ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 366 โอหัง
ตอนที่ 366 โอหัง
“เจ้ายังมีเหตุผลอยู่หรือไม่? ข้าเห็นอยู่ว่าเจ้ามาที่นี่เพื่อใส่ร้ายพวกข้าโดยเจตนา!” จางชุนเถากล่าวคำอย่างโกรธเคือง
“ดูสิ หลานชายของข้าต้องเป็นเช่นนี้! พวกเจ้ายังไม่คิดรับผิดชอบงั้นหรือ?” หญิงชราโน้มตัวไปด้านหน้าพร้อมกับอุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขน
ในเวลานี้ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ไม่ต้องการซื้อพะโล้แล้ว และยังมีคนอื่น ๆ มุงกรูกันเข้ามาเพื่อรับชมความสนุกมากขึ้น
“ใช่ หน้าตาเจ้าดูคุ้นไม่น้อย ทำไมข้ารู้สึกว่าหน้าเจ้าเหมือนคนขายเนื้อปรุงสุกทางตะวันตกของเมืองเลยล่ะ?” ใครบางคนอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น
เมื่อจางซิ่วเอ๋อได้ยินเช่นนั้น นางจึงตระหนักได้ถึงความจริงทันที
บนโลกใบนี้ไม่มีใครสามารถเกลียดชังผู้ใดได้โดยไร้เหตุผล
มีลูกค้ามากมายมาซื้อพะโล้ที่นี่ หากไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ พวกเขาก็คงไม่มายั่วยุถึงที่โดยไร้เหตุผลแน่
ชายร่างใหญ่และหญิงชรามาสร้างความเดือดร้อนทีละคน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการสร้างปัญหา
เนื่องจากทั้งสองเป็นคู่แข่งทางการค้า จึงไม่แปลกใจเลยที่จะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
หลังจากที่จางซิ่วเอ๋อรู้ว่าบุคคลตรงหน้าเป็นใคร นางก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา
การรับรู้ตัวตนของอีกฝ่าย ย่อมดีกว่าไม่รู้เสมอ
หลังจากทราบตัวตนของบุคคลตรงหน้าแล้ว จางซิ่วเอ๋อไม่สงสัยเลยว่าเกิดปัญหาใดขึ้นกับพะโล้ของนาง
“ครอบครัวเจ้าก็ขายเนื้อปรุงสุก แล้วเหตุใดจึงต้องมาหาข้าเพื่อซื้อเนื้อด้วย? มีอะไรที่ยังไม่ได้บอกกล่าวหรือไม่? ข้ารู้สึกว่าพวกเจ้าตั้งใจจะมาสร้างปัญหาที่นี่จริง ๆ” จางซิ่วเอ๋อกล่าวเย้ยหยัน
ชายร่างกำยำพูดอย่างโกรธเคือง “แล้วผู้ใดกำหนดว่าคนขายเนื้อสุกไม่สามารถซื้อเนื้อผู้อื่นได้? ข้าก็เพียงอยากลองชิมเนื้อพะโล้ของเจ้า แล้วมันผิดอะไรเล่า?”
เขาเริ่มโวยวายอย่างไม่มีเหตุผล
ในเวลานี้ มีคนกระซิบถึงที่มาที่ไปของชายร่างใหญ่คนนี้แล้ว
จางซิ่วเอ๋อตระหนักถึงความจริงได้จากคำพูดที่ไม่ประติดประต่อของฝูงชน
ชายร่างใหญ่คนนี้สกุลฟู่ และชื่อของเขาคือ ฟู่ต้าเตา หญิงชราในชุดซอมซ่อนั้นคือแม่เฒ่าสวีมารดาของเขา ส่วนเด็กที่อยู่ในอ้อมแขนของนางชื่อเสี่ยวโต้วติง
ส่วนคนอื่น ๆ น่าจะเป็นญาติและสหายร่วมวงสุรานารีของชายผู้นั้น
“ฟู่ต้าเตาใช่หรือไม่? เจ้าก็เห็นอยู่ว่าลูกชายเจ้าเป็นเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องพาเขามาหาข้าเลย มิสู้พาเขาไปหาหมอเพื่อตรวจดูอาการเสียจะดีกว่า” จางซิ่วเอ๋อชี้ไปที่โต้วติงตัวน้อยก่อนจะกล่าวคำ
