ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 415 โทสะ
ตอนที่ 415 โทสะ
จางซิ่วเอ๋อเพียงกล่าวถึงความผิดบางสิ่ง ซึ่งความเข้าใจนี้ทำให้แม่เฒ่าจางไม่สามารถหาเหตุผลใดมาหักล้างได้
จางซิ่วเอ๋อรู้ว่ามันไร้ประโยชน์เลยหากคิดใช้เหตุผลกับคนเช่นแม่เฒ่าจาง
เพื่อจัดการกับเหล่าคนพาล จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการของคนพาลเช่นกัน
“จางต้าหู หลีกทางให้ข้า!” แม่เฒ่าจางมองจางต้าหูที่ยืนบังจางซิ่วเอ๋อเอาไว้ด้วยใบหน้าน่าเกลียด
จางต้าหูรีบพูด “ท่านแม่ จางซิ่วเอ๋อทำสิ่งใดผิดไปหรือ?”
“จางต้าหู เจ้ายังรับรู้ว่าข้าเป็นแม่ของเจ้าอยู่อีกหรือ? หากรู้ก็จงหลีกไปให้พ้น! ไม่เช่นนั้นก็ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าแม่!” แม่เฒ่าจางตวาดด้วยความโกรธเคือง
“เจ้าลองไปถามว่านังขี้แพ้นี่มันกำลังทำสิ่งใดอยู่? นางยังมีหน้ากล่าวถึงอาของตนเอง! ตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านรู้กันทั่วว่านังขี้แพ้ผู้นี้ใช้ขาหาเงินอยู่ในซ่อง! ใบหน้าของตร ระกูลจางของเราอัปยศยิ่ง ทุกสิ่งจบสิ้นแล้ว!” แม่เฒ่าจางกล่าวด้วยความเกรี้ยวกราด
จางซิ่วเอ๋อเผยรอยยิ้มไม่พอใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงความถูกต้องของเรื่องนี้เลย นางถูกพาไปที่ซ่องนางโลมลับจริง แต่หลังจากที่ออกมาได้ นางไม่ได้เสียหายใด ๆ และน นางก็ไม่ได้ขายตัว! ทว่าถูกใส่ร้าย
ถึงแม้นี่จะเป็นเรื่องจริง แต่จางซิ่วเอ๋อก็รู้สึกว่านางมิได้ทำให้ใบหน้าของตระกูลจางต้องเสื่อมเสียแต่อย่างใด
หญิงชราผู้นี้ยังหลงเหลือใบหน้าใดให้สูญเสียอีกหรือ?
เมื่อจางต้าหูได้ยินเช่นนั้น เขาหันกลับมามองจางซิ่วเอ๋อด้วยความประหลาดใจ
เมื่อสบโอกาส แม่เฒ่าจางจึงใช้จังหวะนี้ผลักจางต้าหูออกไป
จางซิ่วเอ๋อเม้มริมฝีปากแน่น หากจางต้าหูไม่ต้องการหลบเลี่ยง แม่เฒ่าจางจะสามารถผลักจางต้าหูออกไปด้วยความแข็งแรงเพียงเท่านั้นได้อย่างไร?
แต่จางซิ่วเอ๋อก็พึงพอใจกับท่าทีของจางต้าหูวันนี้แล้ว นางรู้ดีถึงคุณธรรมในจิตใจของจางต้าหู มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาและนางก็ไม่คิดโกรธแค้นจางต้าหูแต่อย่างใด
ในเวลานี้ นางมองแม่เฒ่าจางด้วยสายตาจริงจังก่อนจะเอ่ยคำ “ท่านย่า ตอนนี้ข้าคือสตรีที่แต่งงานแล้ว กล่าวให้ดีก็คือท่านคือย่าของข้า แต่กล่าวให้ร้ายก็คือตอนนี้เราแบ่งออกเป ป็นสองครอบครัวแล้ว ไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด ท่านก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะสั่งสอนข้า!”
จางซิ่วเอ๋อกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ในขณะที่พูดเช่นนั้น
ในเวลานี้ คนจากห้องฝั่งตะวันออกก็เดินออกมาเช่นกัน
แม้แต่จางเป่าเกินซึ่งไม่ค่อยออกไปไหนมากนักในช่วงไม่กี่วันนี้ ก็ยังพิงผนังด้วยไม้ค้ำยันและมองจางซิ่วเอ๋อด้วยแววตามุ่งร้าย
สำหรับจางอวี่หมิน ไม่ต้องกล่าวถึงเลย
ในเวลานี้แววตาของจางอวี่หมินเต็มไปด้วยความโกรธ จางซิ่วเอ๋อตัวน้อยผู้นี้ทำสิ่งไร้ยางอาย หากมันส่งผลกระทบต่อการแต่งงานของนางจริง ๆ ล่ะ?
