ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 353 ขอเงิน
ตอนที่ 353 ขอเงิน
แม่เฒ่าจางและคนอื่น ๆ ได้ยินเรื่องนี้จึงรีบมุ่งหน้าไปที่ทุ่งข้าวสาลีทันที
“ต้าหู! เหมยจื่อ! เจ้าทำงานนี้ และยังสามารถเช่าเกวียนได้ด้วย! เป็นเพราะรังเกียจเงินของครอบครัวหรือไร? อีกอย่างซิ่วเอ๋อไม่มีเกวียนงั้นหรือ? เหตุใดจึงยืมใช้งานไม่ได้ นางเป็นคนอกตัญญูนัก!” แม่เฒ่าจางกล่าวคำอย่างไม่พอใจ
แม่โจวที่กำลังมัดฟ่อนข้าวสาลีอยู่ยืดตัวตรงและมองแม่เฒ่าจาง “เงินเช่าเกวียนนี้เป็นเงินจากซิ่วเอ๋อ แล้วซิ่วเอ๋อไม่ต้องการให้เรายืมเกวียนลา ดังนั้นนางจึงมีเหตุผลอยู่ ท่านแม่หยุดบ่นซิ่วเอ๋อได้แล้วเจ้าค่ะ หากผู้อื่นได้ยินเข้าจะหัวเราะเยาะเราเอาได้!”
“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดข้าจึงจะกล่าวถึงมันไม่ได้? นี่เจ้าเรียนรู้ที่จะต่อล้อต่อเถียงกับข้าแล้วหรือไร กล้ามองหน้าข้าด้วยหรือ?” แม่เฒ่าจางจับจ้องแม่โจว
แม่โจวยิ่งผ่านไปยิ่งไม่ห่วงตัวเอง นางเริ่มแข็งข้อกับแม่เฒ่าจางมากขึ้น
แม่โจวกล่าวเบา ๆ “ซิ่วเอ๋อผิดอะไรที่เอาเงินให้ข้ามาเช่าเกวียน?”
ในเวลานี้ มีผู้คนจำนวนมากที่กำลังรับชมอยู่ในทุ่งข้าวสาลีนี้ เมื่อพวกเขาได้ยินแม่โจวกล่าวเช่นนั้น ทุกคนก็รู้สึกว่าแม่เฒ่าจางทำเกินไป
จางซิ่วเอ๋อไม่ให้ยืมลา ยิ่งเช่าเกวียนมีหรือจะให้?
จางซิ่วเอ๋อเป็นเพียงเด็กสาว แต่เพราะนางแต่งงานแล้ว นางจึงไม่มีภาระผูกพันใดต้องช่วยเหลือครอบครัว อีกทั้งนางไม่จำเป็นต้องให้เงินกับอีกฝ่ายด้วย ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อนำเงินของตนออกมาเพื่อช่วยเหลือ มันคงจะผิดแปลกไปหน่อยหากหญิงชราผู้นี้ยังคงพร่ำบ่นเรื่องของจางซิ่วเอ๋อไม่จบสิ้น
แม้แต่คนที่ไม่ได้ชื่นชอบจางซิ่วเอ๋อนัก ยังรู้สึกว่าคำพูดของแม่เฒ่าจางมากเกินไปและไม่มีเหตุผลอย่างยิ่งในเวลานี้
“ต้าหู! ดูเข้าสิ ภรรยาเจ้าใช้น้ำเสียงเช่นไรกับข้า!” แม่เฒ่าจางชี้หน้าแม่โจวขณะหันไปพูดกับจางต้าหู
ในตอนนี้แม่เฒ่าจางก็เริ่มตระหนักได้แล้วว่าพูดผิดไปมาก นางจึงรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วและหันไปดุด่าแม่โจวแทน
แต่สิ่งที่จางซิ่วเอ๋อกระทำในวันนี้ ทำให้จางต้าหูรู้สึกอบอุ่นใจ
ในเวลานี้ เขายังรู้สึกได้ว่าคำกล่าวหาของแม่เฒ่าจางนั้นผิด
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังรู้สึกว่าความคิดของแม่โจวไม่ผิด
แต่เขาไม่ใช่คนที่จะยั่วยุแม่เฒ่าจางให้โกรธเคือง ดังนั้นเขาจึงกล่าวเสียงทุ้มแผ่วเบา “ท่านแม่ อย่าได้พูดมากเลย เหมยจื่อและซิ่วเอ๋อถูกต้องแล้วในเรื่องนี้”
แม้ว่าคำพูดของจางต้าหูจะถูกต้อง แต่ท่าทางของเขาก็ยังไม่เด็ดขาดพอ
เมื่อมันกระทบใบหูของแม่เฒ่าจาง ตอนนี้แม่เฒ่าจางกลับรู้สึกประหลาดใจยิ่ง!
