ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 126 ภัตตาคารแบบบูไวด์
บทที่ 126 ภัตตาคารแบบบูไวด์
“เฮ้ย มู่หานคุณรีบดูสิ ไอ้ผู้ชายห่วยๆคนนั้นมาแล้ว!”
“ เขาคบกับจ้าวยีฟานไม่ใช่เหรอ มายืนทำอะไรที่หน้าประตูห้องเรา?
“เหอะ ไอ้ผู้ชายไม่ได้เรื่องคนนั้นคงชอบมู่หานของเราเข้าแล้วมั้ง โอ้แม่เจ้า ไม่รู้จริงๆเลยว่าจ้าวยีฟานคิดยังไง ทำไมเธอจึงได้ตกลงคบกับคนแบบนี้?”
เมื่อเฉินเกอเดินไปที่หน้าประตูห้องเรียนของซูมู่หาน
ก็ถูกทั้งกลุ่มล้อเลียนทันที
อย่างไรก็ตาม เฉินเกอมีภูมิคุ้มกันต่อสิ่งเหล่านี้แล้ว
เพียงแค่อยากให้ซูมู่หานออกไปเดินเล่น
ซูมู่หานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เฉินเกอมาหาเธอ เธอยังรอให้เฉินเกอโทรหาเธออยู่เลย ในตอนที่เธอกำลังรู้สึกผิดหวัง คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาในห้องโดยตรง
แน่นอนว่าซูมู่หานตอบตกลงอย่างไม่ลังเล
เพราะตอนนี้เธอเชื่อในเฉินเกออีกครั้ง ในความเป็นจริงหลังจากที่เธอตบหน้าเฉินเกอในวันนั้น ซูมู่หานก็รู้สึกว่าไม่น่าทำเลย ไม่ว่าจะคิดยังไงก็รู้สึกว่าเฉินเกอไม่ใช่คนแบบนั้น
ดังนั้น เมื่อเฉินเกออธิบายให้เธอฟังเมื่อวานนี้ ซูมู่หานก็เชื่อในตัวเฉินเกอแล้ว
ทั้งสองคนเดินออกจากห้องเรียนท่ามกลางสายตาของทุกคนด้วยความประหลาดใจ เดินออกจากห้องเรียน จนมาถึงบนถนนในโรงเรียน
“ เฉินเกอ ลูกพี่ลูกน้องของฉันไม่ได้กลับมาจากประเทศ M ครั้งที่แล้วเธอยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจบางอย่างในช่วงนี้ แต่ตอนนี้เธอไม่ได้ยุ่งอีกแล้ว เธออยากเจอคุณมาตลอด ฉันพยายาผัดวันประกันพรุ่ง ตอนนี้ผลัดไม่ได้อีกแล้วจริงๆ!”
ซูมู่หานกล่าว”ฉันอยากให้คุณเลี้ยงข้าวลูกพี่ลูกน้องของฉัน!”
“อ่อๆ ไม่มีปัญหา เมื่อไหร่ละ?”
เฉินเกอเห็นซูมู่หานก็ไม่โกรธแล้ว ในที่สุดในใจก็เริ่มห่วงเรื่องนี้อีก ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงทันที
“ตอนบ่ายคุณไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ งั้นก็ตอนเที่ยงละกัน อีกไม่กี่วันลูกพี่ลูกน้องของฉันก็เริ่มยุ่งอีกแล้ว จากนั้นก็จะกลับไปที่ประเทศM หลังจากที่ทำงานเสร็จ!”
“ได้เลย!”
