ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 307 แยกจาก
บทที่ 307 แยกจาก
ไม่นานก็มีคนท่าทางสูงอายุโผล่ตัวออกมา มองดูแล้วคล้ายจะเป็นคนเฝ้าประตู
“ไม่ทราบว่าคุณชายฉินอยู่หรือไม่?” เสี่ยวเอ้อเปิดปากถาม
คนคนนั้นรู้จักเสี่ยวเอ้อ เขาจึงพูดขึ้นว่า “ตอนนี้คุณชายของข้าไม่อยู่ที่เมืองชิงสือแล้ว”
“อะไรนะ? คุณชายฉินไปจากเมืองชิงสือแล้วเหรอ? แล้วเขาไปไหน?” เสี่ยวเอ้อถามอย่างร้อนรน
“ขออภัย ข้าไม่สามารถตอบเจ้าได้” คนเฝ้าประตูตอบกลับเสี่ยวเอ้อ
จางซิ่วเอ๋ออดที่จะเดินมาหาไม่ได้ นางสำรวจคนเฝ้าประตูนิด ๆ แล้วพูด “คุณชายฉินไม่ได้ฝากข้อความอะไรไว้หรือเจ้าคะ?”
จางซิ่วเอ๋อคิดว่าคุณชายฉินน่าจะไม่ใช่คนลืมนัด บางทีเขาอาจจะทิ้งข้อความไว้ให้นาง
ผู้เฝ้าประตูมองจางซิ่วเอ๋อแล้วตอบอย่างนอบน้อม “คุณชายไปโดยไม่ได้กล่าวอะไรไว้ และแม้ว่าคุณชายจะทิ้งข้อความอะไรไว้ ก็ไม่ใช่ข้าน้อยที่จะสามารถรู้ได้ หากคนที่เขาจะทิ้งข้อความเอาไว้ก็คงจะบอกแก่ตวนอู่”
จางซิ่วเอ๋อได้ยินกระตือรือร้นถาม “ตวนอู่ยังอยู่ที่เมืองชิงสือหรือเจ้าคะ?”
ผู้เฝ้าประตูพยักหน้า “อยู่ขอรับ”
“ท่านคือแม่นางจางซิ่วเอ๋อรึ?” มีเสียงออกมาจากภายในประตู
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้าพูดตอบ “เป็นข้าเองเจ้าค่ะ”
คุณชายฉินฝากบอกกับผู้เฝ้าประตูไว้นานแล้วว่าถ้าจางซิ่วเอ๋อหรือว่าครอบครัวนางมา ก็ไม่ต้องแจ้งข่าวให้นำตัวคนเข้าไปได้เลย
คำสั่งนี้ของคุณชายฉินก็เป็นเพราะว่าเรื่องตอนที่จางซิ่วเอ๋อถูกคนตระกูลเนี่ยพาตัวไป
แต่นายทวารไม่ได้รู้เรื่องราวภายใน เขาเพียงแต่ต้องรู้ว่าจางซิ่วเอ๋อไม่ใช่คนธรรมดา คุณชายของเขาให้ความสำคัญกับจางซิ่วเอ๋อยิ่ง
จางซิ่วเอ๋อนั้นแม้แต่คุณชายของเขาก็สามารถพบเจอได้ตามใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตวนอู่แล้ว
ดังนั้นนายทวารจึงนำจางซิ่วเอ๋อเข้าไปภายในเรือน
ภายในเรือนนั้นเงียบสงบแต่ไม่รู้เพราะอะไร มันกลับทำให้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกวังเวง
“จวนแห่งนี้…” จางซิ่วเอ๋อหยุดยั้งคำพูดเอาไว้
นายทวารรีบตอบอย่างรวดเร็ว “ตอนนี้ภายในเรือนไม่มีคนอยู่แล้ว มีเพียงข้าและตวนอู่สองคนเท่านั้นขอรับ”
ตอนเดินเข้ามาภายในจวน จางซิ่วเอ๋อก็มองเห็นตวนอู่เมามายอยู่บนพื้น ในแขนกอดไหสุขาอีกหนึ่งไห
เอ่อ… จางซิ่วเอ๋อพลันตอบสนองไม่ได้ชั่วขณะ
“ตวนอู่?” จางซิ่วเอ๋อย่อตัวตบเรียกตวนอู่
ตวนอู่ลืมตาขึ้นมามองจางซิ่วเอ๋ออย่างเมามาย “ที่แท้ก็เป็นแม่นางซิ่วเอ๋อ อือ เจ้ามาแล้ว…อืม”
“เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?” จางซิ่วเอ๋อคิดว่ามันต้องมีบางอย่างที่ทำให้ตวนอู่ดื่มจนเมามีสภาพเป็นแบบนี้
อีกอย่างตามนิสัยเดิมของตวนอู่ เป็นไปได้ยังไงที่เขาไม่ได้อยู่ข้างกายคุณชายฉิน?
