ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 288 คำนินทา
บทที่ 288 คำนินทา
จางซิ่วเอ๋อไม่คาดหวังให้นางยกตำลึงเงินให้จริง ๆ หรอก แต่จางซิ่วเอ๋อก็อยากให้ทุกคนรู้ว่าแม่เฒ่าจางไม่ได้ใช้เงินไปกับแม่ของนาง!
เดี๋ยวถึงเวลาแม่เฒ่าจางทั้งได้เงินทั้งได้หน้า!
แม่เฒ่าจางได้ยินมาถึงนี่ก็ได้สติกลับมาจากความปลื้มปิติและเอ่ยขึ้น “เจ้าต้องรักษาแม่เจ้า ครั้งก่อนเจ้าพูดไว้ไม่ใช่เหรอว่าเจ้าจะดูแลแม่เจ้าเอง!”
“แต่ข้าไม่มีเงินขนาดนั้นจะมารักษาแม่ข้านี่เจ้าคะ!” จางซิ่วเอ๋อพูดต่อ
“ครั้งก่อนท่านหมอเมิ่งให้เจ้ายืมเงินไม่ใช่รึ? ครั้งนี้เจ้าก็ให้ท่านหมอเมิ่งให้เวลาเจ้าหน่อย เจ้าจะเอาอย่างไรไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว!” แม่เฒ่าจางเชิดคางขึ้นและเดินเข้าบ้านไป
จางซิ่วเอ๋อแกล้งทำเป็นทำอะไรไม่ถูก “ท่านอาเมิ่ง….คือ…..”
ท่านหมอเมิ่งยิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมบอก “ไม่เป็นไร ใคร ๆ ก็ต้องมีช่วงเวลาที่ลำบากบ้าง ข้าจะให้ยากับแม่เจ้า ส่วนเรื่องเงินถือว่าเจ้าติดข้า อีกหน่อยมีแล้วค่อยให้นะ”
“โอ้โห! แม่เฒ่าจางนี่ใช้ไม่ได้เลยจริง ๆ ปากบอกว่าขอเงินมาให้แม่โจวและจางซานหยา แต่พริบตาเดียวก็ลืมคำพูดไปหมด ถึงกับให้จางซิ่วเอ๋อออกเงินนี้ เช่นนี้เท่ากับขอ 20 ตำลึงเงินให้นางเปล่า ๆ ปลี้ ๆ น่ะสิ?” มีคนพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้
มีคนเสริมทัพในบัดดล “ก็ใช่น่ะสิ ข้าว่าแม่เฒ่าจางนี่หน้าไม่อายจริง ๆ แต่สงสารจางซิ่วเอ๋อ เด็กสาวตัวน้อยเท่านี้จะไปหาเงินมากมายขนาดนั้นมาคืนได้อย่างไร!”
“เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องห่วงหรอก จางซิ่วเอ๋อน่ะเก่งกล้าสามารถ ไม่แน่นะนอกจากท่านหมอเมิ่งจะไม่ให้จางซิ่วเอ๋อคืนเงินแล้วอาจจะให้เงินจางซิ่วเอ๋อแทนด้วยซ้ำ” แม่หลินพูดด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหนอยู่ด้านข้าง
“เจ้าคนตระกูลหลิน เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” มีคนอดถามไม่ได้ พวกเขาไม่ค่อยอยากรู้อยากเห็นเรื่องของจางซิ่วเอ๋อแล้ว แต่ยังอยากรู้อยากเห็นกับเรื่องของท่านหมอเมิ่งอยู่
ไฉนตอนนี้ทั้งสองคนถึงพัวพันอยู่ด้วยกันได้?
“เจ้ายังไม่รู้เรื่องหรือ! ในหมู่บ้านเขาลือกันให้ทั่วแล้วว่าระหว่างจางซิ่วเอ๋อและท่านหมอเมิ่งมีความสัมพันธ์บางอย่าง!” แม่เฒ่าคนหนึ่งเหลือบมองจางซิ่วเอ๋อและท่านหมอเมิ่งก่อนจะพูดเสียงเบา
“ตายจริง ตั้งแต่เมื่อไรกัน? จางซิ่วเอ๋อและท่านหมอเมิ่งไปเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร!” มีคนแสดงท่าทางตื่นตะลึง
แม่หลินมองคนตรงหน้าเหล่านี้อย่างพึงพอใจ ก่อนจะสานต่อเรื่องราว “ไปเกี่ยวข้องกันได้อย่างไรรึ? ทำไมจะเป็นไปไม่ได้เล่า? หนึ่งแม่ม่ายน้อยกับหนึ่งพ่อม่ายมาอยู่ด้วยกันก็เกิดไฟลุกขึ้นมาได้…..จางซิ่วเอ๋อไม่ใช่คนดีอะไรอยู่แล้ว คิดแต่จะอ่อยผู้ชาย เห็นคนเช่นท่านหมอเมิ่งแล้วจะไม่อ่อยได้อย่างไร!”
