่ยหย่วนเฉียวแบบนี้ ทำเรื่องที่สนิทสนมกันแบบนี้ อย่าว่าแต่เนี่ยหย่วนเฉียวจะมีความคิดเช่นนี้เลย หากเป็นคนอื่นเขาคงกระชากศีรษะของคนผู้นั้นออกไปแล้ว
แต่พอเผชิญหน้ากับจางซิ่วเอ๋อ ปฏิกิริยาของเนี่ยหย่วนเฉียวก็เปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับจางซิ่วเอ๋อแทน
โชคดีที่จางซิ่วเอ๋อไม่รู้เรื่องพวกนี้ ถ้านางรู้เรื่องนี้ก็คงไม่รู้สึกโล่งใจขนาดนั้น คงอยากหาหลุมสักที่มุดเข้าไปแน่ ๆ เพราะมันน่าอายจริง ๆ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สงสารคุณชายเนี่ยเขานะคะ โดนเย็นชาใส่แล้ว
ไหหม่า(海馬)