ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 30 ไม่ลงรอยกัน
บทที่ 30 ไม่ลงรอยกัน
ในขณะที่จางซิ่วเอ๋อจะออกจากบริเวณต้นหวายฉู่ ก็มีคนเดินสวนมา
ตอนเดินเฉียดกับจางซิ่วเอ๋อ คนผู้นั้นก็ยื่นมามือดึงเสื้อผ้าจางซิ่วเอ๋อและล้มลงไป
“โอ๊ย เจ็บ!” คนผู้นั้นโวยวายเสียงดัง
จางซิ่วเอ๋อชะงัก นี่มันนักต้มตุ๋นงั้นหรือ?
จากนั้นจางซิ่วเอ๋อก็ยิ่งประหลาดใจมากกว่าเดิม ยามก้มมองก็รู้สึกโกรธจนแทบจะหัวเราะ คนบนพื้นนั่นมันแม่เฒ่าจางผู้เป็นย่าแท้ ๆ ของเธอนี่!
จางซิ่วเอ๋อเพ่งมองแม่เฒ่าจาง นี่นางคิดจะสร้างเรื่องอะไรอีก?
แม่เฒ่าจางยกแขนขึ้น ชี้นิ้วใส่จางซิ่วเอ๋อ “นางเด็กอกตัญญู วันนี้ก่อนออกจากบ้านข้าลืมดูปฏิทินซะนี่ ถึงได้มาชนเจ้าได้!”
จางซิ่วเอ๋อมองแม่เฒ่าจางที่ชิงฟ้องก่อนทั้งที่เป็นคนร้ายด้วยสายตาเย็นเยียบ
“โอ๊ย ข้านี่รันทดจริง ๆ มีลูกสะใภ้คลอดตัวขาดทุนมาทีเดียวสามคน นังตัวขาดทุนคนโตเป็นเด็กอกตัญญู ยุยงให้ตัวขาดทุนคนเล็กโหม่งกำแพงฆ่าตัวตาย” แม่เฒ่าจางโวยวาย
จางซิ่วเอ๋อเอ่ยอย่างไร้อารมณ์ “ท่านย่า นี่ท่านทำอะไรน่ะ ลุกขึ้นเร็ว พื้นมันเย็นนะ”
คำพูดนี้ดูเหมือนเป็นห่วงเป็นใย แต่ถ้าฟังดี ๆ ก็จะพบว่าเป็นการปฏิเสธข้อกล่าวหาว่านางเป็นคนเดินชนแม่เฒ่าจาง
“ท่านย่า ท่านอายุมากแล้วเดินไปไหนมาไหนก็ระวังด้วยนะเจ้าคะ ยังดีที่วันนี้คนที่ท่านเดินชนคือข้า หากวันไหนไปชนคนอื่นเข้าจะทำอย่างไร?” จางซิ่วเอ๋อเอ่ยต่อ
คำพูดนี้ไม่มีใครระแคะระคายได้ แต่สามารถผลักความผิดกลับไปที่แม่เฒ่าจางได้อย่างแนบเนียน
แม่เฒ่าจางมองจางซิ่วเอ๋ออย่างโมโห “นังตัวขาดทุน ชนข้าแล้วไม่ยอมรับเหรอ?”
