ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 338 จับคู่ยวนยาง
ตอนที่ 338 จับคู่ยวนยาง
ความแตกต่างของอายุดังกล่าวดูเหมือนจะมีไม่น้อย
แต่สำหรับแม่ม่ายคนหนึ่งกับพ่อม่ายคนหนึ่ง ไม่นับว่าสำคัญนัก
ยิ่งไปกว่านั้นฝ่ายหญิงยังอายุน้อยกว่าฝ่ายชาย
ในสมัยโบราณ เป็นเรื่องปกติมากที่ฝ่ายชายจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ในขณะที่ฝ่ายหญิงยังเด็กอยู่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝ่ายชายอายุเกิน 50 ปีในตระกูลที่ร่ำรวยบางตระกูลจะแต่งงานกับเด็กสาวในฐานะอนุภรรยา
ดังนั้นแม้ว่าอายุของทั้งสองคนจะห่างกันมาก และแม่โจวก็ยังไม่พึงพอใจนัก แต่ในใจของแม่โจวยังคงรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด
แม่โจวอดคิดถึงเรื่องของท่านหมอเมิ่งต่อไปไม่ได้
เขาไม่จําเป็นต้องทํานา ไม่ต้องไปทําไร่ ทั้งยังหาเงินมาใช้ในบ้านได้มากพอ หากซิ่วเอ๋อแต่งเข้าไปก็ไม่ต้องลําบากมาก
ท่านหมอเมิ่งผู้นี้เป็นคนอารมณ์ดี คนจากสิบลี้แปดหมู่บ้านนี้ ใครๆ ก็รู้ว่าท่านหมอเมิ่งผู้นี้ดูไม่เลว เช่นนี้คนผู้นี้จึงไม่มีทางรังแกซิ่วเอ๋อได้
นอกจากนี้ นางยังได้ยินมาว่าพ่อแม่ของท่านหมอเมิ่งจากไปนานแล้ว แม้จะมีคนจำนวนมากในหมู่บ้านที่ต่อต้านเรื่องนี้ และจะไม่ยอมให้ลูกสาวของพวกเขาแต่งงานเข้าตระกูลเช่นนี้ คิดว่าจะเป็นความยากลำบาก ทว่า…
ในความคิดเห็นของแม่โจว หากไม่มีบิดามารดาแล้วคงจะดียิ่งนัก
อย่างน้อยลูกสาวของนางก็ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับแม่สามี
นี่เป็นจุดที่แม่โจวพึงพอใจท่านหมอเมิ่งมากที่สุด!
นางเคยเห็นท่านหมอเมิ่งผู้นี้อยู่หลายครั้ง พูดจากใจ นางรู้สึกว่าคนในสิบลี้แปดหมู่บ้านนี้ที่ดีกว่าท่านหมอเมิ่งนั้นมีไม่มากนัก
หากซิ่วเอ๋อตามท่านหมอเมิ่งไป นางคงวางใจได้
แม่โจวคิดไปคิดมา ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ
เมื่อครู่นางได้ถามซิ่วเอ๋อแล้ว ดูเหมือนว่าซิ่วเอ๋อจะประทับใจในตัวท่านหมอเมิ่งคนนี้ดี เช่นนั้นต่อไป นางในฐานะมารดาก็ต้องวางแผนให้ลูกสาวตัวเองแล้ว
ใช่แล้ว แม่โจวคิดจะไปคุยเรื่องนี้กับท่านหมอเมิ่งด้วยตัวเอง
ในหมู่บ้านนี้ไม่มีสตรีคนไหนไปคุยเรื่องแต่งงานด้วยตัวเอง แม่โจวทําเรื่องแบบนี้ก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผล
สำหรับจางซิ่วเอ๋อ นางไม่เคยคิดเลยว่า แม่โจวผู้ซึ่งไม่เคยมีความคิดมาก่อน จะมีความคิดเช่นนั้นในเรื่องของนาง
