ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 372 ผู้ใดรังแกเจ้า
ตอนที่ 372 ผู้ใดรังแกเจ้า
มันเป็นพื้นที่บริเวณแขนจุดเล็ก ๆ เท่านั้น จางซิ่วเอ๋อจะระวังตัวเองตลอดเวลาได้อย่างไร
หากเป็นยามปกติ นางอาจจะยังคิดเรื่องนี้อยู่ ทว่าเวลานี้นางมีอาการจิตใจเหม่อลอยอยู่บ้าง
แขนของนางถูกลวกจนเป็นสีแดงและมีแผลพุพองอยู่หลายแผล
เมื่อจางซิ่วเอ๋ออยู่ข้างนอก มันไม่ค่อยสะดวกในการดูนัก แต่เมื่อเห็นมัน ทั้งยังถูกลมพัดใส่ จางซิ่วเอ๋อก็อ อดร้องออกมาไม่ได้
นางบ่นพึมพำออกมาหนึ่งประโยค “เจ็บจริง ๆ”
เมื่อเนี่ยหย่วนเฉียวเห็นเหตุการณ์นี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยและรีบเดินเข้ามา เขาคว้ามือของจางซิ่วเอ๋อเอ อาไว้ “เกิดอะไรขึ้น?”
จางซิวเอ๋อตะลึงงัน และมองเนี่ยหย่วนเฉียวด้วยสีหน้าแปลก ๆ
เนี่ยหย่วนเฉียวเองดูเหมือนจะสังเกตเห็นว่าปฏิกิริยาของตนค่อนข้างรุนแรง จึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาแสร้งทําเป็น นไม่มีอะไรเกิดขึ้นและปล่อยมือของจางซิ่วเอ๋อ
“ข้าหมายถึง… เกิดอะไรขึ้นกับมือของเจ้า?” เนี่ยหย่วนเฉียวกล่าวซ้ำอีกครั้ง
ยังไม่ทันที่จางซิ่วเอ๋อกล่าวอะไร จางชุนเถาที่มีไฟแค้นสุมเต็มทรวงก็พูดขึ้นอย่างโกรธเคือง “พวกท่านไม่รู้หรอ กว่าวันนี้ข้ากับพี่หญิงโชคร้ายเพียงใด พวกเราเจอคนบ้าในเมือง! เจ้าคนบ้านั่นเตะหม้อของเรา และพี่หญิงของข้ าก็ได้รับบาดเจ็บเพื่อปกป้องข้า”
กล่าวถึงตรงนี้ จางชุนเถาก็ตาแดงก่ำ “พี่หญิง ท่านเจ็บหรือไม่?”
ตอนนั้นยังไม่เห็นบาดแผลของจางซิ่วเอ๋อ จางซุนเถาจึงไม่คิดว่าจางซิ่วเอ๋อจะได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้
เนี่ยหย่วนเฉียวมองแล้วพูดกับเถี่ยเสวียน “ไปซื้อยารักษาแผลไฟไหม้”
เถี่ยเสวียนพยักหน้าแล้วกล่าว “ขอรับ”
จางซิ่วเอ๋อจึงรีบพูด “ไม่ร้ายแรงหรอก อย่าลำบากเลย”
เนี่ยหย่วนเฉียวขมวดคิ้ว “ร้ายแรงมาก”
“ไม่ร้ายแรง” จางซิ่วเอ๋อมองไปยังบาดแผลที่แขนของนางแล้วพูด
แม้จะมีตุ่มพุพองเล็ก ๆ น้อย ๆ ทว่าไม่รุนแรงมากนัก ไม่กี่วันก็ดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ หากร้ายแ แรงมากนางคงสังเกตเห็นไปแล้ว
แต่แผลไหม้นี้ ไม่ว่าจะร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรงก็เจ็บมากจริง ๆ
เนี่ยหย่วนเฉียวเหลือบมองเถี่ยเสวียนแวบหนึ่ง
เถี่ยเสวียนเข้าใจในทันที เขามองไปยังท้องฟ้าแล้วกล่าว “วันนี้อากาศไม่เลว เช่นนั้นข้าจะออกไปพักผ่อน”
ขณะพูด เถี่ยเสวียนก็หายตัวไปไม่เหลือแม้กระทั่งเงา
จางซิ่วเอ๋อรู้ว่าเถี่ยเสวียนไปทําอะไร นางจึงกล่าวอย่างเขินอายเล็กน้อย “นี่มันยุ่งยากเกินไปแล้ว”
“เจ้ายังไม่ได้บอกข้าเลยว่าผู้ใดเป็นคนรังแกเจ้า” เนี่ยหย่วนเฉียวถามเสียงเข้ม
เขาไม่สนใจคําพูดที่จางซิ่วเอ๋อกล่าวเมื่อครู่ เพียงแค่อยากรู้ว่าผู้ใดทําให้จางซิ่วเอ๋อได้รับบาดเจ็บ!