หลังจากตัดสินกันเสร็จแล้ว
เฉินเกอก็เริ่มมองหาสถานที่ที่จะไปรับประทานอาหาร
เฉินเกอคุ้นเคยถนนการค้าจินหลิงเป็นอย่างมาก เขาจึงไม่ค่อยอยากไป
อีกอย่าง ไปที่นั่นก็ดูเหมือนจะไฮโซไปหน่อย
ก็เลยไปปรึกษาหลี่เจิ้นกั๋วสถานที่ก็หลี่เจิ้นกั๋วเป็นคนจองให้ ชื่อร้านคือภัตตาคารแบบบูไวด์
ที่นั่นดูเงียบสงบดี
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นส่วนของถนนการค้าจินหลิง แต่ก็เป็นร้านอาหารที่เปิดโดยบริษัทการค้าจินหลิง กรุ๊ป
ถ้าเรื่องประสิทธิภาพนั้น ร้านอาหารธรรมดาสามสี่แห่งในย่านถนนการค้าจินหลิงก็ไม่สามารถเทียบได้
เมื่อได้ยินชื่อนี้ เฉินเกอก็ตอบตกลงทันที และได้มาที่นี่กับซูมู่หานก่อน
หลังจากมาถึงภัตตาคารแบบบูไวด์ ความรู้สึกที่เฉินเกอสัมผัสได้นั้นมันไม่ได้หรูหราอย่างที่เขาจิตนาการไว
ค่อนข้างคล้ายกับความรู้สึกเหมือนจากตัวเมืองเข้าไปในหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ในชนบท อาคารหลังเล็ก ๆ นี้ล้วนสร้างมาจากหินชนิดนั้น รูปแบบคล้ายกับของยุคสาธารณรัฐจีน
มีความสง่างามมาก
“พี่ถังฉู่ทางนี้ทางนี้!”
หลังจากรอไม่ถึงครึ่งชั่วโมง สาวงามที่แต่งตัวดูดีก็เดินเข้ามาในร้านอาหาร
เฉินเกอและซูมู่หานรออยู่ข้างนอก ซูมู่หานทักทายเธอด้วยความกระตือรือร้น “มู่หาน ใครเลือกสถานที่นี้หรือ?ทำไมถึงเลือกที่นี่?บ้านนอกจัง!”
หญิงงามนามที่ชื่อถังฉู่เดินเข้ามา
ถอดแว่นกันแดดของเธอออก ใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ
“สวัสดีครับพี่ถังฉู่ ผมชื่อเฉินเกอและสถานที่นี้ผมเป็นคนจองเองครับ!”
เฉินเกอยิ้มจาง ๆ
ถังฉู่คนนี้คล้ายกับถังหรานมาก เป็นสาวสวยมากในระดับหนึ่ง และเนื่องจากเป็นผู้ที่กลับมาจากต่างประเทศ ทำให้เธอมีบุคลิกที่ไม่เหมือนคนทั่วไป
เพียงแค่ท่าทีจู้จี้จุกจิกของเธอทันทีที่เธอมา เป็นอย่างที่เฉินเกอคิดเอาไว้ไม่ผิด
เหอะๆ ถังหรานน้องสาวของเธอก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ!
“โอโอ้ คุณคือเฉินเกอเหรอ ฉันอยากเจอคุณมาตลอด ได้ยินน้องสาวทั้งสองคนบอกว่าคุณรวยมาก ได้ซื้อรถลัมโบร์กีนีหลังจากที่ถูกล็อตเตอรี่ ฮ่าๆแล้วคุณพาพวกเรามาสถานที่แบบนี้เหรอ? ”
ถังฉู่ไม่ได้เกรงใจเลยและเดินเข้าไปในห้องเหมาในขณะที่พูดอยู่และยังปิดจมูกของเธอเบาๆ
ที่นี่สะอาดขนาดนี้ จะมีกลิ่นเหม็นได้อย่างไร
เฉินเกอยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัว
“เฉินเกอ คุณบอกมาสิ ว่าเงินที่ถูกล็อตเตอรี่ยังเหลือเท่าไหร่?”
ถังฉู่พูดตรงๆ
เฉินเกอยิ้มจาง ๆ “ไม่มากแล้ว ก็เกือบใช้หมดแล้ว!”
“ฮ่าๆ ว่าละ! คนอย่างคุณมันเป็นคนที่มีท่าทีรวยค่ำคืน บางคนที่เก็บเป็นก็ดีหน่อย
แต่คนอย่างคุณ ไม่ทันไรก็ซื้อรถหรูคันนี้แล้ว แน่นอนว่าไม่กี่วันก็หมด! ”
ถังฉู่ส่ายหัวเบาๆ
เฉินเกอพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
ดูเหมือนว่าทั้งซูมู่หานและถังหรานไม่ได้เล่าถึงตัวตนของเขาให้กับพี่ของพวกเธอฟัง
ถือว่าได้ช่วยเขาเก็บเป็นความลับ
“ แล้วเฉินเกอ คุณมีแผนอย่างไรในอนาคตละ?”
ถังฉู่ถามอีกครั้ง
“ผมยังคิดไม่ออกเลย!”
