ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 54 เรียกค่าเสียหาย
บทที่ 54 เรียกค่าเสียหาย
จ้าวเอ้อร์หลางจึงเอ่ยขึ้น “เมื่อวานตอนข้าขึ้นเขาไปหาผัก ก็เห็นป้าหลินกับหลีฮวาด่าพี่ซิ่วเอ๋อต่อหน้าชุนเถา….ว่าพี่ซิ่วเอ๋อเป็นแม่ม่ายดวงกินสามี แถมบอกว่าชุนเถาเป็นเอ๋อ อีกหน่อยแม้แต่แม่ม่ายก็เป็นไม่ได้…..”
จางซิ่วเอ๋อได้ยินก็มีสีหน้าซึมลงไป นางเดาได้แต่แรกแล้วว่าเรื่องต้องเป็นแบบนี้ แต่พอตอนนี้มาได้ยินกับหูเข้าก็อดโมโหในใจไม่ได้
“ชุนเถาคงจะทนไม่ไหวจึงเข้าไปเถียงกับพวกนาง แต่หลังจากนั้นท่านป้าหลินกับหลีฮวากลับร่วมกันลงมือ….” จ้าวเอ้อร์หลางเอ่ยต่อ
จางซิ่วเอ๋อเอ่ยเสียงเย็น “จากนั้นชุนเถาก็โดนผลักลงไป?”
จ้าวเอ้อร์หลางพยักหน้าด้วยสีหน้ากล้า ๆ กลัว ๆ ดูออกว่าการออกมาในวันนี้เขาก็ต้องใช้ความกล้าไม่น้อย!
จางซิ่วเอ๋อหัวเราะพรืด “ท่านป้าหลิน ท่านนี่หน้าด้านจริง ๆ เลยนะ เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วท่านยังจะปฏิเสธอีกเหรอ?”
ตอนนี้แม่หลินพูดอะไรไม่ออกแล้ว สีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง
จางซิ่วเอ๋อจึงมองผู้ใหญ่บ้านซ่งและเอ่ย “ท่านผู้ใหญ่บ้าน ท่านต้องมอบความยุติธรรมให้เราสองพี่น้องด้วยนะเจ้าคะ! ตอนนี้ชุนเถาเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้ จะปล่อยพวกนางไปง่าย ๆ ไม่ได้เด็ดขาด!”
แม่หลินถามเสียงเครียด “เจ้าจะเอาอย่างไร?”
จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียงเอ่ย “จะเอาอย่างไรงั้นเหรอ? ท่านคือฆาตกรชัด ๆ! เรื่องนี้จะต้องไปถึงทางการน่ะสิ!”
แม่หลินตัวสั่นเทิ้ม มองสวี่อวิ๋นซานแล้วเอ่ยขึ้น “อวิ๋นซาน! เจ้าพูดอะไรสักหน่อยสิ!”
สวี่อวิ๋นซานหันไปมองทางอื่น มาถึงตอนนี้เขาก็รู้สึกว่าตัวเองผิดต่อจางซิ่วเอ๋อนัก
เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าแม่กับน้องสาวของตนจะทำเรื่องแบบนี้ได้!
“อวิ๋นซาน! ข้าเป็นแม่แท้ ๆ ของเจ้านะ นี่เจ้าจะมองหญิงชั่วนี่ส่งตัวข้าไปคุกรึ?” แม่หลินพูดเสียงเศร้า
“ในเมื่อท่านเอาแต่พูดว่าข้าเป็นหญิงชั่ว งั้นข้าก็ไม่มีเหตุผลจะปล่อยท่านไป!” จางซิ่วเอ๋อเอ่ย
แม่หลินหุบปากเงียบทันที นางก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น รู้ว่าตอนนี้ตัวเองผิด จึงได้แต่อยู่นิ่ง ๆ
ในที่สุดสวี่อวิ๋นซานก็เดินเข้ามา เอ่ยขึ้นด้วยความลำบากใจ “ซิ่วเอ๋อ เจ้าว่าพอจะ…..”
จางซิ่วเอ๋อเห็นสวี่อวิ๋นซานเข้ามาขอร้อง จึงถอนหายใจเบา ๆ
อย่างไรเสียนางก็ติดค้างสวี่อวิ๋นซาน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของร่างที่ติด หรือยารักษาแผลที่นางใช้หลังจากนั้น นางก็ติดหนี้บุญคุณสวี่อวิ๋นซาน
แต่เวลานี้ จะให้นางปล่อยแม่หลินไปก็เป็นไปไม่ได้!
