ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 286 ตำลึงเงิน
บทที่ 286 ตำลึงเงิน
ครั้นเห็นแม่เฒ่าเถานำตำลึงเงินกลับมาแล้ว ไม่ต้องรอให้ใครบอก แม่เฒ่าจางก็พุ่งเข้าไปกระชากถุงเงินมาทันที
จากนั้นนางก็เทตำลึงเงินลงพื้นต่อหน้าทุกคน
เฮอะ นางขอดูให้ดีก่อน ถ้าเกิดแม่เฒ่าเถาใส่ขาดไป 2 ตำลึงเงินใครจะรู้?
ตอนนี้แม่เฒ่าจางต้องการตรวจตำลึงเงินนี้ต่อหน้าทุกคนว่าครบหรือไม่
หลังจากแม่เฒ่าจางเห็นตำลึงเงินพวกนั้นแล้วก็อดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้ นี่มันตำลึงเงินเชียวนะ ตำลึงเงินขาว ๆ! ตำลึงเงินมากขนาดนี้นางไม่เอาไปรักษาแม่โจวหรอก! นางจะใช้ไปอีกนาน ๆ เลยล่ะ!
พริบตาที่แม่เฒ่าจางเห็นตำลึงเงิน นางก็รู้สึกว่าต่อให้วันนี้จะมีเรื่องกันขนาดไหนก็คุ้มค่าแล้ว!
“ท่านเอาเงินของท่านแม่ข้าไปจริง ๆ ได้อย่างไร!” แม่เถาพูดอย่างไม่พอใจ
แม่เฒ่าจางกลอกตามองบน และชำเลืองแม่เถาอย่างดูแคลน “ข้าไม่เอาเงินนี่แล้วจะให้ขายเจ้าเพื่อรักษาเหมยจื่อหรือไร?”
ตอนนี้แม่เฒ่าจางอารมณ์ดี ไม่มีเวลาไปวอแวกับแม่เถา นางนับตำลึงเงินซ้ำไปซ้ำมา
เหอะ! ไม่ต้องพูดถึงเลย มันเป็นจริงตามที่แม่เฒ่าจางคาดไว้ เงินในถุงขาดไป 2-3 ตำลึงเงินจริง ๆ!
แม่เฒ่าจางมองแม่เฒ่าเถาอย่างเดือดดาล “นังเฒ่าเถา เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าคิดว่าข้านับเลขไม่เป็นรึ? รีบคืนตำลึงเงินข้ามาซะ! ขาดอีก 4 ตำลึงเงิน!”
แม่เฒ่าเถาตะลึงไปในบัดดล “ 4 ตำลึงเงิน? ข้าใส่ขาดไปแค่ 3 ตำลึงเงินนะ!” แม่เฒ่าเถาเห็นว่ามีคนมากมายดูอยู่ ปิดบังต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงยอมสารภาพ
แม่เฒ่าจางแค่นเสียงเย็น “เจ้าทำโอ่งบ้านข้าแตกไม่ต้องชดใช้หรืออย่างไร? ไหนจะประตูรั้วบ้านข้าอีก? ถึงเวลาก็ต้องซ่อมทำใหม่”
แม่เฒ่าเถาโมโหจนปวดตับ นางไม่เคยเจอคนที่หน้าด้านเท่าแม่เฒ่าจางมาก่อนเลย ไว้หน้าหน่อยก็ลามปามปีนขึ้นมาเล่นบนศีรษะแล้ว!
แม่เฒ่าเถากัดฟันกรอดมองแม่เฒ่าจาง “นี่เป็นตำลึงเงินทั้งหมดที่บ้านเรามีแล้ว จะขออีกก็ไม่มีให้แล้ว!”
แม่เฒ่าเถาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะแถให้ได้ เวลานี้นางจะไม่ให้เงินจำนวนที่เหลือใครจะทำไม?
แม่เฒ่าจางกลอกตาและเหลือบเห็นกำไลดิ้นเงินบนมือของเถาซานเหนียง นางหรี่ตาเพื่อพิจารณา เมื่อลืมตาอีกครั้งสายตาเปล่งประกายความตื่นเต้นดีใจ
ในขณะที่คนอื่นยังไม่ทันตั้งตัว แม่เฒ่าจางก็เข้าไปกระชากกำไลดิ้นเงินนี้ออกมา
เถาซานเหนียงเห็นแบบนั้นแล้วกรีดร้องออกมาทันที “เจ้าคืนกำไลข้ามานะ!”