เป็นคำถามแบบนี้อีกแล้ว เฉินเกอก็ได้แต่ตอบผ่านๆ
ถังฉู่ส่ายหัวอย่างผิดหวังอีกครั้ง
ซูมู่หานรีบปิดหัวข้อการสนทนานี้:
“พี่ถังฉู่ คุณบอกว่าวันนี้คุณยังมีเพื่อนที่เรียนอยู่ต่างประเทศและทำงานที่จินหลิงอยู่
สองสามคนไม่ใช่เหรอ?ทำไมคุณไม่เห็นพวกเธอละ?
“อ๋อๆ พวกเธอจะมาเร็วๆนี้ เห้อ ตอนแรกฉันวางแผนที่จะทานอาหารกลางวันด้วยกัน เพื่อที่คุณจะได้รู้จักพวกเธอด้วย พวกเธอนะเป็นคนเก่งที่เรียนอยู่ต่างประเทศ แต่คุณดูที่นี่สิ ธรรมดาแบบนี้ จะให้พวกเธอมาที่นี่ได้ยังไง!”
“หือ? พี่ถังฉู่ ฉันคิดว่าเฉินเกอจองที่นี่ดีมากเลยนะและมีที่พักด้วย ดังนั้นจึงสามารถจัดที่พักที่นี่ให้พวกเธอได้ด้วย!”
ซูมู่หานกล่าว
“เหอะๆ? จัดที่พักที่นี่ น้องสาว คุณพยายามทำให้ฉันอับอายต่อหน้ากลุ่มเพื่อนของฉันหรือเปล่า?”
ถังฉู่ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
ในเวลานี้โทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น
รับสายอย่างรีบร้อน:
“อะไรนะ พวกคุณมาถึงแล้ว?หา?น้องชายของคุณมารับคุณเหรอ อ่อๆ ฉันยังไม่ได้กินและฉันกำลังเตรียมที่จะกินกับน้องสาวของฉันอยู่!ที่นี่ดูเหมือนจะเรียกว่า ภัตตาคารแบบบูไวด์คุณไม่ต้องมาจะดีกว่า ไปกินที่อื่นดีกว่า ที่นี่ค่อนข้างไม่ดี! “ในขณะที่ถังฉู่พูดเธอก็มองเฉินเกอด้วยสายตารังเกียจไปด้วย
คิดว่าเฉินเกอเป็นคนที่บ้านนอกมาก
“โอ้โห พวกคุณจะมาจริงๆเหรอ”
ไม่รู้ว่าพวกเธอพูดอะไรกันทางโทรศัพท์ ประมาณว่าเพื่อนของ ถังฉู่ต้องการมาดูและถังฉู่ก็รู้สึกตกใจ
หลังจากวางสายโทรศัพท์
“โอ๊ยน้องสาว วันนี้คุณทำให้ฉันอับอายขายหน้าจริงๆ ฉันชวนให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนสองคนมาร่วมรับประทานอาหารเที่ยงด้วยกัน ดูสถานที่ที่แฟนคุณจัดเตรียมให้เราสิ ตอนแรกฉันวางแผนว่าจะขอให้เฉินเกอช่วยจัดเตรียมที่พักให้ด้วย แต่ดูๆแล้วช่างมันเถอะ! ”
ถังฉู่กล่าว
เฉินเกอพูดไม่ออกเล็กน้อย
แม้ว่าภัตตาคารแบบบูไวด์จะดูธรรมดา แต่โดยทั่วไปหากตั้งอยู่ในเมืองจินหลิง นอกจากโต๊ะอาหารราคาแพงมากที่วิลล่าจินหลิงแล้ว ถัดจากนั้นก็คืออาหารในภัตตาคารแบบบู
วิลล่าสปามุ่งเน้นไปที่ทัศนียภาพ ความบันเทิงและอาหารเป็นหนึ่งเดียวกัน
สำหรับภัตตาคารแบบบูไวด์ ก็เป็นลมไม้ไผ่ตามชื่อ
จุดขายหลักคือกระบวนการรับประทานอาหารที่ประณีตในสภาพแวดล้อมย้อนยุคที่หรูหรา
บ้านไม้ไผ่และหินขนาดใหญ่ที่นี่ แสดงให้เห็นถึงประเด็นนี้พอดี
อีกอย่างเชฟที่นี่เป็นเชฟชั้นนำของอาหารท้องถิ่นในประเทศ
แต่ดูเหมือนว่า ถังฉู่ค่อนข้างไม่พอใจกับที่นี่ ถ้ารู้แบบนี้แต่แรกเขาก็จะจองวิลล่าสปาแล้ว!
