ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 346 ท่านหมอเมิ่งมาเยือน
ตอนที่ 346 ท่านหมอเมิ่งมาเยือน
จากนั้นนางค่อยไปที่ตระกูลจ้าวเพื่อขนย้ายสิ่งของ ซึ่งจะง่ายกว่ามาก
ระหว่างทางกลับ ใบหน้าของจางชุนเถาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “พี่หญิง ท่านมีความคิดดีจริง ๆ เนื้อของเราขายได้เร็วมาก!”
จางซิ่วเอ๋อยิ้มขณะขับเกวียน “กิจการของเรามีแต่จะดีขึ้นเท่านั้น”
“อืม! พี่หญิงใหญ่! หลังจากนี้ไปข้าจะเชื่อฟังท่าน!” จางชุนเถากล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้าน แน่นอนว่ามีบางคนกำลังชี้นิ้วไปที่จางซิ่วเอ๋อ
หลังจากกลับถึงบ้าน จางซิ่วเอ๋อจึงเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าบ้านของตน เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบว่าเป็นท่านหมอเมิ่ง
จางซิ่วเอ๋อเห็นท่านหมอเมิ่งชั่วขณะหนึ่ง ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มรู้สึกผิดขึ้นมาหลายส่วน ท่านหมอเมิ่งคงไม่ได้มาคิดบัญชีกับตนหรอกนะ? ถึงอย่างไรตนก็ทําให้ท่านหมอเมิ่งเดือดร้อน
แต่พริบตาเดียว จางซิ่วเอ๋อก็รู้สึกว่าตัวเองคิดมากไปเอง ท่านหมอเมิ่งไม่ใช่คนแบบนั้น
จางซิ่วเอ๋อกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านอาเมิ่ง เหตุใดท่านถึงมาที่นี่เจ้าคะ?”
“ข้าแค่มาดูน่ะ” ท่านหมอเมิ่งพูดพลางมองจางซิ่วเอ๋อไปพลาง
จางซิ่วเอ๋อมองประตูที่ปิดไว้ก็รู้ว่าเถี่ยเสวียนและหนิงอันน่าจะไม่อยู่
ช่วงนี้ทั้งสองคนเริ่มยุ่งกันอีกครั้ง ไม่รู้ว่ายุ่งอยู่กับอะไรทั้งวัน
จางซิ่วเอ๋อยิ้มและเปิดประตูต้อนรับท่านหมอเมิ่งเข้าไปที่ลานบ้าน
“ข้าจะไปรินน้ำให้ท่านเดี๋ยวนี้” จางซิ่วเอ๋อรีบกล่าวทักทาย
“ไม่ต้องลําบากหรอก ข้าแค่มาดูเจ้าว่าสบายดีหรือไม่ เดี๋ยวก็ไป” ท่านหมอเมิ่งเอ่ยปาก
จางซิ่วเอ๋อเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “ทำให้ท่านต้องกังวลแล้ว”
ขณะที่จางซิ่วเอ๋อกําลังจะเล่าข่าวลือกับท่านหมอเมิ่ง จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องของแม่โจวขึ้นมาได้ จึงพูดขึ้น “อย่าว่าแต่ข้าเลย ข้ามีเรื่องอยากจะถามท่านจริง ๆ”
ท่านหมอเมิ่งยิ้มพลางมองจางซิ่วเอ๋อ “เจ้าพูดมาเถิด”
จางซิ่วเอ๋อกล่าวต่อ “ข้ารู้สึกว่าท้องแม่ของข้า… ใหญ่ขึ้นนิดหน่อย มีปัญหาอะไรหรือไม่เจ้าคะ?”
