ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 20 อย่างต่ำมื้อละสามแสนหยวน
บทที่ 20 อย่างต่ำมื้อละสามแสนหยวน
“ให้ตายเถอะ หรือจะแอบปีนเข้ามาจากที่อื่น?”
เป็นคำพูดของหลี่ห้าวเพื่อนของจวงเฉียง
ในขณะนั้นเขาใช้แววตาดูถูกมองไปทางพวกเฉินเกอ
ความจริงประโยคนี้เป็นประโยคที่จ้าวยีฟานและสาวๆคนอื่นกำลังคิดอยู่ในใจพอดี
พวกเธอคิดดูสิ
วิลล่าเวินฉวนเป็นสถานที่แบบไหน คิดเอาเองว่าอยากจะเข้าก็เข้ามาได้งั้นหรือ?
แม้ว่าจะมีจวงเฉียงอยู่ที่นี่ แต่เมื่อกี้นี้เขาโทรศัพท์ติดต่อพ่ออยู่ข้างนอกหลายครั้งกว่าจะใช้เส้นสายให้รปภ.ปล่อยเข้ามาได้
หากไม่ใช่ในกรณีนี้ก็คงได้เดินแค่บริเวณรอบนอกเท่านั้น
“น่าโมโห ถ้าแอบปีนเข้ามาจริงๆก็น่าขายหน้าชะมัดเลย!”
“ทำอะไรน่าอับอาย ถ้ารปภ.มาเจอเข้า ถ้ารู้ว่าพวกเขารู้จักพวกเราล่ะก็ อย่างงั้นเราจะโดนไล่ออกไปไหม?”
กลุ่มผู้หญิงมองมาที่เฉินเกอด้วยสายตาดูถูกดูแคลน ในขณะที่พึมพำอย่างเป็นกังวล
“หยางฮุย พวกนายเข้ามาได้อย่างไร?”
สวีเสียไม่ได้พูด
เธอเดินตรงเข้าไปถามหยางฮุยเบาๆ
ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลแทนหยางฮุย
“พวกเราก็เข้ามาทางประตูไง!” เฉินเกอบอกไปตรงๆ
และหยางฮุยก็พยักหน้าให้กับสวีเสีย
“หึหึ ทางประตู? รปภ.ตาบอดหรือไงถึงให้พวกนายเข้ามาได้?”
หลินเจียวเชิดหน้าพุ่งเข้าไปพูดกับเฉินเกอ
เธอเริ่มโมโห ถ้าวันนี้เธอโดนไล่ออกไปเพราะเฉินเกอคนนี้จริงๆ เธอจะตบเฉินเกอให้คว่ำอย่างแน่นอน!
น่าโมโห!
จ้าวยีฟานก็รู้ผลของการแอบเข้ามา
เธอเดินมาตรงหน้าเฉินเกอด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “เฉินเกอ ฉันหวังว่านายจะพูดความจริง ถ้าพวกนายแอบเข้ามาล่ะก็ ตอนนี้ก็สารภาพต่อหน้าจวงเฉียงซะดีดี จวงเฉียงอาจจะช่วยพวกนายหาทางออกได้!”
“ใช่เเล้ว แบบนี้จะได้ไม่ทำให้ทุกคนขายหน้า!”
จวงเฉียงพูดเสริมไปอีกประโยค
พลางพูดในใจ “ยีฟานเพื่อนของเธอพวกนี้จะประหลาดไปถึงไหน?”
“เอ่อ…”
เฉินเกอได้ฟังพวกเขาพูดคนละประโยคสองประโยคอย่างไม่รู้จบ
ในใจรู้สึกจนปัญญา
ก็เขาเพิ่งบอกไปหยกๆว่าเข้ามาจากทางประตู ยังจะให้เขาพูดความจริงอะไรอีก
หรือจะให้บอกว่าปีนเข้ามาทางประตูหมาถึงจะพอใจ?
