ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 183 ปริศนาตัวตนของเฉินเหอ
บทที่ 183 ปริศนาตัวตนของเฉินเหอ
หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายโทรศัพท์เสร็จก็ต่างรออย่างไม่มีใครยอมใคร
ส่วนตำรวจนั้น เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ก็พูดอะไรไม่ได้ ส่วนเรื่องนี้จะสู้ด้วยตำแหน่งราชการหรือจะเจรจาไกล่เกลี่ยกันเองคงต้องพวกเขาสู้กันเสร็จก่อน
“ใครจะเจ๋งกว่าคนกันแน่?”
หลี่ชือหานลังเลใจ
เดี๋ยวเธอก็หวังให้เป็นติงห้าว เดี๋ยวก็หวังให้หม่าเฟยที่ยังคงคลั่งรักเธอมาตลอด
สรุปแล้วเธอสับสนมาก
ตอนนั้นเองที่ห้องไตร่สวนมีเสียงเท้าเดินเข้ามา
ดูเร่งรีบราวกับมากันเยอะ
“เฮ้ยพ่อ! หรือว่าประธานหลี่มาแล้ว?”
ติงห้าวคึกคักขึ้นมา!
“เป็นไปได้ยังไง เรื่องแบบนี้ประธานหลี่คงไม่มาออกหน้าด้วยตัวเองหรอก!”
พ่อของติงห้าวพูดเบาๆ
ตอนนั้นเองประตูถูกเปิดออก
ชายกลางคนสวมชุดตำรวจกลุ่มหนึ่งเดินออกมา
“ผู้บัญคับการจ้าว หัวหน้าหลิว!” ตำรวจทั้งสองนายรีบทำความเคารพ
ข้างหลังยังมีคนที่ไม่ธรรมดายืนอยู่อีกมากมาย
“จ้าว** ผมเองที่โทรหาประธานหลี่!” พอพ่อของติงห้าวเห็นตำรวจสาวก็ตื่นเต้นจนแทบสั่น
“หลิว* พวกเราเป็นฝ่ายเสียหายนะคะ เราติดต่อคุณหม่าเสี่ยวหนานแล้ว คนที่โดนตีคือน้องชายของคุณหม่าเสี่ยวหนาน!”
หม่าเซียวหยุนก็สูดหายใจเข้าลึกๆฟอดหนึ่ง
ตอนนั้นที่น้องสาวบอกว่าถูกคนใหญ่คนโตขับรถไมบัค 7-8 คันมาช่วย เธอยังไม่เชื่อ ตอนนี้พอเห็นความสามารถของญาติผู้น้องแล้วถือว่าเก่งกว่าเธอมาก
แม้แต่**กับ**ก็ตะลึง!
ดังนั้นทั้งสองฝ่ายก็บอกจุดยืนของตัวเองผู้มาช่วยฟัง
“เฮอะ! ประธานหลี่อะไรกัน น้องชาบอะไรกัน! เสี่ยวหวัง ถามเรื่องราวทั้งหมดชัดเจนรึยัง?”
จ้าวกังถาม
“ถามชัดแล้วครับ หม่าเฟยเป็นคนเริ่มสร้างปัญหาที่ห้างทองฉินเหอ เขาตบหลี่ชือหาน จากนั้นหลี่ชือหานก็เรียกคนมาช่วยแล้วต่อยหม่าเฟยกลับครับ!”
“โอเค พวกเธอดูเหมือนจะไม่มีใครยอมใครใช่ไหม อย่างนั้นก็ไม่ต้องรอใช้ตำแหน่งราชการหรือเจรจาไกล่เกลี่ยแล้ว ใช้กระบวนการธรรมดานี่แหละ การปกครองและการลงโทษ! คนที่ก่อเรื่องจะต้องถูกควบคุมตัวทั้งหมด!”
จ้าวกังพูดอย่างเย็นชา
ตอนนั้นเองทั้งสองฝ่ายต่างงงงัน
“นี่มันหมายความว่ายังไง? ไม่ได้มาช่วยหรอ?”
หม่าเซียวหยุนไม่คิดเลยว่าการยืนหยัดของตัวเองจะทำให้น้องชายถูกส่งตัวเข้าไป!
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ไม่ใช่อำนาจของน้องสาวหรอกหรอ? อย่างนั้นเรื่องนี้ก็ไม่ถึงกับต้องทำให้**กับ**ต้องตกใจ!
“คุณคือเฉินเกอคุณเฉินใช่ไหม?”
จากนั้นทุกคนก็มองมาที่เฉินเกอเป็นตาเดียว
“ใช่ครับ!” เฉินเกอพยักหน้า
ความจริงเมื่อกี้ตอนที่อยู่บนรถตำรวจเฉินเกอติดต่อหวงเหวยหมิน**แล้ว
แล้วเล่าสถานการณ์ให้ฟัง
นี่ก็ไม่ใช่เหตุการณ์ที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไร ยังไงซะตัวเขาเองก็ไม่มีเรื่องอะไรอยู่แล้ว!