จางซิ่วเอ๋อจึงเอ่ยเสียงเรียบ “พี่สวี่ นี่เป็นเรื่องระหว่างข้ากับมารดาท่าน ท่านอย่ายุ่งจะดีกว่า”
หลีฮวามองผู้ใหญ่บ้านอย่างนึกหวั่นเกรงพร้อมเอ่ยขึ้น “ท่านผู้ใหญ่บ้านเจ้าคะ ตอนนั้นพวกเราก็แค่พลั้งมือ ท่านอย่าส่งพวกเราไปให้ทางการนะเจ้าคะ มันจะไม่ดีกับหมู่บ้านเราด้วย”
ผู้ใหญ่บ้านซ่งหรี่ตามองหลีฮวา
หลีฮวารู้สึกทันทีว่าสิ่งที่ตัวเองแอบคิดโดนผู้ใหญ่บ้านซ่งมองออก จึงก้มหน้าไม่พูดอะไรอีก
ถึงแม้ผู้ใหญ่บ้านซ่งจะไม่ชอบที่หลีฮวาเอาเรื่องหมู่บ้านมาขู่เขา แต่สิ่งที่หลีฮวาพูด ผู้ใหญ่บ้านซ่งก็ฟังอยู่
ถ้ามีคนในหมู่บ้านติดคุก เขาซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านก็เสียหน้าอยู่
ชื่อเสียงของหมู่บ้านก็จะพลอยด่างพร้อยไปด้วย
ผู้ใหญ่บ้านซ่งคิดไปคิดมา สุดท้ายก็มองจางซิ่วเอ๋อและเอ่ยขึ้น “ซิ่วเอ๋อเอ๋ย เจ้าว่าเรื่องนี้พอจะคุยกันได้ไหม ตอนนี้ชุนเถาก็บาดเจ็บไปแล้ว ต่อให้เจ้าส่งตัวพวกนางให้ทางการก็แก้ไขอะไรไม่ได้…..”
จางซิ่วเอ๋อยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดอะไรและรอให้ผู้ใหญ่บ้านซ่งพูดต่อ นางนึกอยู่แล้วว่าผู้ใหญ่บ้านคงไม่ให้ตัวเองส่งใครให้ทางการง่าย ๆ หรอก
แต่เอาเข้าจริง จางซิ่วเอ๋อก็ไม่ได้มีความคิดนี้ตั้งแต่แรก
ในหมู่บ้านนี้ จะทำอะไรต้องไว้หน้ากันหน่อย ถ้านางทำแบบนี้จริง ๆ ไม่ว่าจะกับตัวนางเองหรือกับชุนเถาก็เป็นผลกระทบที่ไม่ดีทั้งนั้น
บวกกับถ้าคนจากทางการมา พวกเขาต้องตรวจสอบอาการชุนเถาแน่ ๆ ถึงแม้ชุนเถาจะสลบไปตอนตกเนินเขา แต่ก็ไม่ได้สาหัสอย่างที่นางพูด ถึงตรงนั้นก็คงทำอะไรแม่หลินไม่ได้
เมื่อครู่ที่นางบอกจะส่งตัวแม่หลินและหลีฮวาไปให้ทางการก็เป็นการขู่พวกนางทั้งสิ้น
แน่นอนว่าถึงไม่ส่งไปทางการ ก็ปล่อยให้พวกนางลอยนวลไม่ได้!
“เจ้าว่าพอจะเปลี่ยนวิธีในการชดใช้ให้ชุนเถาได้ไหม เรื่องนี้เราอย่าให้ถึงทางการเลย เจรจากันในหมู่บ้านนี่แหละ…..” ผู้ใหญ่บ้านซ่งพูดต่อ
แม่หลินได้ยินก็รีบสมทบ “ใช่ ๆๆ ถ้าไปถึงทางการจริง ๆ จะต้องเสียหน้ากันทุกฝ่ายแน่!”
จางซิ่วเอ๋อเหลือบมองแม่หลิน “ใช่ ถึงตอนนั้นเสียหน้ากันทุกฝ่ายก็จริง แต่ข้าก็ไม่ต้องติดคุก!”
