ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 199 ความรู้สึกรักของฉินหยา
บทที่ 199 ความรู้สึกรักของฉินหยา
“เรื่องอะไร?”
“คุณบอกฉันมา หลายวันที่ผ่านมานี้ทำไมคุณถึงหลบหน้าฉัน?ต้องพูดความจริงกับฉัน!หรือว่าคุณจะมีแฟนแล้ว?”
ฉินหยาถามอย่างสอบสวนไม่แน่ใจ
แต่ฉินหยาก็รู้ดีว่า สถานการณ์ด้านการเงินของครอบครัวเฉินเกอนั้นไม่ดี อีกอย่างก็เหมือนกับที่ถงถงพวกเขาพูดไว้ คนคนนี้เป็นคนที่เย็นชาไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา จะไปมีแฟนได้อย่างไรกัน!
“อืม ผมมีแฟนแล้ว!”
เฉินเกอพยักหน้า
เดิมทีฉินหยาก็เข้าใจผิดบางอย่างเกี่ยวกับตัวเองอยู่แล้ว แม้ว่าเฉินเกอจะไม่หลงตัวเองพอที่จะบอกว่าฉินหยาชอบคนแบบตัวเองแต่ตัวเองหลบหน้าเธอก็เพราะว่าตัวเองมีแฟนแล้วจริงๆ!
“อะไรนะ?คุณโกหกฉันหรือเปล่า……”
ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด หัวใจของฉินหยาเจ็บปวดอย่างกะทันหัน
“ผมไม่ได้โกหกคุณ ผมมีแฟนแล้วจริงๆ เธอชื่อซูมู่หาน เรียนสาขาวิชาวิทยุกระจายเสียง พวกเราคบกันได้สองเดือนกว่าแล้ว เพียงแต่สองวันก่อน เธอไปเรียนรู้ที่เกาะฮ่องกงแล้ว!”
เฉินเกอยิ้ม
“อ๋อๆ อย่างนี้นี่เอง ฉันก็ว่าทำไมคุณถึงหลบหน้าฉันอยู่เรื่อย ที่แท้คุณก็มีแฟนนี่เอง เหอะๆ ไม่เลวนี่ อย่างนี้ก็แสดงว่าคุณชอบแฟนคุณมาก!”
ฉินหยาพูด
“ใช่แล้ว ผมชอบเธอมาก เธอก็แคร์ผมมากเหมือนกัน!”
“อ้อ อย่างนั้นคุณก็ไปที่ห้องพยาบาลเองแล้วกันนะ ฉันไม่ไปเป็นเพื่อนคุณแล้ว เพื่อไม่ให้แฟนของคุณเข้าใจผิด นอกจากนี้ เรื่องที่คุณทำร้ายคนเพื่อช่วยฉัน ฉันก็จะบอกคุณพ่อ ให้เขาช่วยจัดการ!ลาก่อนนะ!”
ฉินหยาโบกมืออย่างหมดความสนใจแล้วหันหลังเดินจากไป
“ลาก่อน!”
เฉินเกอก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดฉินหยาจึงมีปฏิกิริยาก่อนและหลังแตกต่างกัน
แต่มันก็ไม่มีอะไร อย่างไรก็ใกล้ถึงห้องพยาบาลแล้ว เฉินเกอก็เลยเข้าไปทำแผลด้วยตัวเอง
เมื่อทำแผลเสร็จ แล้วยังตั้งใจโทรไปหาบอดิการด์เทียนหลงตี้หู ให้พวกเขาไปทำความรู้จักกับที่เรียกว่าตระกูลเฉิน
เฉินเกอก็ถือว่าได้เรียนรู้จากความผิดพลาดแล้ว ในตอนนี้ถ้าตัวเองทำให้ใครไม่พอใจ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ เฉินเกอก็มักจะชอบเริ่มจู่โจมก่อนเสมอ
ด้วยวิธีนี้นั้นก็จะสามารถกำจัดปัญหาหลายอย่างได้มาก
หลังจากจัดการล้างแผลเรียบร้อยแล้ว เฉินเกอก็เตรียมพร้อมที่จะกลับไปที่หอพักเพื่อนอนพักผ่อน
“เฉินเกอ!”
ในเวลานี้ ประตูห้องพยาบาลถูกผลักให้เปิดออก
เป็นฉินหยา เธอเข้ามาพร้อมหิ้วถุงผลไม้หรืออะไรบางอย่าง
“ให้คุณ!”
ฉินหยาพูดอย่างโกรธๆ
ความจริงแล้ว ฉินหยายังไม่เข้าใจสภาพจิตใจของเธอในตอนนี้มากนัก
เพราะอะไรกัน?
