ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 334 ถามอย่างละเอียด
ตอนที่ 334 ถามอย่างละเอียด
“ข้าสบายดี” จางซิ่วเอ๋อตอบกลับอย่างรวดเร็ว
หลังกล่าวจบ จางซิ่วเอ๋อก็รีบปิดฝาหม้อโดยเร็วเพื่อรอให้ถั่วสุก
นางผละออกมาจากเตา สายลมยามเย็นโชยกระทบใบหน้าของนาง อากาศช่างหนาวเย็นไม่น้อย สายลมเย็นนี้ได้พัดผ่านหัวใจของจางซิ่วเอ๋อและบรรเทาความรุ่มร้อนในใจของนางลง
อาหารเย็นพร้อมแล้ว
จางซิ่วเอ๋อทำเองทุกสิ่ง โดยเฉพาะหัวหมูตุ๋น ซึ่งจางซิ่วเอ๋อตั้งใจหั่นมันจนเต็มจานใหญ่
นางลองชิมแล้วและพบว่ารสชาติของมันช่างดีไม่น้อย
แต่นางก็ยังต้องถามทุกคนว่าพวกเขาคิดอย่างไร นางต้องรับฟังความคิดเห็นส่วนมาก
ซึ่งแน่นอนไม่มีใครคิดว่าหัวหมูตุ๋นที่จางซิ่วเอ๋อเป็นคนทำนั้นไม่อร่อย ทุกคนล้วนแต่รู้สึกว่ามันอร่อยมาก
โดยเฉพาะเถี่ยเสวียน เขาไม่เคยได้กินหัวหมูมาก่อน! คราวนี้เขารู้สึกได้ถึงรสชาติที่แปลกไปจากเดิม หากไม่กังวลว่าจะย่อยไม่ได้ เขาคงกินมากกว่านี้แล้ว เถี่ยเสวียนไม่อยากวางตะเกียบในมื้อนี้เลยจริง ๆ
ตามปกติแล้ว หลังจากรับประทานอาหารเสร็จสิ้น นางจะไปที่บ้านตระกูลจางเพื่อนำอาหารไปส่งให้แม่โจว
แต่คราวนี้จางซิ่วเอ๋อไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น ขณะกำลังเดินอยู่บนถนน นางรู้สึกได้ว่ามีคนจำนวนมากกำลังจับจ้องมาที่ตน
มีหลายคนที่จ้องมองนางและพูดถึงนางก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะดูไม่จริงจังเท่ากับคราวนี้เลย
“เฮ้ จางซิ่วเอ๋อนี่มีดีตรงไหนงั้นหรือ?”
“ใช่ เจ้าคงจะเห็นว่าก้นของนางไม่ใหญ่ ทั้งยังผอมและไร้เนื้อหนัง มองอย่างไรก็มิใช่แม่พันธุ์ที่ดี ข้าก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมท่านหมอเมิ่งจึงตาบอดไปหลงใหลนาง”
“มิใช่ว่ามีใครบางคนบอกว่าจางซิ่วเอ๋อมีความสามารถงั้นหรือ? พวกเจ้าก็เห็นแล้วว่าบัณฑิตจ้าวมีใบหน้าเปล่งปลั่งยิ่ง แต่เกิดอะไรขึ้นกับท่านหมอเมิ่งกันเล่า?”
คนเหล่านี้กระซิบและชี้มือชี้ไม้กันเป็นการส่วนตัว แม้จางซิ่วเอ๋อจะไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด แต่จางซิ่วเอ๋อก็ยังรู้สึกว่ามันแปลกพิกลนัก
จางซิ่วเอ๋อเหลือบมองคนเหล่านี้ แล้วก็พบว่าผู้คนเหล่านั้นล้วนหลบตานางหมดสิ้น
เพราะเหตุนี้จางซิ่วเอ๋อจึงรู้ได้ทันที แม้ใช้หัวแม่โป้งเท้าคิดก็ยังมองออก คนเหล่านี้กำลังพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับนางอยู่
หากเป็นเรื่องดี จะกลัวจนไม่กล้าสบตาได้อย่างไรกัน
จางซิ่วเอ๋อบังเอิญได้พบกับรุ่ยเซียงในระหว่างทาง
แม้คนในหมู่บ้านจะรังเกียจรุ่ยเซียง แต่จางซิ่วเอ๋อกลับรู้สึกว่ารุ่ยเซียงไม่ควรต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว
สำหรับเรื่องชื่อเสียง จางซิ่วเอ๋อรู้สึกเช่นกันว่าชื่อเสียงของตนก็ไม่ได้ดีนัก เช่นนี้นางจึงไม่กลัวที่จะพูดคุยกับรุ่ยเซียง
และนี่คือสหายเพียงไม่กี่คนของซิ่วเอ๋อ แม้จางซิ่วเอ๋อจะไม่ได้สนิทกับรุ่ยเซียงมากนัก แต่นางย่อมไม่มีวันดูถูกรุ่ยเซียงอย่างเช่นผู้อื่นแน่นอน
จางซิ่วเอ๋อยิ้มพร้อมกับทักทายรุ่ยเซียง “รุ่ยเซียง”
เมื่อเห็นจางซิ่วเอ๋อ รุ่ยเซียงโน้มกายลงมาพร้อมถามเสียงกระซิบ “เรื่องนั้นเป็นความจริงหรือ?”
