ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 258 มีคนที่ถูกใจอยู่หรือ?
บทที่ 258 มีคนที่ถูกใจอยู่หรือ?
เถี่ยเสวียนถอนหายใจ ชีวิตของเขาช่างหนักหนาสาหัสจริง ๆ เพื่อที่เจ้านายจะได้ไม่ต้องทำงานหนักในตอนนี้แล้ว เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องคิดต่อไป… เจ้านายปล่อยให้เขาตัดสินใจเรื่องใหญ่เช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?
ตอนนี้เขาได้แต่พูดกับตัวเอง และเก็บงำความคิดของตนไว้ในใจ
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเถี่ยเสวียน เขาก็สรุปสาเหตุที่เนี่ยหย่วนเฉียวถามเช่นนี้กับเขาได้ในทันทีว่าไม่ใช่การขอความเห็นจากเขา เพียงแต่เป็นการแจ้งกับเขาทางอ้อมแทน
เมื่อคิดว่าเนี่ยหย่วนเฉียวต้องการให้จางซิ่วเอ๋อเป็นฮูหยินจริง ๆ เถี่ยเสวียนก็ต้องตกใจ
เขารู้ว่าคำตอบที่ดีที่สุดของเขาในเวลานี้คือการบอกเนี่ยหย่วนเฉียวว่าทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับเจ้านายของเขา แต่ในเวลานี้เถี่ยเสวียนไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากอยากอธิบายมากกว่านี้
เถี่ยเสวียนกลืนน้ำลายและพยายามไม่ตกใจ เขาสงบสติอารมณ์พลางกล่าวว่า “เจ้านาย ทำไมท่านถึงคิดเช่นนั้น? ”
เนี่ยหย่วนเฉียวชำเลืองมองเถี่ยเสวียนครู่หนึ่งแล้วเอ่ยปากถาม “ทำไม? ข้าคิดไม่ได้หรือ? ”
เถี่ยเสวียนรีบชูธงขาวขึ้น “ได้ขอรับ ได้” ‘ท่านเป็นเจ้านายข้า ท่านจะคิดอย่างไรก็คิดได้ทั้งนั้น!’ แน่นอนว่าเถี่ยเสวียนไม่กล้าพูดออกประโยคหลังออกมา
ในที่สุดเถี่ยเสวียนก็ฝืนใจพูดต่อ “ข้าหมายความว่าเหตุใดเจ้านายถึงตัดสินใจเช่นนี้ได้? ก่อนหน้านี้ไม่เห็นเคยได้ยินท่านพูด ”
ก่อนหน้านี้เจ้านายของเขารู้สึกขอโทษจางซิ่วเอ๋อและต้องการสารภาพกับจางซิ่วเอ๋อและชดเชยให้กับนาง
ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้ได้?
เถี่ยเสวียนรู้สึกว่าเจ้านายของเขาดูผิดปกติไปจากที่เคยเป็น เขาไม่เข้าใจความคิดของเจ้านายเอาเสียเลย
เนี่ยหย่วนเฉียวย่อมไม่บอกเรื่องเมื่อคืนออกไป แค่พูดประโยคหนึ่งว่า “ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ควรรับผิดชอบนาง”
เถี่ยเสวียนรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องไร้สาระ เขาถามอะไรไม่ออก
แต่เถี่ยเสวียนก็คาดเดาอยู่พักหนึ่ง ว่าเจ้านายคงจะอยู่ที่นี่นานเกินไป ครั้นเห็นจางซิ่วเอ๋อเป็นแม่ม่ายตัวน้อยที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ในใจก็รู้สึกผิด จึงอยากรับผิดชอบ
แม้เถี่ยเสวียนจะคิดเช่นนั้น แต่เขาก็ไม่แน่ใจนัก เพราะเจ้านายของเขาเป็นคนที่มีความคิด ถ้าเป็นเพราะความรู้สึกผิด เจ้านายของเขาสามารถชดเชยจางซิ่วเอ๋อได้เป็นพัน ๆ วิธี
เถี่ยเสวียนคิดกับตัวเอง ถึงเขาจะรู้สึกว่าความคิดของเจ้านายค่อนข้างแปลกพิลึกไปหน่อย แต่ถ้าจางซิ่วเอ๋ออยู่กับนายท่านของเขาจริง ๆ มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น
หลังจากอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน เขาต้องยอมรับว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นสตรีนิสัยดีมาก
นางดูแลตัวเองได้และเข้มแข็งพอ แตกต่างจากสตรีอื่นที่เรียนรู้เพียงการร่ำไห้และแต่งหน้าหนา ๆ ทุกวัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือนางไม่มีเจตนาอื่นต่อเจ้านายของเขา!
