ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 426 รับผิด
ตอนที่ 426 รับผิด
ชุนอวี๋รู้ดีแก่ใจว่านางแตกต่างจากผู้อื่น
คนอื่นอาจต้องยอมจำนนเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณหนูรอง ทว่านางได้ทำหลายสิ่งเพื่อฮูหยินและมันไม่สามารถให้อภัยได้ ดังนั้นนางจึงไม่มีทางยอมจำนนในเวลานี้
ทั้งหมดที่นางทำได้ตอนนี้คือพึ่งพาฮูหยินเนี่ย
เมื่อคิดเช่นนี้ ชุนอวี๋จึงคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง “ฮูหยิน โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”
“บอกมา! ว่ามันเกิดอะไรขึ้น!” ฮูหยินเนี่ยถามออกไปอย่างชอบธรรม
ชุนอวี๋กล่าวอย่างโกรธเคือง “เป็นเพราะจางซิ่วเอ๋อกล่าวเหยียดหยามข้าก่อนหน้านี้ ข้าจึงมีความคับแค้นใจอยากจะให้จางซิ่วเอ๋อตายตกไปเสีย!”
“เจ้าทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ได้อย่างไร?” ฮูหยินเนี่ยกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด ราวกับว่านางกำลังโกรธจริง ๆ
จางซิ่วเอ๋อมองฮูหยินเนี่ยอย่างเย้ยหยัน หากเป็นจางซิ่วเอ๋อคนเดิมผู้เป็นหญิงสาวชาวนาผู้อ่อนต่อโลก นางอาจถูกหลอกได้ แต่สำหรับจางซิ่วเอ๋อคนนี้ไม่ใช่! สิ่งที่ฮูหยินเนี่ยกำลัง งคิด นางคาดเดาได้หมด
และตอนนั้นเป็นหญิงชราสองคนนั้นกล่าวออกมาเองว่าได้รับคำสั่งจากนาง
จางซิ่วเอ๋อกล่าวทันที “แล้วเหตุใดข้าจึงได้ยินว่าเป็นฮูหยินที่สั่งการพวกมัน?”
ใบหน้าของฮูหยินเนี่ยพลันเปลี่ยนไป นางจ้องชุนอวี๋พร้อมกล่าวต่อ “เกิดอะไรขึ้น? ข้าบอกให้เจ้าทำเช่นนี้เมื่อใดกัน? ข้าเพียงแค่อยากลงโทษจางซิ่วเอ๋อนิดหน่อย! ข้าคือฮูหยินตระกู ลเนี่ย จึงมีสิทธิ์ที่ลงโทษจางซิ่วเอ๋อ!”
ใบหน้าของนาง ดูเหมือนว่าจะพูดกับชุนอวี๋อย่างระมัดระวัง แต่หากมองให้ดีแล้ว มันไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการพูดกล่าวกับเนี่ยเฟิ่งหลิน นายท่านเนี่ย และบอกกับทุกคนว่านางไม่ได้ผิด ไม่มีใครสามารถกล่าวหาว่านางไม่สามารถสั่งสอนบทเรียนแก่จางซิ่วเอ๋อได้!
ชุนอวี๋กล่าวด้วยดวงตาแดงก่ำ “ฮูหยิน ทั้งหมดเป็นความผิดข้า เพียงเพราะข้าต้องการทำร้ายจางซิ่วเอ๋อ แต่ข้าไม่อาจทำได้ด้วยตนเอง ดังนั้นข้าจึงต้องกล่าวอ้างชื่อของท่าน!”