นั่นแม่สามีนางให้มานะ! ถ้าหายไปชีวิตนางต้องลำบากแน่
แม่เฒ่าจางยกมือชั่งดูแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่เบา คุ้มกับตำลึงเงินที่หายไปแล้ว!”
ไม่ใช่แค่คุ้มตำลึงเงินที่หายไปหรอก กำไลนี้อย่างน้อย ๆ ต้องได้ 7-8 ตำลึงเงิน
แม่เฒ่าจางสวมกำไลให้ตัวเองไปพลางพูดขึ้น “เอาล่ะ พวกเจ้าไปได้แล้ว เรื่องของพวกเราสองตระกูลถือว่าจบ”
เถาซานเหนียงมองกำไลตัวเองอย่างเสียดายของ แม่เฒ่าจางเอาไปสวมได้อย่างไรกัน! แขนแม่เฒ่าจางใหญ่กว่านางตั้งหนึ่งเท่าได้ทำกำไลพังพอดี
เถาซานเหนียงร้อนใจ “ผู้ใหญ่บ้านซ่ง ท่านต้องมีความยุติธรรมนะ กำไลข้าจะให้นางไม่ได้!”
ผู้ใหญ่บ้านซ่งไตร่ตรองก่อนจะเอ่ยขึ้น “เอาอย่างนี้ ทำตามที่ข้าบอก กำไลนี่ฝากไว้กับข้าก่อน ถึงเวลาพวกเจ้านำ 3 ตำลึงเงินมาแล้วค่อยคืนกำไลให้พวกเจ้า”
เถาซานเหนียงได้ยินดังนั้นก็โล่งอก อย่างไรเสียนางก็ไม่ต้องออกเงิน นางแค่หาทางไถ่กำไลของตัวเองคืนก็พอ
เถาซานเหนียงจึงตกลงโดยไม่ลังเล “ได้! ทำแบบที่ท่านบอกเลย!”
“ซานเหนียง!” แม่เฒ่าเถาชักร้อนใจ
เถาซานเหนียงถลึงตา “ท่านแม่? กำไลของข้ามีมูลค่าไม่น้อยนะ! หรือถึงตอนนั้นแม่จะให้พ่อแม่สามีข้ามาหาแม่?”
คนเลวย่อมมีคนเลวด้วยกันจัดการ แม่เฒ่าเถากลัวบ้านสามีของเถาซานเหนียงจริง ๆ เวลาแบบนี้จึงจำต้องสิ้นฤทธิ์เดช
ผู้ใหญ่บ้านซ่งยื่นมือมาทางแม่เฒ่าจาง “ถอดกำไลของคนอื่นเขามาเสีย! ไม่อย่างนั้นจากที่เจ้าถูกจะกลายเป็นฝ่ายผิดแทน!”
แม่เฒ่าจางกลับไม่ยอม “ได้อย่างไรกัน? ถ้าท่านอมไว้ทั้งกำไลทั้งตำลึงเงินเล่าจะทำอย่างไร?”
แม่เฒ่าซ่งหัวเราะ “คนเห็นกันตั้งเยอะตั้งแยะ พวกเราเอากำไลไปแล้วจะไม่ยอมรับหรืออย่างไร?”
ผู้ใหญ่บ้านซ่งเองก็โกรธไม่เบา แม่เฒ่าจางกำลังบอกว่าเขาคิดจะเก็บของพวกนี้เข้ากระเป๋าตัวเองรึ?
“เดี๋ยวตอนที่คนตระกูลเถานำตำลึงเงินมาแล้ว ข้าจะให้คนทั้งหมู่บ้านมาดูตอนส่งมอบให้ชัดเจนกันไปเลย!” ผู้ใหญ่บ้านซ่งเอ่ยเสียงเข้ม
แม่เฒ่าจางในตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้อีก จำต้องถอดกำไลออกอย่างเชื่องช้า
ตอนที่นางจะยื่นกำไลออกไป จู่ ๆ นางก็ดึงมือกลับ
ผู้ใหญ่บ้านซ่งที่กำลังจะรับกำไลมาจึงชวดไป ผู้ใหญ่บ้านซ่งถลึงตา “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? หรือยังสงสัยข้าจริง ๆ!”
