ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 352 ใจคน
ตอนที่ 352 ใจคน
ก่อนที่จะส่งเกี๊ยวนึ่งมา คนเหล่านี้ย่อมนินทาว่าร้ายอยู่บ้าง
แต่ในเวลานี้ ความประทับใจของพวกเขาที่มีต่อจางซิ่วเอ๋อกลับเพิ่มพูน พวกเขาต่างรู้สึกละอายที่กล่าวถึงจางซิ่วเอ๋อในทางไม่ดี
เมื่อลงนาอีกครั้ง จางซิ่วเอ๋อและจางชุนเถาก็ช่วยแม่โจวมัดฟ่อนข้าวสาลี
พวกนางกังวลที่จะปล่อยให้แม่โจวทำงาน
จางต้าหูเดินมาด้านหน้าเงียบ ๆ แล้วหยิบของบางอย่างออกมายื่นให้กับจางซิ่วเอ๋อและจางชุนเถา
จางซิ่วเอ๋อมองมันอย่างพิจารณาและพบว่ามันคือนกกระทา
จางซิ่วเอ๋ออุทานออก “ให้พวกข้างั้นหรือ?”
จางต้าหูกล่าวเสียงทุ้ม “เจ้านำมันกลับไปอบกินเถอะ”
มองไปที่นกกระทาแล้ว จางซิ่วเอ๋อกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม “ท่านไม่คิดจะมอบมันให้กับท่านย่าเพื่อเอาความดีความชอบหรือ?”
ใบหน้าของจางต้าหูพลันเปลี่ยนเป็นแดงเรื่อ “เอาไปเสีย แล้วไม่ต้องบอกกล่าวกับย่าเจ้า”
นี่เป็นครั้งแรกที่จางต้าหูมอบของบางสิ่งให้กับนาง
จางซิ่วเอ๋อหยิบนกกระทาขึ้นมาแล้วพูดว่า “เช่นนั้นข้าจะทำอาหารให้ซานหยากิน”
จางต้าหูตอบกลับ “อืม”
เมื่อกล่าวจบ จางต้าหูก็ไปเกี่ยวข้าวสาลีต่อ
ในข้าวสาลีมีรวงข้าวสีเขียวอยู่บ้าง แม่โจวหยิบมันแล้วใส่ลงในตะกร้าของจางซิ่วเอ๋อ
“ท่านแม่ ท่านกำลังทำสิ่งใด?” จางซิ่วเอ๋อมองแม่โจวอย่างสับสน
แม่โจวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ต่อให้รวงข้าวแบบนี้จะนำไปสีเป็นเมล็ดไม่ได้ แต่ก็นำไปย่างไฟได้ รสชาติของมันอร่อยไม่น้อย”
แม่โจวกล่าวด้วยใบหน้าที่คล้ายรำลึกความหลัง
จางซิ่วเอ๋อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “หาข้าเอารวงข้าวสาลีนี้ไปและท่านย่ารู้เข้า… ข้าเกรงว่ามันจะดูไม่ดีนัก?”
จางซิ่วเอ๋อไม่ต้องการรับของจากคนตระกูลจาง
แม่โจวกลอกตาไปมา “ซิ่วเอ๋อเจ้ากล่าวถูกต้อง เราทำงานหนักตลอดปีแต่เหตุใดครอบครัวเราจึงไม่มีข้าวกินอย่างเพียงพออีก? และแน่นอนว่าย่าของเจ้าย่อมไม่คิดขอบคุณ”
“ข้ากับพ่อของเจ้าอยู่ที่นี่และทำงานอย่างหนักเพื่อปลูกมัน ตอนนี้ข้าจะให้ข้าวสาลีแก่ลูกสาวของข้า และจะไม่คิดสนใจคำใคร!” แม่โจวพูดออกมาอย่างดื้อรั้น
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้
ใช่ ที่ดินนี้ไม่ได้ถูกปลูกโดยแม่เฒ่าจาง
จางต้าหูและแม่โจวจ่ายออกน้อยกว่าที่พวกเขาได้รับด้วยซ้ำ แล้วตอนนี้แม่โจวมีจิตใจที่ต้องการมอบบางอย่างให้กับนาง แล้วเหตุใดนางจึงรับมันไว้ไม่ได้?
นอกจากนี้นางยังประหยัดค่าอาหารให้แม่เฒ่าจางด้วยการส่งอาหารให้กับแม่โจวและจางต้าหู?