จางซิ่วเอ๋อมองรุ่ยเซียงด้วยแววตาประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้น?” รุ่ยเซียงถาม จางซิ่วเอ๋อก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดรุ่ยเซียงจึงถามเช่นนี้
รุ่ยเซียงกล่าวเสียงต่ำ “มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น!”
จางซิ่วเอ๋อเผยสีหน้าว่างเปล่า “หืม?”
รุ่ยเซียงรีบพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล “เพราะเจ้าซื้อลา!”
จางซิ่วเอ๋อถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนั้น นางคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่เสียอีก แต่สุดท้ายแล้วกลับเป็นเพียงเรื่องเล็กโดยไม่คาดคิด เช่นนี้จางซิ่วเอ๋อจึงพยักหน้าพร้อมตอบกลับ “ใช่ ข้าซื้อ”
นี่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบัง
รุ่ยเซียงเหลือบมองจางซิ่วเอ๋ออย่างอิจฉา “เจ้ามีความสามารถยิ่งนัก สามารถซื้อลาได้จริง ๆ!”
จางซิ่วเอ๋อยิ้มพร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “มีความสามารถอะไรกัน หลายคนในหมู่บ้านก็สามารถซื้อได้ แต่ทุกคนคิดว่าพวกเขาไม่ต้องการมัน ดังนั้นจึงไม่มีใครซื้อ”
นางไม่ได้ซื้อลามาเพื่อโอ้อวด แต่นางต้องการใช้งานมันจริง ๆ
รุ่ยเซียงกล่าวต่อ “ท่านหมอเมิ่งใจดีกับเจ้านัก”
เมื่อจางซิ่วเอ๋อได้ยินเช่นนี้ นางถึงกับตื่นตระหนก และมองไปที่รุ่ยเซียงด้วยความประหลาดใจ นางได้ยินถูกต้องแล้วใช่ไหม? รุ่ยเซียงกล่าวถึงท่านหมอเมิ่ง? เหตุใดจู่ ๆ จึงกล่าวถึงท่านหมอเมิ่งล่ะ?
“ท่านหมอเมิ่ง?” จางซิ่วเอ๋อถามย้ำอย่างไม่มั่นใจ
“ใช่” รุ่ยเซียงตอบ
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากสำหรับนางที่จะพูดคุยกับรุ่ยเซียง นางไม่ต้องการถามคำถามอีกต่อไป แต่เมื่อนางคิดว่าเหตุใดทุกคนจึงจ้องมองมาที่นาง จางซิ่วเอ๋อจึงถามต่อ “เหตุใดจู่ ๆ เจ้าจึงกล่าวถึงท่านหมอเมิ่ง?”
รุ่ยเซียงมองจางซิ่วเอ๋อราวกับว่ากำลังสอดส่องนัยน์ตานั้นว่ามีความลับใดซุกซ่อนอยู่บ้าง
จากนั้นนางยกยิ้มพร้อมกล่าวต่อ “ไม่ต้องกังวล ข้าย่อมไม่ดูแคลนเจ้าเพราะเรื่องแค่นี้ ท่านหมอเมิ่งเป็นคนดี และมันก็เป็นพรที่เจ้าได้ใช้ชีวิตร่วมกับเขา”
จางซิ่วเอ๋อคล้ายกับติดอยู่ในหมอกหนา ตอนนี้นางยิ่งไม่สบายใจมากขึ้น “รุ่ยเซียงเจ้ากำลังกล่าวถึงสิ่งใด? เหตุใดข้าจึงไม่เข้าใจ?”
