ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 123 จะตบหน้าเธอเมื่อไหร่ก็ได้
- Home
- ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี
- บทที่ 123 จะตบหน้าเธอเมื่อไหร่ก็ได้
บทที่ 123 จะตบหน้าเธอเมื่อไหร่ก็ได้
“ขอโทษค่ะคุณผู้ชาย ค่าใช้จ่ายของร้านนี้ค่อนข้างสูง…ไม่ทราบว่าคุณ…”
พนักงานพูดด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจ
หล่อนคงไม่โง่มีเรื่องกับคนแบบนี้จนถึงขั้นต้องทำให้ลูกค้าอย่างหวังเสี่ยวถีต้องไม่พอใจ
“งั้นเหรอ?”
เฉินเกอหัวเราะเยาะ
จากนั้นหยิบมือถือขึ้นมา เปิดหน้าจอใบเสร็จที่เขาจองที่นั่งVIPไว้เมื่อครู่ให้พนักงานดู
เมื่อพนักงานเห็นเช่นนี้ หน้าถอดสีทันที
เขากลับจองที่นั่งแขกVIP
ควรทำความเข้าใจไว้ว่า รับรองแขกVIPหนึ่งคน สามารถได้ค่าคอมมิชชั่นถึงสองพันหยวน
เพราะที่นั่งแขกVIP สามารถทานข้าวไปพลาง และมีเสียงไวโอลินบรรเลงจากนักดนตรีให้ฟังผ่อนคลายอีกด้วย
กริยาดูถูกเมื่อครู่ กลับกลายเป็นการต้อนรับอย่างกระตือรือร้นทันที
“คุณผู้ชาย เชิญด้านในค่ะ!”
หลังจากที่พนักงานโค้งให้ด้วยความเคารพ จึงเดินนำเฉินเกอไปยังสถานที่ที่พิเศษกว่าที่นั่งทั่วไป
จากนั้นนักดนตรีที่สวมสูทเรียบร้อย เดินถือไวโอลินเข้ามาบรรเลงด้านข้างเฉินเกอ
ภาพที่เกิดขึ้น ทำให้หวังเสี่ยวถีแทบจะบ้าคลั่ง
เดิมทีที่นั่งติดหน้าต่างของหล่อนดูดีมีระดับอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ คนเหลวไหลอย่างเฉินเกอกลับกลายเป็นแขกพิเศษ และยังได้การตอบรับเช่นนี้อีก
เฉินเกอเอาเงินมาจากไหนกันแน่? หวังเสี่ยวถีคิดไม่ตก
“เฉินเกอ นายมีเงินเท่าไหร่? ถึงกล้ามาใช้จ่ายแบบนี้? เหอะๆ หรือว่าหาแฟนมาเพื่อหลอกลวง?”
หวังเสี่ยวถีพูดดูถูกเขาด้วยความไม่พอใจ
เฉินเกอทำเป็นไม่สนใจ
เขาไม่อยากสนใจผู้หญิงเช่นนี้อีกต่อไป
ตอนนี้ตบหน้าหล่อนไปเรียบร้อยแล้ว ยังจะกล้าหาเรื่องต่ออีก?
“คุณผู้ชายต้องการซื้อดอกไม้ไหมคะ? นี่คือดอกดามัสกัสจากประเทศบัลแกเรีย ถึงแม้จะราคาสูง แต่เหมาะสมกับคุณมาก และยังสามารถซื้อให้คนรักได้อีกด้วยนะคะ! ”
ทันใดนั้น พนักงานต่างหญิงต่างชาติ ค่อยๆเข็นรถดอกไม้มาที่ด้านข้างที่นั่ง
ทุกที่ในร้านแห่งนี้ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ ผู้คนที่มาทานอาหารที่นี่ ล้วนแล้วถูกดอกกุหลาบสีแดงสดใสและกลิ่นหอมดึงดูด
“ดอกกุหลาบดามัสกัสงั้นเหรอ เป็นดอกกุหลาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ฉันอยากได้สักหนึ่งช่อ คุณชายลี่ คุณซื้อให้ฉันสักช่อนะคะ!”