“ฮูหยิน ลงโทษชุนอวี๋เถิด ทั้งหมดเป็นความผิดของชุนอวี๋!” ชุนอวี๋กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าโศก
ฮูหยินเนี่ยเงยหน้าขึ้นมองนายท่านเนี่ยพร้อมกล่าวว่า “นายท่าน เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะข้าไม่ดูแลสาวใช้ให้ดีเอง”
นายท่านเนี่ยเงียบและไม่ได้พูดอะไรออกมาเป็นเวลานาน
เมื่อจางซิ่วเอ๋อได้ยินเช่นนี้ นางก็รู้ดีว่าเรื่องนี้จบลงแล้ว แม้นางอยากจะสืบสวนต่อ แต่มันก็ไม่อาจเป็นไปได้
ฮูหยินเนี่ยผู้นี้คิดหาวิธีหลบหลีกไว้เสร็จสรรพเสียแล้ว
แม้นางจะไม่เต็มใจที่จะล่าถอยจากการสืบสวน แต่จางซิ่วเอ๋อก็ทราบดีว่าอีกฝ่ายคือคนตระกูลเนี่ย
ท้ายที่สุดแล้วนางก็เป็นเพียงคนนอก
นายท่านเนี่ยอาจจะให้ความสำคัญต่อใบหน้าของเนี่ยเฟิ่งหลินด้วยการปล่อยให้จัดการกับคนไม่สำคัญอื่น ๆ ได้ แต่นายท่านเนี่ยไม่เคยปฏิบัติต่อฮูหยินเนี่ยเพียงเพราะคนนอกเช่นนาง
“เพราะสาวใช้ของท่านทำผิดพลาด จึงไม่สามารถเก็บสาวใช้ผู้นี้ไว้ข้างกายได้! ขายทั้งสามคนนี้ออกไป!” เนี่ยเฟิ่งหลินกล่าวเบา ๆ
ชุนอวี๋หัวใจสลายทันทีเมื่อได้ยินเช่นนี้ “ฮูหยิน ช่วยข้าด้วย!”
ฮูหยินเนี่ยกล่าวโดยสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน “ในเมื่อเจ้าทำเรื่องผิดพลาดใหญ่เช่นนี้ ข้าไม่อาจเก็บเจ้าไว้ข้างกายได้อีกต่อไป พรุ่งนี้จะมีคนมารับเจ้า!”
“อย่ากล่าวโทษข้าเลย เจ้าต้องตำหนิตนเองที่อยากจะสังหารจางซิ่วเอ๋อ” น้ำเสียงของฮูหยินเนี่ยเน้นหนักเล็กน้อยเมื่อกล่าวคำว่าจางซิ่วเอ๋อ
นี่เป็นการกระตุ้นให้ชุนอวี๋เกลียดชังจางซิ่วเอ๋อ
จางซิ่วเอ๋อเข้าใจที่ฮูหยินเนี่ยกำลังหมายความถึง นางจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง “ฮูหยินเนี่ย ไม่กลัวหรือว่าสาวใช้ที่เหลือของท่านจะขุ่นเคืองใจหากทำเช่นนี้? การที่พวกเขาได้รับใช้ นายหญิงเช่นท่าน มันช่างน่าเศร้าสำหรับพวกเขาเหลือเกิน!”
จางซิ่วเอ๋อกล่าวด้วยรอยยิ้ม “บรรดาผู้ที่ยังต้องทำงานให้กับนายหญิงของพวกเจ้า พวกเจ้าควรจะคิดหาทางหลบหนีให้ดี เพราะในสายตาของนายหญิงเจ้าแล้ว พวกเจ้าไม่ต่างอะไรนอกจากเครื องมือในการทำบาป!”
จางซิ่วเอ๋อทราบดีว่านางไม่สามารถไล่ตามเรื่องนี้จนจบได้ ทว่านางก็ไม่ใช่คนที่จะยอมพ่ายแพ้อย่างง่ายดายเช่นกัน!
จางซิ่วเอ๋อกล่าวมันออกไปอย่างจงใจ หากนางไม่สามารถแก้แค้นได้ ความรังเกียจต่อฮูหยินเนี่ยคงแน่นจนเต็มอก
หลังจากที่จางซิ่วเอ๋อกล่าวเช่นนี้ สีหน้าของเหล่าคนรับใช้บางคนถึงกับแปรเปลี่ยน
เมื่อเห็นชะตากรรมที่ชุนอวี๋ต้องเผชิญ คนเหล่านี้รู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย ทั้งเมื่อถูกจางซิ่วเอ๋อยั่วยุ ความคิดบางอย่างพลันปรากฏขึ้นในใจของพวกเขา
ฮูหยินเนี่ยกล่าวคำอย่างไม่พอใจ “จางซิ่วเอ๋อ อยากพูดอะไรจงพูด เหตุใดชี้นกชี้ไม้กล่าวโทษไปเรื่อย?”
จางซิ่วเอ๋อเลิกคิ้วขึ้น “ข้าไม่ได้เอ่ยชื่อผู้ใดเลย เหตุใดท่านจึงต้องร้อนรนถึงเพียงนั้น?”