เด็กตัวแค่นี้ไม่สามารถแสร้งทำเป็นป่วยหนักได้ จางซิ่วเอ๋อมองเพียงปราดเดียวก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเด็กชายคนนี้
ถึงอย่างไรแล้วหมูพะโล้ของนางย่อมไม่ทำให้เด็กคนนี้ถึงแก่ชีวิตแน่นอน
หรืออาจเป็นเพราะว่าเด็กคนนี้ป่วยอยู่แล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้… คือเหตุผลเดียวที่เหลืออยู่
เพื่อที่จะขับไล่นางออกไป ฟู่ต้าเตาและแม่เฒ่าสวีไม่ลังเลเลยที่จะใช้ประโยชน์จากเด็กคนนี้
จางซิ่วเอ๋อมองดูเด็กน้อยและรู้สึกว่าเขาตัวเล็ก ผอมแห้งยิ่งนัก
อีกทั้งรูปลักษณ์ต่าง ๆ ยังไม่เหมือนกับฟู่ต้าเตาและแม่เฒ่าสวีอีกด้วย แม้ว่าทั้งแม่และลูกชายจะดูดุร้าย แต่ก็แข็งแรง ไม่ผ่ายผอม ร่างกายของทั้งสองนี้ดูราวกับบุคคลที่กินดีอยู่ดี
อีกทั้งครอบครัวยังขายเนื้อปรุงสุกด้วย อย่างน้อยก็ย่อมไม่มีปัญหาหากจะกินเนื้อและน้ำแกง
คนเหล่านี้ย่อมไม่ขาดแคลนอาหาร
แต่โต้วติงคนนี้กลับผ่ายผอมยิ่งนักเมื่อเทียบกับพ่อและย่าของเขา เด็กชายดูผอมเกินไป จางซิ่วเอ๋อจึงคาดเดาว่าเด็กคนนี้คงจะป่วยมาตั้งแต่เด็ก
เป็นเพราะภาพตรงหน้าชัดเจนเกินไป ทำให้เหตุผลทุกสิ่งถูกต้องได้ด้วยตัวมันเอง
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว จางซิ่วเอ๋อรู้สึกลำบากใจ
หากลูกของเจ้าป่วยมาตั้งแต่เด็ก เจ้าก็เพียงหาหมอสักคนมาตรวจดูอาการ
หากไม่ให้หมอตรวจสอบอาการแล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกชายป่วย ไม่จบไม่สิ้น สองแม่ลูกคู่นี้ยังแบกถังอุจจาระไว้กับตัว
เมื่อฟู่ต้าเตาได้ยินที่จางซิ่วเอ๋อกล่าว ใบหน้าพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา “เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน! รีบจ่ายเงินมาซะ! จากนั้นสาบานว่าเจ้าจะออกไปจากเมืองชิงสือและห้ามมาขายพะโล้ที่นี่อีก”
จางซิ่วเอ๋อหรี่ตาลง “ในที่สุดเจ้าก็เปิดเผยจุดประสงค์ที่แท้จริงออกมาแล้ว”
การกรรโชกทรัพย์เป็นเพียงกำไร แต่จุดประสงค์หลักคือการขับไล่นางออกจากเมืองชิงสือ
จากนั้นก็จะไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเทียมกับร้านของเขาได้อีก
เมื่อรู้ความจริงแล้ว จางซิ่วเอ๋อรู้สึกขยะแขยงชายตรงหน้าไม่น้อย เขาช่างไร้ยางอายยิ่งนัก
“ข้าไม่มีจุดประสงค์ใดทั้งนั้น! เจ้าเป็นคนทำให้แม่และลูกชายข้าเป็นเช่นนี้ เจ้าจึงต้องมีคำอธิบายให้ข้า!” ฟู่ต้าเตาสบถด้วยความโกรธ
จางซิ่วเอ๋อตอบโต้ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “หากคิดบีบบังคับข้า เช่นนั้นบอกให้ทราบ ว่าเจ้าเล่นผิดคนแล้ว!”
จางซิ่วเอ๋อไม่อาจเผยความอ่อนแอได้ในยามนี้
หากวันนี้นางอ่อนแอ แล้วในอนาคตนางจะทำการค้าในเมืองชิงสือได้อย่างไร? ไม่ใช่แค่พะโล้ ต่อให้ขายอย่างอื่น ก็จะโดนกลั่นแกล้งไม่ใช่หรือ?
