ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 368 โรงเตี๊ยมอิ๋งเค่อจวีออกโรง
ตอนที่ 368 โรงเตี๊ยมอิ๋งเค่อจวีออกโรง
จางซิ่วเอ๋อรู้จักทั้งสองคนนี้ พวกเขาเป็นเสี่ยวเอ้อของโรงเตี๊ยมอิ๋งเค่อจวี
“แม่นางซิ่วเอ๋อไม่ต้องกังวล เถ้าแก่กำลังจะมาที่นี่ ด้วยการสนับสนุนจากพวกเรา แม่นางจะไม่เป็นไร!” หน นึ่งในสองคนนั้นกล่าวคำ
หัวใจของจางซิ่วเอ๋อรู้สึกมั่นใจขึ้น ตอนนี้มีคนมาช่วยนางแล้ว นางจึงค่อนข้างผ่อนคลาย
ด้วยทราบว่าแม้นางจะกล้าหาญสักเพียงใด แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฟู่ต้าเตาและคนอื่น ๆ เพียงลำพัง นาง งก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกรงกลัวอยู่ในใจ
เพราะคนดั่งเช่นฟู่ต้าเตา มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าเขาไร้เหตุผล ชอบใช้กำลัง และดุร้าย
จางซิ่วเอ๋อไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคนของอิ๋งเค่อจวีมาช้ากว่านี้
ทุกคนถึงกับตกตะลึงเมื่อเสี่ยวเอ้อสองคนจากอิ๋งเค่อจวีมาที่นี่
ทั้งหมดต่างซุบซิบกันเงียบ ๆ
“สวรรค์! ข้านึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเด็กสาวในหมู่บ้านเช่นนี้จะรู้จักคนในอิ๋งเค่อจวีจริง ๆ”
“ใช่ ข้าก็ไม่คาดหวัง ดูเหมือนว่าฟู่ต้าเตาจะพบเจอโชคร้ายเสียแล้ว”
“นี่ เจ้ารู้หรือไม่ ในความคิดของข้า ต่อให้คนจากอิ๋งเค่อจวีมา ฟู่ต้าเตาก็ไม่คิดเกรงกลัว!”
ฟู่ต้าเตาเหลือบมองชายหนุ่มสองคนที่กล่าวคำเหล่านั้นด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “นี่เป็นเรื่องระหว่างข้ากับ นาง ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไสหัวออกไปซะ!”
ชายหนุ่มคนหนึ่งยืดตัวขึ้นพร้อมกล่าวอย่างโกรธเคือง “ข้าถามว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไรอยู่? ข้าบอกเ เจ้าแล้วใช่หรือไม่ว่าเราสองคนจะปกป้องแม่นางซิ่วเอ๋อ!”
ชายคนนี้รู้ดีว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นคนสำคัญของอิ๋งเค่อจวี
เถ้าแก่เฉียนเคารพจางซิ่วเอ๋อมาก หากเขาสามารถแสดงความปกป้องนางในคราวนี้ แล้วจางซิ่วเอ๋อพูดกล่าวถ ถึงเขาอย่างดีสักสองสามคำต่อเถ้าแก่เฉียน เขาก็ย่อมมีอนาคตที่สดใสใช่หรือไม่?
นอกจากนั้น เดี๋ยวเถ้าแก่ก็จะมาที่นี่แล้ว ดังนั้นเถ้าแก่ควรได้เห็นว่าเขากระตือรือร้นมากแค่ไหน
“เด็กน้อยยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม อย่าคิดว่าจะท้าทายข้าได้เพียงแค่รู้จักสุนัขสองสามตัวในอิ๋งเค่อจวี ถึงเถ้าแก่เฉียนจะมาด้วยตนเอง ข้าก็ไม่มีวันปล่อยเจ้าไป” ฟู่ต้าเตากล่าวอย่างดูแคลน
เป็นเพราะการเคลื่อนไหวของเถ้าแก่เฉียนนั้นเชื่องช้า ฟู่ต้าเตาจึงยังไม่ได้พบกับเถ้าแก่เฉียนในเวลานี
ดังนั้นเขาจึงคิดว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นเพียงนางจิ้งจอกที่หลอกใช้ชื่อของเถ้าแก่เฉียนเพื่อสร้างเรื่องร ราว!
เถ้าแก่เฉียนโผล่มาจากด้านหลัง เขากล่าวประโยคยาวออกด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก “วาจาใหญ่โตสามหาวเสียจริง ! ข้าล่ะนึกอยากเห็นนัก ว่าผู้ใดมันกล้าวุ่นวายที่นี่!”
