ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 160 สายของหานเฟยเอ๋อ
บทที่ 160 สายของหานเฟยเอ๋อ
“หา? พี่เฟยเอ๋อ อย่างนั้นคุณควรรีบโทรหาผู้บริหารระดับสูงของบริษัทของคุณเถอะ ยังมียังมี รีบติดต่อพี่ผิงผันโดยเร็ว! ”
มีหญิงสาวพูดขึ้นอย่างกังวล
ยังไงเสียก็เป็นผู้หญิง เมื่อได้ยินว่าจะมีคนมาปิดล้อม ไม่รู้ว่าจะทะเลาะวิวาทกันหรือเปล่า ดังนั้นจึงเป็นกังวลขึ้นมา
“หึ กลัวอะไรกับพวกสัตว์หน้าขน ฉันไม่ต้องการใครทั้งนั้น หากจิ่วเจียงคนนั้นกล้ามาปิดล้อมฉันที่ตี้หวางจริง เชื่อไหมว่าฉันจะให้เขาเดินมาแต่คลานกลับไป? นั่นเป็นเพราะพวกเราสนิทกับคนๆ หนึ่งเป็นอย่างดี แม้แต่เจ้าของของตี้หวางเองก็กลัวเธอ! ฮ่าฮ่านี่คืออาณาเขตของเรา! ”
หานเฟยเอ๋อเท้าเอวของเธอแล้วหัวเราะ
เฉินเกอตะลึงไป แย่แล้ว? หรือว่าตัวตนของเขาจะต้องถูกเปิดเผยแล้ว?
“หา คนนั้นเป็นใคร? ”
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าพวกเขาทุกคนล้วนคุ้นเคย พวกตู้เยว่จึงอยากรู้อยากเห็นอย่างยิ่ง
“หึ ไม่ต้องถามแล้ว ฉันก็แค่บอกกับพวกเธอว่าไม่ต้องกลัว ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของฉัน พวกเราสมควรกินและดื่มเต็มที่! ”
หานเฟยเอ๋อกล่าว
หวงเหมาและคนอื่นๆ ก็เริ่มเปิดขวดไวน์อย่างตื่นเต้นขึ้นมาเช่นกัน
ทุกคนรื่นเริงกันอย่างสนุกอย่างยิ่ง
ในทางกลับกัน เฉินเกอกลับรู้สึกกังวลเล็กน้อย
หานเฟยเอ๋อเหลิงเกินไป จนแทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตา
เฉินเกอรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง ต้องดูแล้วว่าเขาควรหาเวลาคุยกับแอพสตูดิโอเชาฟ๋านสักหน่อย เหยียบเธอลงมาบ้าง
ในขณะที่กำลังคิด เสียงปังก็ดังขึ้น
ประตูห้องส่วนตัวถูกคนเตะให้เปิดออก
จากนั้นผู้คนจำนวนมากก็เข้ามา
มันมีมากกว่า 30 คน.
“ทำบ้าอะไร! ”
หวงเหมาเองก็ตะลึงไปในตอนแรก จากนั้นก็ด่าขึ้นทันที
จากนั้นเขาก็ถูกคนหนุ่มหลายคนก็ถูกดึงผม และถูกขวดเบียร์กระแทกลงบนหัวและล้มไปบนพื้นทันที
“กรี้ด!”
สาวๆ กรีดร้องขึ้นมาทันที
“ทุกคนอย่าขยับ! ”
มีคนหนุ่มบางคนตะโกนขึ้นมาด้วยสีหน้าข่มขู่
ต้องรู้ด้วยว่า โดยปกติแล้วพวกผู้หญิงเหล่านี้ก็เคยเห็นการต่อสู้กันมาก่อน แต่ไม่เคยเห็นที่รุนแรงขนาดนี้อีกทั้งยังมีคนมากมาย
ทั้งหมดตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง มาถึงก็ลงมือทันที ดังนั้นจึงหวาดกลัวขึ้นมา
“พวกนายกำลังทำอะไร? รู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน และฉันเป็นใคร”
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น ตอนนี้แม้แต่หานเฟยเอ๋อก็ยังรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
ไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหน แต่ถูกคนล้อมเอาไว้แบบนี้ ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงความรู้สึกลนลานได้
จากนั้นก็มีคนเอ่ยขึ้น
“แน่นอนว่าฉันต้องรู้ว่าเธอเป็นใคร หานเฟยเอ๋อไง โด่งดังไม่น้อยนี่ ฮ่าฮ่า เธอบอกเองไม่ใช่หรือไงให้ฉันมาล้อมเธอ ตอนนี้ฉันมาแล้ว เป็นไงเฟยเอ๋อ ดูสิว่าฉันสนับสนุนเธอแค่ไหน จะไม่ดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยหรือ?”