นี่คือจางต้าหู เป็นบุตรที่ซื่อสัตย์และเชื่อฟังที่สุด เขาไม่เคยแม้จะต่อต้าน! แต่คราวนี้เขากลับกล้าหาญพูดมันออกมาต่อหน้าทุกคนได้อย่างไร?
แม่เฒ่าจางโต้กลับ “จางต้าหู! เจ้ามีเมียมีลูกแล้วลืมแม่! เจ้าคนนอกคอก!”
จางต้าหูเพียงรับฟังอย่างเงียบ ๆ ในตอนนี้หัวใจของเขาพลันเย็นเยือกขึ้นมา
เขาไม่เชื่อฟังงั้นหรือ? เขามีเมีย มีลูก แล้วลืมแม่งั้นหรือ? เขาคิดไตร่ตรองพร้อมนึกย้อนไปถึงวันที่เขายืนมองภรรยาของเขาถูกมารดาทุบตี หากไม่ใช่เพราะอาหารรสเลิศของจางซิ่วเอ๋อในทุกวันนี้ แม่โจวก็คงไม่มีชีวิตรอดมาได้ถึงตอนนี้แน่
เขาไม่เคยปกป้องภรรยาและลูกเลยสักครั้ง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จางต้าหูไม่กล้าที่จะคิดเรื่องนี้ต่อ
จะมีใครที่ไหนบ้าง ยามสับสนสงสัย ต่อให้มีผู้ใดทุบตีตนเอง อย่างดีก็ตื่นขึ้นเล็กน้อย แต่จากครั้งก่อนที่เขาสับสน ก็เกรงว่าจะเกิดเรื่องเดิมซ้ำ
เช่นนั้นแล้วเขาก็ยังเป็นคนงี่เง่าเช่นเคย
ดังนั้นในขณะนี้ จางต้าหูเพียงรับฟังถ้อยคำนั้นอย่างเงียบ ๆ และไม่ได้โต้เถียงกลับ
แม่เฒ่าจางเบื่อที่จะดุด่าแล้ว นางยื่นมือไปหาแม่โจวพร้อมกล่าว “เอามา!”
แม่โจวมองแม่เฒ่าจางอย่างไม่เข้าใจ “อะไร?”
“เงิน! จางซิ่วเอ๋อไม่ได้ให้เงินเจ้าหรือไร? หากเจ้ามีเงินเช่าเกวียน เจ้าก็ย่อมมีเงินเหลืออยู่! เอามันมาให้ข้าเร็วเข้า!” แม่เฒ่าจางกล่าวคำเย็นชา
แม่โจวปฏิเสธทันที “ไม่มี”
“ทำเช่นนี้ได้อย่างไร! หากเจ้าไม่มี ก็จงไปขอจากจางซิ่วเอ๋อ!” แม่เฒ่าจางรู้สึกไม่พอใจนักเมื่อคิดว่านางต้องเสียเงินเช่ารถให้กับครอบครัวตนเอง
เห็นได้ชัดว่าแม้แต่นางยังไม่สามารถเช่าเกวียนได้ จางต้าหูก็ไม่มีสิทธิ์ทำสิ่งเหล่านี้เช่นเดียวกัน!
แม้ว่านี่จะไม่ใช่เงินของนาง แต่มันก็เป็นเงินของจางซิ่วเอ๋อ แล้วจางซิ่วเอ๋อให้มาแล้ว ในความคิดของนางมันควรจะเป็นเงินของตระกูลจาง เช่นนี้มันจึงเป็นเงินของนางโดยสมบูรณ์
“ท่านแม่ ซิ่วเอ๋อให้เงินมาเพื่อให้ต้าหูจ้างเกวียนลากข้าวสาลี เพื่อประหยัดแรง หากว่าไม่มีเงินนี้ ข้าควรจะทำอย่างไรกับข้าวสาลีในทุ่ง?” แม่โจวถามกลับ
แม่เฒ่าจางตอบอย่างไม่คิด “เจ้ากับต้าหูไม่ได้กินข้าวหรือไร? เจ้าสามารถขนข้าวกลับบ้านได้เสมอในทุก ๆ ปี แล้วทำไมปีนี้จึงไม่ทำเช่นเดิม?”
เมื่อมองจางต้าหู แม่โจวจึงกล่าวอย่างมีความนัย “ต้าหู ได้ยินสิ่งที่แม่ของท่านกล่าวหรือไม่?” ได้ยินสิ่งที่แม่คิดแล้วหรือยัง? นางไม่เคยปฏิบัติกับท่านราวกับเป็นมนุษย์ด้วยซ้ำ!