ที่แม่หลินพูดเมื่อครู่นี้มันแสดงให้เห็นว่าพอตัวเองได้เปรียบแล้วยังทำเป็นคิดแทนคนอื่นชัด ๆ
สีหน้าแม่หลินกระอักกระอ่วนขึ้นมา นึกแค้นจางซิ่วเอ๋อที่ไม่ไว้หน้าตัวเอง
จางซิ่วเอ๋อชะงักนิดหน่อยก่อนจะเอ่ยต่อ “เดิมทีข้าจะขอความเป็นธรรมให้ได้ก็จริง แต่ในเมื่อคืนนี้ท่านผู้ใหญ่บ้านเอ่ยปากแล้ว แถมยังมีชาวบ้านมาอยู่ที่นี่ตั้งมากมายด้วย ข้าเลยไม่อยากจะส่งแม่หลินเข้าคุก…..”
ผู้ใหญ่บ้านซ่งได้ยินก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขาหวาดกลัวจริง ๆ ว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นคนดื้อรั้น ไม่ว่าอย่างไรก็จะเอาเรื่องให้ได้
ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อเห็นแก่เขาจึงยอมสงบศึก ทำให้เขารู้สึกดีมาก
ในตอนที่แม่หลินเริ่มมีรอยยิ้มบนใบหน้านี่เอง จางซิ่วเอ๋อก็เปลี่ยนอารมณ์แล้วพูดต่อ “แต่เรื่องนี้จะปล่อยให้จบไปแบบนี้ไม่ได้!”
“แม่นางน้อยซิ่วเอ๋อ เจ้าอยากได้อะไร ข้าจะผดุงความเป็นธรรมให้” น้ำเสียงผู้ใหญ่บ้านซ่งฟังดูอ่อนโยน ในเมื่อจางซิ่วเอ๋อไว้หน้าเขา เช่นนั้นเขาก็ต้องไว้หน้านางบ้าง
ประกอบกับก่อนหน้านี้ไม่นานจางซิ่วเอ๋อเพิ่งให้ของขวัญชิ้นโตกับเขา ผู้ใหญ่บ้านซ่งจึงมองนางในทางที่ไม่แย่นัก
“ 20 ตำลึงเงิน ตอนนี้ชุนเถาบ้านข้าต้องกลายเป็นแบบนี้ ท่านต้องรับผิดชอบ” จางซิ่วเอ๋อเอ่ยเสียงเข้ม
แม่หลินผุดลุกตัวตรงทันที มองจางซิ่วเอ๋อตาขวาง “เจ้านี่มันโลภจริง ๆ! 20 ตำลึงเงินรึ? คนชั้นต่ำอย่างชุนเถาบ้านเจ้า! 2 ตำลึงยังมากไปด้วยซ้ำ!”
จางซิ่วเอ๋อได้ยินก็แผ่รังสีอาฆาตออกจากตัวอีกครั้ง “งั้นข้าจะฟันท่านให้พิการเดี๋ยวนี้แหละ! แล้วให้ท่านแค่ 2 ตำลึงเงิน!”
แม่หลินไม่กล้าพูดอะไรอีก มีดปังตอที่จางซิ่วเอ๋อโยนลงพื้นบัดนี้ส่องแสงเย็นเยียบ
ในขณะนี้เองนางก็คิดว่าจางซิ่วเอ๋อจะฟันนางให้ตายจริง ๆ
ผู้ใหญ่บ้านซ่งนิ่งคิดก่อนจะเอ่ยขึ้น “ 20 ตำลึงดูมากเกินไปจริง ๆ เช่นนั้นเอาอย่างที่ข้าพูด 15 ตำลึงเงินแล้วกัน แล้วเรื่องนี้ก็จบตรงนี้ พวกเจ้าตระกูลสวี่ก็อย่าทำเป็นไม่ยอมเลย ใครใช้ให้พวกเจ้าผลักชุนเถาตกเขาล่ะ? ส่วนซิ่วเอ๋อ เจ้าก็อย่าก่อเรื่องอีกเลย รีบเอาตำลึงนี่ไปรักษาน้องสาวเจ้าซะ”
เรื่องนี้เป็นไปดั่งที่จางซิ่วเอ๋อคาดการณ์ไว้ สุดท้ายนางก็พยักหน้าตกลง
แต่แม่หลินจะยอมได้อย่างไร 15 ตำลึงเงินสำหรับตระกูลสวี่ไม่ถือว่ามาก ทางตระกูลสวี่มีจ่ายแน่นอน แต่ใครจะอยากเผชิญกับการอยู่ดี ๆ ก็ต้องยกตำลึงให้คนอื่นกันล่ะ?
……………………………………………