ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 115 รูปแบบใหม่ของบริษัทจิงหลิน
- Home
- ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี
- บทที่ 115 รูปแบบใหม่ของบริษัทจิงหลิน
บทที่ 115 รูปแบบใหม่ของบริษัทจิงหลิน
คุณพ่อคุณแม่ของเจิ้งยวี่ต่างตกใจตามๆกัน
เมื่อกี้คำก็ไอ้โคตรจน สองคำก็ไอ้โคตรจน ยังจะให้เขาอยู่ห่างๆลูกสาวตัวเอง ถึงว่าล่ะในสายตาของเขาพวกเราถึงจะเป็นไอ้โคตรจน
จริงมั้ยละ!
“ติ๊ก~ติ๊ก!”
เฉินเกอกดแตร ได้สตาร์ทรถแล้ว รถค่อยๆออกจากลานจอดรถ
ตั้งแต่เดินผ่านเจียงเวยเวยตอนนั้น เฉินเกอก็ไม่ได้เหลียวมองเธออีกเลย เจียงเวยเวยตอนนี้หวังเป็นอย่างยิ่ง อยากให้เฉินเกอเหลียวมองเธอ หรือว่าจะด่าเธอ ตบบ้องหูเธอก็ได้ทั้งนั้น
แต่ไม่มี และไม่ได้สนใจเลย
และเฉินเกอนั้น ช่วยเจิ้งยวี่ถึงขั้นนี้ถือว่าพอแล้ว
เขาได้เหยียบคันเร่ง แล้วขับรถออกไป
การตบหน้าที่ไร้เสียงแบบนี้ ดีว่าการอวดเป็นไหนๆ
เฉินเกอไม่อยากดูสีหน้าท่าทางของพวกเขา
“เขาเป็นคุณชายบ้านไหน?”
ขณะนี้เจียงจื่อเฉียวกลืนน้ำลายตัวเอง
เจียงเวยเวยตกหลุมรักเข้าอย่างจัง ไร้เรี่ยวแรง สมองว่างเปล่า ปัญหานี้เธอไม่สามารถที่ตอบได้เลย
พูดตามตรง เมื่อกี้เธอมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง ก็คือหน้าด้านๆ พุ่งเข้าไปขอโทษเฉินเกอโดยตรง เพื่อให้เขายกโทษให้เธอ เพราะเขาร่ำรวย พวกเธออาจจะไม่รู้ เมื่อกี้ตอนที่เฉินเกอขึ้นรถนั้น หล่อขนาดไหน!
ถึงขั้นมีความรู้สึก อยากที่จะถ่ายรูปรถของเฉินเกอไว้ เพื่อประกาศให้คนในมหาวิทยาลัยได้รู้โดยทั่วกัน
ประมาณว่าโอ้อวด
แต่เจียงเวยเวยก็ได้สงบสติลงมา
เธอโง่ป่ะเจียงเวยเวย? หากคนทั้งมหาวิทยาลัยรู้ฐานะที่แท้จริงของเฉินเกอ แล้วมันจะเหลือถึงเธอเหรอ?
ยังมีอีก หากทุกคนรู้ว่าเฉินเกอโคตรเทพขนาดนี้ คนที่โดนตบหน้าคนที่หนึ่งก็คือเธอเจียงเวยเวย
ดังนั้นเวยเวย เธอต้องสู้! มีเรื่องราวความรักตั้งมากมาย เริ่มแรกพระเอกนางเอกก็มักจะไม่ถูกกันมั้ย?
ไม่มีใครคาดเดาได้ ได้มีเสียงเตือนเจียงเวยเวยตลอดอย่างไม่ขาดสาย
คนอื่นที่รู้ฐานะของเฉินเกอแล้ว ต่างส่งสายตามองไปที่เจิ้งยวี่
เจิ้งยวี่ได้แต่ส่ายหัว: “พวกคุณไม่ต้องถามฉัน ฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ!”
ถึงแม้จะพูดถึงเฉินเกอ
ตอนนี้มันได้สายไปแล้ว
ทุ่มกว่าแล้ว เขาส่งข้อความหาซูเฉียงเวย ยืนยันแล้วว่าเสี่ยวหยิงไม่เป็นไรมากได้นอนหลับไปแล้ว
เฉินเกอเตรียมตัวกลับหอไปพักผ่อน
เวลานี้โทรศัพท์ได้ดังขึ้น
เป็นหลี่เจิ้นกั๋วที่โทรมา
เวลานี้โทรหาเขาทำไมหนอ?
“คุณชายเฉิน คุณอยู่ไหน โทรหาคุณเวลานี้ อันที่จริงก็เกรงใจอยู่ไม่น้อย!”
“อ้อ กำลังขับรถกลับมหาวิทยาลัย มีเรื่องอะไรไหมพี่เจิ้นกั๋ว?”