นางจะไม่มีวันปล่อยให้จางซิ่วเอ๋อเข้ามายุ่งในเรื่องของตนเด็ดขาด!
แม่เฒ่าจางเหวี่ยงไม้กวาดออกไปเพื่อฟาดร่างของจางซิ่วเอ๋อ
จางซิ่วเอ๋อเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะก้มตัวลงเพื่อหลบเลี่ยง แต่หลบได้เพียงเล็กน้อย
ตอนนี้นางกำลังยืนอย่างโง่เขลาอยู่ที่เดิมเพื่อรอที่จะถูกเฆี่ยนตี
เมื่อนางลุกขึ้น นางก็คว้าเอาปลายไม้กวาดไว้อย่างรวดเร็ว ขณะนั้นแม่เฒ่าจางซึ่งถือไม้กวาดอยู่อีกฝั่งดึงกลับอย่างรุนแรง แต่สุดท้ายนางก็ซวนเซเพราะเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของตน ไม่อ อาจสู้กำลังของจางซิ่วเอ๋อได้
นางจึงล้มลงกับกระแทกพื้น
จางซิ่วเอ๋อกล่าวด้วยรอยยิ้ม “โอ้ ท่านย่าต้องระวังตัวบ้าง เหตุใดจึงล้มลงตลอดเวลาเช่นนี้? ตอนนี้ท่านชรามากแล้ว ร่างกายของท่านสึกหรอขึ้นมาโดยบังเอิญ ซ่อมแขนขาเก่า ๆ พวกนี้ได ด้อย่างไร? ถึงตอนนั้นน้องสาวข้าคงจะแต่งงานแล้ว ท่านยังคิดให้แม่ของข้ารับใช้หรือไม่?”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ น้ำเสียงของจางซิ่วเอ๋อแสร้งทำเป็นหวาดกลัวเล็กน้อย
แต่ต้องบอกว่าแม่เฒ่าจางนั้นเก่งกาจอย่างยิ่ง
มาถึงวัยนี้แล้ว แต่ยังสามารถทำสิ่งนี้กับลูกชาย ลูกสะใภ้ หลานสาวเช่นนี้ตลอด หากวันหนึ่งนางชราจนไม่อาจเดินไหวได้อีก ชีวิตของนางจะดีกว่านี้หรือไม่?
ทว่าเป็นเพราะแม่โจวมีจิตใจดีและไร้ความคิดที่จะแก้แค้น
แต่หากเป็นแม่เถา…
จางซิ่วเอ๋อรับรองเลยว่าหากมีวันใดที่แม่เถาได้รับอนุญาตให้ดูแลแม่เฒ่าจาง แม่เฒ่าจางคงไม่มีวันอยู่ได้อย่างสงบสุข
จางซิ่วเอ๋อคิดเช่นนั้น แต่แม่เฒ่าจางกลับไม่คิดเช่นนั้น
ในหัวใจของแม่เฒ่าจาง ในวัยชรานางไม่ต้องการพึ่งพาลูกชายเลย ทว่าต้องการให้บุตรสาวของตนได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่ แล้วพานางขึ้นเป็นอาวุโสในตระกูลแทน!
คงต้องกล่าวว่าฝันกลางวันของแม่เฒ่าจางนั้นงดงามเกินไป
แม่เฒ่าจางกล่าวอย่างดุร้าย “นังขี้แพ้ตัวน้อย! เจ้ากล้าดีอย่างไรจึงทำกับข้าเช่นนี้! มาดูเถิดว่าข้าจะหักขาเจ้าได้หรือไม่!”
ดวงตาของจางซิ่วเอ๋อหันมองร่างของจางเป่าเกินไปเล็กน้อย “ข้าจะบอกว่าท่านย่ามีหลานชายขาหักอยู่แล้ว แต่ท่านยังต้องการให้ครอบครัวของเรามีคนขาหักเพิ่มอีกงั้นหรือ? ไม่คิดเลย ว่าท่านจะชอบการขาหักมากเช่นนี้!”