จางต้าหูกล่าวเสียงพึมพำ “ข้าได้ยินแล้ว”
“นังแม่โจว เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เอาเงินมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!” แม่เฒ่าจางกล่าวเกรี้ยวกราด
ขณะนี้แม่เฒ่าหลิวได้เดินผ่านมาพอดี นางรู้สึกไม่มีความสุขยิ่งเมื่อได้พบเจอกับแม่เฒ่าจาง อีกทั้งวันนี้นางยังได้รับประโยชน์จากจางซิ่วเอ๋อด้วย เช่นนี้นางย่อมคิดฉีกกระชากใบหน้าของแม่เฒ่าจางอย่างแน่นอน
แม่เฒ่าหลิวกล่าวทันที “ข้าอยากจะรู้เสียจริงว่าแม่เฒ่าจางยังมียางอายบ้างหรือไม่? เหตุใดนางจึงต้องเอาเงินของบุตรสาวให้ท่านด้วย? ท่านมิใช่หรือที่พูดเสมอว่าหลานสาวผู้นั้นเป็นตัวขาดทุน? แล้วอย่างไร? ยังคิดจะเอาเงินของนางอีกหรือ?”
“ทำไมเจ้าจึงได้สอดปากเข้ามาในทุกที่! เจ้าไม่ต้องมายุ่งย่ามเรื่องในครอบครัวข้า!” แม่เฒ่าจางตวาดกลับทันที
“เหอะ ข้าก็ไม่ได้คิดสนใจ แต่ครั้งนี้มันได้กลิ่นฉาวโฉ่หึ่งมา พอรับชมให้ดี กลายเป็นว่ามีเรื่องฉาวโฉ่จริงเสียด้วย! แน่นอนอยู่แล้วว่าข้าต้องพูด!” แม่เฒ่าหลิวกล่าวโต้ตอบอย่างขุ่นเคือง
ใบหน้าของแม่เฒ่าจางซีดเผือดด้วยโทสะ
“หากให้ข้าเตือน หากยังอยากมีใบหน้าอยู่บนบ่า ก็จงหุบปากซะ ไม่อย่างนั้นทุกคนในหมู่บ้านคงได้รับรู้เรื่องนี้ในวันพรุ่ง! ข้าล่ะอยากจะรู้เหลือเกินว่านังเฒ่าอย่างเจ้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!” แม่เฒ่าหลิวกล่าวเย้ย
หัวใจของแม่เฒ่าจางลุกเป็นไฟ เมื่อได้ยินแม่เฒ่าหลิวอย่างเช่นนี้ นางรู้สึกได้ถึงยางอายบนใบหน้าจึงรีบหุบปากด้วยความอับอายทันที
แม่เฒ่าจางเหลือบมองจางต้าหูและแม่โจวอย่างเย็นชาก่อนจะหันหลังจากไป
แต่เมื่อนางจากไป นางก็ไม่ลืมที่จะหยิบข้าวสาลีหนึ่งกำจากด้านข้างไปด้วย
แม่โจวและจางต้าหูเพียงมองอย่างเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไร
จางต้าหูลังเลและเดินเข้ามา “เหมยจื่อ เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?”
แม่โจวกล่าวคำด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและสิ้นหวัง “ต้าหู เหตุใดท่านจึงไม่ทราบว่าชีวิตของพวกเราช่างน่าเศร้านัก? ซิ่วเอ๋อให้เงินมา เหตุใดท่านแม่จึงต้องอยากได้?”
“มันไม่สำคัญหรอกหากว่านางจะปฏิบัติไม่ดีต่อข้า แต่ท่านเป็นลูกชายของนาง เหตุใดนางจึงยอมให้ท่านขนข้าวสาลีพวกนี้มากกว่าเช่าเกวียน? ปีที่แล้วนางบอกว่าครอบครัวลำบากและไม่มีเงิน ก็ไม่เป็นไร แต่ปีนี้… ไม่ต้องพูดว่าครอบครัวของเรามีเงินหรือไม่ นางเพียงรับทราบว่าจางซิ่วเอ๋อให้เงินมา แต่นางก็ยังไม่เต็มใจจะให้ท่านเช่าเกวียน?” น้ำเสียงของแม่โจวเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและโกรธเคือง
……………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จะหวังได้ไหมหนอว่าขอให้ต้าหูฉลาดขึ้น เลิกกินหญ้าแล้วหันมากินข้าวกับเขาบ้าง
ไหหม่า(海馬)