ท่านหมอเมิ่งยิ้มอ่อนโยน “ดูตอนนี้คงไม่มีปัญหา แม่เจ้า… อาจจะได้ครรภ์แฝด แต่เพราะตําแหน่งครรภ์ของแม่เจ้ายังไม่เสถียร ข้าจึงไม่แน่ใจ”
“ข้าเคยคาดเดามาก่อน ก่อนที่ข้าจะมาที่นี่ในวันนี้ ข้าได้ตรวจสอบแม่ของเจ้าเป็นพิเศษ และข้าคิดว่ามันเป็นไปได้สูงมาก แต่จะว่าไปแล้ว…อย่าเพิ่งบอกแม่ของเจ้าเลย หากแม่ของเจ้ากังวลเกินไป มันจะไม่ดีสำหรับเด็กคนนี้” หมอเมิ่งกล่าวต่อ
จางซิ่วเอ๋อได้ยินดังนั้นก็เข้าใจว่าท่านหมอเมิ่งได้ตรวจแม่โจวมาก่อน ในใจนางจึงรู้สึกอบอุ่น
“ท่านอาเมิ่ง ขอบคุณท่านมากจริง ๆ เจ้าค่ะ” จางซิ่วเอ๋อรีบกล่าวขอบคุณ
นางคิดในใจ หากเป็นลูกแฝดคงจะมีปัญหาอยู่บ้าง นี่เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง เพียงแต่… ในสมัยโบราณนี้การมีลูกแฝดเป็นเรื่องอันตรายมาก
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ในใจของนางก็อดกังวลไม่ได้ คิดว่าตอนนี้อย่าเพิ่งบอกแม่โจวจะดีกว่า
ยิ่งแม่โจวรู้มากเท่าใด ก็ยิ่งคิดมากขึ้นเท่านั้น
“ซิ่วเอ๋อ นั่งลงก่อน ข้าจะตรวจชีพจรให้” ท่านหมอเมิ่งพลันเอ่ยปาก
จางซิ่วเอ๋อมองท่านหมอเมิ่งอย่างสงสัย “ตรวจชีพจรข้า?”
“ตอนที่ข้าไปเยี่ยมแม่ของเจ้า แม่ของเจ้าบอกข้ามาหมดแล้ว” ท่านหมอเมิ่งเอ่ยขึ้นทันที พูดจบเขาก็มองจางซิ่วเอ๋อด้วยสายตาอ่อนโยน
จางซิ่วเอ๋อจำได้ว่าก่อนหน้านี้นางเคยพูดว่าตนต้องการหาท่านหมอเมิ่งเพื่อดูว่าประจำเดือนไม่มาหรือไม่
จางซิ่วเอ๋อคิดว่าในเมื่อท่านหมอเมิ่งรู้แล้ว เช่นนั้นนางก็ไม่มีอะไรต้องเสีย
ในยุคปัจจุบันยังมีแพทย์ชายในแผนกสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาด้วยซ้ำ!
ขอเพียงท่านหมอเมิ่งไม่ถือสา นางยิ่งไม่ถือสาอะไร
ท่านหมอเมิ่งวางมือลงบนข้อมือของจางซิ่วเอ๋อ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ท่านหมอเมิ่งก็เอ่ยปากถาม “เจ้ามีอาการมือเท้าเย็นและหนาวสั่นหรือไม่?”
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้า “มี”
“เช่นนั้นบาดแผลของเจ้า…” พูดถึงตรงนี้ ท่านหมอเมิ่งก็ชะงักไปครู่หนึ่ง คล้ายรู้สึกลําบากใจอยู่บ้าง
จางซิ่วเอ๋อยิ้มแล้วพูด “มันเป็นเรื่องในอดีตแล้ว ท่านอยากถามอะไรก็ถามได้เจ้าค่ะ ข้าจะไม่เสียใจ”
คงเป็นเพราะท่านหมอเมิ่งคิดว่าเมื่อพูดถึงบาดแผลแล้วอาจจะทําให้นางรู้สึกไม่สบายใจกระมัง
ท่านหมอเมิ่งได้ยินดังนั้นก็พูดต่อ “วันที่มีเมฆครึ้มจะรู้สึกคันหรือไม่?”
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้า
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นางต้องชื่นชมเจ้าของร่างเดิมของซิ่วเอ๋อและก็ยอมแพ้กับตัวเองจริง ๆ
คิ้วของท่านหมอเมิ่งย่นยู่เล็กน้อย
จางซิ่วเอ๋อถามเสียงเบา “อาการน่าเป็นห่วงหรือเจ้าคะ?”
ท่านหมอเมิ่งกล่าว “ระดูของเจ้า… ที่ระดูเจ้าไม่มา ก็เพราะร่างกายของเจ้าอ่อนแอและเย็นเกินไป”
เมื่อเอ่ยถึงคําว่า ‘ระดูของสตรี’ หมอเมิ่งก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง
จางซิ่วเอ๋อกล่าว “ข้าคิดว่าเป็นเพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้กินอาหารดีๆ ดังนั้นต้องชดเชยให้ดีเสียอีก”
“มีเหตุผล แต่การที่เจ้ากินอาหารดีๆ เพียงอย่างเดียวก็ไม่ทำให้อาการดีขึ้นอย่างสมบูรณ์ได้ เจ้าต้องกินยา” ท่านหมอเมิ่งกล่าวต่อ
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้า นางไม่ชอบกินยา แต่ถ้าเป็นโรคนี้ ต่อให้ไม่กินก็ต้องกิน นางจะต้องรีบรักษาให้เร็วที่สุด
ตอนนี้นางยังไม่เจอคนที่ทําให้ใจของนางหวั่นไหว แต่อีกหน่อยก็คงมี
นอกจากนี้ นางยังชอบเด็กมาก และอยากมีลูกของตัวเองในอนาคต
หากการผัดวันประกันพรุ่งจนกลายเป็นโรคร้ายแรงและไม่สามารถมีบุตรได้ในอนาคต นางคงเสียใจอย่างหาที่สุดไม่ได้!
