ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 185 ไปกินข้าวเช้าด้วยกันกับพวกฉินหยา
- Home
- ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี
- บทที่ 185 ไปกินข้าวเช้าด้วยกันกับพวกฉินหยา
บทที่ 185 ไปกินข้าวเช้าด้วยกันกับพวกฉินหยา
“ใครจะรู้ล่ะ อาทิตย์ที่แล้วเสี่ยวหยาพูดไปแล้วไม่ใช่หรอว่าครั้งแรกที่เฉินเกอเจอเธอก็ถึงกับเลือดกำเดาไหลเพราะได้กลิ่นหอมจากตัวเธอ 555 ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่านี่เป็นเรื่องจริง!”
“จริง ทำไมไม่เห็นมีผู้ชายคนไหนเห็นฉันแล้วเลือดกำเดาไหลบ้างเลย! เธอว่าไหมเสี่ยวหยา? ดังนั้นฉันคิดว่า เฉินเกอกำลังตามหาเสี่ยวหยา!”
สาวๆคุยกันเจี๊ยวจ๊าว
ส่วนฉินหยาที่นั่งอยู่ข้างๆก็อดหน้าแดงไม่ได้
เรื่องที่ห้องสมุดครั้งที่แล้วทำเอาเธอรู้สึกอึดอัดไปหมด
แล้วยังคำยั่วยุนี่อีก
เอาเธอเขินไปหมด
เมื่อกี้พวกเธอกำลังนั่งเรียนอยู่เลย
แต่ตอนนี้จ้าวถงถงกระทุ้งฉินหยาให้เธอดูที่ประตู
จากนั้นเธอก็เห็นเฉินเกอกำลังหอบเอกสารทบทวนต่างๆเดินเข้ามาแถมยังมองไปๆมาๆรอบๆไม่หยุด
ถึงทำให้เหล่าสาวๆเริ่มถกเถียงกัน
“เฮ้! เฉินเกอ!”
ตอนนั้นเองจ้าวถงถงตะโกนขึ้นมาเบาๆ ด้วยความที่ห้องสมุดเงียบอยู่แล้ว พอจ้าวถงถงตะโกน เฉินเกอก็ได้ยินเข้าจริงๆ
พอเงยหน้าดูก็เห็นจ้าวถงถงยืนอยู่ตรงนั้นกำลังโบกให้เขาเดินเข้าไป
ส่วนข้างๆเธอก็คือพวกฉินหยา
ทำให้เฉินเกอดีใจมากที่ในที่สุดก็เจอแล้ว
เขาจึงเดินเข้าไปหาทันที
“เฉินเกอ ตั้งแต่ที่นายเดินเข้ามาจนถึงตอนนี้นายหาใครอยู่หรอ? หรือว่าเพื่อนนายอยู่ที่ห้องสมุด?”
พอเข้าไปปุ๊บ จ้าวถงถงก็ถามด้วยรอยยิ้มทันที
“อ๊ะ? ไม่มีนี่!”
เฉินเกอตอบอย่างกังวล
ในใจพลางคิดว่าซวยแล้ว ที่แท้ก็ถูกพวกเธอเห็นตั้งแต่ตัวเองเดินเข้ามาซะแล้ว
“อย่างนั้นนายหาใครอยู่ล่ะ?”
“555 ฉันรู้แล้วนายตามหาเสี่ยวหยาอยู่ใช่ไหมล่ะ? อยากรู้ว่าเสี่ยวหยาจะมารึเปล่า?”
จ้าวถงถงคลี่ยิ้ม
“ฉัน……” เฉินเกอไม่รู้จะพูดอะไรดี
เมื่อถูกคนอื่นพูดเป้าหมายในใจตัวเองออกมา ช่างน่าอึดอัดสุดๆ
ฉินหยาเงยหน้าขึ้นมองเฉินเกออย่างสงสัยและเฝ้ารอ อยากจะรู้ว่าที่จ้าวถงถงพูดน่ะจริงไหม
“ใช่ๆ ฉันกำลังตามหาฉินหยา เพราะคราวที่แล้วฉันทำกำไรหยกของเธอแตก เลยอยากจะมาชดใช้!”
เฉินเกอพูด
“หา? ไม่ต้องหรอกเฉินเกอ กำไรหยกนั่นก็ไม่ได้แพงอะไรแค่สองสามหมื่นเอง ฉันซะอีกที่อยากเจอนายเพื่อกล่าวขอบคุณ!”