“เถ้าแก่เฉียนมาถึงแล้ว!” ใครคนหนึ่งอุทานออกมา
ผู้รับชมทั้งหมดพลันคึกครื้นอย่างตื่นเต้นที่จะได้ดูการแสดงของเถ้าแก่เฉียนต่อสู้กับฟู่ต้าเตา
ฟู่ต้าเตาเงยหน้าขึ้นมองเถ้าแก่เฉียน สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างไม่น่ารับชมเท่าใดนัก
การบังเอิญมีเรื่องกับเถ้าแก่เฉียน นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดจริง ๆ
“เถ้าแก่เฉียน” จางซิ่วเอ๋อมองแผ่นหลังของเถ้าแก่เฉียน
เถ้าแก่เฉียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ชุนเถากำลังไปตามหมอกับคนของข้าแล้ว นางจะปลอดภัย”
จางซิ่วเอ๋อถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ก่อนจะโค้งคำนับให้เถ้าแก่เฉียน “ขอบคุณท่านแล้ว”
“ระหว่างเราไม่มีอะไรต้องสุภาพนักหรอก” เถ้าแก่เถียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในสายตาของเถ้าแก่เฉียน จางซิ่วเอ๋อคือเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งของตน เพียงแค่การช่วยเหลือเทพเจ้าแห่ งความมั่งคั่งองค์นี้ ทุกสิ่งย่อมไม่สูญเปล่าแน่นอน
การจัดการกับนักเลงอย่างฟู่ต้าเตาเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
“เจ้าคือฟู่ต้าเตางั้นหรือ?” เถ้าแก่เฉียนหรี่ตามองด้วยใบหน้าไม่แยแสและเย่อหยิ่ง
ฟู่ต้าเตาเงยหน้าขึ้น “ข้านามว่าฟู่ต้าเตา! นี่มันอะไรกัน? ท่านต้องการอยู่ฝ่ายเดียวกับนังแม่ม่า ายตัวน้อยผู้นี้หรือ? ไม่คิดเลยว่าเถ้าแก่แห่งอิ๋งเค่อจวีจะมีสัมพันธ์กับแม่ม่ายตัวน้อยอย่างจางซิ่ วเอ๋อได้!”
“เจ้าหยุดกล่าววาจาสกปรกเสีย! เถ้าแก่ของข้าเป็นดุจดั่งอาวุโสของแม่นางซิ่วเอ๋อ ย่อมไม่ผิดหากเขาจ จะปกป้องแม่นางซิ่วเอ๋อ” เสี่ยวเอ้อคนหนึ่งกล่าวขึ้นอย่างอดไม่ได้
แน่นอนว่าธุระระหว่างอิ๋งเค่อจวีและจางซิ่วเอ๋อนั้น เหล่าคนรับใช้ย่อมไม่รู้เรื่อง
ถึงรู้ก็ไม่อาจพูดกล่าวออกมาได้
ตอนนี้ไม่มีใครเข้าใจความสัมพันธ์ของจางซิ่วเอ๋อกับเถ้าแก่เฉียนว่าคือสิ่งใด พวกเขารู้ดีว่าตอนนี้ห้ ามผู้ใดใส่ร้ายเถ้าแก่ของตนเด็ดขาด เช่นนี้จึงมีถ้อยคำเหล่านั้นโต้กลับไป
เถ้าแก่เฉียนมองไปที่เสี่ยวเอ้อตัวน้อยอย่างพึงพอใจ “เอ้อเป่า กล่าวได้ดี”
เอ้อเป่าผู้นี้ได้รับคำชม เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และรู้สึกว่าต่อให้ต้องตายแทนเถ้าแก่เฉียนก ก็ไม่เสียดายชีวิต
เอ้อเป่ามองฟู่ต้าเตาอย่างมีโทสะและพูดว่า “ข้าขอบอกเจ้า ในเมื่ออิ๋งเค่อจวีของเราเข้ามามีส่วนร่ว วมกับเรื่องในวันนี้แล้ว หยุดคิดที่จะรังแกแม่นางซิ่วเอ๋อซะ!”