“ซิ่วเอ๋อ เจ้ายังคิดปกปิดมันจากข้าอยู่อีกหรือ? ทุกคนในหมู่บ้านรู้เรื่องของเจ้ากับท่านหมอเมิ่งหมดแล้ว!” รุ่ยเซียงกล่าวต่อ
จางซิ่วเอ๋อพยายามระงับอารมณ์ของตนอย่างสุดความสามารถ นางกล่าวต่อ “รุ่ยเซียง อย่าพูดเรื่องไร้สาระ คนในหมู่บ้านก็เพียงคาดเดากันไปเอง ข้าและท่านหมอเมิ่งบริสุทธิ์ใจต่อกัน”
จางซิ่วเอ๋อคิดว่าอาจเป็นเพราะมีคนเคยเล่าข่าวลือเกี่ยวกับนางและท่านหมอเมิ่งมาก่อน รุ่ยเซียงที่ฟังข่าวลือเหล่านั้นจึงพูดเช่นนี้
แล้วใครเล่าจะยอมรับในเรื่องเช่นนี้ การแสดงออกของรุ่ยเซียงพลันเปลี่ยนไปเป็นน่าเกลียด
“ซิ่วเอ๋อ เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เราต่างถือได้ว่าแบ่งปันความร่ำรวยและฉิบหายด้วยกัน และในตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านคิดว่ามันเป็นความจริง แต่เจ้ากลับคิดปกปิดมันจากข้า เจ้าไม่คิดว่าข้าเป็นพี่น้องที่ดีบ้างหรือ?” รุ่ยเซียงกล่าวอย่างไม่พอใจ
จางซิ่วเอ๋อขมวดคิ้วแน่น ให้พูดตามตรงมันก็ไม่ใช่ว่านางเฉยเมย แต่นางก็ไม่คิดว่ารุ่ยเซียงจะเป็นพี่สาวที่ดีได้
นางไม่ใช่ซิ่วเอ๋อคนเดิมอีกแล้ว
นอกจากนี้ความทรงจำระหว่างซิ่วเอ๋อคนเดิมกับรุ่ยเซียงนั้นไม่มีหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
แม้ทั้งสองจะเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่อารมณ์ของซิ่วเอ๋อคนเดิมนั้นไม่ส่งผลต่อนาง เช่นนี้รุ่ยเซียงคนปัจจุบันจึงเป็นเพียงคนแปลกหน้าสำหรับนางเท่านั้น นางจะถือว่ารุ่ยเซียงเป็นพี่น้องที่ดีจากช่วงเวลาสั้น ๆ ได้อย่างไร?
นอกจากนี้ คำพูดของรุ่ยเซียงเป็นสิ่งที่จางซิ่วเอ๋อไม่ต้องการที่จะได้ยินมากที่สุด
จางซิ่วเอ๋อจะไม่ปฏิบัติตามคำพูดของรุ่ยเซียง และจะไม่มีวันยอมรับเด็ดขาด!
“รุ่ยเซียง ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเจ้ากำลังกล่าวถึงสิ่งใด และมันไม่มีอะไรต้องปิดบังเจ้าเลย เจ้าได้ยินมาจากใครว่าข้ามีความสัมพันธ์กับท่านหมอเมิ่ง?” จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าต้องมีคนออกมาใส่ร้ายตนอีกครั้ง
“เจ้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับท่านหมอเมิ่งจริงหรือ? แต่คราวนี้แม่ม่ายหลิวออกมาพูดด้วยตนเอง นางบอกว่าเห็นเจ้าและท่านหมอเมิ่งเข้าออกบ้านผีสิงด้วยกัน ทั้งแม่หลินก็ยังบอกว่าเห็นท่านหมอเมิ่งให้เงินเจ้าด้วย” รุ่ยเซียงกล่าว
“เจ้าไม่ได้ซื้อลาด้วยเงินจากท่านหมอเมิ่งงั้นหรือ?” รุ่ยเซียงถามอีกครั้ง
เมื่อได้ยินรุ่ยเซียงกล่าวเช่นนี้ จางซิ่วเอ๋อก็รู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง
…………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ทราบตัวคนใส่ร้ายแล้ว จัดการเลยค่ะซิ่วเอ๋อ ผู้แปลเตรียมปืนผาหน้าไม้ไว้ให้พร้อมแล้ว รำคาญนังสองคนนี้มานานแล้วเหมือนกัน กัดไม่ปล่อยเลย
ไหหม่า(海馬)