ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 337 เรื่องในใจ
ตอนที่ 337 เรื่องในใจ
“ท่านแม่ ท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ถอนคำพูดเถิด ถึงแม้ว่าข้าไม่มา ท่านคิดว่าพวกเขาจะปล่อยข้าไปหรือ?” จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้เลย บางคนเหมือนแมลงวันและยุง ต่อให้ไม่สามารถกัดได้สักครั้ง ก็ต้องวนเวียนอยู่รอบตัว
“ท่านแม่ พวกเราอย่าคิดเรื่องเลวร้ายเช่นนี้เลย วันนี้ข้าเอาเนื้อหัวหมูมาให้ท่านแล้ว ลองชิมดูเถิด” จางซิ่วเอ๋อกล่าวและหยิบอาหารที่เตรียมไว้ออกมา
แม่โจวพยักหน้า นางเคยชินกับอาหารที่จางซิ่วเอ๋อนำมาให้ด้วยวิธีต่าง ๆ แล้ว ครั้งนี้จึงไม่แปลกใจ เพียงแค่นางรู้สึกว่าของเหล่านี้กินเท่าใดก็ไม่เคยพอจริง ๆ
พรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของนางคือการให้กําเนิดลูกสาวที่น่าภูมิใจเช่นนี้!
แม่โจวหยิบหมั่นโถวขึ้นมาชิ้นหนึ่งพลางเอ่ยถาม “ซิ่วเอ๋อ ข้าได้ยินพวกเขาบอกว่าเจ้าซื้อลามาหรือ?”
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้าแล้วกล่าว “ข้าซื้อมันแล้วเจ้าค่ะ”
แม่โจวกล่าวด้วยความประหลาดใจระคนยินดี “ซิ่วเอ๋อ เจ้าช่างมีความสามารถจริง ๆ แม่…”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ดวงตาของแม่โจวก็แดงก่ำทันที
จางซิ่วเอ๋อรีบพูด “ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรไป?”
“ไม่เป็นไร แม่แค่ตื่นเต้นเกินไป และรู้สึกว่าเจ้ากําลังกอบกู้หน้าตาให้แม่มากเกินไปแล้ว!” แม่โจวกล่าวด้วยความตื่นเต้น
มีผู้ชายกี่คนในหมู่บ้านที่ไม่สามารถซื้อลาได้? แต่ลูกสาวของนางกลับซื้อได้! ใครบอกกันว่าการมีลูกสาวไม่ดีเท่าการมีลูกชาย? นางพูดได้เลยว่าลูกสาวของนางดีกว่าเด็กผู้ชายทุกคนในหมู่บ้านเสียอีก
“ท่านแม่ ตอนนี้ท่านต้องใจเย็น ๆ นะเจ้าคะ หนนี้ยังไม่สะดวกที่จะนั่งเกวียนลา รอหลังจากนี้ท่านคลอดลูกออกมาแล้ว เราจะไปทุกที่ที่เราต้องการ!” จางซิ่วเอ๋อกล่าวด้วยรอยยิ้ม
การนั่งเกวียนลานั้นขรุขระมาก ด้วยแม่โจวยังตั้งครรภ์อยู่ จางซิ่วเอ๋อจึงไม่วางใจให้แม่โจวนั่ง
แม่โจวพยักหน้า รู้สึกอบอุ่นอยู่ในใจ
ในเมื่อมีลูกสาวแบบนี้ นางเองก็ไม่ได้คาดหวังที่จะมีลูกชายขนาดนั้นแล้ว… เมื่อคิดได้เช่นนี้ แม่โจวก็มองที่ท้องของนาง
แค่นางไม่ตั้งหน้าตั้งตารอลูกชาย ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่คาดหวัง
หากเกิดมาเป็นลูกสาว ชีวิตในอนาคตของลูกสาวคนนี้ก็ใช่ว่าจะมีชีวิตที่ดีเสมอไป
เมื่อแม่โจวคิดถึงเรื่องนี้ นางก็อดกังวลไม่ได้
เสียงไม่พอใจของแม่เฒ่าจางดังมาจากนอกหน้าต่าง “โจวเหมยจื่อ ข้าคิดว่าอาการป่วยของเจ้าน่าจะดีขึ้นแล้ว วันนี้ออกไปทำงานกันเถอะ!”
จางซิ่วเอ๋อโมโหทันทีเมื่อได้ยินเช่นนี้ “ร่างกายของแม่ข้ายังไม่ดี! ควรได้รับการดูแล ลงไปทำงานในท้องทุ่งไม่ได้หรอก!”