เฉินเกอตะลึง
จากนั้นก็ยิ้มออกมา
แน่นอนว่าคำพูดนี้ของเธอไม่ได้มีความหมายอื่นแล้วอีกอย่างเงินสองสามหมื่นนั้นสำหรับบ้านฉินหยาแล้ว มันไม่ได้มากมายอะไรจริงๆ
เธอพูดออกมาแล้ว
“โอเค ในเมื่อต้องขอบคุณเฉินเกอ พอดีเลย ตอนนี้ยังเช้าอยู่ นายยังไม่ได้กินข้าวเช้ามาใช่ไหมเฉินเกอ? ใกล้ๆโรงเรียนเรามีร้านอาหารเช้าเปิดใหม่พอดีพวกเราไปกินข้าวไปด้วยคุยกันไปด้วยเถอะ!”
จ้าวถงถงยิ้ม
จากนั้นพูดเสริมต่อว่า “เฉินเกอตอนนี้เป็นโอกาสดีของนายที่จะได้เลี้ยงข้าวสาวๆถึง 6 คนเลยนะ นายต้องรักษาโอกาสนี้ไว้ดีๆน้า”
“โอเค อย่างนั้นเราไปกันเถอะ!”
เฉินเกอพยักหน้า
“ไม่ต้องให้เฉินเกอเลี้ยงหรอก วันนี้ฉันเลี้ยงเอง!”
ฉินหยายิ้มอย่างสบายๆ
จากนั้นสาวๆก็เดินออกไปกับเฉินเกอ
“พวกเธอไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันต้องกลับหอไปเอาของก่อนแล้วจะตามไป!”
พอออกจากห้องสมุดเฉินเกอก็พูดขึ้น
เขาต้องกลับไปเอากำไลหยก
คือฉินหยาให้เร็วที่สุดจะได้ไม่ติดค้างอะไรกันอีก
แม้ว่าฉินหยาจะสวยมากถึงขั้นแค่ผู้ชายคนไหนได้มองก็ต้องใจเต้น
แต่ในใจของเฉินเกอนั้นมีซูมู่หานเต็มห้องหัวใจแล้ว
เขามักรู้สึกว่าการพูดเกี่ยวพันกับผู้หญิงคนอื่นมากๆมันทำให้เขารู้สึกไม่ดี
นี่ก็เป็นเหตุผลที่เฉินเกอมักจะหลบพวกจ้าวยีฟางหลินเจียว
เมื่อกลับถึงหอเฉินเกอก็ไปหยิบกล่องกำไลหยกราคาห้าหมื่นโดยไม่ได้บอกอะไรกับพวกหยางฮุยที่เพิ่งจะตื่นนอนแล้ววิ่งลงมาหาพวกเธอ
ตอนนั้นเอง
สาวๆต่างมาถึงที่ร้านแล้วหาที่นั่งได้แล้ว
พอนั่งลงพวกจ้าวถงถงก็พากันยิ้มออกมา
“เสี่ยวหยา ฉันกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าเฉินเกอต้องชอบเธอแน่ๆ!”
“ใช่ๆดูออกใช่ไหมล่ะ พวกเธอไม่รู้อะไรฉันเคยได้ยินข่าวมาว่า เขาเรียนสายศิลป์แถมยังจนมาก!”
“จนแล้วยังไงล่ะ? เสี่ยวหยาของพวกเราใช่คนที่ขาดเงินหรอ? อย่างมากหลังแต่งงานก็แค่ยกธุรกิจให้สักอย่างเอง!”
“ก็จริง เฉินเกอออกจะรูปงามซะขนาดนั้น!”
“ห๊ะ พวกเธอพอได้แล้ว พูดบ้าอะไรกัน อะไรคืออย่างมากหลังแต่งงาน คนอย่างเฉินเกอออกจะซื่อๆ คำล้อเล่นแบบนี้แค่พูดกับฉันยังพอได้แต่เดี๋ยวอย่าล้อเขาแบบนั้นเชียวนะ ไม่ว่ายังไงเฉินเกอก็เคยช่วยฉันไว้ครั้งหนึ่ง!”