ชายร่างท้วมอายุ 38-39 ปียืนขึ้นและเอ่ยหัวเราะเยาะ
ในบรรดาคนทั้งหมดในกลุ่มนี้ เขาสวมใส่เสื้อผ้าสบายที่สุด เป็นเพียงแค่เสื้อยืดตัวหนึ่ง
ส่วนบนแขน สักรูปวาดมังกรเอาไว้ เมื่อเห็นก็ดูออกทันทีว่าเป็นนักเลง
“นายคือจิ่วเจียง?”
ทันทีที่นึกคิดหานเฟยเอ๋อรู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นใคร
“นายกล้ามาปิดล้อมฉันที่ตี้หวางจริงๆ เชื่อหรือไม่ว่าฉันจะหาคนมาจัดการนาย!”
หานเฟยเอ๋อตะโกนกลับอย่างไม่ยอมเผยความอ่อนแอ
ส่วนจิ่วเจียง สีหน้าของเขาไม่มีความหวาดกลัวลังเลใดๆ เขาทำแค่เพียงเดินไปหาหานเฟยเอ๋อด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
จากนั้น…
เสียงเพี๊ยะดังขึ้น หลังมือก็ตบมาที่ใบหน้าของหานเฟยเอ๋อ
หานเฟยเอ๋อถูกตบจนล้มลงไปนั่งบนโซฟา
“บ้าเอ้ย หญิงสารเลว คิดว่าตัวเองโด่งดังแล้วจริงๆ ตอนแรกฉันเห็นเธอหน้าตาไม่เลว ดังนั้นถึงได้ลงเงินไปเล็กน้อยเพื่อหยอกล้อเธอ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะกล้าดูหมิ่นและดูถูกฉันมากขนาดนี้ ฮ่าฮ่า วันนี้เธอไม่ต้องรีบหาคนมาจัดการฉัน รอให้ฉันจัดการกับเธอก่อนแล้วกัน! ”
จิ่วเจียงหัวเราะเยาะ
ทันใดนั้น ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง
“คุณหนูตู้ คุณพูดว่าใคร? ใครกล้ามาทะเลาะวิวาทที่นี่?”
เป็นบอดี้การ์ดสี่ห้าคนในตี้หวาง ตามตู้เยว่เข้ามา
ตู้เยว่ผู้หญิงคนนี้ไหวพริบไม่เลว เมื่อครู่ ในขณะที่พวกเขาพุ่งเขามาหวงเหมาคิดจะต่อสู้กับพวกเขาไม่ใช่หรือ ดังนั้นเธอจริงอาศัยประโยชน์จากการเอาชนะพวกหวงเหมา ตู้เยว่ค่อยๆ อ้อมด้านหลังของพวกเขาออกไปอย่างระมัดระวัง
เนื่องจากในห้องนั้นค่อนข้างมืด อีกทั้งยังเกิดการต่อสู้กัน ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจตู้เยว่
จากนั้นเธอก็เรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมา
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคนล้วนเก่งกาจอย่างยิ่ง
“โอ้! ที่แท้ท่านประธานใหญ่จูเจียงก็มาที่นี่! สวัสดีครับประธานจูเจียง!”
ไม่คาดคิดว่าพอเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนเห็นจิ่วเจียงเข้า พวกเขาก็ตกตะลึงในทันที
“ท่านประธานใหญ่จูเจียงอะไรกัน พวกเขามาที่นี่เพื่อทำร้ายคน!”
ตู้เยว่มองไปที่ท่าทีของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จากนั้นก็เอ่ยด้วยความแปลกใจทันที
“เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร ท่านประธานใหญ่จูเจียงกำลังตบตีพวกเธองั้นหรือ คนเขาเป็นถึงท่านประธานใหญ่ของบริษัทในเครือของ บริษัทไห่ชาน กรุ้ปมาเล่นกับเด็กๆ แบบพวกเธอไปทำไมกัน ไปไปไป หากครั้งหน้ายังพูดจาไร้สาระอีก ปาดเธอจะแตก ประธานจูเจียง เชิญตามสบาย! ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนยิ้มอย่างประจบ จากนั้นจึงก้าวออกไป
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้ไม่ได้กลัวจูเจียงแต่เป็นเพราะหลี่เฟยหงได้บอกกับพวกเขาไว้ก่อนแล้วว่าคนบริษัทไห่ชาน กรุ้ป มา ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ต้องไว้หน้าให้สามส่วน
ไม่มีทางเลือกอื่น บริษัทไห่ชาน กรุ้ปเป็นงูพิษวายร้ายในจินหลิง
แม้ว่าหากต้องทำจริงๆ บริษัทการค้าจินหลิงกรุ๊ปก็ย่อมไม่กลัว แต่ในยามปกติ ทุกคนล้วนไว้หน้ากันสามส่วนตามมารยาท
ดังนั้นหากแขกบางคนทำให้คนของบริษัทไห่ชาน กรุ้ปขุ่นเคือง และพวกเขามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็จะทำเป็นปิดตาข้างหนึ่ง
แน่นอนว่า ในใจของจูเจียงเองก็รู้ดี เขาจะไม่สร้างปัญหามากเกินไป
เมื่อหานเฟยเอ๋อได้ฟังคำพูดของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เธอก็รู้สึกแตกตื่นขึ้นมาบ้างแล้ว
แย่แล้ว ที่แท้จิ่วเจียงที่เธอเอาแต่ดูถูกมาตลอด แท้จริงเป็นถึงท่านประธานใหญ่คนหนึ่งของบริษัทไห่ชาน กรุ้ป
ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะมีอำนาจมากขนาดสามารถตรวจสอบตนเองได้
เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตี้หวางตกใจจนหลบซ่อนออกไป ความมั่นใจของหานเฟยเอ๋อก็หายไปเกือบจะหมด
“หานเฟยเอ๋อ เป็นยังไง? ตอนนี้ไปดื่มกับฉันคงไม่มีปัญหาอะไรมั้ง? ฉันรู้ เธอคิดจะโทรหาบริหารระดับสูงของแอพสตูดิโอเชาฟ๋าน ฮ่าฮ่าฮ่า ได้ เธอลองโทรดูสิ อ้อใช่ ช่วยเอ่ยชื่อฉันจูเจียงไปหน่อย ดูสิว่าเขาจะสนใจเธอหรือไม่!”