แม่เฒ่าจางเห็นผู้ใหญ่บ้านซ่งชักโกรธขึ้นมาจริง ๆ แล้วจึงยิ้มให้และเอ่ยขึ้น “จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไรเล่า เมื่อครู่ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้น ข้าล้อเล่น! ท่านอย่าถือสาเลยนะ”
“แล้วตอนนี้เจ้าทำอะไรอยู่?” ผู้ใหญ่บ้านซ่งมองกำไลและถาม
เขาอยากจะกลั่นแกล้งคนตระกูลเถา แต่ถ้าให้แม่เฒ่าจางเก็บกำไลนี้ไว้จริง ๆ เรื่องนี้จะดูน่าเกลียด ถึงตอนนั้นจากถูกจะกลายเป็นผิด คนอื่นรู้เข้าต้องคิดว่าเป็นความบกพร่องของเขาแน่
“ข้าหมายความว่าแล้วโอ่งบ้านข้าพวกเขาจะไม่รับผิดชอบหรือ? ต้องให้ 4 ตำลึงเงินนะถึงจะนำกำไลนี้กลับไปได้!” แม่เฒ่าจางขึ้นราคาเสียเฉย ๆ
จางซิ่วเอ๋อหลุดขำออกมา โอ่งทุเรศทุรังนั่นต่อให้เป็นของใหม่เอี่ยมก็ยังมีราคาไม่กี่เหรียญ 1 ตำลึงเงินซื้อโอ่งได้หลายใบเลยล่ะ แม่เฒ่าจางทำให้จางซิ่วเอ๋อได้เห็นแล้วว่าไม่มีคนที่หน้าด้านที่สุดหรอก มีแต่คนที่หน้าด้านกว่า!
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แค่ตัวแม่เฒ่าจางเองก็สามาถทำให้จางซิ่วเอ๋อได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ตลอดเวลา
“ข้าจะบอกให้นะแม่เฒ่าจาง เจ้าอย่าหน้าด้านให้มากนัก! โอ่งบ้านเจ้านี่ทำด้วยทองหรือทำด้วยเงินรึ! ทำไมถึงเลอค่าขนาดนั้นกัน?” แม่เฒ่าเถาเดือดดาล
แม่เฒ่าจางโต้กลับทันควันอย่างไม่ยอมแพ้ “ถ้าโอ่งบ้านข้าทำด้วยทองหรือทำด้วยเงินจริง ต่อให้เอานังแก่เดนตายอย่างเจ้าไปขายก็ไม่ได้เงินมากขนาดนั้นหรอก!”
ผู้ใหญ่บ้านซ่งเห็นว่าแม่เฒ่าจางและแม่เฒ่าเถาสองคนจะตีกันอีกแล้วจึงเอ่ยขึ้นเสียงเข้มทันที “พวกเจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้!”
“ผู้ใหญ่บ้าน ข้าไม่ชดใช้โอ่งนั่นให้หรอกนะ โอ่งบ้านพวกเขาขวางทางของเรา! มิฉะนั้นใครจะไปเตะของพรรค์นั้น!” แม่เฒ่าเถาแถสีข้างถลอก
แม่เฒ่าจางโมโหขึ้นมาในบัดดล “สวนลวนบ้านข้าเป็นทางของบ้านเจ้ารึ?”
“ข้าบอกว่า! ให้พวกเจ้าหุบปาก!” ผู้ใหญ่บ้านซ่งรู้สึกว่าตัวเองชักจะทนไม่ไหวแล้ว เขาแทบอยากจะโยนยายแก่น่าหงุดหงิดสองคนนี้ลงไปในคลอง
“โอ่งบ้านแม่เฒ่าจางเป็นของเก่า ถือว่ามีค่า 100 เหรียญแล้วกัน!” ผู้ใหญ่บ้านซ่งตัดสิน
“เจ้าก็เลิกโวยวายได้แล้ว พวกเจ้าเป็นคนทำโอ่งพัง เท่านี้พวกเจ้าก็ได้เปรียบมากแล้ว!” ผู้ใหญ่บ้านซ่งมองแม่เฒ่าเถาพลางกล่าว
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เชียร์ท่านผู้ใหญ่บ้านให้โยนยายแก่สองคนนี้ลงคลองเหมือนกันค่ะ อยากเลื่อนผ่านเหมือนกัน แต่ติดที่ว่าต้องแปลเท่านั้นแหละ
ไหหม่า(海馬)