ต้องรู้ก่อนว่าสตรีที่มักจะเข้าใกล้เจ้านายของเขาล้วนเป็นนางปีศาจงูในคราบมนุษย์!
แต่… เถี่ยเสวียนยังคงกังวลอยู่
เขาลังเลที่จะพูดขึ้น “เจ้านาย ไม่ทราบว่าท่านได้คุยกับจางซิ่วเอ๋อหรือยังขอรับ? ”
เนี่ยหย่วนเฉียวส่ายหน้า “ยังเลย! ”
เถี่ยเสวียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ดีที่ยังไม่พูด”
เนี่ยหย่วนเฉียวกวาดสายตามองอย่างเย็นชา “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
เถี่ยเสวียนถูกไอเย็นของเนี่ยหย่วนเฉียวแช่แข็ง เขาจึงรีบพูดขึ้นมา “เจ้านาย ท่านอย่าโมโหไปเลย ระงับโทสะเถิด ข้าหมายความว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นเพียงสตรีคนหนึ่ง ย่อมรู้สึกหน้าบางเป็นธรรมดา ท่านไปพูดเช่นนี้จะทำให้นางตกใจได้ง่าย ”
เนี่ยหย่วนเฉียวมองเถี่ยเสวียนด้วยสายตาล้ำลึก “ทำให้นางตกใจอย่างนั้นหรือ? ”
เนี่ยหย่วนเฉียวรู้สึกว่าคำพูดของเถี่ยเสวียนมีเหตุผลอยู่บ้าง เมื่อเช้านี้มีความตั้งใจนี้อยู่ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร จางซิ่วเอ๋อก็พูดปฏิเสธเสียมากมายและปิดกั้นสิ่งที่เขากำลังจะพูดไว้ทั้งหมด อาจเป็นเพราะนางตกใจใช่ไหมนะ?
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าหมายความว่าอย่างไร?” เนี่ยหย่วนเฉียวถาม
เถี่ยเสวียนเช็ดเหงื่อ เขาจะทำอะไรได้อีกล่ะ? แต่ถูกเนี่ยหย่วนเฉียวคาดคั้นเช่นนั้น เถี่ยเสวียนจึงทำได้เพียงฝืนใจพูดต่อไป “เจ้านาย ข้าหมายความว่าท่านพูดตรง ๆ แบบนี้ไม่ได้ คิดดูสิว่านางจะคิดอย่างไรกับเรื่องในอดีตที่ท่านทำผิดเช่นนี้? คงจะคิดว่าท่านเป็นเติงถูจื่อ*ในบทกวีของเมิ่งหลางน่ะสิขอรับ”
*คำด่า หมายถึงผู้ชายบ้าตัณหา มีที่มาจากขุนนางกังฉินคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องบ้าผู้หญิง
เถี่ยเสวียนพูดความจริง เขาคิดว่าจางซิ่วเอ๋อจะคิดแบบนั้น เพราะอย่างไรเขาก็เคยเห็นจางซิ่วเอ๋อสอนน้องสาวของนางอยู่ให้ระวังเจ้านายของเขา
การที่นางสอนน้องสาวเช่นนี้ ก็ไม่แน่ว่าในใจนางคงคิดแบบเดียวกัน!