เพราะไม่ว่าคุณจะพิจารณามุมไหน ฉินหยาก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติกับเฉินเกอแบบนี้เลย
แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด บางครั้งเรื่องของความรู้สึกรักนั้นก็ไม่สามารถเข้าใจได้และคาดเดาไม่ได้เลย
ฉินหยาก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่ช่วงเวลาไหนที่เริ่มมีความรู้สึกรักแบบแปลกๆแบบนี้ต่อเฉินเกอ
อย่างไรก็ตามก็แค่ต้องการพบเขา รู้จักเขาและอยากอยู่กับเขา
บางทีอาจเป็นตอนที่เฉินเกอมอบกำไลหยกให้ตัวเอง กำไลหยกนั้นเป็นมรดกตกทอดของเขา เขามอบให้กับตัวเองโดยตรง ซึ่งเท่ากับเป็นการสารภาพรักทางอ้อมกับตัวเองแล้ว
‘สารภาพรัก’ก็คือสิ่งก่อการเสน่หาที่ปลอมแปลงมาไม่ใช่งั้นหรือ!
อาจเป็นคนแปลกหน้าหรืออาจเป็นเพื่อนที่ดี
เพียงแค่อีกฝ่ายสารภาพรัก ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วแน่นอน
หากอีกฝ่ายไม่เกลียดคุณมากเกินไป ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายจะก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่คลุมเครือโดยไม่ตั้งใจ
เห็นได้ชัดว่าฉินหยาในตอนนี้ได้เป็นแบบนี้แล้ว
เดิมทีก็รู้สึกขอบคุณและอยากรู้อยากเห็นในตัวเฉินเกออยู่แล้ว ในตอนนี้การสารภาพรักของเฉินเกอ ทำให้ฉินหยาอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงความคาดหวังที่จะได้คบกับเฉินเกอ
เธอคิดว่าเฉินเกอจะทำดีกับตัวเองด้วยทุกวิถีทาง
แต่ความคาดหวังแบบนี้ได้เกิดการต่อต้านกับความเป็นจริงอย่างรุนแรง และยังทำให้ฉินหยาที่เป็นผู้หญิงที่ชอบเอาชนะนั้นต้องการที่จะทำตามความหวังของตัวเองอย่างมาก
แน่นอนว่าฐานหลักของกระบวนการทั้งหมดคือบุคคลนี้สามารถทำให้สาว ๆ สนใจได้
ดังนั้น ถึงได้มีฉากที่ฉินหยาขึ้นรถของลี่เยว่ไปเพื่อจะทำให้เฉินเกอโกรธเกิดขึ้นเมื่อวาน
ได้มีฉากเศร้าเล็กน้อย หลังจากที่ฉินหยาได้ยินว่าเฉินเกอมีแฟนแล้ว
และถึงได้มีฉินหยาที่ไปและกลับมาอีกครั้งแล้วซื้อผลไม้มาให้เฉินเกอ!
“คุณไปซื้อผลไม้ให้ผมอย่างนั้นเหรอ!”
เฉินเกอรับมา
“ฉันเห็นว่าคุณถูกทุบตีก็เพราะฉัน ฉันถึงได้ซื้อให้คุณหรอก คุณอย่าคิดมาก!”
ฉินหยาชำเลืองเฉินเกอแวบหนึ่งแล้วพูดว่า:
“และเพื่อที่แฟนคุณได้ยินแล้วจะไม่คิดมาก!”
“เหอะๆ ไม่เป็นไร ผมไม่ได้คิดมาก!”
เฉินเกอยิ้ม
“ใช่แล้วเฉินเกอ ในเมื่อคุณพูดเมื่อกี้ว่าเราสองคนเป็นเพื่อนกัน อย่างนั้นฉันถามคุณ คุณคิดว่าลี่เยว่บุคคลนี้เป็นอย่างไร?”
เฉินเกอในเวลานี้ได้ออกมาจากห้องพยาบาลแล้ว
ฉินหยาเดินไปและคุยไปพร้อมกับเขา
ลี่เยว่?
เหอะๆ เฉินเกอก็ถือว่าได้รับรู้แล้ว คนนี้นั้นต่อหน้าทำอีกอย่างลับหลังก็ทำอีกอย่าง แน่นอนว่าต้องไม่ดีเท่าไหร่!
ยิ่งไปกว่านั้น เขาสามารถทรยศแม้แต่ฉินหยา
ณ ตอนนั้นจึงส่ายหัวและพูดว่า:“ไม่ค่อยดี ฉินหยา ในฐานะเพื่อน ผมขอเตือนคุณไว้ ต่อไปนี้คุณควรอยู่ห่างเขาไว้!”
“ทำไมล่ะ?”
ฉินหยาพูดอย่างโกรธๆ
“เพราะเขาไม่คู่ควรกับคุณจริงๆ!”
