ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 351 ส่งเกี๊ยวนึ่ง
ตอนที่ 351 ส่งเกี๊ยวนึ่ง
จางซิ่วเอ๋อเกียจคร้านเกินกว่าจะสนใจจางต้าหู
ในเวลานี้ จางชุนเถาก็ได้หยิบสิ่งที่เตรียมมาด้วยออกมา
มันคือตะกร้าเกี๊ยวนึ่ง
จางซิ่วเอ๋อมองแล้วพูดต่อ “คงไม่มีใครนำอาหารมาส่งให้ท่านใช่ไหมเจ้าคะ?”
ใบหน้าของจางต้าหูพลันเผยความประหม่า
จางซิ่วเอ๋อพ่นลมหายใจเย็นชา “นางต้องการให้ม้าวิ่ง แต่กลับไม่ยอมให้ม้ากินหญ้า ท่านย่าและคนอื่น ๆ ช่างเก่งกาจนักในการวางแผน!”
“ท่านพ่อ ข้าไม่ได้กล่าวถึงท่าน ท่านกำลังทำงานหนักเช่นนี้เพื่อสิ่งใด? ท่านไม่มีแม้อาหารจะกินแต่ต้องทำงานหนักตลอดปี!” จางซิ่วเอ๋อสบถอย่างควบคุมไม่ได้
จางต้าหูกล่าวเสียงต่ำ “ข้า…”
“เอาล่ะ มากินข้าวเร็วเข้า” จางซิ่วเอ๋อกล่าวอย่างไม่เต็มใจนัก
จางต้าหูรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย “หมายความว่าข้าจะสามารถกินมันได้งั้นหรือ?”
จางซิ่วเอ๋อเหลือบมองจางต้าหู “หากท่านไม่ต้องการจะกิน ก็ย่อมได้เช่นกัน”
“ข้าอยากกิน ข้าอยากกิน” จางต้าหูตอบอย่างรวดเร็ว
“งั้นอย่านั่งตรงนี้เลย ไปนั่งกินตรงโน้นกัน” แม่โจวชี้ไปที่พื้นที่โล่งด้านข้างผืนไร่ และดูเหมือนตรงนั้นจะมีคนอยู่มากมาย
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้ารับ นางมาส่งอาหารวันนี้ก็เพื่อให้ทุกคนได้เห็น ทั้งหมดเพื่อลบคำสบประมาทของตระกูลจาง!
นางไม่สนใจเกี่ยวกับชื่อเสียงของตน แต่นางไม่ต้องการให้ตระกูลจางเทน้ำสกปรกใส่นางอย่างมุ่งร้ายอยู่ฝ่ายเดียว
ทันทีที่กลุ่มของจางซิ่วเอ๋อเดินเข้ามา พวกนางกลายเป็นจุดสนใจในสายตาของผู้คนทันใด
บางคนถึงกับอดไม่ได้ที่จะลุกมา
คนแรกที่เข้ามาคือแม่เฒ่าหลิว
แม่เฒ่าหลิวถือชามที่เต็มไปด้วยมันฝรั่งแผ่น มันไม่คล้ายมีคราบน้ำมัน แต่ผ่านกระบวนการต้มในน้ำมา
“กินอะไรกันหรือ?” แม่เฒ่าหลิวยืดคอชะเง้อมองมา
จางซิ่วเอ๋อยิ้มแล้วใช้ตะเกียบหยิบเกี๊ยวสองชิ้นวางลงในชามของแม่เฒ่าหลิว เกี๊ยวนึ่งนั้นชิ้นใหญ่กว่าเกี๊ยวต้มนัก เพียงแค่สองชิ้นก็เต็มชามแล้ว
จางต้าหูมองเกี๊ยวทั้งสองชิ้นด้วยความเจ็บปวดใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เกี๊ยวทั้งหมดเป็นของจางซิ่วเอ๋อ และนางสามารถให้มันกับผู้ใดก็ได้
การที่จางซิ่วเอ๋อทำเช่นนี้ แม่เฒ่าหลิวอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
“ให้ข้างั้นหรือ?” แม่เฒ่าหลิวกล่าวอุทานอย่างไม่เชื่อ
จางซิ่วเอ๋อตอบด้วยรอยยิ้ม “แม่เฒ่าหลิวลองลิ้มรสมันดูเถิด”
จางซิ่วเอ๋อต้องการเอาชนะแม่เฒ่าหลิวมาตลอด แต่ไม่มีโอกาส แล้วนางก็ไม่มีเวลาจะไปยุ่งกับแม่เฒ่าหลิวด้วย ดังนั้นนางจึงเลิกสนใจเรื่องเหล่านั้นไปเสีย