เมื่อหวังเสี่ยวถีเห็นดอกกุหลาบอันโรแมนติคพวกนี้ หล่อนจึงเบี่ยงสายตาออกจากเฉินเกอ
จ้องมองไปที่รถขายดอกไม้อย่างใจจดใจจ่อ
“โอเคๆ ในเมื่อคุณชอบ อะไรก็ซื้อได้!”
คุณชายลี่เขย่านาฬิกาสีทองบนข้อมือ จากนั้นหยิบดอกไม้ขึ้นมาหนึ่งช่อจากรถเข็น หนึ่งช่อมีประมาณสามดอก กลิ่นหอมเย้ายวน
“เท่าไหร่ครับ?” คุณชายลี่ถามขึ้น
“ขอบคุณค่ะคุณผู้ชาย สายตาเฉียบแหลมมากค่ะ ดอกไม้ช่อนี้เหมาะกับความสวยของแฟนคุณมากเลยค่ะ!”
พนักงานหญิงรีบยิ้มและพูดขึ้น
“ครับๆ บอกมาเถอะครับว่าราคาเท่าไหร่…” คุณชายลี่มองไปรอบๆร้านมิชลิน ทุกคนส่งสายตาสรรเสริญเยินยอให้เขา จึงทำให้รู้สึกสะใจมาก
จากนั้นหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาพลางถามขึ้น
“ช่อดอกไม้ช่อนี้มีดอกกุหลาบทั้งหมด36ดอก ราคาเพียงเจ็ดหมื่นสองพันค่ะคุณผู้ชาย!”
“ว่าไงนะ!!!”
คุณชายลี่มือสั่นจนทำกระเป๋าสตางค์หล่นพื้น เขาเบิกตาโตถามขึ้น
เขาเคยได้ยินว่ามีดอกกุหลาบช่อละสองสามหมื่น เคยได้ยินจริงๆ
แต่ช่อดอกไม้ช่อละเจ็ดแปดหมื่น ถือเป็นครั้งแรกที่เคยได้ยิน
เค้าตกตะลึงมึนสับสนทันที
“คุณชายลี่ คุณเป็นอะไรไป? ดอกกุหลาบดามัสกัสเป็นดอกไม้ที่ใช้มอบให้กับประธานาธิบดีโดยเฉพาะ ดอกกุหลาบชนิดนี้ มีผิวสัมผัสนุ่มลื่น ตั้งแต่กระบวนการปลูก ซึ่งผ่านขั้นตอนการเลี้ยงดูจากผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นดอกไม้ชนิดนี้ จึงสามารถจัดเก็บได้นานถึงสามเดือนโดยไม่เหี่ยวเฉา ฉะนั้นราคาเจ็ดแปดหมื่นถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ!”
หวังเสี่ยวถีเห็นว่าคุณชายลี่ตกลึงไป ตัวเองก็อยากได้มาก จึงพูดร้องขอความเห็นใจ
พนักงานสาวสวยรีบพยักหน้าพูดตอบ : “คุณผู้ชายคะ แฟนของคุณเนี่ยมืออาชีพด้านนี้มากเลยนะคะ พูดถูกต้องทุกอย่างเลยค่ะ! คุณใช้บัตรเครดิตหรือเงินสดคะ?”
“เอ่อ คือว่า ผมไม่รับดีกว่า ผมนึกขึ้นมาได้ว่า ผมสั่งดอกกุหลาบอีกช่อให้เสี่ยวถีไว้โดยเฉพาะแล้วครับ!”