จางซิ่วเอ๋อไม่คิดว่าการมีลูกเป็นภารกิจจำเป็นของสตรี แต่นางจะรู้สึกว่าลูกคือสิ่งที่เติมเต็มความสุขในชีวิตของนาง หากมีได้ นางก็ยังหวังว่าจะมี
ท่านหมอเมิ่งจึงกล่าวขึ้น “ข้าจะเตรียมยาให้เอง วันหลังข้าจะส่งมาให้เจ้า”
เขาไม่ได้พูดเรื่องใบสั่งยา แต่บอกว่าจะส่งยามาให้ด้วยตัวเอง
จางซิ่วเอ๋อรีบกล่าว “ขอบคุณมากจริง ๆ เจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าค่ารักษานี้…”
จางซิ่วเอ๋อรู้ว่ามันหยาบคายเกินไปที่จะกล่าวถึงเรื่องเงิน แต่นางไม่สามารถเอาเปรียบท่านหมอเมิ่งได้
“อย่ากังวลเรื่องนี้เลย” ท่านหมอเมิ่งกล่าวด้วยเสียงต่ำ และทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นมาอีก “ซิ่วเอ๋อ วันนี้ข้ามาหาเจ้า แท้จริงแล้วมีอีกเรื่องหนึ่ง”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกถึงบางอย่างในใจ “ท่านหมายถึง… เรื่องที่คนข้างนอกนินทาใช่หรือไม่?”
จางซิ่วเอ๋อพูดต่อโดยไม่รอให้ท่านหมอเมิ่งพูดอะไร “ข้ากําลังจะพูดเรื่องนี้ให้ท่านฟังอยู่เช่นกันเจ้าค่ะ…ข้าขอโทษจริง ๆ ที่ทําให้ท่านเดือดร้อน”
ท่านหมอเมิ่งรีบพูดขึ้นทันที “สิ่งที่ข้าต้องการจะพูดคือเจ้าไม่ต้องคิดเกี่ยวกับมัน และอย่าไปพัวพันกับเรื่องนี้มากเกินไป หาก...”
ท่านหมอเมิ่งคล้ายนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ อยากจะพูดแต่ก็ลังเล
เขามองไปที่จางซิ่วเอ๋อ และในสายตาของเขาก็ปรากฏแววสงสารเห็นใจเล็กน้อย
หากชายหญิงมีข่าวนินทาลือออกมา สุดท้ายคนที่เสียเปรียบก็มักจะเป็นสตรีเสมอ
ท่านหมอเมิ่งรู้สึกว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นแม่ม่ายตัวน้อย การที่ตนเองใช้ชีวิตกับน้องสาวไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้มีข่าวซุบซิบนินทาเช่นนี้แพร่สะพัดออกไป เขาเป็นห่วงจริง ๆ ว่าจางซิ่วเอ๋อจะแตกสลายไป
แม้ว่าจางซิ่วเอ๋อจะดูสดใส แต่นางก็เคยฆ่าตัวตายมาก่อน
ตอนนี้ก็ยากที่จะรับประกันได้ ภายใต้รูปลักษณ์ที่สดใสนี้ มีหัวใจที่เปราะบางอยู่
แน่นอนว่าท่านหมอเมิ่งไม่เข้าใจว่าจางซิ่วเอ๋อได้เปลี่ยนเป็นอีกคนแล้ว ดังนั้นเขาจึงคิดเรื่องเหล่านี้ร่วมกัน
……………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ถ้าแม่โจวมีท้องแฝดก็มีลุ้นเลยค่ะ อาจจะได้ทั้งลูกชายลูกสาวในคราวเดียวเลยก็ได้
มีคนหนึ่งมองเธออยู่นะซิ่วเอ๋อ ลองพิจารณาหน่อยไหม
ไหหม่า(海馬