จางซิ่วเอ๋อถอนหายใจ “ท่านย่า ข้ารู้ว่าท่านย่าไม่ชอบข้า แต่ท่านจะมาสร้างเรื่องสร้างราวต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ”
ตอนแรกจางซิ่วเอ๋ออยากให้แม่เฒ่าจางเลิกราไปเองเพราะทนสายตาทุกคนไม่ไหว
แต่เห็นได้ชัดว่านางประเมินความหน้าด้านของแม่เฒ่าจางผิดไป
หญิงชราจะไปสนใจสายตาทุกคนได้อย่างไร ครั้งนี้นางตั้งใจมาหาเรื่องจางซิ่วเอ๋อโดยเฉพาะ
เป็นเพราะแม่เฒ่าจางผูกใจเจ็บกับจางซิ่วเอ๋อไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
ถ้าไม่ใช่เพราะจางซิ่วเอ๋อ ตระกูลจางของนางที่เป็นที่อิจฉาของทุกคนเพราะได้เกี่ยวดองกับเจ้าของที่ดินจะกลายเป็นเป้าหมายให้ทุกคนหัวเราะเยาะได้อย่างไร
ถ้าไม่ใช่เพราะจางซิ่วเอ๋อออกไปตั้งตัวเอง จนนางจับจางซิ่วเอ๋อไปขายเอาเงินไม่ได้ อวี่หมินของนางก็คงมีสินเดิมที่ไม่เลว
พอนึกถึงจางอวี่หมิน เพลิงโทสะของแม่เฒ่าจางก็ลุกโชนยิ่งกว่าเดิม
ตระกูลจางมีคนฆ่าตัวตายทีเดียวสองคน ชื่อเสียงป่นปี้ไปหมดแล้ว ส่งผลกระทบกับเรื่องแต่งงานของจางอวี่หมินโดยตรง
จางอวี่หมินถือว่าหน้าตาใช้ได้ ถ้าจะแต่งงานกับคนธรรมดาเพราะโดนชื่อเสียงของจางซิ่วเอ๋อและจางชุนเถาถ่วงก็พอได้ แต่จางอวี่หมินนั้นหวังสูงขนาดไหนกันเล่า?
นางจะยอมแต่งงานกับคนกะโหลกกะลาในหมู่บ้านนี้ได้อย่างไร?
นางวาดฝันมาตลอดว่าจะได้ไปอยู่ในตัวเมืองแล้วเจอคนตระกูลดี ๆ อย่างแย่สุดก็บรรดาเถ้าแก่ร้านรวงต่าง ๆ ที่นางผันตัวไปเป็นเถ้าแก่เนี้ยคอยเก็บเงินได้
แม่เฒ่าจางกับจางอวี่หมินคิดกันไว้อย่างดี แต่คนในเมืองจะมีสักกี่คนที่ชอบจางอวี่หมิน
ในเมื่อตอนนี้ตระกูลจางเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้ จางอวี่หมินก็ยิ่งหมดโอกาสแต่งงานไปอยู่ในเมือง
ตอนนี้แม่เฒ่าจางตั้งใจแน่วแน่ว่าถ้าจางยวี่หมิ่นไม่ได้แต่งงานกับคนดีๆ ก็จะทำให้จางซิ่วเอ๋อไม่มีวันได้ดี อย่างน้อยก็ต้องทำให้จางซิ่วเอ๋อขายขี้หน้าจนอยู่หมู่บ้านนี้ต่อไปไม่ได้
หญิงชราโวยวายด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “นังตัวขาดทุนอกตัญญู โอ๊ย! เจ้าเป็นคนมาชนข้าชัด ๆ ตอนนี้กลับกล่าวย้อนมาโทษข้า อกตัญญูจริง ๆ ทำไมตระกูลจางของเราต้องมีคนอย่างเจ้าด้วย!”
จางซิ่วเอ๋อขมวดคิ้ว สายตาโมโห
แม่เฒ่าจางชักจะล้ำเส้นกันเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมในโลกนี้ถึงมีย่าแบบแม่เฒ่าจางด้วย
แม่เฒ่าจางโวยวายไปพลางดึงจางซิ่วเอ๋อไปพลาง พอฉุดกระชากกันไปมา ของในตะกร้าหลังจางซิ่วเอ๋อก็ร่วงหล่น
แม่เฒ่าจางคิดไม่ถึงว่าในตะกร้าจางซิ่วเอ๋อจะมีของมากขนาดนี้
โดยเฉพาะ…ห่อกระดาษมันที่ห่อของกินไว้อย่างเห็นได้ชัด
ถึงตอนนี้แม่เฒ่าจางก็ไม่สนใจจะหาเรื่องแล้ว นางยื่นมือไปคว้าห่อกระดาษมาแล้วเปิดออก ซาลาเปาลูกใหญ่ 3 ลูกปรากฏสู่สายตาทุกคน
จางซิ่วเอ๋อรำพึงในใจว่าแย่แล้ว แต่จะห้ามตอนนี้ก็ไม่ทันเช่นกัน
ใครใช้ให้แม่เฒ่านี่ตาไวมือไวล่ะ
คนอย่างแม่เฒ่าจางไม่ขยันทำงานเท่าไรหรอก ดีแต่ออกคำสั่ง แต่ตอนเอาเปรียบกับตอนสร้างเรื่องน่ะเชี่ยวชาญเลยล่ะ
“โอ้โห” แม่เฒ่าจางอึ้งไปเล็กน้อย ราวกับคิดไม่ถึงว่าจางซิ่วเอ๋อจะมีของดีขนาดนี้อยู่กับตัว
“เอาของข้าคืนมา” จางซิ่วเอ๋อพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร
วันนี้ตอนซื้อซาลาเปา นางเสียดายไม่กล้าซื้อส่วนของตัวเองกับชุนเถา ซื้อมาให้แค่ซานหยากับแม่โจวเท่านั้น
หน้าแก่ ๆ ของแม่เฒ่าจางมืดครึ้มลง “เงินที่ซื้อซาลาเปานี่เจ้าเอามาจากไหน เจ้าบอกมานะ ขโมยเงินที่บ้านไปใช่ไหม?”