คุณชายลี่เม้มปาก
ดอกกุหลาบอันสวยงามถูกวางกลับที่เดิมอีกครั้ง
หวังเสี่ยวถีทำสีหน้าผิดหวัง โดยเฉพาะตอนนี้ที่ถูกทุกคนต่างพากันหัวเราะเยาะ
ทำให้หวังเสี่ยวถีรู้สึกขายหน้ามาก
ในความเป็นจริง ความทะเยอะทะยานอยากได้ของหล่อนมีมากไปเหลือเกิน
ยังคิดว่าครั้งนี้จะตกได้รุ่นพี่เศรษฐี แม้ว่าจะเปรียบเทียบกับชายหนุ่มทั่วไปไม่ได้ แต่ทว่า อย่างน้อยก็มีความสามารถบ้าง
หวังเสี่ยวถีคิดว่าตัวเองได้สัมผัสกับความรู้สึกที่ถูกตามใจด้วยเงินจริงๆแล้ว
แต่ตอนนี้เมื่อมองดูคุณชายลี่ จึงรู้สึกว่าคิดเข้าข้างตัวเองมากไปจริงๆ
คุณชายลี่คิดว่าจ่ายสักสองหมื่นคงพอไหว หากมากไปกว่านี้คงเยอะเกินไป เขาคงจ่ายไม่ไหว ยิ่งไปกว่านั้น จะใช้เงินเจ็ดแปดหมื่นหยวนซื้อดอกไม้หนึ่งช่องั้นเหรอ
หวังเสี่ยวถีรู้สึกอับอายจนอยากหลีกหนีออกไปสายตาอันเหยียดหยามของทุกคน
สุดท้ายเมื่อหันหลังไป บังเอิญเห็นเฉินเกอที่กำลังหัวเราะอยู่
เขาทั้งหัวเราะเยาะและพูดคุยบางอย่างกับผู้หญิงหน้าตาน่าเกลียดคนนั้น
หวังเสี่ยวถีโกรธขึ้นมาทันที
“นี่ เฉินเกอ นายหัวเราะอะไร?”
หวังเสี่ยวถีลุกขึ้นยืนทันที จากนั้นชี้หน้าด่าเฉินเกอที่นั่งอยู่ที่นั่งวีไอพีด้วยความโมโห
ไอ้หมอนี่ มีอะไรให้น่าหัวเราะนัก นายมันก็แค่ทำตัวเสแสร้งมานั่งที่วีไอพี ยังจะกล้าหัวเราะเยาะอีกเหรอ?
“ห้ะ? ใครหัวเราะเธอ ฉันแค่มองดอกไม้ ทำไมรึ นี่ก็ทำให้เธอไม่พอใจงั้นเหรอ?”
เฉินเกอตอบกลับด้วยความไม่พอใจ
เมื่อครู่เฉินเกอเห็นว่าซูเฉียงเวยชอบดอกไม้พวกนั้นมาก จึงถามหล่อนว่าอยากได้ดอกไหน เพียงแค่นี้ กลับถูกหวังเสี่ยวถีอาละวาดใส่
“ให้ตายสิ นายยังจะมองดอกไม้พวกนี้อีก คิดว่าเหมาะกับนายมากรึไง?” หวังเสี่ยวถีพูดดูถูก
เฉินเกอส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจ ไม่พูดอะไรต่อ
หันกลับมาเรียกพนักงานที่ขายดอกไม้ ให้หล่อนเดินเข้ามา
พนักงานยิ้มให้และเข็นรถเข็นไปหยุดตรงหน้าเฉินเกอ
“นี่มีดอกกุหลาบทั้งหมดกี่ดอกครับ?”
“อะไรนะคะ? คุณผู้ชายถามถึงทั้งรถเข็นคันนี้เหรอคะ?” พนักงานหญิงถามด้วยความตื่นตกใจ รีบตอบกลับ “มีทั้งหมด 1001 ดอกค่ะคุณผู้ชาย!”