ในการเป็นมนุษย์ จำเป็นต้องมีบรรทัดฐานของตนเอง และสิ่งสำคัญของจางซิ่วเอ๋อคือนางจะไม่มีวันยอมแพ้
“เจ้ายังคิดปากแข็งอีก! พี่น้องข้า! จัดการ! ทุบร้านมันทิ้งซะ!” ฟู่ต้าเตาตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
เมื่อกล่าวจบ พวกเขาวิ่งตรงเข้าไปที่หม้อของจางซิ่วเอ๋อและเริ่มทุบตีเตะต่อย
จางซิ่วเอ๋อตื่นตระหนกและรีบดึงจางชุนเถาออกไปทันที
นางยกแขนเสื้อขึ้นเพื่อปิดกั้น น้ำแกงร้อนสาดกระเซ็นโดนแขนของจางซิ่วเอ๋อ ตอนนี้เองที่จางซิ่วเอ๋อเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
จางซิ่วเอ๋อกัดฟันแน่นพร้อมกล่าวอย่างโกรธเคือง “ไปตามหมอมาเพื่อตรวจสอบให้ชัดเจน หากเจ้าไม่เรียกหมอ แสดงว่าเจ้าย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าเกิดสิ่งใดขึ้น และหากให้ข้าพูด ข้าก็จะกล่าวว่าอาการเจ็บป่วยของพวกเจ้าเป็นเพียงการเสแสร้ง! ตอนนี้เจ้ายั่วยุข้ามากเกินไป เราต้องไปที่สำนักปกครองเพื่อพูดคุยเรื่องนี้!”
“ข้าบอกว่าลูกชายและแม่ของข้าถูกเจ้าทำร้าย สาเหตุมันมาจากเจ้า!” ชายร่างใหญ่ยังไม่ยอมหยุด
จางซิ่วเอ๋อกล่าวเย้ยหยัน “เจ้าไม่มีสิทธิ์ตัดสินเรื่องนี้! มันคือสิ่งที่หมอและผู้พิพากษามีสิทธิ์ตัดสิน!”
“ชุนเถา เจ้าไปตามหมอมา” จางซิ่วเอ๋อพูดขึ้น
จางชุนเถามองจางซิ่วเอ๋ออย่างทุกข์ใจและพูดว่า “พี่หญิง ท่านจะอยู่ที่นี่คนเดียวหรือ?”
“ไม่ต้องกังวล” จางซิ่วเอ๋อกล่าวเสียงต่ำ
เมื่อเห็นว่าจางชุนเถากำลังจะไปตามหมอมา สีหน้าของฟู่ต้าเตาก็ผิดปกติเล็กน้อย เขาแสดงออกว่าตนมีสิ่งใดปิดบังไว้ เช่นนี้จึงรีบตะโกนอย่างโกรธเคือง “เร็วเข้า หยุดนังสารเลวนั่นไว้!”
จางชุนเถาไม่คิดยอมแพ้ นางหยิบมีดทำครัวขึ้นมา…
หลังจากติดตามจางซิ่วเอ๋อมานาน จางชุนเถาก็เริ่มเลียนแบบพฤติกรรมของจางซิ่วเอ๋อได้
ในตอนนี้ จางชุนเถากล่าวคำพร้อมดวงตาแดงก่ำ “ถ้าพวกเจ้ากล้าที่จะหยุดข้า ข้าจะสับผู้ใดก็ได้!”
เมื่อกล่าวจบ จางชุนเถาโบกมีดทำครัวในมือไปมาอย่างไร้ท่วงท่า
จางซิ่วเอ๋อรีบพุ่งมาและหยุดชายร่างใหญ่ที่ต้องการจับตัวจางชุนเถาเอาไว้
“ปล่อยมือสกปรกของเจ้าเดี๋ยวนี้!” มีคนคว้าจางซิ่วเอ๋อเอาไว้ ทำให้จางซิ่วเอ๋อตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
ขณะที่จางซิ่วเอ๋อตะโกน นางก็ก้มศีรษะลงพร้อมกัดมือใหญ่นั้น
จางชุนเถาจึงใช้จังหวะชุลมุนนี้เพื่อวิ่งหนีออกไปจากฝูงชน
“ชุนเถา ไปที่โรงเตี๊ยมอิ๋งเค่อจวีก่อน!” จางซิ่วเอ๋อรู้ดีว่าคนเดียวที่สามารถช่วยเหลือนางได้ไม่ใช่หมอ แต่เป็นเถ้าแก่ของโรงเตี๊ยมอิ๋งเค่อจวี
เมื่อครู่นางกำลังโกรธจัด จึงลืมคิดถึงเถ้าแก่เฉียนไปเสียสนิท
มิฉะนั้นแม้ว่าหมอจะมาถึงที่นี่ แต่บางทีหมออาจจะไม่กล้ากล่าวอะไรเพราะเกรงกลัวชายร่างใหญ่คนนี้
……………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ตามเถ้าแก่มาเร็ว ๆ นะชุนเถา เอาใจช่วยจ้า
ไหหม่า(海馬)