ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 385 วิญญาณ
ตอนที่ 385 วิญญาณ
เฝิงซูเหวินโกรธจัดในขณะกล่าวเช่นนั้น เขาเชิดหน้าขึ้นอย่างจองหอง พร้อมจ้องมองลงมาที่จางซิ่วเอ๋ออย่างเย่อหยิ่ง
แต่เขากลับรู้สึกว่าจางซิ่วเอ๋อไม่ได้เห็นเป็นเรื่องจริงจังเลย!
จางซิ่วเอ๋อเอ่ยเย้ยหยัน “เฝิงซูเหวิน! จงรับชมเถิดว่าสิ่งนี้คืออะไร!”
เฝิงซูเหวินมองดูถุงผ้าในมือของจางซิ่วเอ๋อแล้วกล่าวอย่างดูถูก “อะไร?”
จางซิ่วเอ๋อเหลือบมองเฝิงซูเหวิน “หากเจ้ามีความกล้าที่จะทุบร้านของข้าหลังจากเห็นสิ่งนี้แล้ว เจ้าก็สามารถทุบมันได้! ข้าจะไม่พูดอะไรอีก! ถึงเวลานั้นจะมีคนไปจัดการเจ้าเอง!”
เฝิงซูเหวินเห็นจางซิ่วเอ๋อไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด กลับมีสีหน้ามั่นใจยิ่ง จึงเกิดข้อสงสัยเล็กน้อย ว่าแม่นางน้อยจางซิ่วเอ๋อคนนี้กำลังจะทำสิ่งใด?
“หยุดแสร้งทำตัวโง่เขลาเถิด! ไม่ว่าจะมีอะไรอยู่ในนั้น ข้าก็แน่ใจว่าร้านของเจ้าต้องพังแน่!” เฝิงซูเหวินกล่าวอย่างเย้ยหยัน
ในเวลานี้เอง จางซิ่วเอ๋อได้นำสิ่งของในถุงผ้าออกมา
สิ่งที่อยู่ข้างในย่อมไม่ใช่ของธรรมดาทั่วไป แต่เป็นป้ายวิญญาณของเนี่ยหย่วนเฉียว
จางซิ่วเอ๋อขยับป้ายไม้ไปด้านหน้าพร้อมกล่าวเย้ย “เฝิงซูเหวิน เจ้าต้องคุกเข่าและก้มหน้าเมื่อเห็นป้ายวิญญาณของนายน้อยตนหรือไม่?”
เฝิงซูเหวินผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นสิ่งนั้นในมือของจางซิ่วเอ๋อ แน่นอนว่าเขาไม่ได้คาดคิดว่าจางซิ่วเอ๋อจะนำสิ่งนี้มาด้วย
ในเวลานี้ ผู้รับชมทั้งหมดก็ประหลาดใจไม่น้อยเช่นกันเมื่อเห็นสิ่งนี้
แม้แต่คนที่ไม่รู้ความจริง ในเวลานี้พวกเขาก็เข้าใจถึงตัวตนของจางซิ่วเอ๋อจริง ๆ และใบหน้าของพวกเขาถึงกับเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด
การที่เฝิงซูเหวินสามารถอาละวาด เอาแต่ใจที่นี่ได้ ไม่ใช่เพิ่งทำได้วันสองวัน
ไม่เพียงแต่เฝิงซูเหวินเท่านั้น แต่ตระกูลเนี่ยจำนวนมากนั้นมีอำนาจเหนือกว่าภายนอก
ประกอบกับความจริงที่ว่าตระกูลเนี่ยมีเงิน ทำให้บางคนเกลียดชังคนรวย ในเวลานี้ทุกคนต่างดีใจเมื่อเห็นว่าจางซิ่วเอ๋อกล้าที่จะเผชิญหน้ากับตระกูลเนี่ยเช่นนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันทำให้ผู้คนรู้สึกว่านี่คือสงครามภายในของตระกูลเนี่ย พวกเขาทั้งหมดกำลังรับชมเรื่องตลกของตระกูลเนี่ยอยู่
ตอนนี้คนเริ่มหลั่งไหลเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ
“จางซิ่วเอ๋อ! เจ้าช่างบังอาจนัก กล้าดีอย่างไรจึงเปิดเผยป้ายวิญญาณของนายน้อยข้าสู่สาธารณะชน!” เฝิงซูเหวินกล่าวโทษนางทันที
จางซิ่วเอ๋อมองดูแผ่นไม้พร้อมกล่าวตอบ “นี่คือสามีของข้า ข้าจะไปที่ไหนกับป้ายวิญญาณของสามีที่ตายไปแล้วย่อมไม่ผิด แม้แต่ทวยเทพบนสวรรค์ก็ไม่อาจควบคุม แต่เจ้าเป็นเพียงคนรับใช้ตัวน้อย แล้วไปเอาความกล้าหาญเช่นนี้มาจากที่ใด?”