เดิมทีก็แค่อยากจะทักทายหวงเหวยหมินเฉยๆ ไม่คิดเลยว่า**กับ**จะมาด้วยตัวเอง
“อ้อๆ คุณเป็นแค่คนเห็นเหตุการณ์ ตอนนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณแล้ว คุณกลับไปก่อนได้เลยครับ!”
“ครับ รบกวนด้วยครับ!”
เฉินเกอเดินออกไปโดยไม่ได้พูดอะไรท่ามกลางสายตาที่อึ้งจนอ้าปากค้างของทุกคน
ทุกคนมองออกแล้ว
ว่าพวกเขามาเพื่อช่วยเฉินเกอ
เพราะหลังจากที่เฉินเกอกลับไปแล้วพวกเขาก็ตามเฉินเกอไปไม่ได้สนใจคนในห้องอีก
“เชี่ย!”
หม่าเซียวหยุนทำตัวไม่ถูกเพราะกำลังช็อคอยู่!
หลี่ชือหานกับเฉินหลินก็เช่นกัน
ต่างช็อคกับเรื่องนี้
เส้นสายของเฉินเกอแค่ดูท่าทีที่พวกเธอปฏิบัติต่อคนกลุ่มนี้ก็รู้แล้วว่าแกร่งกว่าพ่อของติงห้าวและพี่สาวของหม่าเฟยเยอะ!
เฉินเกอเป็นใครกันแน่?
ทั้งคู่คิดในใจพร้อมกัน
ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้แล้วถือขึ้นมาใหม่อีก
หม่าเซียวหยุนไม่คิดเลยว่าจะโดนราวกับถูกตบหน้าเช่นนี้!
และในใจก็รู้สึกกังวล
ผู้หญิง 3 คนต่างกลัวว่าเฉินเกอจะเป็นคนที่มีฐานะใหญ่โต!
เมื่อกล่าวถึงตอนนี้เฉินเกอออกมาแล้ว สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงคือกรมการบริหารอย่างหวงเหวยหมินจะขับรถมารอข้างนอกแล้ว
พอขึ้นรถ
หวงเหวยหมินก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายเฉินครับ คนเห็นเหตุการณ์อย่างคุณไปทำอีท่าไหนถึงโดนจับไม่ปล่อยได้ล่ะครับ! เหอะๆ!”
เขาพูดถึงเรื่องที่หม่าเซียวหยุนพยายามจะยัดเยียดเขาให้เป็นพวกเดียวกันไปด้วย! เหอะๆ อย่าพูดถึงเลย คงจะแค่ทวงบุญคุณแหละ
เฉินเกอตอบกลับอย่างขอไปที
“จริงสิคุณชายเฉิน ผมมีเรื่องเล็กๆอยู่เรื่องหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรจะพูดดีไหม!”
หวงเหวยหมินขับรถส่งเขากลับโรงเรียนไปด้วยพูดไปด้วย
ส่วนภาพความทรงจำของเฉินเกอที่มีต่อหวงเหวยหมินนั้นก็ดีมาก
นี่คือผู้ใหญ่ที่อยากจะพัฒนาก้าวหน้าในโลกธุรกิจของจินหลิง
ดังนั้นโดยปกติแล้วฝั่งเฉินเกอก็มักตกลงตามคำขอ
“คืออย่างงี้ครับ ก่อนหน้านี้ทางฝ่ายบริหารของเราได้รับมอบหมายงานให้สร้างความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจทั้งในเมืองและชนบท แน่นอนว่าฝ่ายบริหารต้องให้ความร่วมมือเพื่อทำออกมาให้เป็นรูปเป็นร่างให้ได้ ดังนั้นผมวางแผนว่าจะไปตามอำเภอ ชนบทเหล่านี้ต่อเติมก่อสร้างครับ!”
“เดิมทีผมก็รบกวนคุณชายเฉินมาเยอะแล้ว จึงจะหาแหล่งลงทุนจากบริษัทอื่น เราคุยกันเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าจู่ๆเมื่อไม่กี่วันก่อนบริษัทไห่ชาน กรุ้ปจะถูกล้ม ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่างได้รับผลกระทบ การลงทุนที่คุยไว้จึงพลอยหายไปด้วย!”