วันนี้นางก็ได้เห็นแล้ว ว่าจางซิ่วเอ๋อไม่ใช่คนตระหนี่
แม่เฒ่าหลิวมองเกี๊ยวในชามด้วยความสุขและยกมันมากัดกินทันที
เมื่อตระหนักได้ว่าเกี๊ยวนี้เต็มไปด้วยเนื้อ แม่เฒ่าหลิวก็ยิ่งรู้สึกพอใจมากขึ้นไปอีก
แม้แต่สายตาที่มองจางซิ่วเอ๋อยังเต็มไปด้วยความพอใจ
“ซิ่วเอ๋อ เจ้านำอาหารมาให้พ่อกับแม่งั้นหรือ?” แม่เฒ่าหลิวอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
จางซิ่วเอ๋อยิ้มตอบ “เป็นเช่นนั้น ท่านพ่อท่านแม่ของข้าทำงานหนัก และข้าไม่อาจทนได้ที่เห็นพวกเขาไม่ได้รับประทานอย่างเพียงพอ เช่นนี้ข้าจึงนำอาหารมาส่ง”
“ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นลูกกตัญญูเช่นนี้!” แม่เฒ่าหลิวอดไม่ได้ที่จะชื่นชม
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ แม่เฒ่าหลิวก็อดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจเย็นชา “ข้าทราบมาว่านังเฒ่าจางอสูรกายตายยากนั่นกล่าวหาว่าเจ้าอกตัญญู แต่ถ้าเจ้าอกตัญญูจริงแล้ว มีหรือจะเอาของมีราคาเช่นนี้ให้บิดามารดากินได้?”
จางซิ่วเอ๋อมองแม่เฒ่าหลิวอย่างประหลาดใจ “อะไรนะเจ้าคะ? ท่านย่าบอกว่าข้าไม่กตัญญูงั้นหรือ? นางพูดถึงข้าเช่นนั้นได้อย่างไร!”
“คงเป็นเพราะนางชอบทำตัวเป็นอสูรกายตายยาก! แม้แก่ตัวไปก็ยังไม่สามารถหยุดได้!” แม่เฒ่าหลิวกล่าวด้วยอารมณ์โกรธ
ในเวลานี้ เมื่อคนอื่น ๆ เห็นว่าแม่เฒ่าหลิวได้รับประโยชน์จากจางซิ่วเอ๋อ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเข้ามารับชมเหตุการณ์
เมื่อเห็นความคุ้นเคยและใจดี จางซิ่วเอ๋อก็ให้เกี๊ยว
วันนี้นางนำเกี๊ยวนึ่งมาเต็มตะกร้า และแม่โจวกับจางต้าหูไม่มีทางกินหมดได้…
แต่แน่นอนว่าจางต้าหูไม่ได้คิดเช่นนั้น
จางต้าหูรู้สึกว่าเกี๊ยวพวกนี้อร่อยมาก แม้ว่าเขาจะไม่อาจกินได้หมด และอิ่มแล้ว แต่ก็ต้องกินให้มากที่สุด!
อย่างไรเสีย จางซิ่วเอ๋อก็ไม่ได้สนใจในสิ่งที่จางต้าหูคิด
คนที่เข้ามาร่วมวงกินเกี๊ยวของจางซิ่วเอ๋อนั้นคล้ายความจำสั้น พวกเขาต่างรู้สึกกระดากเกินกว่าจะกล่าวถึงข่าวไม่ดีของจางซิ่วเอ๋อ ครั้นเผชิญหน้ากับจางซิ่วเอ๋อแล้ว พวกเขาล้วนกลายเป็นคนจิตใจดีขึ้นมา
“ซิ่วเอ๋อ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าทำการค้าด้วย! เจ้าขายเนื้อปรุงสุกงั้นหรือ? แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?” กู๋อวี่ก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน เขาถามอย่างสงสัย
จางซิ่วเอ๋อยิ้ม “ก็พอมีพอใช้”
“เจ้าคงทำเงินได้ไม่น้อยใช่หรือไม่?” แม่เฒ่าหลิวถามบ้าง
จางซิ่วเอ๋อไม่คิดรำคาญ แล้วยังตอบด้วยรอยยิ้ม “ข้าเพิ่งขายเนื้อปรุงสุกได้วันเดียว จะทำเงินได้มากมายอะไรกัน?”