เถี่ยเสวียนหยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “ท่านลองคิดดูอีกทีนะขอรับ ถ้าท่านพูดออกไปแล้ว จางซิ่วเอ๋อไม่เห็นด้วยล่ะ? ท่านจะทำอย่างไร? ”
เนี่ยหย่วนเฉียวได้ยินดังนั้นก็กะพริบตาครั้งหนึ่ง แอบคิดในใจว่ายังไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกปฏิเสธเสียแล้ว
เถี่ยเสวียนไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเนี่ยหย่วนเฉียว และพูดอย่างจริงจังว่า “ดังนั้น ข้าว่าพวกเราควรคิดให้ออกก่อนว่าจางซิ่วเอ๋อคิดอะไรอยู่ ถ้าจางซิ่วเอ๋อคิดว่าท่านไม่เลว และมีความคิดเช่นนี้ ก็ย่อมเป็นเรื่องน่าดีใจมาก แต่ถ้าจางซิ่วเอ๋อไม่ได้คิดเช่นนั้น หรือจางซิ่วเอ๋อมีเจตนาอื่นใดต่อนายท่าน ขืนท่านพูดออกไป…จางซิ่วเอ๋อก็คงตกใจและให้คำตอบไม่ได้! ”
พูดง่าย ๆ ก็คือ เถี่ยเสวียนในตอนนี้ไม่มีความสุขอีกต่อไป เขายังคงเป็นสุนัขรับใช้ให้เนี่ยหย่วนเฉียว
เพราะเถี่ยเสวียนเดาว่าจางซิ่วเอ๋อจะปฏิเสธเขา เนี่ยหย่วนเฉียวจึงรู้สึกว่าคำพูดของเถี่ยเสวียนมีเหตุผล
เมื่อฟังคำพูดของเถี่ยเสวียน เขาก็ตกอยู่ในภวังค์ไตร่ตรอง
เถี่ยเสวียนเห็นเนี่ยหย่วนเฉียวฟังอย่างตั้งใจและจมดิ่งสู่ห้วงความคิด ในใจก็รู้สึกลอบดีใจขึ้นมาก
แต่ในเวลานี้เนี่ยหย่วนเฉียวก็เปิดปากพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“เจ้าหมายความว่านางมีคนถูกใจอยู่แล้ว?” เนี่ยหย่วนเฉียวถามอย่างจริงจัง
เถี่ยเสวียนไม่สามารถพูดอะไรได้อีก เจ้านาย! เจ้านาย! ข้าเพิ่งพูดไปเสียมากมาย ทำไมท่านถึงจำประโยคนี้ไว้เล่า ปัญหาคือนี่ไม่ใช่ประเด็นที่ข้าอยากจะสื่อเลยสักนิด!
ความหมายของเขาก็คือแค่ต้องการทำให้เนี่ยหย่วนเฉียวอย่าทำอะไรหุนหันพลันแล่นเกินไป! เขาต้องเข้าใจความคิดของจางซิ่วเอ๋อและค่อยลงมือทำ!
ด้วยวิธีนี้เจ้านายของเขาจะไม่เสียใจในภายหลัง และจางซิ่วเอ๋อก็จะไม่เสียใจในภายหลังเช่นกัน
อีกทั้งเขารู้สึกว่าการใช้วิธีนี้สามารถถ่วงเวลาได้สักระยะหนึ่ง เขากับเจ้านายยังมีเรื่องใหญ่ต้องทำอีก! ถ้าเจ้านายมัวแต่จดจ่ออยู่กับจางซิ่วเอ๋อ แล้วเมื่อใดกันที่พวกเขาจะทำภารกิจสำเร็จ?
แต่นายท่านดูเหมือนจะไม่ฟังอะไรอย่างอื่นแต่กลับจำประโยคนี้ได้!
เถี่ยเสวียนลูบหว่างคิ้วของเขา พยายามสงบสติอารมณ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่อาจเป็นบ้าได้ ใช่แล้ว คนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือเจ้านายของเขา เขาไม่อาจโกรธเคืองเจ้านายของเขาได้
เถี่ยเสวียนสงบสติอารมณ์ลงและพูดอย่างจริงจัง “เจ้านาย นั่นเป็นแค่การคาดเดาของข้าเท่านั้น เรื่องที่จางซิ่วเอ๋อมีใจให้ใครหรือไม่ นั้นคงต้องถามนางเอง ”
เนี่ยหย่วนเฉียวพยักหน้าแล้วพูดอย่างจริงจัง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว”
เถี่ยเสวียน “…”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สงสารเถี่ยเสวียน เป็นทุกอย่างให้เจ้านายแล้วจริง ๆ
ไหหม่า(海馬)