ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 280 สถานการณ์
บทที่ 280 สถานการณ์
ในตอนนี้สถานการณ์ของแม่โจวนั้นเล็กน้อยจริง ๆ ถ้าแม่โจวจะต้องหวาดกลัวก็คือสถานการณ์ของจางซานหยาที่นางแอบดูอย่างลับ ๆ และเห็นว่าจางซานหยาเป็นลมล้มไปจริง ๆ ซึ่งนางกังวลอย่างมาก
สิ่งเหล่านี้ทำให้อารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกายของแม่โจว
โชคดีที่จางซิ่วเอ๋อคิดแผนชิงลงมือก่อน ไม่เช่นนั้นพวกคนตระกูลเถาคงรีบเข้ามาทำร้ายแม่โจวไปแล้ว และอาจถึงขั้นทำให้แม่โจวต้องแท้งลูกในครรภ์หรือเสียชีวิตลงได้ หากเป็นแบบนั้นขึ้นมาก็ยากที่จะจิตนาการออก
รอจนท่านหมอเมิ่งตรวจชีพจรของทั้งแม่โจวและซานหยาเสร็จ ยังไม่ทันที่คนอื่นจะเอ่ยอะไรออกมา แม่เฒ่าเถาก็ถามอย่างประหม่าทันที “ตอนนี้คนเป็นอย่างไรบ้าง?”
เป็นความจริงที่นางต้องการมาหาเรื่องและระบายความโกรธ แต่นางก็กังวลจริง ๆ ว่าตัวเองจะฆ่าคนเข้า
ใบหน้าของท่านหมอเมิ่งหมองคล้ำราวกับว่าเขาอารมณ์ไม่ดี
ใช่ ท่านหมอเมิ่งไม่ค่อยมีความสุขนักในเวลานี้ และยังโกรธเล็กน้อยด้วย
เมื่อเขาเพิ่งผ่านจางซิ่วเอ๋อ เขาก็เห็นมือและใบหน้าของจางซิ่วเอ๋อที่มีรอยช้ำสีน้ำเงินและสีม่วง นั่นทำให้เขารู้ว่าจางซิ่วเอ๋อได้มีการต่อสู้กับคนพวกนี้
สิ่งนี้ทำให้ท่านหมอเมิ่งรู้สึกรำคาญใจมาก
จางซิ่วเอ๋อเป็นหญิงสาวที่ดีเสียขนาดนั้น? แต่คนเหล่านี้ยังเลือกที่จะกลั่นแกล้งจางซิ่วเอ๋อได้อย่างไร?
ท่านหมอเมิ่งไม่ได้มองแม่เฒ่าเถาเลย แต่มองไปที่จางซิ่วเอ๋อและกล่าวว่า “จางซานหยาล้มหัวฟาดพื้น สถานการณ์ของนางเหมือนกันกับของจางชุนเถาในตอนนั้น”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ท่านหมอเมิ่งบอกใบ้ให้นาง
มันเหมือนกับสถานการณ์ของจางชุนเถา นั่นคือไม่มีอะไรร้ายแรง!
เมื่อเป็นแบบนี้ จางซิ่วเอ๋อก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
จางซิ่วเอ๋อไม่กังวลอีกต่อไปแล้ว แต่พอคำเหล่านี้ก็เข้าหูคนอื่น มันก็กลายเป็นอีกความหมายหนึ่ง
“อะไรนะ เหมือนกับจางชุนเถา? นังเฒ่าเถา คราวนี้เจ้ายังจะเถียงอะไรอีกไหม!” แม่เฒ่าซ่งพูดอย่างยินดี
“เกิดอะไรขึ้นกับจางชุนเถา?” แม่เฒ่าเถามองไปที่ท่าทางมืดมนของท่านหมอเมิ่ง นางรู้สึกถึงความตื่นเต้นในน้ำเสียงของแม่เฒ่าซ่ง ทำให้หัวใจของนางเต้นไม่เป็นจังหวะ
ผู้ใหญ่บ้านซ่งที่อยู่ข้าง ๆ จ้องไปที่แม่เฒ่าซ่งและโบกมือให้แม่เฒ่าซ่งอยู่เงียบ ๆ!