หวงเหวยหมินยิ้มอย่างชมชื่น
เฉินเกอจะยิ้มหรือหัวเราะก็ไม่ออกเพราะความจริงบริษัทไห่ชาน กรุ้ปถูกตัวเขาล้มเอง
แต่กลับส่งผลต่อคนไม่น้อยเลย
“ดังนั้นผมเลยคิดอย่างงี้ครับ ผมได้ยินมาว่าบ้านเกิดของคุณอยู่อำเภอผิงอันข้างล่างของจินหลิง ผมหาข้อมูลมาแล้วว่าการคมนาคมของที่นั่นไม่เลวเลย ถ้าหากคุณยินดีจะลงทุนพัฒนาที่นั่น ผมว่าไม่กี่ปีก็สามารถพัฒนาเศรษฐกิจของอำเภอผิงอันขึ้นได้ แน่นอนว่าพวกเราทางนี้จะสนับสนุนเรื่องทรัพยากรครับ!”
หวงเหวยหมินร้องขอความเห็นจากเฉินเกอ
แน่นอนว่าฝั่งเฉินเกอไม่มีปัญหาอะไร
อีก 7 วันก็จะสอบเสร็จแล้ว พอสอบเสร็จก็จะว่างอยู่หลายเดือนสามารถใช้เวลานี้มาพัฒนาโครงการของตัวเองได้
ความจริงการลงทุนที่บ้านเกิดเฉินเกอก็เคยคิดไว้อยู่แล้ว เตรียมไว้ว่าจะพูดเรื่องนี้กับหวงเหวยหมินอยู่
ตอนนี้ตัวเองยังมาทำลายแผนลงทุนของหวงเหวยหมินอีก
ข้อตกลงนี้เฉินเกอไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ
ดังนั้นจึงตอบตกลงไป
พวกหยางฮุยกับหลี่ปินกำลังวุ่นกับการทบทวนบทเรียนอยู่ที่หอ
ตอนนั้นเองโทรศัพท์ของเฉินเกอดังขึ้นพอดี เฉินเสี่ยวพี่สาวเขาเป็นคนโทรมา
เนื่องจากในหอไม่สะดวกรับสายเฉินเกอจึงออกมาจากหอแล้วไปที่ห้องน้ำใหญ่แทน
เพราะนับๆวันดูวันนี้พี่สาวเขาก็คงจะถึงแล้ว เฉินเกออยากจะโทรหาพี่สาวอยู่พอดี
พอเฉินเกอออกไป
คนในห้องที่เดิมทีกำลังนั่งทบทวนบทเรียนก็รีบวางหนังสือในมือลงทันที
แล้วยังมีคนออกไปล็อคประตูโดยเฉพาะด้วย
“หยางฮุย รีบดูเร็วว่าเหล่าเฉินซื้อของอะไรดีๆมาอีกแล้ว ถ้าสุดท้ายเป็นอย่างที่สวีเสียจ้าวยีฟานเดาไว้จริง เหล่าเฉินก็คือคุณชายเฉิน อีกหน่อยพวกเราก็จะได้อาศัยบารมีด้วยแล้ว”
หลี่ปินยิ้มตาหยี
ยังไงซะรูมเมทก็มักจะขโมยของกิน แอบค้นของกันอยู่แล้ว แล้วครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฉินเกอโดน
ยังไงซะก็ไม่รู้สึกผิด
ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ทุกคนต่างสงสัยฐานะที่แท้จริงของเหล่าเฉินกันเท่านั้น!
“ใช่ หวังว่าพวกสวีเสียจะเดาถูกนะ”
หยางฮุยเกาหัวแล้วยิ้ม ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงหยางฮุยก็ดีใจกับเหล่าเฉินด้วย
ตอนนั้นเองก็มีคลิปขอร้องทางโทรศัพท์ส่งมาทางวีแชทของหยางฮุย
มองดูก็เห็นว่าสวีเสียส่งมา
“หยางฮุยๆ เฉินเกอกลับมาแล้วขึ้นยัง?!”
“กลับมาแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ห้องน้ำใหญ่แถมยังเอาของที่น่าดีสุดยอดอีก 2 ห่อด้วย!”
“ห๊ะ? ขอดูหน่อยๆ”
คนที่พูดไม่ใช่สวีเสียแน่นอนเป็นพวกรูมเมทของเธอ ส่วนจ้าวยีฟานก็มองอย่างอยากรู้อยากเห็น
ยังไงซะถ้ายังไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของเฉินเกอ 1 วันก็คงนอนไม่หลับไป 1 วัน โดยเฉพาะจ้าวยีฟานรู้สึกทรมาน 1 วันเหมือน 1 ปี
จะต้องขอโทษเฉินเกอไหมนะ? ตอนนี้ซูมู่หานไม่อยู่ ไม่แน่ว่าทั้งคู่อาจมีโอกาสกลับมาคบกันอีกครั้งก็ได้
แต่ถ้าเฉินเกอไม่ใช่คุณชายเฉินแต่เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งล่ะจะทำไง?
ไอ้หยา! ปัญหานี้เกือบทำให้จ้าวยีฟานแทบจะเป็นบ้าแล้ว
“หึๆ หลี่ปินลองเปิดดูซิว่าเหล่าเฉินซื้ออะไรมาอีก!”