สิ่งที่จางซิ่วเอ๋อกล่าวคือความจริง ในวันแรกที่นางออกไปขายของ นางยังทำเงินได้ไม่มากนัก
นางแจกจ่ายไปเยอะ ยังไม่พอคืนทุนด้วยซ้ำ
แต่ถึงอย่างนั้นจางซิ่วเอ๋อก็พึงพอใจแล้ว
นางเพิ่งจะเริ่มขายเมื่อไม่กี่วันนี้ และในระยะแรกนางจะให้ผู้คนได้ลิ้มลองเปล่า ๆ ก่อน แต่ในอนาคตย่อมไม่มีอีกแล้ว
และสุดท้ายย่อมมีคนต้องการซื้อมันมากขึ้นเรื่อย ๆ คนชิมเปล่าก็จะน้อยลง นอกจากนี้อิ๋งเค่อจวียังสั่งเนื้อพะโล้ของนางอีกด้วย เช่นนี้นางจึงมั่นใจในการค้าขายของตนยิ่งนัก
แม่เฒ่าหลิวกล่าวอย่างไร้ยางอาย “หากเมื่อใดเจ้าส่งพะโล้มาให้พ่อกับแม่เจ้ากิน เช่นนั้นก็ส่งให้พวกเราด้วยนะ”
จางซิ่วเอ๋อกล่าวคำอย่างอารมณ์ดี “แน่นอน ข้าจะนำมาให้พวกท่านได้ชิมกันในวันหลัง”
หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จแล้ว จางซิ่วเอ๋อและคนอื่นจึงกลับไปที่ทุ่งข้าวสาลี
แม่เฒ่าหลิวและคนอื่น ๆ เริ่มจับกลุ่มพูดคุย
“จางซิ่วเอ๋อใจกว้างยิ่งนัก ดีกว่านังเฒ่าขี้เหนียวผู้นั้นมากโข” ขณะที่แม่เฒ่าหลิวยกยอจางซิ่วเอ๋อให้สูงส่ง นางก็ไม่ลืมที่จะเหยียบเท้าของแม่เฒ่าจางด้วยเช่นกัน
“หญิงชราผู้นั้นก็ปากมากเสียจริง ซิ่วเอ๋อเป็นเด็กดีนัก แต่นางก็ยังสร้างปัญหาให้ซิ่วเอ๋อไม่จบสิ้น” กู๋อวี่พึมพำ
“แต่ดูเหมือนว่าเรื่องระหว่างจางซิ่วเอ๋อและท่านหมอเมิ่งจะเป็นความจริง นางไม่เพียงแต่ซื้อลา แต่อาหารของนางยังอร่อยนัก” แม่เฒ่าหลิวเริ่มกล่าวนินทาอีกครั้ง
สตรีคนหนึ่งด้านข้างกล่าวขึ้น “ไม่ว่านางจะอยู่กับผู้ใด ตราบใดที่นางไม่มียุ่งกับคนของเราก็เพียงพอ ข้าจะบอกอะไรให้เจ้าฟัง มันไม่สำคัญหรอกว่าเรื่องระหว่างนางกับท่านหมอเมิ่งจะเป็นจริงหรือไม่”
“ท่านหมอเมิ่งเป็นคนดี และมักจะคิดค่ายาราคาถูกเสมอ หากเขาแต่งงานกับผู้อื่น พวกเราไม่มีทางรู้เลยว่าค่ารักษาจะราคาเท่าไหร่ แต่หากเป็นจางซิ่วเอ๋อ… ข้าคิดว่ามันคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก”
ทันทีที่สตรีผู้นั้นพูดจบ ทุกคนก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างสมเหตุสมผล
“จางซิ่วเอ๋อดีกว่าแม่ม่ายหลิวมาก! อย่างน้อยเมื่อจางซิ่วเอ๋อพบเจอกับสามีของข้า นางย่อมไม่ขยิบตาให้เขาหรือทำสิ่งใดทั้งสิ้น” สตรีผู้นั้นกล่าวอีกครั้ง
แน่นอนว่าสตรีผู้นี้รู้สึกขุ่นเคืองใจต่อแม่ม่ายหลิว
แม่เฒ่าหลิวพยักหน้า “นางดีกว่าแม่ม่ายหลิวจริง ๆ”
นอกจากนี้ยังเป็นม่ายเช่นเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับทั้งสองแล้ว ทุกคนประทับใจต่อจางซิ่วเอ๋อมากกว่า
ท้ายที่สุดเห็นได้ชัดว่าแม่ม่ายหลิวผู้นั้นเที่ยวยั่วยวนชายในหมู่บ้านทั้งหมด
สำหรับจางซิ่วเอ๋อ… มันเป็นเพียงข่าวลือที่พวกเขาได้ยินมา คนเดียวที่สามารถเป็นไปได้คือท่านหมอเมิ่ง
ท่านหมอเมิ่งไม่มีครอบครัว แม้ว่าบางคนจะอิจฉาจางซิ่วเอ๋อมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเขา
จางซิ่วเอ๋อไม่ได้แจกเกี๊ยวอย่างไร้ประโยชน์
……………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ถ้าแจกเกี๊ยวแล้วสยบข่าวลือได้ก็ถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีกนะคะ ดีเลยจะได้ไม่ต้องเหนื่อยใจมาก
ไหหม่า(海馬)