“เห่อๆ คือแบบนี้ ผมก็ได้สละตำแหน่งประธานบริษัทจินหลิงแล้วใช่ไหม ตอนนี้ประธานเฉินเสี่ยว ได้จัดคนใหม่มาดำรงตำแหน่งนี้ เขาก็คือเพื่อนรักของผม เราเป็นเพื่อนมาหลายปีแล้ว ชื่อว่าจ้าวจื่อซิ่ง คืนนี้ได้นั่งเครื่องเพื่อมาประจำตำแหน่ง”
“ผมรู้ว่า ก่อนหน้านี้พี่สาวเคยบอกับผม!”
“ดังนั้นความหมายของเขาคือ ต้องการที่จากพบคุณ ให้ผมช่วยติดต่อให้!”
เฉินเกอได้ยินดังนี้ คนคนนี้ช่างประจบสอพลอเก่งจริงๆ
เพิ่งจะลงเครื่องสิ่งแรกที่ทำก็คือมาพบเขา
ไม่ผิดเลย คนของพี่สาว ความสามารถธรรมดาทุกคน
“มาพบผม? แล้วจะพบกันที่ไหน? เอางี้ละกัน คุณช่วยจัดการหน่อย คืนนี้ผมกลับวิลล่า! เจอกันที่วิลล่าละกัน!”
“ได้ครับคุณชายเฉิน!”
หลังจากวางสาย เฉินเกอก็กลับรถ มุ่งหน้าไปยังวิลล่า
คนที่ชื่อจ้าวจื่อซิ่ง เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจมากนัก เพียงแต่คนเขาอุตส่าห์ต้องการพบเขา เรื่องวางมากเหล่านี้ พี่สาวของเขาเฉินเสี่ยวถึงจะถนัด เฉินเกอไม่ถนัดจริงๆ
พบกันทานข้าวด้วยกันสักมื้อก็ไม่น่าจะมีอะไร
ในไม่ช้า ก็ไปถึงวิลล่า ตอนนี้ที่วิลล่ากำลังจัดกิจกรรม ก็เพื่อต้อนรับประธานคนใหม่อย่างจ้าวจื่อซิ่ง
ภายในวิลล่า ถึงแม้จะดึกมากแล้ว แต่สว่างไสวด้วยแสงไฟ
ลูกมหาเศรษฐีทั้งหลายต่างทยอยกันมา
เฉินเกอถึงหน้าประตู แค่มองๆก็พอแล้ว
ในที่สุดก็ขับรถอ้อมไปด้านหลัง ใช้ทางลับเฉพาะเข้าไปยังด้านใน
ไปถึงห้องประชุมใหญ่ของตัวเอง
ขณะนี้หลี่เจิ้นกั๋วกับผู้ชายวัยกลางคนได้ยืนอยู่ด้านหน้าประตูอย่างนอบน้อม
มีแค่เขาทั้งสอง
คิดว่าน่าจะใช่จ้าวจื่อซิ่ง
เขามีบุคลิกที่ดูหนักแน่เป็นผู้ใหญ่ เพียงแต่สายตาของเขา ทำให้เฉินเกอรู้สึกว่า น่าจะเป็นพวกที่ทำงานแบบความคิดตัวเองเป็นใหญ่
คุณชายเฉิน หลี่เจิ้นกั๋วเรียกอย่างสุภาพ
จ้าวจื่อซิ่ง ยินดีที่พบคุณชายเฉิน
จ้าวจื่อซิ่งทำท่าโค้งคำนับ
“สวัสดีครับ! ประธานจ้าวไม่ต้องมากพิธีครับ พวกเราเข้าไปคุยข้างในกัน!”
เฉินเกอยิ้มๆ
หลังจากที่ทักทายกันแล้ว จ้าวจื่อซิ่งก็เริ่มแนะนำตัวเอง และคุยเรื่องพวกแผนงานพัฒนาของบริษัทจินหลิงในอนาคต
ความคิดสร้างสรรค์ดีมาก แน่นอนก็เผด็กจกันพอสมควร ได้ลบล้างรูปแบบการทำงานของจ้าวเจิ้นกั๋วเกือบทั้งหมด
ในเรื่องงาน ดูแล้วไม่ไว้หน้าเพื่อนรักอย่างจ้าวเจิ้นกั๋วเลย
“ใช่แล้วคุณชายเฉิน ผมฟังเจิ้นกั๋วบอกว่า ช่วงนี้คุณเพิ่งจะซื้อเก็นติ้งวิลล่ามาหลังหนึ่ง? ยังไม่ได้เริ่มตกแต่งภายในใช่ไหม?”
เฉินเกอพยักหน้า
“เห่อๆ คุณชายเฉิน ก่อนที่ผมยังไม่ได้ทำงาน ผมเป็นนักออกแบบภายในมืออาชีพ เคยเรียนการออกแบบภายในที่ยุโรป คุณลองดู ว่าจะสามารถมอบการตกแต่งนี้ให้ผมได้ไหม ผมรับประกันว่าจะทำให้คุณชายเฉินพอใจอย่างแน่นอน!”
จ้าวจื่อซิ่งยิ้มอย่างสุภาพ
“ป้าง!”