จางซิ่วเอ๋อมองแม่เฒ่าจางอย่างนึกขำ ยายแก่นี่เอาทุกอย่างเข้าตัวจริง ๆ
นางมองแม่เฒ่าจางอย่างเย้ยหยัน “เงินนี่ของข้าเอง ส่วนจะมาจากไหนนั้น ตอนนี้พวกเราแยกบ้านกันอยู่แล้ว ข้าถือว่าเป็นลูกสาวที่แต่งออก เหมือนจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับท่านย่าแล้วนะ”
“เขาว่ากันว่าลูกสาวที่แต่งออกก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป หรือว่าคนที่บ้านมีสิทธิ์ยุ่งด้วยว่าเงินของลูกสาวที่แต่งออกไปแล้วมาจากไหน?” จางซิ่วเอ๋อพูดอย่างไม่พอใจ
“เจ้ามีเงินที่ไหนกัน เงินนี่ต้องขโมยมาจากที่บ้านแน่ ๆ ข้าก็ว่าก่อนหน้านี้เงินข้าหายไปไหน ที่แท้เจ้าก็เป็นคนขโมยไปนี่เอง” แม่เฒ่าจางมองจางซิ่วเอ๋ออย่างเคียดแค้น
จางซิ่วเอ๋อหมดคำพูด ทำไมคนแบบแม่เฒ่าจางถึงไร้ยางอายได้ถึงเพียงนี้
นางไปเอาเงินของตระกูลจางตั้งแต่เมื่อไรกัน ยายเฒ่านี่ถึงปั้นน้ำเป็นตัวได้ขนาดนี้!
นี่ถ้าอยู่ยุคปัจจุบัน สามารถมอบรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมให้นางได้เลยนะ!
ตอนนี้บริเวณรอบ ๆ เริ่มมีคนมองจางซิ่วเอ๋อด้วยสายตาตำหนิแล้ว
พวกเขารู้เรื่องของจางซิ่วเอ๋อดี ออกจากตระกูลจางมาแบบนี้จะมีเงินไปซื้อซาลาเปากินได้อย่างไร?
พวกเขาที่มีรายได้ปกติยังไม่กล้าซื้อซาลาเปากินเลย
หรือว่าจางซิ่วเอ๋อขโมยเงินในตระกูลจางมาจริง ๆ?
จางซิ่วเอ๋อจะปล่อยให้แม่เฒ่าจางหาว่าตัวเองขโมยของไม่ได้ ในเมื่อจะใช้ชีวิตในหมู่บ้านนี้ ถ้าถูกมองว่าเป็นขโมยจริง ๆ หลังจากนี้ก็คงจะอยู่ยากแล้ว
นางไม่อยากให้ในอนาคตไม่ว่าจะไปไหนก็มีแต่คนระแวงตัวเอง
จางซิ่วเอ๋อทำตาแดง มองแม่เฒ่าจางอย่างน้อยใจ “ท่านย่า ท่านมาหาว่าข้าขโมยเงินท่านได้อย่างไรกัน? วันก่อนตอนแม่ข้าป่วย ท่านก็บอกว่าที่บ้านมีเงินแค่ 8 เหรียญไม่ใช่เหรอ ซื้อยาให้แม่ข้ายังไม่พอเลย ข้าจึงต้องไปขอร้องอ้อนวอนเถ้าแก่โรงยาหุยชุน เขาจึงยอมขายให้ข้าในราคาที่ถูกลง!”
……………………………………………