“ถ้าเจ้าพูดแบบนี้ ก็แสดงว่าจางซิ่วเอ๋อดูด้อยค่ากว่าแม่ม่ายหลิวด้วยซ้ำ สำส่อนเหมือนกัน ท่านหมอเมิ่งไม่ชอบแม่ม่ายหลิวแล้วไฉนไปชอบจางซิ่วเอ๋อได้?”
แม่หลินมองบรรดาสตรีที่ล้อมกันเป็นวงกลมก่อนจะกล่าวต่อ “ก็เพราะแม่ม่ายหลิวไร้น้ำยาน่ะสิ มีความสามารถสู้จางซิ่วเอ๋อไม่ได้ พวกเจ้าอย่าเอาแต่มองว่าจางซิ่วเอ๋อผอมแห้งแรงน้อย แต่คนเราดูแต่ภายนอกไม่ได้ ไม่แน่นะจางซิ่วเอ๋ออาจจะเกิดมากับความสามารถปรนนิบัติผู้ชายก็เป็นได้!”
“จริงสิ เมื่อครู่เจ้าบอกว่าจางซิ่วเอ๋อมีความสัมพันธ์กับบัณฑิตจ้าวไม่ใช่เหรอ? นั่นหมายความว่าอย่างไร?”
แม่หลินกล่าว “เรื่องนี้ข้าจะค่อย ๆ เล่าให้พวกเจ้าฟัง…..”
ก่อนหน้านี้เวลาแม่หลินพูดจาว่าร้ายจางซิ่วเอ๋อต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ แต่ตอนนี้แม่หลินไม่กลัวว่าจะมีเรื่องกับจางซิ่วเอ๋อแล้ว ตัวนางเองยิ่งไม่กลัวจะเสียหน้า ลูกชายนางโดนจางซิ่วเอ๋อหลอกลวงจนหายไปแล้ว เวลาแบบนี้นางยังต้องสนสิ่งใดอีก?
ตอนนี้แม่หลินจะเล่าเรื่องจางซิ่วเอ๋อให้คนพวกนี้ฟังอย่างเปิดเผย
แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่แม่หลินจับแพะชนแกะเอาเอง
แต่จางซิ่วเอ๋อสนิทกับบัณฑิตจ้าวและท่านหมอเมิ่งจริง พอโดนแม่หลินพูดเช่นนี้อีก บรรดาหญิงขี้นินทาได้ยินเข้าจึงคิดว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นแม่ม่ายสำส่อนที่ปลดเปลื้องอาภรณ์ได้ง่าย ๆ จริง ๆ
บัดนี้คนเหล่านี้จึงพากันว่าร้ายจางซิ่วเอ๋อ นินทาจางซิ่วเอ๋ออยู่เนือง ๆ
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกตัวแต่ไกล แม้ตอนนี้นางได้ยินไม่ชัดว่าคนเหล่านี้พูดอะไรบ้าง แต่ก็สัมผัสได้ว่าพวกนี้ไม่พูดอะไรดี ๆ หรอก
ที่จริงในหมู่บ้านไม่มีใครกล้าสร้างข่าวลือว่าร้ายจางซิ่วเอ๋อมาพักใหญ่แล้ว
จางซิ่วเอ๋อนำป้ายวิญญาณของเนี่ยหย่วนเฉียวมาเดินโฉบในหมู่บ้านนั้นได้ผลอยู่
แต่ช่วงก่อนหน้านี้คนตระกูลเนี่ยมาอยู่หนหนึ่ง ท่าทางที่มีต่อจางซิ่วเอ๋อก็แย่สุด ๆ เรื่องนี้จึงส่งผลให้คนในหมู่บ้านคิดว่าตระกูลเนี่ยไมให้ความสำคัญกับจางซิ่วเอ๋อ
ต่อให้มีข่าวลือที่ไม่ดีกับจางซิ่วเอ๋อแพร่สะพัด คนตระกูลเนี่ยก็จะไม่พาลมาโทษพวกเขา แต่จะไปเอาเรื่องกับจางซิ่วเอ๋อโดยตรง
บวกกับก่อนหน้านี้แม่เฒ่าจางประกาศไปทั่วว่าที่จางซิ่วเอ๋อโดนตระกูลเนี่ยพาตัวไปเพราะจางซิ่วเอ๋อทำตัวไม่ดี!