ถ้อยคำบางอย่างก็ไม่เหมาะสมหากเถ้าแก่เฉียนจะเป็นคนพูดกล่าว
ในเวลานี้ สิ่งที่เอ้อเป่ากล่าวออกไปนั้นถูกต้องแล้ว
“ข้าจะบอกอะไรให้ เพียงแค่มาจากอิ๋งเค่อจวีอย่าได้คิดว่ายิ่งใหญ่ แม้ว่าจะมีคนจากสำนักปกครองมา ข้า ก็ยังคิดจะจัดการกับจางซิ่วเอ๋อเช่นเดิม! นางทำให้แม่และบุตรของข้าต้องเป็นเช่นนี้! แล้วข้าจะไม่ สามารถเรียกค่าเสียหายจากนางได้หรือไร?” ฟู่ต้าเตากล่าวอย่างเดือดดาล
เอ้อเป่าเหลือบมองหญิงชราชุดครามพร้อมกับหันมองเด็กด้านข้าง
จากนั้นเขาจึงแค่นเสียงกล่าวเย้ยหยัน “แม่นางซิ่วเอ๋อผู้นี้ไม่ใช่คนในเมืองชิงสือ นางคงจะไม่ทราบ แต ต่ข้าทราบทุกสิ่งชัดเจน เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเจ้า ช่างไร้ยางอายนัก เพียงเพื่อจัดการกับแม่นางซิ่วเ เอ๋อ เจ้าถึงกับกล้าลงมือทำร้ายลูกเลี้ยงของตนเอง!”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น “เจ้าว่าอะไรนะ? นี่ไม่ใช่ลูกชายของเขางั้นหร รือ?”
“แม่นางซิ่วเอ๋อคงไม่ทราบ หลังจากที่ภรรยาของฟู่ต้าเตาตายตกไป เขาก็ออกมาอาศัยอยู่กับหญิงม่ายผู้ หนึ่ง ซึ่งเด็กคนนี้เป็นลูกติดของหญิงม่ายผู้นั้น” เอ้อเป่ากล่าวเสียงต่ำ
จางซิ่วเอ๋อจึงเข้าใจได้ทันทีว่าเหตุใดเด็กชายคนนี้จึงผอมและอ่อนแรงนัก
พูดถึงแม่เฒ่าสวีและฟู่ต้าเตาแล้ว พวกเขาดูแข็งแรงมาก
เพราะไม่ใช่ลูกของเขานี่เอง เขาจึงกล้าละเลย ต่อให้เด็กคนนี้จะตายหรือยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่มีใครคิด ดสนใจเรื่องนี้
จางซิ่วเอ๋อมองเด็กคนนั้นอย่างเห็นใจ รู้สึกสงสารเด็กชายไม่น้อย
ขณะพูดกล่าวเช่นนั้น จางชุนเถาก็กลับมาถึง
นางพาชายชราผมขาวกลับมาด้วย
“ท่านผู้เฒ่า รีบดูอาการลูกชายข้าที! ดูหน่อยเถิดว่าลูกชายข้าถูกพิษจากการกินพะโล้หรือไม่! แล้ว วก็ระวังคำพูดให้ดี! คิดให้ถี่ถ้วนว่าตนเองเป็นใครก่อนจะพูดกล่าวอะไรออกมา ระวังว่าศีรษะจะหลุดจา ากบ่าแล้วถูกนำไปใช้เตะในสนาม!” ฟู่ต้าเตากล่าวขู่
ชายชราผมขาวถึงกับตื่นตระหนก
ในเวลานี้ จางซิ่วเอ๋อกล่าวคำด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ท่านผู้เฒ่า เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้ คนผู้นั้นบอก กว่าเด็กชายคนนี้ต้องเจ็บป่วยเพราะกินเนื้อจากร้านของข้า แต่มีหลายคนในที่นี่ก็เคยกินเนื้อจากร้าน นข้าเช่นกัน แล้วข้าก็ยังกินพะโล้หม้อนี้ต่อหน้าทุกคน แต่ก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น…”
“ชายผู้นี้ก็ขายเนื้อปรุงสุกเช่นกัน ข้าไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีการใดทำร้ายลูกเลี้ยงของตน แล้วพยายาม มใช้เขาเพื่อขับไล่ข้าออกไป” จางซิ่วเอ๋ออธิบายเหตุการณ์ด้วยคำพูดที่รวบรัด
ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันและน้ำส้มสายชูลงไป ตราบใดที่คำพูดเป็นความจริง ผู้คนที่รับชมย่อมเห็นใจจางซิ่ว วเอ๋อ
เถ้าแก่เฉียนกล่าวขึ้นบ้างในเวลานี้ “ท่านผู้เฒ่า”
……………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เอาล่ะ เถ้าแก่มาแล้ว หมอก็มาแล้ว ทีนี้จะแก้ตัวยังไง
ไหหม่า(海馬)