“ข้าคิดว่าเจ้าเพียงลอบสร้างแผ่นไม้นี้เป็นการส่วนตัว! ไม่มีใครในตระกูลเนี่ยจดจำเจ้า! หากคนในตระกูลเนี่ยยอมรับเจ้าแล้ว พวกเขาจะขับไล่เจ้าออกมาได้อย่างไร? เห็นได้ชัดว่าเจ้าคือคนบาปที่สังหารนายน้อยของข้า และตอนนี้เจ้าก็ยังใช้ป้ายวิญญาณของนายน้อยเพื่อหลอกลวงข้า!” เฝิงซูเหวินโต้กลับอย่างเยาะเย้ย
“ใครก็ได้! ทุบของทุกสิ่งของสาวน้อยผู้โง่เขลาคนนี้ที!” เฝิงซูเหวินตะโกนอย่างเย็นชา
“ข้าจะบอกอะไรให้ ต่อให้เจ้าจะมีอิ๋งเค่อจวีคอยสนับสนุน ข้าก็ไม่กลัว!” ในเวลานี้เองฟู่ต้าเตาได้เดินขึ้นมาจากด้านหลัง พร้อมแค่นเสียงเย็นชา
ในเวลานี้ต่างไม่มีใครสังเกตเห็นว่า ในมุมหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก มีคนสองคนยืนอยู่อย่างลับ ๆ
ทั้งสองคนนั้นคือเนี่ยหย่วนเฉียวและเถี่ยเสวียน
ดวงตาของเถี่ยเสวียนเป็นประกาย “เจ้านาย! มันคือไอ้สารเลวเฝิงซูเหวิน! มันคิดรังแกแม่นางซิ่วเอ๋อจริง ๆ!”
เนี่ยหย่วนเฉียวเหลือบมองเฝิงซูเหวินอย่างเย็นชา แววตาของเขาเต็มไปด้วยไอเยือกเย็นและจิตสังหารแรงกล้า
เขาไม่รู้ว่าเนี่ยหย่วนเฉียวได้ยินสิ่งที่เถี่ยเสวียนกล่าวเมื่อครู่หรือไม่ เนี่ยหย่วนเฉียวไม่ได้พูดอะไร เขาก้าวขาออกไปและตรงไปด้านหน้า
เถี่ยเสวียนตกใจทันทีที่ได้เห็นภาพนี้ เขายื่นมือออกไปคว้าเนี่ยหย่วนเฉียวเอาไว้
“เจ้านาย เจ้านาย ข้ารู้ว่าท่านต้องการสร้างความประทับใจให้แก่แม่นางซิ่วเอ๋อ แต่อย่าได้หุนหันพลันแล่นจะดีกว่า!” เถี่ยเสวียนกล่าวด้วยความประหม่า
เนี่ยหย่วนเฉียวก้มศีรษะลงมองเถี่ยเสวียน
เถี่ยเสวียนอธิบายอย่างเร่งรีบ “เจ้านาย แม้จะไม่มีใครเห็นท่านเมื่ออยู่ในตระกูลเนี่ย แต่รูปลักษณ์ปัจจุบันของท่านก็เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเพียงเล็กน้อย แต่… เฝิงซูเหวินคนพาคนในตระกูลเนี่ยทั้งหมดมา และเรื่องนี้เกี่ยวกับจางซิ่วเอ๋อ ข้าไม่ได้กลัวคนนับหมื่น แต่หากตระกูลเนี่ยรู้ว่าท่านยังมีชีวิตอยู่ มันจะเป็นปัญหาใหญ่”
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ เถี่ยเสวียนก็หยุดเล็กน้อย “อย่างน้อยเราก็ไม่ควรปรากฏตัวในเวลานี้ หากไม่มีการเตรียมการที่เพียงพอ มันอาจจะทำให้แม่นางซิ่วเอ๋อต้องลำบากเพราะตัวตนของท่าน”
ในตอนแรก เนี่ยหย่วนเฉียวยังคงขมวดคิ้วและไม่คิดฟังถ้อยคำของเถี่ยเสวียนอย่างจริงจัง
เนี่ยหย่วนเฉียวรู้สึกว่าชีวิตของเขานับตั้งแต่เกิดมา ดูเหมือนว่าจะไม่เคยมีช่วงเวลาใดที่เขาจะบันดาลโทสะได้มากเท่านี้มาก่อน
เขาต้องการออกไปยืนแทนที่ป้ายวิญญาณ และยืนอยู่ตรงหน้าจางซิ่วเอ๋อเพื่อปกป้องจางซิ่วเอ๋อในฐานะสามีของนาง
แรงกระตุ้นเช่นนี้ทำให้เนี่ยหย่วนเฉียวลืมคิดถึงผลที่ตามมา หากเขาเปิดเผยตัวตนออกไป