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าลี่เยว่ปฏิบัติต่อฉันเป็นอย่างดี อย่างน้อยเขาก็จะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง และไม่ทำให้ฉันรอเขาอย่างเหงาหงอย ทุกครั้งที่ฉันพูดอะไรสักคำ เขาก็จะปรากฏตัวข้างๆฉันได้ทันที อีกอย่างฉันเชื่อว่า เพื่อฉันแล้วเขาสามารถทำทุกอย่างได้ ทำไมเขาถึงไม่ค่อยดีล่ะ?”
ฉินหยาเถียงกลับ
“อย่างไรก็ตามคุณเชื่อผมสักคำ แม้กระทั่งที่คุณโดนรังควานจากเฉินเฉียงในครั้งนี้ ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับเขา คุณระวังไว้หน่อย!”
เฉินเกอไม่สามารถเล่าเรื่องเกี่ยวกับลี่เยว่ในวันนี้ได้ เพราะจะใช่หรือไม่เขาเองก็ไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเอง
แต่ที่นายนี่ต้องไม่ใช่คนดี นี่เป็นสิ่งที่แน่นอนได้
แต่ฉินหยากลับโกรธขึ้นมา
“คุณหมายความว่าไง?คุณหมายความว่าไม่มีใครที่จะดีกับฉันจริงๆ ฉันไม่สามารถหาผู้ชายที่ทำดีกับฉันจริงๆได้เลยสักคนใช่ไหม?”
“ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น!”
“ฉันว่าคุณหมายความอย่างนี้แหละ คุณไม่ต้องห่วง ไม่นาน ฉันก็จะหาผู้ชายที่ทำดีกับฉันจริงๆได้ เมื่อถึงตอนนั้น ฉันก็จะพาเขามาให้คุณดู ไม่ใช่มีแค่คุณเท่านั้น ที่จะทำเพื่อ……”
ฉินหยาอยากพูดว่า ไม่ใช่มีแค่คุณเท่านั้น ที่จะทำเพื่อฉันอย่างไม่ลังเลใจ!
แต่เมื่อคิดได้ว่าเฉินเกอมีแฟนแล้ว ตัวเองพูดคำพูดเหล่านี้ยังมีความหมายอะไรอีกหรือ!
ส่วนเฉินเกอนั้น ก็ไม่รู้ควรพูดอะไร
จึงพูดว่า:“ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอให้คุณพบผู้ชายที่รักคุณอย่างแท้จริงในเร็วๆนี้!”
“ขอบคุณ!”
ฉินหยาสูดลมหายใจและหันหลังเตรียมที่จะจากไป
“ผลไม้พวกนี้ผมก็ทานไม่หมด คุณจะแบ่งเอากลับไปทานที่หอพักคุณหน่อยไหม?”
“ไม่จำเป็น ในเมื่อคุณทานไม่หมด อย่างนั้นก็ให้ฉันทั้งหมดเถอะ!”
หลังจากฉินหยาพูดจบก็คว้าผลไม้จากมือของเฉินเกอและโยนมันลงถังขยะที่อยู่ข้างๆ
“นอกจากนี้ ในฐานะเพื่อน ฉันหวังว่าคุณจะไม่ให้สิ่งที่มีค่าที่สุดของคุณกับผู้หญิงคนอื่นแบบลวกๆอีก เพราะแบบนั้นจะทำให้ผู้หญิงเข้าใจผิดได้ แน่นอน ฉันไม่เข้าใจผิดต่อคุณ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่อนาคตคุณอาจจะได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้าใจผิดคุณ!”
หลังจากพูดแล้วฉินหยาก็จากไปโดยตรง
ส่วนเฉินเกอนั้นก็เข้าใจแล้ว
ที่แท้ฉินหยาก็พูดถึงเรื่องกำไลหยกของตัวเองนั่นเอง โธ่ รู้แบบนี้ก็ไม่พูดอ้อมโลกเพื่อโกหกหรอก
เฉินเกอกลับไปถึงหอพัก
นอนลงเตรียมที่จะพักผ่อน
พรุ่งนี้ก็จะสอบแล้ว ส่วนเรื่องหลังจากนี้ ใครจะไปรู้ได้ล่ะ
ขณะที่เตรียมจะนอนหลับ
ในเวลานี้ในWechatของตัวเองก็ได้มีข้อความเข้ามาไม่กี่ข้อความ
“นอนแล้วหรือยัง?ฉันยังอยากพูดคุยกับคุณสักครู่ ฉันนอนไม่หลับแล้ว!”
“ฉันรู้สึกว่าวันนี้ฉันทำกับคุณเกินไป ฉันไม่ควรโยนผลไม้ลงไปในถังขยะ!”
“แต่ในตอนนั้นฉันโมโหมากจริงๆ!”
“คุณอยู่ไหม?เฉินเกอ”
“……”