ในเวลานี้จางต้าหูก็กลับมาจากข้างนอกเช่นกัน
เมื่อแม่เฒ่าจางเห็นจางต้าหู นางก็กล่าวทักทายทันที “ต้าหู มานี่สิ”
แม้ว่าจางต้าหูจะกล้าขัดขืนแม่เฒ่าจาง แต่นั่นก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับโจวเหมยจื่อ ส่วนเรื่องอื่นนั้นจางต้าหูยังคงเชื่อฟังแม่เฒ่าจางมาก
ไม่เพียงเท่านั้น ทันทีที่แม่เฒ่าจางเรียกหาจางต้าหู จางต้าหูก็พยักหน้าตอบกลับ “ขอรับ”
เขาสวมเสื้อผ้าสีน้ำตาล ที่มีแผ่นผ้าปะชุนไปทั่วชุด ผืนผ้าเหล่านี้แม่โจวเป็นคนเย็บให้อย่างแน่นหนา แต่ถึงแม้ฝีมือของแม่โจวจะดีเพียงใด ชุดที่มีรอยปะเช่นนี้ ใส่ไปที่ไหนก็ดูไม่ดี
เนื่องจากเขาทํางานในไร่มาทั้งวัน ร่างกายของจางต้าหูจึงมีเศษหญ้าและดินอยู่เป็นจํานวนมาก เมื่อสิ่งเหล่านี้ผสมเข้ากับกลิ่นเหงื่อไคลก็ทําให้จางต้าหูดูสกปรกเหลือแสน
ขณะที่จางต้าหูเดินผ่านจางอวี่หมิน จางอวี่หมินในชุดสีเหลืองขนห่านก็ยกมือขึ้นปิดจมูกตัวเองอย่างอดไม่ได้ เห็นได้ชัดว่ายังรังเกียจจางต้าหูอยู่บางส่วน
แต่เมื่อนางเห็นจางต้าหูเดินตามแม่เฒ่าจางเข้าไปในห้องก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงยกเท้าขึ้นเดินตามไป
จางต้าเหอและแม่เถาต่างชำเลืองมองหน้ากัน แล้วในที่สุดก็ตามไปด้วย
ทั้งคู่ไม่ค่อยชอบเจอแม่เฒ่าจางและจางอวี่หมินมากนัก แต่เมื่อคิดว่าตอนนี้ทุกคนจะจัดการจางต้าหูด้วยกัน ดังนั้นพวกเขาจึงวางสิ่งเหล่านี้ลงก่อน
ถึงอย่างไรในตอนนี้ การได้ลาในมือของจางซิ่วเอ๋อผ่านจางต้าหูก็เป็นเรื่องสําคัญ
หลังจากที่จางต้าหูเข้าไปในบ้าน แม่เฒ่าจางก็มองไปที่จางต้าหูและถามขึ้น “ต้าหู จางซิ่วเอ๋อซื้อลามาเจ้ารู้หรือไม่?”
จางต้าหูพยักหน้า วันนี้ตอนที่เขากำลังทำงานในท้องทุ่งก็ได้ยินเรื่องนี้
“ข้ารู้แล้ว ข้าจะไปถามซิ่วเอ๋อด้วยตนเอง ท่านแม่วางใจเถิด หากเงินนั้นท่านหมอเมิ่งให้มาจริง ข้าจะพูดดี ๆ ให้ซิ่วเอ๋อคืนเงินนั่น!” จางต้าหูพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ในความเห็นของจางต้าหู จางซิ่วเอ๋อไม่มีเหตุผลที่จะใช้เงินของท่านหมอเมิ่งเลย
หลังจากคืนเงินและเลิกติดต่อกับท่านหมอเมิ่งได้ แม้ว่าชื่อเสียงจะไม่ดีขึ้นนัก แต่ก็ไม่เสื่อมลงไปอีก
แม่เฒ่าจางได้ยินดังนั้นก็ถลึงตาใส่ “เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้าต้องการให้จางซิ่วเอ๋อคืนเงินให้เช่นนั้นหรือ?”