ต่อหน้าจางซิ่วเอ๋อเช่นนี้กลับดีใจที่สถานการณ์ของจางซานหยาเป็นเรื่องร้ายแรง การที่คนเรามีจิตใจเช่นนี้มันไม่น่ารำคาญเกินไปนักหรือ?
ผู้ใหญ่บ้านซ่งจ้องไปที่ภรรยาของตน จากนั้นเหลือบไปที่จางซิ่วเอ๋อ
แม่เฒ่าซ่งกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งในเวลานี้ หลังรู้สึกว่านางดูจะลืมตัวเกินไปนิด
เพื่อกลบเกลื่อนพฤติกรรมน่าอายของตัวเอง แม่เฒ่าซ่งจึงพูดกับแม่เฒ่าเถาว่า “เจ้ามันโหดร้าย! เจ้าทำร้ายสาวน้อยดี ๆ แบบนี้ได้ยังไง! เจ้าไม่รู้หรอกว่าจางชุนเถาเองก็เคยบาดเจ็บแบบนี้เช่นเดียวกัน ชีวิตน้อย ๆ นั้นเกือบจะจบสิ้นแล้ว ว่ากันว่าเงินจำนวนมากถูกใช้รักษาโรคนี้! และตอนนี้นางก็เป็นคนสติฟั่นเฟือน!”
จางซิ่วเอ๋อเหลือบมองแม่เฒ่าซ่ง คนสติฟั่นเฟือนเหรอ?
ตอนนี้คนส่วนใหญ่ลืมไปว่าจางชุนเถาเป็นคนสติฟั่นเฟือนไปแล้ว แต่มาตอนนี้แม่เฒ่าซ่งไม่เพียงแต่เตือนเรื่องนี้ แต่ยังมาโยงเกี่ยวข้องกับจางซานหยาด้วย
โชคดีที่นางรู้สึกเสมอว่าต้องหาผู้ชายไม่ที่ใส่ใจคำพูดเหล่านี้ให้กับน้องสาวทั้งสอง
ไม่เช่นนั้นนางจะรู้สึกอับอายมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้
“อะไรนะ ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?” แม่เฒ่าเถาได้ยินก็ตกใจเช่นกัน
“แล้ว…ถ้าอย่างนั้น…แม่โจวล่ะ นางเป็นยังไงบ้าง?” หญิงชราถามอีกด้วยอาการตื่นตระหนกไปหมด
น้ำเสียงของท่านหมอเมิ่งลดต่ำลง และถามย้อนเล็กน้อย “เจ้าจะดูแลแม่โจวรึ? ครั้งล่าสุดที่ข้ามา ลูกของแม่โจวเกือบหลุด เกือบจะรักษาเด็กไว้ไม่ได้ พวกเจ้านี่มันทำได้ดีจริง ๆ มาครั้งนี้ก็ทำร้ายจนแม่โจวต้องล้มอีก!”
“ถ้าครั้งนี้จัดการไม่ดี! แม่โจวต้องสูญสิ้นหนึ่งศพสองชีวิตแน่!” ท่านหมอเมิ่งกล่าวเสียงดัง
ไม่มีใครสงสัยในสิ่งที่ท่านหมอเมิ่งกล่าว แม้แต่ตระกูลเถาก็เชื่อในสิ่งเขาพูด
ท่านหมอเมิ่งไม่เพียงมาแค่ที่หมู่บ้านชิงสือเพื่อทำการรักษาเท่านั้น แต่เขายังได้ไปเยี่ยมเยียนเกือบทั้งสิบลี้แปดหมู่บ้านในเขตนี้หมดแล้ว
“หนึ่งศพ…สองชีวิต?” แม่เถาอดไม่ได้ที่จะพูดซ้ำ นางไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ นี่ไม่ใช่ความตั้งใจของนาง แม้ว่านางจะรอคอยการตายของแม่โจว แต่การตายของแม่โจวจะมาอยู่ในมือของนางไม่ได้!
ต่อให้แม่โจวจะล้มตายขณะที่เดิน นางก็แอบปรบมือให้ แต่ถ้าแม่โจวเสียชีวิตเพราะนาง สถานการณ์มันจะต่างออกไป
ทั้งแม่โจว และนังจางซิ่วเอ๋อ เช่นนี้แล้วเรื่องจะไม่ไปถึงทางการเหรอ?