และตอนนี้นี่เอง
รถคันหรูขับเข้ามา
โทรศัพท์ของถังฉู่ก็ดังขึ้น
ถังฉู่ยืนขึ้นด้วยความลำบากใจ”สุดท้ายพวกเธอก็มา เห้อ งั้นก็พาพวกเธอไปดูหน่อยละกัน!”
ขณะที่รับโทรศัพท์ถังฉู่สะบัดแขนและเดินออกไป
“เว่ยหลิน โน่ยีพวกคุณมาถึงที่นี่แล้วเหรอ!”
“ใช่ถังฉู่โธ่ ที่นี่ที่ไหนเหรอ?มันดูธรรมดามากเลย!”
สาวสวยสองคนลงจากรถและทักทายถังฉู่
หนึ่งในนั้นชื่อเว่ยหลิน ดึงคนขับรถซึ่งก็คือหนุ่มหล่อมาตรงหน้าถังฉู่
“ถังฉู่ นี่คือน้องชายของฉัน ชื่อว่าเว่ยเฉียง เขามาจากหวูโจวแล้วมาที่จินหลิงเพื่อมารับฉันโดยเฉพาะ ยังไงก็จะเที่ยวที่จินหลิงกับฉันให้ได้!”
“ว้าว เว่ยเฉียงหล่อมาก!”
ถังฉู่ยิ้ม
“สวัสดีพี่ถังฉู่ พี่ผมมักบอกผมว่าพี่สวยอย่างโน้นอย่างตอนนั้นผมยังไม่เชื่อ แต่เมื่อผมเห็นคุณในวันนี้ พี่ถังหรานสวยกว่าที่พี่สาวของผมพูดไว้อีก!”
เว่ยเฉียงจัดระเบียบชุดสูทของเขาและยิ้ม
ชมจนถังฉู่มีความสุขมาก
“ ใช่แล้วฉูฉู สาวงามคนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณชื่อซูมู่หานที่คุณมักจะพูดถึงใช่ไหม?รุ่นเดียวกันกับน้องชายของฉันเลย!”
เว่ยหลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เว่ยเฉียงมองไปที่ ซูมู่หานเพียงแค่แวบเดียวดวงตาของ เว่ยเฉียงก็ไม่สามารถขยับได้เลยนี่มันสวยงามเกินไปจริงๆ
“ฮ่าฮ่าใช่ ฉันว่าจะแนะนำน้องสาวของฉันให้กับเว่ยเฉียงรู้จัก เขาสองคนสามารถคบหาดูใจกันได้!”
ถังหรานยิ้มไปด้วย หันหน้าไปทักทายซูมู่หานไปด้วย
แต่แล้วฉันก็จำได้ซูมู่หานมีแฟนแล้วแฟนขี้เหร่คนนี้ยืนอยู่ข้างๆเธอ
ป๊าดโธ่ ฉันลืมเฉินเกอได้ยังไงเนีย!
“สวัสดีพี่เว่ยหลิน นี่เฉินเกอแฟนของฉันเอง วันนี้เฉินเกอเลี้ยงข้าวทุกคน!”
ซูมู่หานจับแขนเฉินเกอและแนะนำตัว
ฉากนี้ทำให้ พี่น้องเว่ยหลินคู่นี้ค่อนข้างถูกบดบัง
ที่แท้คุณมีแฟนหรือ?
“เหอะๆ ที่นี่จะมีอะไรอร่อยละ ฉันได้ยินมาจากเพื่อนร่วมชั้นว่าร้านอาหารที่ดีที่สุดในจินหลิง อยู่ที่ถนนการค้าจินหลิง มีร้านที่ชื่อว่าห้องครัวเจียหยวนไม่เลวนะ! พวกเราไปกินที่นั่นกันเถอะ ฉันเลี้ยงเอง!”
“ห้องครัวเจียหยวน ฉันก็เคยได้ยินมาดีเลย ไปที่นั่นกันเถอะ!”
เห็นได้ชัดว่าถังฉู่ไม่มีความคิดเห็น
ห้องครัวเจียหยวนด้อยกว่าที่นี่มาก
แต่พวกเขาทั้งหมดดูถูกที่นี่ เฉินเกอก็ไม่อยากพูดอะไร
ในเมื่ออยากไป งั้นก็ไปเถอะ …