ตอนนี้แม่เฒ่าจางไม่สนใจแล้วว่าเงินเป็นของผู้ใด นางต้องการแค่กอบโกยเงินหรือลาที่ซื้อมาด้วยเงินนั้นเข้ากระเป๋าของนาง
“อะไรกัน? ท่านแม่ไม่ได้หมายความอย่างนั้นหรอกหรือ?” จางต้าหูถามด้วยความสับสน
จางอวี่หมินพูดอย่างไม่พอใจ “พี่สี่ เหตุใดท่านถึงโง่นัก? ตอนที่ท่านหมอเมิ่งนอนกับจางซิ่วเอ๋อ คิดว่าจะให้นอนเฉย ๆ งั้นหรือ? ไปเตาเผายังต้องให้เงิน! ในเมื่อตอนนี้ท่านหมอเมิ่งยินดีให้เงินจางซิ่วเอ๋อแล้ว เช่นนั้นพวกเราก็ไม่จําเป็นต้องคืนให้!”
คำพูดของจางอวี่หมินไม่น่าฟังนัก เมื่อจางต้าหูได้ยินก็พลันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยและกล่าวด้วยเสียงอู้อี้ “อวี่หมิน อย่าพูดเช่นนั้นกับซิ่วเอ๋อเลย”
จางอวี่หมินเพิ่งโกรธจางซิ่วเอ๋อ ในตอนนี้นางจึงมีโทสะมากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นว่าจางต้าหูยังคงปกป้องจางซิ่วเอ๋อ นางกล่าวโดยไม่เลือกคําพูด “นางทําเรื่องเช่นนี้ได้ ท่านยังห้ามข้าพูดอีกหรือ?”
จางต้าหูยืนหน้าแดงอยู่ ด้วยไม่รู้ว่าจะโต้แย้งอย่างไรดี
เมื่อได้ยินว่าจางซิ่วเอ๋อและท่านหมอเมิ่งได้คบหากัน ในใจของจางต้าหูก็เดือดดาลเช่นกัน
จางต้าเหอพูดเสียงอ่อนโยน “น้องสี่ เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก ให้ข้ามองเรื่องนี้ มันก็ใช่ว่าจะเป็นความผิดของซิ่วเอ๋อ ซิ่วเอ๋ออายุเท่าใดกัน? จะทําเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ได้อย่างไร? ข้าว่าอาจเป็นท่านหมอเมิ่งที่ล่อลวงซิ่วเอ๋อของพวกเราก็ได้!”
เมื่อจางต้าหูได้ยินดังนั้น หัวใจของเขาก็ผ่อนคลายขึ้นมาก “ใช่แล้ว ซิ่วเอ๋อต้องถูกล่อลวงอย่างแน่นอน”
จางต้าหูหน้าดำคล้ำด้วยเรื่องของจางซิ่วเอ๋อ ครั้นตอนนี้จางต้าเหอช่วยเขาคิดหาเหตุผล ในใจของเขาจึงรู้สึกโล่งขึ้นมา
ใช่! ไม่ใช่ว่าลูกสาวของเขาไม่ดี หรือลูกสาวของเขาทำให้ขายหน้า ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของท่านหมอเมิ่ง!
กล่าวตามตรงก็คือ แม้ว่าจางต้าหูจะคิดถึงจางซิ่วเอ๋อ แต่ส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่าจางซิ่วเอ๋อทำให้เสียหน้า การมีลูกสาวเช่นนี้ทําให้เขารู้สึกอับอายมาก!
“ในเมื่อถูกล่อลวง พวกเราก็ไม่ควรเอาลานี้ไปคืน พวกเราไม่ไปขอเงินจากท่านหมอเมิ่งนั่นก็ดีแล้ว! แม้ว่าซิ่วเอ๋อจะเป็นแม่ม่าย แต่ทุกคนก็รู้ว่าซิ่วเอ๋อเป็นสาวบริสุทธิ์ ถูกท่านหมอเมิ่งทําลายไปเช่นนี้ เขาไม่ควรจ่ายอะไรหรือ? “คําพูดของจางต้าเหอนั้นชัดเจนมาก
ดวงตาของแม่เฒ่าจางเป็นประกายเล็กน้อย พลันรู้สึกว่านี่เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม หากสามารถเอาเงินบางส่วนจากท่านหมอเมิ่งได้ เช่นนั้นก็คงจะดีแล้ว
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เรื่องชักวุ่นวายใหญ่แล้วสิ ถ้าซิ่วเอ๋อได้ยินความคิดของแต่ละคนในบ้านนี่จะปรี๊ดขนาดไหนนะ
ไหหม่า(海馬)