จางซิ่วเอ๋อพยักหน้ารับ “ท่านแม่ เช่นนั้นข้าจะฟังคำท่าน”
จางชุนเถาตื่นเต้นเช่นกัน “พี่หญิง จำได้หรือไม่? เราเคยกินรวงข้าวสาลีคั่วครั้งหนึ่งเมื่อยังเด็ก มันอร่อยยิ่ง!”
จางซิ่วเอ๋อจำไม่ได้จริง ๆ
นางทำได้เพียงกล่าวคำอย่างไม่ชัดเจน “นานมากแล้ว ข้าจึงจำไม่ค่อยได้น่ะ”
“อ๊ะ พี่หญิง ไปเอารวงข้าวสาลียาคูมาเพิ่มอีกแล้วค่อยไปคั่วมันที่ลานบ้านกันเถอะ มันอร่อยจริง ๆ!” จางชุนเถากล่าวด้วยดวงตาเป็นประกาย
นางไม่เคยได้กินอะไรดี ๆ เลยในวัยเด็ก
นางไม่เคยได้กินขนมที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ
รวงข้าวสาลียาคูคั่วเป็นสิ่งเดียวที่นางเคยกิน และรสชาติของมันเป็นสิ่งที่น่าจดจำที่สุด
เมื่อเห็นว่าจางชุนเถาชื่นชอบมัน จางซิ่วเอ๋อก็ทำงานอย่างหนัก มัดข้าวสาลีแล้วหยิบเอารวงข้าวสาลีสีเขียวออกมา
ระหว่างรอกลับไปทำอาหารเย็น จางซิ่วเอ๋อก็ได้รับรวงข้าวสาลียาคูเต็มตะกร้า
ในขณะนี้ จางต้าหูได้หยุดเกี่ยวข้าวสาลีแล้ว และเขากำลังมัดข้าวสาลีด้วยเชือก เขาตั้งใจจะแบกข้าวสาลีส่วนหนึ่งกลับไปด้วย
เมื่อเห็นเช่นนี้ จางซิ่วเอ๋อไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบเหรียญทองแดงออกจากกระเป๋า นางมอบให้แม่โจว “ท่านแม่ รับนี่เถิด ให้พ่อของข้าเช่าเกวียน”
ไม่ว่าอย่างไร จางซิ่วเอ๋อจะไม่มีวันให้ยืมลาของตนเด็ดขาด
หากลาตัวนี้มาอยู่ที่ตระกูลจาง ก็ไม่รู้ว่าตระกูลจางจะทำร้ายมันอย่างไร!
ใบหน้าของแม่โจวขึ้นสีแดงเรื่อ ปกติแล้วนางไม่ต้องการพึ่งพาลูกสาวของตนนัก แต่ในตอนนี้นางไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไรดี
มันไม่ใช่เรื่องยากหากทั้งสองช่วยกันขนข้าวสาลีกลับบ้าน
แต่นั่นคือสิ่งที่นางทำในปีที่แล้ว ทว่าตอนนี้นางมีลูกในท้อง และร่างกายของนางไม่ได้ดีดั่งเดิม ดังนั้นนางจึงช่วยอะไรไม่ได้นัก แล้วหากต้องรอพึ่งพาเพียงจางต้าหู นางก็ไม่รู้ว่าจะได้รับมันเมื่อใด
แม่โจวรู้สึกว่าเงินนี้ร้อนเล็กน้อย นางมองจางซิ่วเอ๋อพร้อมกล่าว “ซิ่วเอ๋อ… ข้า…”
“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ข้าสามารถค้าขายได้แล้ว และมีเงินใช้ไม่ขาดมือ” จางซิ่วเอ๋อกล่าวแทรก
นางไม่ต้องการให้แม่โจวกังวลเกี่ยวกับตน ดังนั้นนางจึงพูดกล่าวออกไปเพื่อให้เรื่องราวง่ายขึ้น
แม่โจวถอนหายใจพร้อมกับดวงตาเริ่มแดงก่ำขึ้นมา
นางรับเหรียญทองแดงพร้อมเดินไปหาจางต้าหู
จางต้าหูชะเง้อมองไปมา “ซิ่วเอ๋อกับชุนเถาไปไหนแล้ว? กลับไปแล้วงั้นหรือ?”