“1001 ดอก ประมาณสองแสนหยวนค่ะ”
“ใช่ค่ะคุณผู้ชาย คุณผู้ชาย…คิดจะทำอะไรเหรอคะ?” พนักงานเบิกตากว้าง
ซูเฉียงเวยดูออกว่าเฉินเกอคิดจะทำอะไร เพราะเมื่อครู่หล่อนจ้องไปที่ดอกกุหลาบดามัสกัสอยู่นานสักพัก
หล่อนจำได้ดีว่าเคยเห็นในหนังสือเรียน
คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะได้เห็นดอกกุหลาบดามัสกัสในตำนานของจริง
จึงทำให้มองจนเหม่อลอย
เฉินเกอคงเห็นว่าตัวเองชอบมากจึงคิดอยากจะซื้อ
อยากจะห้าม แต่ก็สายไปเสียแล้ว
เฉินเกอหยิบบัตรเครดิตออกมา จากนั้นพูดด้วยเสียงนิ่งเรียบ
“ดอกไม้พวกนี้ ผมเหมาเอง รูดบัตร!”
“ว่าไงนะ!”
พนักงานอึ้งไปทันที เหมาหมด!
ส่วนเสี่ยวถีถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่
เสมือนโดนตบหน้าจนชาไปหมด
เป็นไปไม่ได้ ไอ้ยาจกจะเสแสร้งไปถึงไหนกัน?
เขาต้องหลอกลวงอยู่แน่นอน เขาจะมีเงินเยอะขนาดนั้นได้ยังไงกัน?
จากนั้น เสียงรูดบัตรสำเร็จดังขึ้น หวังเสี่ยวถีราวกับถูกตบหน้านับครั้งไม่ถ้วน
สองแสนกว่า!
โอ้พระเจ้า เฉินเกอมีเงินสองแสนกว่า ทั้งยังจ่ายออกไปโดยไม่เสียดายสักนิด?
“เดี๋ยวผมช่วยเอาดอกไม้ไปส่งให้คุณที่บ้าน จากนั้นเอาไปจัดให้สวยทั้งบ้านเลย!”
เฉินเกอไม่มองสีหน้าอารมณ์ของหวังเสี่ยวถีแม้แต่น้อย
แต่กลับพูดคุยกับซูเฉียงเวยอย่างมีความสุข
หลังจากทานข้าวเสร็จ เขาเดินออกไปจากร้าน
ไม่มองหวังเสี่ยวถีแม้แต่นิดเดียว
เมื่อไม่ได้รับการสนใจจากเฉินเกอ หวังเสี่ยวถีจึงรู้สึกเจ็บใจมาก
ให้ตายเถอะ คนที่ตัวเองดูถูกมาโดยตลอด กลับมีเงินมากขนาดนี้!
กรี๊ด! ! !
ไม่ได้ จะต้องรู้ให้ได้!
หวังเสี่ยวถีจะตามสืบให้ได้
แต่ทว่า รถลัมโบกินีผ่านสายตาไป รู้สึกคุ้นเหลือเกิน ในนั้นยังมีเฉินเกอและผู้หญิงคนนั้นอีกด้วย?
“รถหรูคันนั้นรึ? โอ้โห ในที่สุดรถหรูคันนั้นก็ถูกขับออกไป เศรษฐีผู้ลึกลับคนนั้นปรากฏตัวขึ้นแล้ว ว้าว ทำไมตัวเองไม่ออกไปก่อนล่ะ ถ้าออกไปก่อนสักก้าวหนึ่ง ก็จะได้เห็นหน้าตาของเศรษฐีคนนั้นแล้ว!”
หวังเสี่ยวถีกระวนกระวายจนหยุดอยู่กับที่ไม่ได้ และยังพลาดโอกาสได้รู้จักกับเศรษฐีคนนั้นอีก
แต่ทว่า…
จู่ๆหวังเสี่ยวถีนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นนิ่งตะลึงไปทันที
ไม่ใช่สิ!
เฉินเกอล่ะ?