ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 259 ความคิดของกุนซือหัวสุนัข
บทที่ 259 ความคิดของกุนซือหัวสุนัข
“เจ้านาย ท่านได้ยินสิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไปหรือไม่?” เถี่ยเสวียนรู้สึกทั้งกังวลและอึดอัดใจ อดไม่ได้ที่จะเตือนเขา
เนี่ยหย่วนเฉียวพยักหน้า “ได้ยินแล้ว”
“แล้ว… แล้วอย่างไรต่อขอรับ? “เถี่ยเสวียนเกิดความรู้สึกว่าอย่างน้อยเนี่ยหย่วนเฉียวก็ต้องพูดอะไรออกมาบ้าง
“มีอะไรอีกไหม?” เนี่ยหย่วนเฉียวชำเลืองมองเถี่ยเสวียนครู่หนึ่ง
เถี่ยเสวียนมองไปที่ต้นหวายฉู่คอเบี้ยวในลานบ้าน นึกอยากจะผูกเชือกและแขวนคอตัวเองไว้ที่นี่เหลือเกิน
ก่อนที่เขาจะได้พบกับจางซิ่วเอ๋อ เจ้านายของเขาไม่ได้เป็นแบบนี้! ความคิดของเจ้านายในตอนนี้ไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนแปลงบ่อยแล้วยังยากที่จะเข้าใจด้วย ได้เป็นผู้ติดตามเจ้านายแบบนี้มันช่างยากลำบากเสียจริง! ชีวิตมันช่างขมขื่น! ชีวิตมันช่างขมขื่น!!!
เนี่ยหย่วนเฉียวไม่ได้ยินเสียงตะโกนก้องในใจของเถี่ยเสวียน ในตอนนี้เขากำลังย่างเท้าเดินออกไป
“เจ้านาย ร่างกายของท่านยังไม่แข็งแรงดีนัก ท่านจะทำอะไรตอนนี้? หากต้องการสิ่งใดเพียงบอกข้าเถิด!” เถี่ยเสวียนรีบดึงสติกลับมาขวางเนี่ยหย่วนเฉียวไว้
เนี่ยหย่วนเฉียวเอ่ยปาก”ข้าจะไปหานาง ถามนางก่อนว่ามีคนที่ถูกใจอยู่แล้วหรือไม่ ”
เนี่ยหย่วนเฉียวพูดมาถึงตรงนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้าจางซิ่วเอ๋อมีคนที่ถูกใจอยู่แล้วเขาจะทำอย่างไร? เราจะทำอย่างไรกันดี?
ครั้นคิดไปคิดมา เนี่ยหย่วนเฉียวก็ถูกตรึงอยู่ตรงนั้นไปชั่วขณะ เขารู้สึกอึดอัดใจผิดปกติ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน
เถี่ยเสวียนไม่ได้แค่อยากแขวนคอตัวเองอีกต่อไป เขาอยากจะแขวนคอเนี่ยหย่วนเฉียวให้ตายไปด้วยกันกับตนแล้ว!
แม้ว่าความคิดเช่นนี้จะดูไม่สมควรนัก แต่เขาก็คิดเช่นนั้นจริง ๆ
แน่นอนว่าเขาคิดแบบนั้นอยู่ชั่ววูบหนึ่งก่อนจะเริ่มประณามตัวเองในใจ เขาจะมีความคิดเช่นนี้ได้อย่างไร?
เขาสูดหายใจเข้าและพูดอย่างจริงจัง “เจ้านาย หากท่านไปถามจางซิ่วเอ๋อเช่นนี้ จางซิ่วเอ๋อจะไม่บอกท่านอย่างแน่นอน! ”
“ทำไม?” เนี่ยหย่วนเฉียวไม่เข้าใจ
เถี่ยเสวียนรู้สึกว่าเจ้านายของเขาช่างมีเชาวน์ปัญญาสูงแต่ไหวพริบทางอารมณ์ต่ำเหลือเกิน!
เขาจำต้องรับหน้าที่เป็นกุนซือหัวสุนัข*อีกครั้ง “สตรีทุกคนล้วนหน้าบาง หากท่านถามเช่นนี้ ไม่เพียงแต่นางจะไม่บอกท่าน แต่อาจโกรธจนห่างเหินท่านไปเลยก็ได้” ต่อให้เขาคิดว่าจางซิ่วเอ๋อไม่ใช่คนหน้าบางก็ตาม…
*ที่ปรึกษาที่ให้ท้ายหรือเสนอความคิดในทางที่ไม่ดี
เขาเคยเห็นจางซิ่วเอ๋อด่าทอคนอื่นด้วยตาของเขาเอง! มันช่างรุนแรงยิ่งนัก! นางจะหน้าบางได้อย่างไร?