จางต้าหูไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น วันนี้จางซิ่วเอ๋อและจางชุนเถามาช่วยส่งอาหารให้ หัวใจของจางต้าหูก็พลันโอนอ่อนแล้ว ในเวลานี้เขารู้สึกห่วงใยสาวน้อยสองคนนั้นจริง ๆ
แม่โจวยื่นเหรียญทองแดงในมือให้จางต้าหู
ใบหน้าของจางต้าหูเผยแววประหลาดใจ “เจ้าได้รับเงินมาจากที่ใด? ท่านแม่ของข้ารู้หรือไม่?”
แม่โจวส่ายศีรษะ “ซิ่วเอ๋อให้มา นางบอกให้เจ้าเอาไปเช่าเกวียน”
จางต้าหูมองแม่โจวด้วยดวงตาเบิกกว้าง “นี่มาจาก… ซิ่วเอ๋อ… งั้นเหรอ? นางบอกว่า… ให้ข้าเอาไปเช่าเกวียน?”
จางต้าหูกล่าวติดขัดราวกับไม่เชื่อว่ามันคือเรื่องจริง
ดวงตาของแม่โจวแดงก่ำพร้อมกล่าวตอบ “ซิ่วเอ๋อเป็นเด็กปากแข็งแต่ใจดี ไม่เห็นหรือว่านางดูแลพวกเราอย่างไร?”
จางต้าหูอ้าปากค้าง เขามองเหรียญทองแดงในมือพร้อมกับรู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย
แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการยอมรับ แต่เขาก็ต้องยอมรับอย่างแท้จริงว่าจางซิ่วเอ๋อดีต่อพวกเขาแค่ไหน
“ต้าหู บางครั้งข้าก็ไม่รู้ว่านางใจกว้างเพียงใด ซิ่วเอ๋อเป็นสตรี แต่ทำงานหนักไม่ต่างจากบุรุษ ตอนนี้นางแยกบ้านออกไปแล้ว แต่ยังมีใจคิดถึงเราสองคน… แล้วแม่ของท่านเล่า? นางยอมจ่ายค่าเนื้อมากกว่าให้ท่านเช่าเกวียนเสียอีก! เพียงค่าเช่ารถลากข้าวสาลีราคาน้อยกว่า 10 เหรียญทองแดงเช่นนี้! นางก็ยังลังเลที่จะมอบเงินให้ท่าน”
“หากพวกเราขนกลับไปด้วยตนเอง คืนนี้คงไม่ต้องหลับต้องนอน แล้วพรุ่งนี้ยังต้องทำงานต่อ หากพวกเราไม่สามารถลุกมาทำงานได้ ท่านแม่จะยินยอมหรือไม่?” แม่โจวกล่าว
คำพูดเหล่านี้ดังอยู่ในใจของจางต้าหู ทำให้จางต้าหูรู้สึกไม่สบายใจนัก
จางต้าหูกล่าวเสียงแผ่ว “เหมยจื่อ เป็นความผิดของข้าเองที่ทำลูกและเจ้าต้องทุกข์ทรมาน”
ในตอนนี้เองที่จางต้าหูรู้ความผิดของตนแล้ว
แต่เพียงการรับรู้ความผิดแล้วไม่แก้ไขจะมีประโยชน์ใดเล่า?
แม่โจวมองจางต้าหูด้วยสายตาผิดหวัง
แต่ในพริบตา หัวใจของแม่โจวกลับมีความคาดหวังบางอย่างขึ้นมาอีกครั้ง อย่างน้อยตอนนี้จางต้าหูก็ไม่คิดว่าแม่ของเขาทำถูกต้องอีกต่อไป
“ข้าจะไปเช่าเกวียน ท่านรอที่นี่” แม่โจวกังวลเล็กน้อยว่าหากให้จางต้าหูไปเช่าเกวียนเอง เขาจะถือเหรียญทองแดงนี้วิ่งเข้าไปมอบให้กับตระกูลจาง
จางต้าหูกล่าวเสียงแผ่ว “อย่างนั้นก็ระมัดระวังด้วย”
ในขณะนี้ มีคนไม่มากนักที่ทำงานหนักอยู่ในไร่นา แต่เกวียนวัวบางคันก็ยังว่างอยู่
แม่โจวจึงจ้างเกวียนวัวจากครอบครัวหนึ่ง
…………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ฉลาดขึ้นมาหน่อยเถอะต้าหู ไม่อย่างนั้นก็ทำงานหนักเป็นวัวควายต่อไปนะ
ไหหม่า(海馬)