เมื่อเห็นท่าทางที่แน่วแน่ของเนี่ยหย่วนเฉียว จางซิวเอ๋อก็เม้มปาก “ข้าจัดการเองได้”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าจากพฤติกรรมของเนี่ยหย่วนเฉียวในอดีตที่ผ่านมา เนี่ยหย่วนเฉียวมีโอกาสสูงมากที่จะออกหน้าแ แทนนาง
แม้ว่านางจะอยากแก้แค้น แต่ก็มักจะรบกวนเนี่ยหย่วนเฉียวอยู่เสมอ ในใจนางจึงรู้สึกไม่คุ้นชินอยู่บ้าง
“ชุนเถา เจ้าพูดมา” เมื่อเห็นว่าจางซิ่วเอ๋อไม่ตอบตน เนี่ยหย่วนเฉียวจึงจ้องมองไปยังจางชุนเถา
จางชุนเถารู้สึกถึงบรรยากาศแปลก ๆ นางจึงมองไปที่จางซิ่วเอ๋อ
จางซิ่วเอ๋อส่งสายตาให้จางชุนเถา
จางขุนเถาขยับริมฝีปากด้วยความลังเลเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นาน จางชุนเถาก็พูดขึ้น “พี่ใหญ่หนิงอัน ให้พี่หญิงเป็นคนบอกท่านเถอะ!”
แม้ว่านางจะรู้สึกว่าหนิงอันเป็นห่วงพี่สาวของนาง ทว่า… ในเมื่อพี่สาวไม่อยากให้ตัวเองพูด เช่นนั้นตนก็อย่า าพูดเลยดีกว่า
แม้ว่าพี่ใหญ่หนิงอันจะเป็นคนสนิทและดีกับนาง แต่เป็นพี่สาวต่างหากที่สนิทสนมกัน
หากต้องเลือกระหว่างพี่ใหญ่หนิงอันกับพี่สาว นางจะไม่ลังเลที่จะยืนเคียงข้างพี่สาวของนาง
จางซิ่วเอ๋อมองจางชุนเถาด้วยความพึงพอใจ ตนไม่เคยนึกเสียใจกับเด็กสาวผู้นี้เลย
เนี่ยหย่วนเฉียวรู้ว่าการลงมือกับจางชุนเถานั้นเป็นไปไม่ได้ จึงได้แต่มองจางซิ่วเอ๋อเท่านั้น
แต่จางซิ่วเอ๋อคือใครกัน จะสามารถพูดในสิ่งที่ไม่ต้องการพูดเพราะสายตาของเนี่ยหย่วนเฉียวได้อย่างไร?
จางซิ่วเอ๋อล้างแขนของนางอย่างเรียบร้อยและกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
เนี่ยหย่วนเฉียวยืนอยู่คนเดียวในลานบ้าน สีหน้าฉายแววผิดหวัง
เขาแค่อยากทำดีกับจางซิ่วเอ๋อ แต่จางซิ่วเอ๋อกลับหลีกเลี่ยงความดีของเขาเสมอ นี่ทําให้เนี่ยหย่วนเฉียวรู้สึกข ขมขื่นในใจเล็กน้อย
มันเป็นรสชาติที่แปลกประหลาดมาก เขาไม่เคยลิ้มรสมันมาก่อน
ในตอนนั้นเอง เถี่ยเสวียนก็เดินกลับมาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
เนี่ยหย่วนเฉียวชําเลืองมองเถี่ยเสวียนแวบหนึ่ง “ไม่ใช่ว่าให้เจ้าไปซื้อยาหรอกหรือ? เหตุใดถึงกลับมาเร็วนัก?” หร รือว่าเจ้าเด็กนี่จะไม่ซื้อยาตามคําสั่งของเขา?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เนี่ยหย่วนเฉียวก็มีสีหน้าเย็นชา
เถี่ยเสวียนกล่าวเสียงต่ำ “นายท่าน ได้ยาแล้ว”
“ยาล่ะ?” เนี่ยหย่วนเฉียวถามด้วยความสงสัย
เถี่ยเสวียนชี้ไปยังทิศทางของประตูอย่างสำนึกผิด “มานี่แล้ว”
ระหว่างที่พูด ท่านหมอเมิ่งก็เดินเข้ามาจากนอกประตู
เสียงของเนี่ยหย่วนเฉียวหนักอึ้ง “เหตุใดเขาถึงมาที่นี่?”