แต่เถี่ยเสวียนยังคงรู้สึกว่าการที่นายท่านถามเรื่องนี้อย่างปุบปับย่อมไม่ใช่ความคิดที่ดี
เนี่ยหย่วนเฉียวหยุดฝีเท้าแล้วเอ่ยขึ้น “แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่านางมีคนในใจหรือไม่? ”
“เรื่องนี้ต้องอาศัยการสังเกตและหยั่งเชิง สังเกตดูว่าปกตินางติดต่อกับใครมาก ลองทดสอบดูว่านางสนใจใครมากกว่า หากนางมีคนในใจอยู่จริง ๆ ก็มักจะมองออกเสมอ” เถี่ยเสวียนเอ่ยแล้วก็อดใจสลายไม่ได้
เนี่ยหย่วนเฉียวพยักหน้า “มีเหตุผล”
เมื่อเถี่ยเสวียนเห็นว่าเนี่ยหย่วนเฉียวตัดสินใจได้แล้ว เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเดินมาที่เตาและคว้ากระบวยตักน้ำมาตักน้ำเย็นดื่มไปหนึ่งกระบวยเต็ม ถึงสามารถดับกระหายและความร้อนรนในใจของเขาบ้าง
หลังจากนั้นเถี่ยเสวียนก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องและเข้านอนโดยไม่สนใจอะไร
สวรรค์คงรู้ ว่าเขาเหนื่อยแค่ไหน!
หลังจากที่จางซิ่วเอ๋อเข้าไปในภูเขา นางได้ส่งอาหารให้จางซานหยาเป็นอันดับแรก เด็กคนนี้ตื่นแต่เช้าตรู่และไม่เคยกินข้าวที่บ้าน ซึ่งไม่ใช่เพราะนางยุ่งมากหรอก
ถึงอย่างไรก็มีจ้าวเอ้อร์หลางคอยช่วยเหลือ ต่อให้ยุ่งแค่ไหน มีจ้าวเอ้อร์หลางคอยช่วยเหลืออยู่ทั้งคน จางซานหยาก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว
นางเข้าไปในภูเขาแต่เช้า เพื่อเก็บเห็ด
จ้าวเอ้อร์หลางอยู่กับนาง ตอนนี้จ้าวเอ้อร์หลางรู้ว่าเห็ดนี้ไม่เพียงแต่ตากแห้งหรือดองไว้กินในฤดูหนาวได้เท่านั้น ยังสามารถขายเพื่อหาเงินได้ด้วย
จ้าวเอ้อร์หลางกับจางซานหยาต่างคิดในใจว่าจะได้เหรียญทองแดงเพิ่มอีกสักสองสามเหรียญ เช่นนี้ก็แบ่งเบาภาระของครอบครัวได้
นี่คือสิ่งที่จางซิ่วเอ๋อบอกกับพวกเขาทั้งสองคนหลังจากพบเห็ด
หากนางสามารถหาตลาดได้ เช่นว่าผ่านทางคุณชายฉิน หรือไปบอกเถ้าแก่เฉียนให้มาซื้อบ้าง นางก็ขายไปบางส่วน หากหาตลาดไม่เจอ เช่นนั้นก็เก็บไว้กินในฤดูหนาวก็พอ
ไม่ว่านางจะขายเห็ดได้หรือไม่ก็จะให้เงินกับเด็กสองคนนี้
แน่นอนว่าจางซานหยาและจ้าวเอ้อหลางไม่รู้เรื่องนี้เลย คิดว่าจางซิ่วเอ๋อขายเห็ดไปแล้ว
ไม่ว่านางจะพูดอย่างจริงจังแค่ไหน จางซิ่วเอ๋อก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาย
กล่าวได้ว่าเถ้าแก่เฉียนเป็นคนหนึ่งที่ไม่ว่าสิ่งใดที่สามารถทำให้ร่ำรวยได้เขาก็จะไม่ปล่อยมันไป! ถ้ารู้ว่าเห็ดที่นางหามานั้นไม่มีพิษ เขายิ่งเก็บรักษาเป็นอย่างดี
แม้ว่าของสิ่งนี้จะเป็นพิษในสายตาของคนนอก แต่ก็มีตระกูลใหญ่ ๆ อยู่ไม่น้อยที่ชอบตามล่าหาของแปลก
อย่างปลาปักเป้าก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ? ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ากินเข้าไปแล้วอาจจะเสียชีวิต แต่ตอนนี้ร้านอาหารใหญ่ ๆ บางแห่งก็มีขายอยู่เหมือนกัน
พูดถึงเรื่องนี้แล้วเห็ดของจางซิ่วเอ๋อยังจะมีความปลอดภัยสูงกว่าเสียอีก!