ขณะนี้ หลี่เจิ้นกั๋วอดทนไม่ไหวแล้ว วางแก้วชาอย่างแรง
“ประธานจ้าว คุณเพิ่งมายังไม่คุ้นเคยเคยกับสถานการณ์ที่นี่ เอาไว้เข้าที่เข้าทางแล้วค่อยว่ากัน อีกอย่าง เรื่องตกแต่งบ้านของคุณชายเฉิน ผมได้เริ่มงานแล้ว คาดว่าภายในสิบวันนี้จะแล้วเสร็จ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลย!”
แม่งเอ๊ย พาคุณมารู้จักคุณชายเฉินแล้ว ยังไม่ไว้หน้ากันเลย มาถึงก็มาแย่งงานของเขาซักแล้ว อันนี้มันก็เกินไปนะ?
“ประธานหลี่ สิบวันเลยเหรอ? หากเป็นผม ภายในห้าวันก็พอ ก็สามารถที่ตกแต่งวิลล่านี้ได้อย่างหรูหรา และไม่ทำให้คุณชายเสียเวลาในการเข้าไปอยู่!”
จ้าวจื่อซิ่งโต้กลับ
“ภายในห้าวัน? ประธานจ้าว มันไม่น่าจะเป็นไปได้นะ?”
เฉินเกอยิ้มๆ
“ผมกล้าที่จะปฏิญาณตนไว้เลย หากภายในห้าวันคุณชายเฉินยังเข้าอยู่ไม่ได้ ผมก็จะยื่นหนังสือลาออกไปที่สำนักงานใหญ่ทันที!”
จ้าวจื่อซิ่งลุกขึ้นยืนโดยตรง พร้อมกับใบหน้าที่จริงจัง
ทำแบบนี้แล้ว ทำให้เฉินเกอรู้สึกอึดอัดไม่น้อย
ก็แค่การตกแต่งภายใน มอบให้ใครทำก็เหมือนกัน
อีกอย่าง ขณะนี้หลี่เจิ้นกั๋วก็ตกใจจนไม่กล้าที่จะตอบโต้ เขาก็ไม่กล้าที่จะปฏิญาณแบบนี้
พูดก็พูดเถอะ ตัวเองจะไม่พอใจทำไม ถึงแม้จ้าวจื่อซิ่งจะสนิท แต่คงไม่สามารถเหมือนตัวที่สนิทกับคุณชายมั้ง?
เรื่องนี้ เลยมอบให้จ้าวจื่อซิ่งไปจัดการ
หลังจากคุยกันเรียบร้อย จ้าวจื่อซิ่งก็ออกไปสังสรรค์กับแขก เฉินเกอไม่ได้ไป เขากลับไปนอนพักในห้องนอนของวิลล่า
“ใช้ได้เลยนะประธานจ้าว วิธีทำงานของคุณยังคงเหมือนก่อน กล้าได้กล้าเสีย จุดนี้ผมนับถือคุณจริงๆ แต่ว่าผมก็มีเรื่องที่จะเตือนคุณ อยู่ในจินหลิน โดยเฉพาะกับคุณชายเฉิน ต้องทำงานระมัดระวังหน่อย คุณต้องรู้ว่า ตอนนี้ฐานะของคุณชายเฉินยังไม่ได้เปิดเผยอย่างทางการ ผมเตือนคุณไว้ก่อน!”
“อันนี้ผมทราบแล้ว นอกจากผม และคนที่ผมพามาด้วย ก็ไม่มีใครรู้ฐานะของคุณชายเลย แม้แต่ภรรยาผมผมยังไม่บอกเธอเลย ผมรู้น่ะ เพราะว่าฐานะของคุณชายมีคนรู้เข้า เกือบโดนปองร้าย ทำให้ประธานหลี่เกือบโดนสำนักงานใหญ่ไล่ออก เรื่องผิดพลาดแบบนี้ ผมจะไม่มีวันทำเด็ดขาด เห่อๆ!”
จ้าวจื่อซิ่งยิ้มอย่างเฉยชา
เพียงแต่หายใจเข้าเฮือกใหญ่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เขาเจ็บปวดใจที่สุด เพราะสะเพร่าชั่วขณะ เกือบทำให้คุณชายเฉินถูกหนิงฝานปองร้าย แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว
หลังจากที่เฉินเกอพักผ่อนแล้ว แต่ก็ไม่ได้นอน กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย พี่สาวได้โทรมาอีกแล้ว
“แม่งเอ๊ย เหลืออีกแค่สองวัน นายทำอะไรอยู่? เรื่องที่พี่ให้นายไปจัดการเรียบร้อยหรือยัง ทำไมยังเหลืออีกสองร้อยล้าน นายอยากจะทำให้พี่ตายใช่ไหม?”
เสียงคำรามของพี่สาวทำให้เฉินเกอสั่นไปทั้งร่าง
ก็จำได้ทันที ตัวเองซื้อบ้านไปแล้วแปดร้อยล้าน ยังมีอีกสองร้อยที่ยังไม่ได้ใช้………..
“แล้วจะทำไง? จะไปซื้ออะไรดี? ร้อนใจจะตายอยู่แล้ว!”
คืนนี้ เฉินเกอนอนไม่หลับ! จนใกล้ฟ้าสาง ถึงได้เกิดไอเดียใหม่ขึ้นมา………