จูเจียงหัวเราะเยาะ
หานเฟยเอ๋อปิดหน้าและเอ่ย “นายอย่าได้ใจไปนักเลย ใครบอกว่าฉันจะโทรหาผู้บริหารระดับสูง ถ้าฉันโทรหาเขา คุณก็อย่าได้คิดที่จะเดินออกไปได้อีก! ”
ตอนนี้ผู้บริหารพวกนั้นคงไร้ประโยชน์ ดังนั้นจึงได้แค่ขอร้องเธอแล้ว
“ดี โทรสิ ฉันอยากรู้นักว่าเธอจะยิ่งใหญ่แค่ไหน!”
จูเจียงกลับยังคงทำตัวรอดูว่าเธอจะทำยังไง
หานเฟยเอ๋อกดหมายเลขเพื่อโทรออก จากนั้นจึงอธิบายสถานการณ์ให้คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ฟัง
จากนั้นเธอก็กอดไหล่และหันกลับไปมองที่จูเจียง
เฉินเกอนั่งอยู่ในมุมด้านในสุด นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา เขาเพียงแค่แปลกใจเล็กน้อยที่หานเฟยเอ๋อคนนี้ช่างมั่วได้ไม่เลว นอกจากตนเองแล้ว เธอยังมีพี่ใหญ่คนอื่นอีกด้วย?
นั่นไง!
ไม่นานนัก เฉินเกอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มใหญ่ที่อยู่ด้านนอกห้อง
เห็นได้ชัดว่ามีกลุ่มคนกำลังมุ่งหน้าวิ่งเข้ามาทางนี้
จากนั้น ประตูของห้องก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง กลุ่มบอดี้การ์ดในชุดดำเข้ามา และปราบปรามกลุ่มคนที่จูเจียงนำมาลง
สิ่งนี้ทำให้จูเจียงตะลึงไปอยู่บ้าง
จากนั้นเมื่อมองไปยังคนสุดท้ายที่เข้ามา เขาก็ประหลาดใจมากขึ้น “ประธานหลี่ คุณ….?”
คนที่เข้ามาคือหลี่เฟยหง ผู้จัดการใหญ่ของตี้หวาง
“เหอะเหอะ ประธานจูเจียง,คุณเองก็อยู่มาตั้งนาน ทำไมแค่นักศึกษาไม่กี่คนยังไม่ยอมปล่อยไปบ้าง? วันนี้เห็นแก่หน้าพี่น้องหน่อยได้ไหม?” หลี่เฟยหงเดินไปตรงหน้าจูเจียงและเอ่ยยิ้มๆ
“พูดดีพูดดี ในเมื่อประธานหลี่ถึงกับเอ่ยปากเอง อีกทั้งอยู่ในเขตของคุณ คุณปกป้องพวกเขา แล้วผมจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร?”
จูเจียงมองไปที่บอดี้การ์ดของบริษัทการค้าระหว่างประเทศกรุ๊ปเขาไม่กล้าที่จะบุ่มบ่ามเกินไป
“คุณผิดแล้วประธานจูเจียง แต่คุณหนูหานเฟยเอ๋อคนนี้ ไม่ใช่ผมปกป้อง แต่เป็นผู้นำน้อยของพวกเราต่างหาก เธอปกป้องมาตลอด อีกทั้งวันนี้เธอก็บอกว่า ทุกคนในวันนี้ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับเธอ ไม่ว่าใครคุณก็แตะไม่ได้!”
หลี่เฟยหง เอ่ย
“โอ้? ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องถามสักหน่อย ว่าท่านนี้เป็นใคร? ถึงสั่งประธานหลี่เช่นนี้ได้?” จูเจียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เป็นฉัน ทำไม!”
ในเวลานี้ มีเสียงผู้หญิงกระจ่างใสดังขึ้น จากนั้นจึงตามมาด้วยหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังใส่ส้นสูงเดินเข้ามา!