เมื่อถึงเวลานั้นก็คงมีบางคนอยากจะลองชิมดู
แน่นอนว่าจางซิ่วเอ๋อจะหาเห็ดที่ตัวเองรู้จักเท่านั้น ส่วนเห็ดชนิดอื่น ๆ ที่ไม่แน่ใจ จางซิ่วเอ๋อไม่มีทางอยากเก็บมาขายแน่นอน!
จางซิ่วเอ๋อหยิบตะกร้าออกมาและต้องการออกไปเก็บเห็ด
นางคิดมาตลอดว่าการเก็บเห็ดเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ยามเห็นเห็ดกลุ่มเล็ก ๆ โผล่ขึ้นมาจากดินแล้วค่อยเขี่ยหาทีละดอกเช่นนี้ มันเป็นสิ่งที่ทำให้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกประสบความสำเร็จเป็นพิเศษ
และมันยังทำให้จางซิ่วเอ๋อสามารถระงับความหงุดหงิดในใจไปได้ชั่วคราว
ครั้นใกล้ถึงตอนเที่ยง จางซิ่วเอ๋อก็หิ้วตะกร้าเห็ดกลับมา
ในตอนนี้เถี่ยเสวียนได้ตื่นขึ้นมาแล้ว เขาไม่กล้าที่จะนอนต่อ หากเขายังหลับต่อไป เขาจะไม่สามารถนอนหลับได้ในเวลากลางคืน
จางซิ่วเอ๋อมองหาใบไม้ใบใหญ่หลายใบและวางลงบนพื้น จากนั้นนางก็วางเห็ดที่ทุกคนหามาได้ลงไปและเริ่มจัดหมวดหมู่
อันดับแรกต้องใช้มีดขูดดินที่ติดอยู่ตรงโคนและหยิบเศษใบไม้ใบหญ้าที่ติดบนดอกเห็ดออก
เถี่ยเสวียนมองอยู่ข้าง ๆ รู้สึกสนใจขึ้นมา “เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้านี่มันกินได้? ”
จางซิ่วเอ๋อเหลือบมองเถี่ยเสวียน “ของพวกนี้จะทำเป็นอาหารมื้อกลางวัน ถ้าเจ้ากลัวก็อย่ากินเลย”
เถี่ยเสวียนรีบยิ้มและพูดว่า “ข้าจะกลัวได้อย่างไร! ”
เขากังวลว่าเห็ดจะมีพิษก็จริง แต่ที่มากกว่านั้นคือเมื่อคิดถึงรสชาติอันอร่อยของอาหารที่จางซิ่วเอ๋อทำ เขาก็อดที่จะระริกระรี้ไม่ได้ ถึงเวลานั้นต่อให้มันเป็นยาพิษเขาก็คิดว่าตนเองคงไม่อาจอดใจไหว
จางซิ่วเอ๋อเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย นางไม่โกรธเถี่ยเสวียนอีกต่อไป
นางเลือกเห็ดพลางถามอย่างไม่ใส่ใจ “เกิดอะไรขึ้นกับหนิงอัน? ”
ทำไมก่อนหน้านี้ถึงบาดเจ็บร้ายแรงขนาดนี้ แม้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาเขาเหมือนจะอาการสาหัส แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
เถี่ยเสวียนได้ยินดังนั้นก็ลังเลและพูดว่า “นี่… ข้าเกรงว่าข้าจะบอกเจ้าไม่ได้”
จางซิ่วเอ๋อถลึงตาใส่เถี่ยเสวียน “ถ้าพูดยากก็ไม่ต้องพูดแล้ว”
เถี่ยเสวียนพึมพำในใจ และพยายามหันหน้าไปทางอื่น
แต่เขายังคงเปิดปากพูด “หากเจ้าอยากรู้จริง ๆ เช่นนั้นเจ้าไปถามเจ้านายเองเถอะ ข้าเชื่อว่าเจ้านายจะบอกทันทีที่เจ้าถาม”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เอ็นดูความเป็นคนตรงของคุณชายเนี่ยจริง ๆ เลย แล้วก็อยากตบบ่าปลอบใจเถี่ยเสวียนเหลือเกิน
ไหหม่า(海馬)