นายทวารถอนหายใจ มองตวนอู่ด้วยสายตาเวทนา “ตอนที่คุณชายจะจากไปก็ได้ทิ้งตวนอู่ไว้ ตั้งแต่นั้นตวนอู่ก็กลายสภาพเป็นเช่นนี้”
“คุณชายไม่ต้องการข้าแล้ว” อยู่ ๆ ตวนอู่ก็เงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยเสียงอู้อี้
“ตวนอู่! เจ้ามีสติหน่อย สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น?” จางซิ่วเอ๋อมองสภาพของตวนอู่ก็รู้สึกว่าตัวเองถามอะไรไม่ออกเลย
“แม่นานซิ่วเอ๋อ ท่านรอสักครู่เถอะ ข้าคิดว่าตอนนี้ตวนอู่คงยังไม่ได้สติในครึ่งชั่วยามนี้แน่” นายทวารพูด
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้า แล้วนั่งพักผ่อนรอ
นายทวารยกพาตวนอู่จากไป ส่วนเสี่ยวเอ้อของโรงเตี๊ยมนั้นเขาได้พาจางซิ่วเอ๋อมาถึงที่หมายแล้ว ดังนั้นหน้าที่ของเขาก็เป็นอันเสร็จสิ้น เขาจึงกลับไปยังโรงเตี๊ยมแล้ว
ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือแค่จางซิ่วเอ๋อคนเดียว
จางซิ่วเอ๋อนั่งรออยู่ภายในเรือนอย่างสงบ
รอจนถึงเวลาบ่ายโมงกว่า
ตวนอู่ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดเสร็จก็รีบเดินมาหาจางซิ่วเอ๋อ
“แม่นางซิ่วเอ๋อ ท่านมาแล้ว” น้ำเสียงของตวนอู่ฟังดูระมัดระวังเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกผิดมาก
เมื่อครู่เขาแสดงท่าทีไม่ดีต่อจางซิ่วเอ๋อ แต่มาตอนนี้พอเขาคิดว่าสภาพน่าเกลียดของตัวเองถูกจางซิ่วเอ๋อเห็นเข้าแล้ว ก็รู้สึกไม่กล้ามองเห็นนางขึ้นมา
“คือว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ คราวก่อนคุณชายฉินนัดพบข้า แต่ผ่านไปหลายวันเขาก็ยังไม่มา ข้าจึงอยากจะรู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด” จางซิ่วเอ๋อถาม
ตวนอู่ได้ยินก็กดเสียงต่ำพูดว่า “คุณชายของข้าจากไปแล้วขอรับ”
ในใจจางซิ่วเอ๋อดำมืดขึ้นมาเล็กน้อย ‘จากไป’ ของเจ้าอย่าบอกนะว่าคุณชายฉินตายแล้ว?