เมื่อคิดดังนั้น แม่เถาก็อดสั่นสะท้านไม่ได้
ในเวลานี้ไม่ว่าท่านหมอเมิ่งจะพูดอะไรเกี่ยวกับแม่โจวก็ตาม ในใจของจางซิ่วเอ๋อนั้นไม่ได้เชื่อเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้นางไม่ได้กังวลอะไรมากเกี่ยวกับจางซานหยา ในใจของนางก็สงบลง และเริ่มสงสัยว่าคนอย่างตระกูลเถาจะจัดการอย่างไร!
จางซิ่วเอ๋อเหลือบมอง และหยิบเศษโอ่งน้ำที่แตกหักขึ้นมาจากพื้นทันที นางเขวี้ยงเศษโอ่งน้ำนั้นออกไป คราวนี้นางจะใช้เศษโอ่งน้ำนี่ทำร้ายร่างกายแม่เฒ่าเถาโดยตรง!
เจ้าสิ่งนี้หนามาก ทำให้เกิดแผลถลอกได้ แต่ฆ่าคนไม่ได้
จางซิ่วเอ๋อสามารถคำนวณแรงที่ใช้ได้! นางไม่ลงโทษคนจนตายหรอก
ต่อให้อยากฆ่าใครซักคนจริง ๆ แต่ก็มีวิธีฆ่าคนเป็นพัน ๆ วิธี และการโจมตีต่อหน้าคนจำนวนมากก็ไม่ได้มีประโยชน์เลย!
ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อต้องการแก้แค้นแม่เฒ่าเถา แม่เฒ่าเถาคนนี้หยิกนางหลายครั้งมาก! นางทำแบบนี้ได้อย่างไร? นางต้องมองหาโอกาสที่เหมาะสมที่จะตอบโต้กลับ
จางซิ่วเอ๋อคิดว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่เหมาะสมมาก
ตอนนี้ท่านหมอเมิ่งพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ร้ายแรงของแม่โจวและจางซานหยา ในฐานะพี่สาวและลูกสาว หากนางไม่แสดงความตื่นเต้นเล็กน้อยดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผล
ถ้าอย่างนั้น หากทำสิ่งที่น่าตื่นเต้นหน่อยก็สามารถพออภัยได้
ตราบใดที่ข้าไม่ได้ฆ่าแม่เฒ่าเถา! ก็ไม่มีใครพูดอะไรได้
ใครบอกให้แม่เฒ่าเถาจัดการกับแม่โจวและจางซานหยาก่อนล่ะ?
บางทีเรื่องนี้อาจทำให้จางซิ่วเอ๋อมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่นางไม่ใช่คนที่ใส่ใจเรื่องนี้ นอกจากนี้จางซิ่วเอ๋อยังเคยถือมีดทำครัวไปที่บ้านของแม่หลินเพื่อจัดการปัญหา ทำให้ครั้งนั้นชื่อเสียงของนางเริ่มมั่นคงขึ้นมาบ้างแล้ว
การที่นางไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้แปลว่านางจะไม่ลงมือ
ในเมื่อทุกอย่างเป็นแบบนี้ จางซิ่วเอ๋อจะน่ากลัวตรงไหนกัน?
เมื่อก้าวถอยหลัง จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าชื่อเสียงที่มั่นคงจะไม่เป็นอันตรายต่อนาง
นางเป็นแม่ม่ายตัวเล็ก ๆ ที่อาศัยอยู่ในบ้านผีสิงกับน้องสาวของนาง ครอบครัวไม่มีผู้ชายคอยช่วยเหลือ ถ้ามีคนต้องการจะรังแกพวกนางจริง ๆ คงจะยาก
ที่นั่นอยู่ไกลจากหมู่บ้านเกินไป เป็นการอยู่อย่างโดดเดี่ยว แม้ว่ามันจะทำให้คนกลัวได้บ้าง แต่ก็ยังไม่มีคนที่กล้าเหมือนกลุ่มของหวังกากเกลื้อนที่เคยมาสร้างปัญหา
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
แบบนี้มันต้องจึ้กสักแผลสินะซิ่วเอ๋อ เชือดไก่ให้ลิงดูไปในตัวด้วย
ไหหม่า(海馬)