ฮึ่ม แม้ว่าจางเป่าเกินจะไม่พูดอะไร
กระนั้นนางรับรู้ได้ถึงสายตาอันโหดเหี้ยมของจางเป่าเกิน และหาได้สนใจว่าจะนึกรังเกียจจางเป่าเกินสักครั้งหนึ่ง
แน่นอนว่าคำว่า ‘ขาหัก’ เป็นความแปรเปลี่ยนของจางเป่าเกิน เมื่อจางซิ่วเอ๋อกล่าวเช่นนี้ออกมา ดวงตาของจางเป่าเกินกลายเป็นสีแดงก่ำ เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองใจ
ในเวลานี้จางซิ่วเอ๋อไม่ได้พูดอะไรกับคนเหล่านั้น
จางซิ่วเอ๋อคิดเดินออกไปด้านนอก “ท่านย่า ตอนนี้ท่านแก่แล้ว อย่าได้เที่ยวทะเลาะกับผู้อื่นไปทั่ว ข้าเป็นหลานสาวของท่าน ข้าจึงสามารถปล่อยท่านไปได้ แต่หากเป็นผู้อื่น…”
เมื่อจางซิ่วเอ๋อกล่าวเช่นนี้ นางยกยิ้มอย่างมีความหมาย
แม่เฒ่าจางโกรธจนเจ็บจุกอยู่ในอก นางนั่งอยู่บนพื้นและกรีดร้องออกมาถึงสองครั้ง
จางอวี่หมินเห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินเข้าไป เมื่อพบแม่เฒ่าจางและจางซิ่วเอ๋อกำลังทะเลาะกันอยู่ จางอวี่หมินก็ไม่คิดอยากช่วยเหลือ ทว่าในเวลานี้จางอวี่หมินคิดจะรับผลประโยชน์
จางอวี่หมินลูบหลังของแม่เฒ่าจางเบา ๆ และกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “ท่านแม่อย่าได้รู้สึกแย่ไป ท่านยังมีข้า! อย่าได้ใส่ใจเรื่องเสียเงินเสียทองเลย”
“อวี่หมินของข้า! โชคดีที่ข้ามีเจ้า ไม่มีใครในครอบครัวนี้ที่เห็นหัวข้านอกจากเจ้า!” แม่เฒ่าจางคร่ำครวญ
จางต้าเหอและแม่เถาซึ่งกำลังรับชมความตื่นเต้นอยู่ถึงกับจมดิ่งลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น
แม่เฒ่าจางหมายความว่าอย่างไร?
ไม่เคยเห็นพวกเขาในสายตามานานแล้วหรือ?
“ท่านแม่ ท่านแม่จะกล่าวเช่นนี้ไม่ได้! ไม่ช้าก็เร็วอวี่หมินก็จะต้องแต่งงาน เป็นพวกข้าที่ต้องดูแลท่านต่อไป!” แม่เถากล่าวด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อย
“ข้าไม่ต้องการเจ้า มันคงจะดีกว่าหากเจ้าเอาเวลาไปคิดเรื่องของเป่าเกินแทน!” แม่เฒ่าจางกล่าวอย่างไม่แยแส
จางเป่าเกินถูกยั่วยุโดยจางซิ่วเอ๋อแล้วในก่อนหน้านี้ แต่คราวนี้ครั้นเห็นแม่เฒ่าจางกล่าวคำเสียงดังด้วยสีหน้ารังเกียจอีก เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิม!
เวลานี้เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจเขากำลังคิดอย่างขมขื่น ในอนาคตเขาจะไม่มีวันปล่อยให้หญิงชราผู้นี้ได้มีความสุข
“เจ้ามองอะไร? เจ้าไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เจ้าเลี้ยงมันมาจนเติบใหญ่ได้!” เมื่อแม่เฒ่าจางหันกลับมา นางเห็นจางต้าหูยืนอยู่ตรงนั้นราวกับต้นไม้ นางจึงตวาดขึ้นมาอีกครั้ง
จางต้าหูก้มศีรษะลงพร้อมกับเดินเข้าห้องด้วยเสียงอู้อี้ในลำคอ
แม่เฒ่าจางก็เป็นเช่นนี้ เมื่อนางอารมณ์เสียนางมักจะดุด่าทุกคนที่พบเจอ
เมื่อก่อน แม่เฒ่าจางมักจะดุด่าจางซิ่วเอ๋อสามพี่น้องมากที่สุด
…………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ต้าหูดูฉลาดขึ้นนะคะ เป็นเรื่องน่ายินดีแล้ว
ไหหม่า(海馬)