ตอนนี้ฉินหยาทนไม่ไหวแล้ว
ให้ตายเถอะ เหล่าสาวๆเพื่อนเธอพูดอะไรออกมาได้ทุกอย่างจริงๆ
ยิ่งพูดก็ยิ่งลามปาม
“แต่ว่าเสี่ยวหยา เธอยังไม่เคยคบใครมาก่อน ไม่อยากจะลองคบใครสักคนดูบ้างหรอ?”
จ้าวถงถงพูด
“ไม่เคยคบใครแล้วยังไงล่ะ? ฉันก็ไม่เห็นว่าคนประสบการณ์โชกโชนอย่างพวกเธอดีตรงไหนเลย!” ฉินหยายิ้มอย่างขมขื่น
“บังเอิญจังเสี่ยวหยา พวกเธอก็มากินข้าวเช้าที่นี่เหมือนกันหรอ?”
ขณะที่เหล่าสาวๆกำลังเม้าท์กันอยู่ ผู้ชายคนหนึ่งก็เดินมา
พอเห็นพวกฉินหยาตาก็เป็นประกาย
“โอ้ คุณชายลี่ ทำไม่เป็นนายได้ล่ะ?”
จ้าวถงถงยิ้มพลางโบกมือ
น้ำเสียงที่พูดมีความประจบสอพลอ
ผู้ชายตรงหน้าคือคุณชายลี่ลี่เยว่ที่ดึงเฉินเกอหน้าห้องพยาบาล
ฐานะทางบ้านของลี่เยว่ค่อนข้างดี
มีบริษัทหนึ่งแห่ง
เขาขับ BMW 7 Series ที่ราคามากกว่า 8 หมื่น
มีศักยภาพทางธุรกิจ
แน่นอนว่าตามธรรมชาติแล้วจ้าวถงถงจะประเมินคนสูง
ถ้าหากใครได้แต่งงานกับลี่เยว่ สำหรับผู้หญิงแล้วพูดได้เลยว่าครึ่งหลังของชีวิตจะมีความมั่นคง
แต่ลี่เยว่คอยตามจีบฉินหยาอย่างบ้าคลั่ง แต่น่าเสียดายที่ฉินหยาไม่ได้มีใจให้เขา
“พวกเธอนั่งคุยเล่นอะไรกันอยู่? ฉันก็กำลังหาเธออยู่พอดีเลยเสี่ยวหยา บังเอิญจัง!”
ลี่เยว่ยิ้มแล้วถือวิสาสะนั่งลงตรงที่ว่างที่เหลือไว้ให้เฉินเกอราวกับเป็นคนที่สนิทสนมกัน
“พวกเราพูดเรื่องที่เราใกล้จะจบแล้วก็อยากจะจะหาแฟนให้เสี่ยวหยาสักคน คุณชายลี่นายมีคนที่เหมาะสมให้เลือกบ้างไหม?”
จ้าวถงถงกระพริบตาถามปริบๆ
“จริงหรอ? อย่างนั้นต้องดูว่าเสี่ยวหยาพอใจฉันรึเปล่า……”
ลี่เยว่ดีใจมาก
“พอๆไม่ต้องพูดแล้ว ลี่เยว่นายว่ามาเถอะ นายตามหาฉันมีเรื่องอะไรรึเปล่า?”
ฉินหยาเก็บรอยยิ้มแล้วถาม
“แฮะๆ เมื่อวานกำไลหยกเธอแตกไม่ใช่หรอ คือฉันบุ๋มบ่ามไปหน่อยเลยไปซื้ออันใหม่ให้เธอเมื่อวานให้เธอโดยเฉพาะ เธอลองดูสิว่าชอบไหม!”
ลี่เยว่พูดพลางวางกำไลหยกของตัวเองลงบนโต๊ะ
เมื่อเปิดดูพวกจ้าวถงถงต่างพากันตะลึง
“โอ้โห! กำไลหยกชิ้นนี้ดูไม่ธรรมดาเลยนะ คุณชายลี่นายเสียเงินไปเท่าไรเนี่ย?”
คำอุทานของจ้าวถงถงดึงดูดสายตาของเหล่านักเรียนหญิงจำนวนไม่น้อยที่กำลังกินข้าวอยู่ให้ทยอยหันมามอง
ลี่เยว่เพียงแค่พูดออกมาเรียบๆยิ้มอย่างขมขื่นว่า “ลองเดาดูสิ ถ้าเธอเดาถูกฉันให้เธอชิ้นหนึ่ง ฮ่าๆๆ!”