เถี่ยเสวียนพูดอย่างรู้สึกผิด “นายท่าน ข้าบังเอิญเจอท่านหมอเมิ่งพอดี เขาถามข้าว่าออกไปทําอะไร ข้า… ข้า.. ..” เป็นเพราะความปากพล่อยของเขาที่พูดออกไป ฮือ ๆ คราวนี้เจ้านายจะโกรธหรือไม่?
เถี่ยเสวียนลูบลำคอของเขา แล้วรู้สึกได้ถึงลมเย็นที่พัดวูบขึ้นมา
เจ้านายจะไม่กระชากศีรษะของเขาออกมาเตะเป็นตะกร้อใช่ไหม?
ก่อนที่จะรอให้เนี่ยหย่วนเฉียวกล่าวอะไร จางซิ่วเอ๋อก็เดินออกมาจากห้อง “อะไรคือเขามาที่นี่ได้อย่างไร? เป็นเ เรื่องผิดปกติหรือที่ท่านหมอเมิ่งจะมาหาข้า?”
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จางซิ่วเอ๋อจึงรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยินเนี่ยหย่วนเฉียวกล่าวเมื่อครู่ แม้ว่าเนี่ยหย่วน เฉียวจะไม่ได้พูดอะไร แต่จากคําพูดของเนี่ยหย่วนเฉียว นางสัมผัสได้ถึงความเป็นศัตรูและไม่ต้อนรับ
หากคนผู้นี้เป็นคนอื่นก็ช่างมันเถิด
แต่นี่คือท่านหมอเมิ่ง!
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าท่านหมอเมิ่งดูแลตนเองและจางซิ่วเอ๋อคนเดิมเป็นอย่างดี เดิมทีนางจึงรู้สึกซาบซึ้งใจมาก
นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากข่าวลือเหล่านั้นในหมู่บ้าน จางซิ่วเอ๋อจึงรู้สึกว่านางมีส่วนที่ท ทำให้ท่านหมอเมิ่งเดือดร้อน จึงรู้สึกผิดต่อท่านหมอเมิ่งอยู่บ้าง
รอยยิ้มที่อ่อนโยนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของท่านหมอเมิ่ง “ได้ยินว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บ? ขอข้าดูหน่อย”
จางซิ่วเอ๋อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของท่านหมอเมิ่ง ก็นึกถึงสิ่งที่เขาพูดกับตัวเองครั้งล่าสุดในทันใด
สีหน้าของนางดูไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย แต่ผ่านไปครู่หนึ่ง นางเห็นท่านหมอเมิ่งแสดงสีหน้าสงบนิ่ง ในใจก็ถอนหายใจ จด้วยความโล่งอก
ในใจคิดว่าคงเป็นเพราะตนเองเข้าใจผิดอะไรบางอย่างเป็นแน่
ไม่ว่าอย่างไร เวลานี้นางก็ไม่อาจหลบเลี่ยงได้ ยิ่งหลบก็ยิ่งแปลก มิสู้ให้ท่านหมอเมิ่งตรวจดูตนเองอย่างสง่าผ่าเ เผยเสียดีกว่า!
จางซิ่วเอ๋อนั่งลงที่โต๊ะใต้ต้นหวายฉู่ พร้อมเลิกแขนเสื้อของนางขึ้น แล้วยื่นแขนของตนให้
ท่านหมอเมิ่งลดสายตาลงจากใบหน้าของนางก่อน จากนั้นจึงเอื้อมมือไปแตะแผลพุพองบนแขนของจางซิ่วเอ๋อ
…………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
กลิ่นน้ำส้มแรงมาก ไม่มีใครได้กลิ่นกันเลยเหรอคะ กลิ่นคลุ้งไปทั้งลานบ้านแล้วนะ
ไหหม่า(海馬)