น่าขำสิ้นดี ปล่อยให้หญิงท้องโตที่เดิมทีมีครรภ์ไม่มั่นคงลงไปทำงาน นี่ไม่ใช่การกลั่นแกล้งคนหรอกหรือ?
แม่เถากล่าวออกมาด้วยเสียงดุดัน “นังเด็กแพศยา อย่าคิดว่าพวกข้าไม่รู้กลอุบายของเจ้ากับท่านหมอเมิ่ง อยากให้ข้าพูดรึ ว่าสัปดาห์นี้ที่โจวเหมยจื่อกินได้นอนหลับได้ ก็เพราะพวกเจ้าสองคนร่วมมือกันหลอกคน!”
สีหน้าของจางซิ่วเอ๋อพลันเปลี่ยนเป็นดำคล้ำเมื่อได้ยินเช่นนี้ จึงตะโกนออกไปข้างนอก “พวกท่านอย่ากล่าววาจาไร้สาระ! ชื่อเสียงของข้าไม่ดีอยู่แล้ว อาจจะทำให้พวกท่านเสียหายไปด้วย! ถึงตอนนั้นข้าว่าอาเล็กของข้าคงแต่งงานได้ไม่ง่ายนัก!”
จางอวี่หมินได้ยินดังนั้นก็สะดุ้งโหยงทันที
ก่อนหน้านี้นางมัวแต่หยิ่งผยองและระบายความโกรธเคือง จนลืมนึกไปว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับตัวเอง
ท้ายที่สุดแล้ว การมีหญิงสาวผู้หนึ่งที่มีชื่อเสียงย่ำแย่อยู่ในตระกูลนี้ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อตัวนางเลย
แม่เฒ่าจางเองก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาเช่นกัน “พอได้แล้ว ทุกคนมีอะไรควรทําก็ไปทำ เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลัง!”
เมื่อแม่เฒ่าจางกล่าวมาถึงตรงนี้ ก็ลดเสียงลงกลายเป็นกระซิบกระซาบ
แน่นอนว่าวาจาของนางคือการสาปแช่งจางซิ่วเอ๋อ ทว่าด้วยวิธีนี้ ผู้คนที่ผ่านไปมาจึงไม่ได้ยิน และจางซิ่วเอ๋อก็ไม่ได้ยินนางเช่นกัน
“ซิ่วเอ๋อ… พวกเขาพูดว่า…” แม่โจวลังเลราวกับว่ามีอะไรในใจที่อยากจะพูด
จางซิ่วเอ๋อรีบกล่าวขึ้นมา “ท่านแม่มีสิ่งใดก็พูดมาเถิด อย่าเก็บไว้ในใจ”
“ซิ่วเอ๋อ แม่รู้ว่าการถามเรื่องนี้อาจทําให้เจ้ารู้สึกไม่สบายใจ แต่แม่เป็นห่วงเจ้าจริง ๆ” แม่โจวกล่าวต่อ
จากนั้นนางจึงถามว่า “ข้ารู้อยู่แล้วว่าเงินที่เจ้าซื้อลาไม่ได้มาจากท่านหมอเมิ่ง แต่ตอนนี้ในหมู่บ้านต่างพูดถึงเรื่องของเจ้ากับท่านหมอเมิ่ง เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร?”
จางซิ่วเอ๋อมองแม่โจวอย่างไม่เข้าใจ “คิดเห็นอย่างไรเหรอเจ้าคะ? ตอนนี้ข้าต้องการหยุดปากของพวกเขาน่ะสิ! เพียงแต่มันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นข้าจึงทำได้แค่ปล่อยเลยตามเลยพวกเขาไปก่อนเท่านั้น มือสะอาดไม่จำเป็นต้องล้างน้ำ มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนัก เช่นนั้นข้าไม่กลัวหรอก”
แม่โจวกล่าวอย่างจริงจัง “ซิ่วเอ๋อ สุดท้ายแล้วเจ้าก็เป็นสตรีนางหนึ่ง ต่อไปก็ต้องแต่งงาน ชื่อเสียงนี้เสียไปแล้ว ต่อไปจะแต่งงานได้อย่างไร?”