ทำให้ผู้คนไม่เกรงกลัวอะไรอีก ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง! ไม่ใช่การกุข่าว! และคนพูดกันตั้งเยอะตั้งแยะ พวกนางไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร!
ยิ่งมีแม่หลินเป็นคนนำ คนพวกนี้ยิ่งรู้สึกว่าพูดได้ ไม่ต้องไปกลัวอะไรจางซิ่วเอ๋อ
จางซิ่วเอ๋อชำเลืองคนพวกนั้น ต่อให้นางรู้ว่าคนพวกนั้นพูดอะไรตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้
นางพุ่งเข้าไปโต้เถียงตอนนี้ทำให้คนพวกนี้ยอมหุบปากก็จริง แต่ก็ทำได้แค่ชั่วคราว สุดท้ายคนเหล่านี้ก็จะหวนกลับมาว่าร้ายนางเหมือนเดิม ไม่แน่อาจจะหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ผู้ใหญ่บ้านซ่งก็เห็นว่าแม่หลินยืนพึมพำอะไรอยู่ใกล้ ๆ เขาตะโกนไปทันที “พอได้แล้ว พวกเจ้าไม่จบไม่สิ้นหรืออย่างไร? นี่มันเรื่องของบ้านคนอื่น พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร รีบกลับบ้านไปซะ พรุ่งนี้ไม่ต้องไปทำงานที่ไร่หรืออย่างไร? ไม่ต้องทำกับข้าวให้สามีหรืออย่างไร?”
พอคิดได้ว่าพรุ่งนี้ต้องทำงานอีก คนเหล่านี้ถึงรู้สึกตัวว่าฟ้ามืดแล้วและรีบแยกย้ายกันไป
ตอนที่แยกย้ายกัน มีคนมากมายเหลือบมองจางซิ่วเอ๋อด้วย
จางซิ่วเอ๋อมองจางต้าหูอีกด้านที่แผลเต็มตัว “ท่านพ่อ ฟ้ามืดมากแล้ว พ่อกลับไปพักผ่อนเถอะ เรื่องของแม่และน้องสาวข้าในเมื่อท่านหมอเมิ่งบอกแล้วว่าตอนนี้ยังไม่เป็นไรก็คงไม่เป็นไร”
“ส่วนเงินค่ารักษาแม่และน้องพ่อก็ไม่ต้องกังวล ข้าจะหาทางเอง” จางซิ่วเอ๋อถอนหายใจเบา ๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะตำลึงของตระกูลเถาร้อนมืออยู่นิดหน่อย ถ้าไม่ใช่เพราะจางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าจะเอาเงินออกจากมือแม่เฒ่าจางนั้นยากเกินไป นางก็อยากจะเอาเงินนั่นมาจริง ๆ
แต่จางซิ่วเอ๋อไตร่ตรองแล้วก็รู้สึกว่าช่างเถอะ ถ้าเงินนี่มาอยู่ในมือตัวเอง ทั้งแม่เฒ่าจางและคนตระกูลเถาก็จะเจ็บแค้นใจตัวเอง นางไม่กลัวว่าจะโดนแค้นหรอก แต่….ถ้าเงินนี้อยู่ในมือแม่เฒ่าจาง
นางและแม่โจวก็จะได้อยู่ดูเรื่องสนุกเฉย ๆ ดูว่าแม่เฒ่าจางจะสู้รบอย่างไรกับตระกูลเถา
จางต้าหูได้ยินดังนั้นแล้วสบายใจในบัดดล “ซิ่วเอ๋อ ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าเป็นคนกตัญญู”
จางซิ่วเอ๋อไม่ค่อยอยากสนใจจางต้าหู ต่อให้วันนี้จางต้าหูโดนทำร้าย แต่ครึ่งหนึ่งก็เป็นเพราะแม่เฒ่าจาง ถ้าไม่ใช่ว่าจางต้าหูเห็นแม่เฒ่าจางโดนรังแกเหมือนกัน มีหรือจะพุ่งออกไปสุดแรงเกิด?