แต่เมื่อเนี่ยหย่วนเฉียวได้ยินเถี่ยเสวียนกล่าวว่า มันอาจส่งผลกระทบต่อจางซิ่วเอ๋อได้
ใบหน้าของเนี่ยหย่วนเฉียวจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่กลัวผลที่จะตามมา
แต่เขาไม่เต็มใจที่จะลากจางซิ่วเอ๋อเข้าสู่กระแสน้ำวนนี้
เมื่อเห็นว่าเนี่ยหย่วนเฉียวไม่รีบร้อนที่จะก้าวไปด้านหน้า เถี่ยเสวียนจึงค่อย ๆ ปล่อยมือที่จับแขนของเนี่ยหย่วนเฉียวออก
เขายกมือขึ้นปาดเหงื่อ ซึ่งตอนแรกเขาหวาดกลัวแทบตาย
เขากังวลมากว่าเจ้านายของตนจะพุ่งออกไป
“เจ้านาย หากท่านเชื่อใจข้า ท่านสามารถรอตรงนี้ก่อน แล้วข้าจะออกไปช่วยแม่นางซิ่วเอ๋อให้ท่านเอง” เถี่ยเสวียนไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวออกไป
เนี่ยหย่วนเฉียวขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง
เถี่ยเสวียนลอบตกตะลึง เจ้านายไม่ไว้ใจเขาเช่นนั้นหรือ?
ดังที่ทราบว่าในอดีตไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ เจ้านายก็จะสั่งให้เขาทำโดยไม่ลังเล แต่ตอนนี้เพียงแค่จัดการกับคนรับใช้ตระกูลเนี่ยเท่านั้น แต่เจ้านายกลับไม่เชื่อในตัวเขาเสียอย่างนั้น?
และในตอนนี้เอง
จางซิ่วเอ๋อยกป้ายวิญญาณในมือขึ้นพร้อมหัวเราะเบา ๆ “ข้าว่านะเฝิงซูเหวิน ฟู่ต้าเตาคงหาได้รู้เรื่องใดของตระกูลเนี่ยไม่ แต่ถ้าเป็นเจ้าก็พอจะรู้อะไรบ้างใช่หรือไม่?”
“เจ้าคิดว่าข้าเพิ่งจะสร้างป้ายวิญญาณนี้ขึ้นมาเช่นนั้นหรือ? ข้าจะบอกให้ว่านี่คือสิ่งที่คุณหนูรองของตระกูลเนี่ยสั่งให้ข้าสร้าง พวกเจ้าพูดว่าไม่มีใครในตระกูลเนี่ยรู้จักข้าว่าเป็นสะใภ้ของตระกูลเนี่ยหรือ? เช่นนั้นพวกเจ้าก็ลองไปถามคุณหนูรองเนี่ยในตอนนี้ก็ได้… อย่างไรก็ตาม คุณหนูรองเนี่ยบอกว่าให้ข้าเรียกนางว่าท่านป้า” จางซิ่วเอ๋อกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
จางซิ่วเอ๋อไม่เคยภูมิใจในความสัมพันธ์ระหว่างตนและตระกูลเนี่ยเลย
ใบหน้าที่เจ้าเล่ห์และแสนภาคภูมิใจนั้นเป็นเพียงเรื่องที่นางแสร้งทำ
นางจะทำอย่างไร หากนางไม่วางท่าหยิ่งทะนงและข่มขู่พวกเขากลับ นางก็ต้องแบกรับความเย่อหยิ่งจากคนเหล่านั้นฝ่ายเดียวอย่างนั้นหรือ?
ในอดีตนางไม่เต็มใจที่จะมีความสัมพันธ์กับตระกูลเนี่ย แต่ในวันนี้นางกล่าวเช่นนี้ต่อหน้าทุกคนเมื่อตนถูกกลั่นแกล้งอย่างรุนแรง
เนื่องจากเป็นสุนัขรับใช้ของตระกูลเนี่ยที่มาสร้างปัญหา นางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพึ่งพาตัวตนของตนเองในตระกูลเนี่ย
………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ยังไงต่อ ยังจะกล้าทุบร้านของซิ่วเอ๋ออยู่ไหมพวกบ้านี่
ไหหม่า(海馬)