จางซิ่วเอ๋อเม้มปากและมองไปยังแม่โจว นางไม่สามารถบอกแม่โจวได้ว่านางจะไม่แต่งงานและไม่สามารถบอกได้ว่าตนจะหาบุรุษที่ไม่สนใจเรื่องนี้มาดูแลตนในอนาคต
ในความคิดของแม่โจว หากไม่สนใจบุรุษเหล่านั้น ย่อมไม่มีอนาคตที่ดีนัก ทว่าคนที่ต้องการสตรีเพียงเพื่อมาเติมเต็มในการใช้ชีวิต ช่างแตกต่างจากสิ่งที่จางซิ่วเอ๋อคิดอย่างสิ้นเชิง
แต่นี่ก็ไม่อาจตำหนิแม่โจวได้ เพราะทั้งชีวิตนี้แม่โจวไม่เคยออกจากเมืองนี้ไปไหนไกล วิสัยทัศน์ของนางจึงอยู่แค่ในหมู่บ้านแห่งนี้เช่นกัน
คนในหมู่บ้านที่จะแต่งงานกับหญิงม่ายโดยไม่สนใจชื่อเสียงของตนเอง ไม่ใช่ว่าเป็นคนที่หาภรรยาแต่งเข้าบ้านไม่ได้หรอกหรือ? จะมีสักกี่คนที่เป็นคนดีกันเล่า?
เมื่อแม่โจวเห็นว่าจางซิ่วเอ๋อไม่กล่าวอะไรอีก นางจึงคิดว่าจางซิ่วเอ๋อรับฟังคำพูดในใจของนางแล้ว
ดังนั้นจึงกล่าวต่อ “ซิ่วเอ๋อ แม่ไม่อ้อมค้อมกับเจ้าแล้ว แม่ขอถามเจ้า เจ้ารู้สึกอย่างไรกับท่านหมอเมิ่ง?”
จางซิ่วเอ๋อกล่าวขึ้นมาอย่างเรียบเรื่อย “ท่านหมอเมิ่งเป็นคนดี การที่มีข่าวลือในหมู่บ้านไม่ใช่ความผิดของท่านหมอเมิ่งหรอกเจ้าค่ะ เป็นข้าเองที่ทำให้เขาเดือดร้อน”
จางซิ่วเอ๋อกังวลว่าแม่โจวจะเข้าใจผิดอะไรบางอย่างในตัวท่านหมอเมิ่ง จึงรีบแก้ต่างให้ท่านหมอเมิ่งในทันที
แต่เมื่อวาจานี้เข้ามาในหัวใจของแม่โจว กลับมีความหมายที่ต่างออกไป
แม่โจวพยักหน้าและกล่าว “แม่ก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนดีเช่นกัน”
เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ แม่โจวก็คล้ายกําลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง อยู่ ๆ ก็ไม่พูดอะไรต่อ
แม้ว่าจางซิ่วเอ๋อจะรู้สึกว่าแม่โจวพูดเพียงแค่ครึ่งเดียว ทว่าเมื่อเห็นแม่โจวกําลังกินอยู่ นางก็ไม่ได้ถามอันใดอีก
ตอนนี้แม่โจวกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่
หากจางซิ่วเอ๋อและท่านหมอเมิ่งอยู่ด้วยกันจริง ๆ บางทีอาจเป็นทางเลือกที่ดี
ขอเพียงจางซิ่วเอ๋อและท่านหมอเมิ่งอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผยและแต่งงานกัน คำพูดที่ไม่น่าฟังของคนในหมู่บ้านก็จะเป็นการเอาชนะตนเองได้
แม้ว่าหลายคนจะคิดว่าจางซิ่วเอ๋อไม่คู่ควรกับท่านหมอเมิ่ง ทว่าแม่โจวไม่คิดเช่นนั้น
ลูกสาวของนางดีเพียงใด นางรู้ดีอยู่แก่ใจ!
และสุดท้ายนางก็เป็นแม่ เมื่อคิดถึงลูกสาวของตัวเอง ยิ่งคิดให้มากก็ยิ่งดี
ในความเห็นของนาง ระหว่างบุตรสาวกับท่านหมอเมิ่งแล้ว แม้แต่ท่านหมอเมิ่งก็ไม่คู่ควรกับจางซิ่วเอ๋อเลยสักนิด
ถึงอย่างไรท่านหมอเมิ่งก็อายุมากกว่าเล็กน้อย หากคิดอย่างจริงจังก็คือท่านหมอเมิ่งนั้นอายุมากกว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นสิบ ๆ ปี! ต้องรู้ก่อนว่าท่านหมอเมิ่งมีอายุประมาณ 30 ปีแล้ว ต่อให้ไม่ถึงสามสิบก็ถือว่าห่างกันไม่น้อย!
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เวรกรรม แม่โจววว เป็นไปกับชาวบ้านด้วยเหรอเนี่ย สามคนเห็นเสือโดยแท้
ระวังสามีตัวจริงที่ยังไม่ตายของซิ่วเอ๋อมาอาละวาดนะ รายนั้นเจ้าพ่อไหน้ำส้มเลยล่ะ
ไหหม่า(海馬)