“เอาล่ะ หยุดเถียงกันเสียที วุ่นวายอะไรเช่นนี้! ในเมื่อพบตัวผู้กระทำความผิดแล้ว ก็มาจัดการเรื่องนี้ให้จบทีเถิด! จางซิ่วเอ๋อข้าทราบถึงความผิดของเจ้าดี แต่มันไม่สมเหตุสมผลยิ งที่เจ้าจะแต่งงานใหม่ เจ้าต้องเห็นตระกูลเนี่ยอยู่ในสายตาเสียบ้าง! เราจะไม่ทำการลงโทษอื่นใดในวันนี้! เรื่องราวทั้งหมดก็เพียงแค่ยกเลิกไปเสีย!” นายท่านเนี่ยกล่าว
เมื่อได้ยินนายท่านเนี่ยกล่าวเช่นนี้ จางซิ่วเอ๋อไม่พอใจอย่างยิ่ง
ทว่าก็คิดว่านายท่านเนี่ยผู้นี้ไม่ได้ปกป้องฮูหยินเนี่ยโดยสมบูรณ์นัก แต่หากนายท่านเนี่ยเห็นด้วยกับฮูหยินเนี่ยว่าต้องปลิดชีพนาง ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่นางจะมีชีวิตจนถึงตอ อนนี้
จางซิ่วเอ๋อไม่ได้โต้แย้งอะไรเลย
แต่จะให้ปล่อยนางไปเช่นนี้ จางซิ่วเอ๋อก็ทำไม่ได้เช่นกัน
จางซิ่วเอ๋อกล่าวว่า “ข้าชื่นชมความเป็นธรรมของนายท่านเนี่ยอย่างยิ่ง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราต้องทำให้มันชัดเจน”
“กล่าวมา” นายท่านเนี่ยรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เขารู้สึกว่าจางซิ่วเอ๋อกำลังชี้นิ้วสั่ง
จางซิ่วเอ๋อกล่าวเสียงดัง “ข้าเป็นคนในตระกูลเนี่ยของท่านหรือไม่? หากข้าเป็น เหตุใดท่านจึงไม่ให้ข้าเป็นสะใภ้อย่างถูกต้องในตระกูลเนี่ย? แล้วหากไม่ใช่ แล้วการที่ข้าจะอยู่อย่า างไร อยู่กับใครมันเกี่ยวอะไรกับตระกูลเนี่ยของท่าน!”
“ในอนาคตข้าไม่ต้องการให้ผู้ใดมายุ่งวุ่นวายกับข้าอีกเพราะข้าทำลายชื่อเสียงของตระกูลเนี่ย!” จางซิ่วเอ๋อกล่าวอย่างเด็ดขาด
นางรู้ว่าโอกาสดั่งเช่นวันนี้จะไม่มีอีกแล้ว
เนี่ยเฟิ่งหลินและนายท่านเนี่ยต่างก็ยืนอยู่ตรงนี้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องสนใจฮูหยินเนี่ยอีก หากนางไม่พูดความคิดของตนในวันนี้ นางก็จะไม่มีโอกาสได้พูดมันอีกเลย
ถึงแม้นางแทบจะผ่านเรื่องราวในครั้งนี้ไปไม่ได้ แต่ใครจะรู้ว่าจะมีครั้งต่อไปอีกหรือไม่?
ท้ายที่สุดแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
ตอนนี้ความประทับใจที่จางซิ่วเอ๋อมีต่อตระกูลเนี่ยนั้นย่ำแย่อย่างยิ่ง และนางไม่ต้องการที่จะพัวพันกับตระกูลเนี่ยอีกต่อไป
เป็นการดีที่สุดหากสามารถชี้แจ้งเรื่องราวได้ และไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีกในอนาคต!
สำหรับตำแหน่งสะใภ้ใหญ่นั้น จางซิ่วเอ๋อเพียงใช้หัวแม่โป้งเท้าคิดก็ย่อมทราบได้ แม้นายท่านเนี่ยอยากจะมอบตำแหน่งนี้ให้นาง แต่ฮูหยินเนี่ยย่อมไม่ยินยอม!
ดังนั้นนางจึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องใช้ชื่อว่าเป็นม่ายตระกูลเนี่ยไปตลอดชีวิต!
แต่นางไม่กล้าที่จะกล่าวออกไปเช่นนั้น นางจึงให้นายท่านเนี่ยเลือกว่าจะให้นางอยู่ในตระกูลเนี่ย หรือตัดสัมพันธ์นางกับตระกูลเนี่ยไปโดยสิ้นเชิงแทน
…………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เชียร์ให้บรรดาคนรับใช้ลุกขึ้นมากบฏต่อฮูหยินเนี่ยค่ะ หากไร้ซึ่งบริวารแล้วจะทำยังไง
ไหหม่า(海馬)