แม้ว่านางจะหวาดกลัวคุณชายฉิน แต่นางก็ไม่ได้เกลียดคุณชายฉินจนอยากให้เขาตาย อีกทั้งหลังจากที่พวกเขาทำความรู้จักกัน จางซิ่วเอ๋อก็เห็นเขาเป็นสหายคนหนึ่งแล้ว
“คุณชายฉินเขา…ไปสบายหรือไม่?” จางซิ่วเอ๋อลองหยั่งเชิงถามก่อนหนึ่งประโยค
ตวนอู่ได้ยินก็ยิ้มขึ้นนิด ๆ “ท่านเข้าใจผิดอะไรไปแล้ว? คุณชายของข้าแน่นอนว่ายังสบายดี เพียงแต่คุณชายของข้าแยกจากไปเท่านั้น”
“แล้วเมื่อไรเขาถึงจะกลับมา?” จางซิ่วเอ๋อถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วรีบถามต่อ
“ข้า…ข้าก็ไม่ทราบ” ตวนอู่พูดเสียงเบา ตอนที่คุณชายไปไม่เอาเขาไปด้วยเลย แล้วคุณชายจะบอกเขาได้ไงว่าจะกลับมาเมื่อไร? ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้คุณชายอยากกลับมา ก็เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
ตวนอู่ตอนนี้กลับเสียใจ คิดว่าตัวเองไม่ควรช่วยนายหญิงขัดคุณชายของตัวเองเลย
แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ถึงจะบอกนายหญิงว่าคุณชายของบ้านมาแล้ว ผลลัพธ์จะเปลี่ยนไปหรือไม่? เดิมทีผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยนอยู่แล้ว!
กลับจะทำให้คุณชายของเขายิ่งถูกนายหญิงลงโทษ
“เขาไปไหนหรือ?” จางซิ่วเอ๋ออดที่จะถามอีกประโยคไม่ได้
ตวนอู่พูดเบา ๆ ว่า “แม่นางซิ่วเอ๋อ ข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงคุณชายของเรา แต่เรื่องนี้ข้าบอกท่านไม่ได้จริง ๆ”
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้ารับ ตัวนางเพียงถามเยอะกว่าหนึ่งประโยคเท่านั้น ตวนอู่ไม่พูดก็ไม่เป็นไรเช่นกัน
ตวนอู่มองสายตาผิดหวังของจางซิ่วเอ๋อ จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนพวกเขาสองคนประสบเคราะห์กรรมแบบเดียวกัน คุณชายของเขาใส่ใจจางซิ่วเอ๋อคนนี้มาก แต่ตอนไปกลับไม่กล่าวถึงแม่นางจางซิ่วเอ๋อเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาสองคนจะถูกคุณชายฉินทอดทิ้งเหมือนกันแล้ว
คิดได้ดังนั้นตวนอู่ก็รู้สึกว่าเมื่อครู่ตนเองพูดจาร้ายกาจเกินไปแล้ว จึงพูดทำเสียงที่นุ่มนวลกว่าเดิมว่า “เรื่องนั้นหากว่าคุณชายของข้าผิดนัดโดยไม่ได้บอกกล่าวท่านก่อน ท่านก็อย่าเสียใจและโกรธคุณชายของเราเลย เพราะเขาเองก็เอาตัวรอดลำบากเช่นกัน”
จางซิ่วเอ๋อได้ยินแล้วก็เข้าใจได้ว่าคุณชายฉินน่าจะพบเรื่องที่เกินความควบคุมของตัวเอง จนทำให้ต้องไปสะสางด้วยตัวเองกระมั้ง
เดิมทีจางซิ่วเอ๋อเพียงอยากรู้ว่าทำไมคุณชายฉินจึงผิดนัด เรื่องการทำเครื่องปรุงก็ยังคงทำด้วยกันอยู่ นั่นจึงยิ่งทำให้นางอยากรู้ว่าเขาสบายดีหรือไม่ ตอนนี้นางก็พอจะทราบแล้วก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องเสียใจ
จางซิ่วเอ๋อมองตวนอู่ “ข้าทราบแล้ว ขอบใจเจ้ามาก”
ตวนอู่โบกมือพูด “ไม่ต้องเกรงใจ”