“ที่ฉันพูดไปคือเรื่องจริง ถ้าพวกเธอเต็มใจ พวกเราไปเที่ยวด้านในและกินข้าวกันสักหน่อยเถอะ แล้วค่อยไปแช่น้ำพุร้อน!”
เฉินเกอพูดประโยคนี้และมองไปที่หม่าเสี่ยวหนาน
จริงๆแล้วหม่าเสี่ยวหนานก็รู้สึกกังวลเกี่ยวกับเฉินเกอเล็กน้อย
กลัวว่าเฉินเกอจะเจอปัญหา
แต่หลังจากได้ยินคำพูดเจตนาดี ทุกคนมองไปที่ดวงตางี่เง่าของเฉินเกอ
“อะไรนะ? นายคิดจะเข้าไปข้างในอีกหรือ? ทำไมไม่ส่องกระจกดูตัวเองซะบ้าง หน้านายดูเป็นคนดีมากหรือ? ไม่เห็นกลุ่มบอดี้การ์ดข้างในหรือไง?”
หลินเจียวพูดด้วยความโมโห
“ใช่ แม้แต่คุณชายจวงก็ยังพาคนเข้าไปเยอะๆไม่ได้ แล้วนายเป็นใคร?”
สาวๆเริ่มคุยกัน
“หึหึ พวกเราสิบสี่คน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกินหรอก แค่แช่น้ำพุร้อนอย่างน้อยๆคงไม่ต่ำกว่า 150,000 หยวน กินอาหารไปอีกก็คงเป็นเงินสองถึงสามแสนหยวนแล้ว! ถ้าพวกเราคนน้อยหน่อยล่ะก็ ฉันยังพอสามารถรองรับได้ แต่คนเยอะขนาดนี้ฉันก็หนักใจ!”
จวงเฉียงมองไปที่เฉินเกอและยิ้มอย่างหดหู่
จ้าวยีฟานอดไม่ได้ที่จะหวั่นไหวที่จวงเฉียงดีกับพวกเธอขนาดนี้
และมองไปทางเฉินเกอโดยไม่พูดอะไร
“ช่างเถอะ งั้นพวกเราค่อยมาใหม่คราวหน้า เพื่อไม่ให้เป็นการขายหน้า พวกเราออกไปกันเถอะ!?”
“ไม่ได้ ทำไมจะต้องออกไปเพียงเพราะไอ้กากเดนนี่ล่ะ!”
“ใช่แล้วๆ พี่ยีฟาน กว่าพวกเราจะได้เข้ามาที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะ!”
ในขณะที่พูดก็มองเฉินเกอด้วยความโมโห
และจ้าวยีฟานก็ทำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เช่นนี้
เป็นการบังคับให้เฉินเกอออกไป
แต่เฉินเกอได้แต่ส่ายหน้าและยิ้มอย่างหดหู่ “ถ้าพวกเธอไม่เต็มใจตามเข้ามาก็เเล้วแต่พวกเธอ!”
พอพูดจบก็หันไปหาหม่าเสี่ยวหนาน “เสี่ยวหนาน เธอเชื่อใจฉันไหม? ถ้าเธอเชื่อใจฉันก็ตามฉันเข้ามา!”
หม่าเสี่ยวหนานกัดฟันและพยักหน้า
สุดท้ายแล้วเฉินเกอก็พาคนอื่นๆข้ามสะพานเล็กแล้วเดินตรงเข้าไปพื้นที่ด้านใน
“หึหึ ฝันไปก่อนเถอะ! เดี๋ยวถ้ามีเรื่องล่ะก็ อย่ามาตามพวกเราล่ะ ขายหน้า!”
หลินเจียวมองตามโดยไม่พูดอะไร
“คนพวกนี้ปั้นหน้าเก่งจัง!”
จวงเฉียงก็ยืนดูฉากการแสดงอยู่ด้านข้าง
เพียงชั่วครู่ ตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง
เพราะเฉินเกอสามารถเดินผ่านเข้าไปได้โดยตรง
และกลุ่มบอดี้การ์ดต่างก็โค้งคำนับเฉินเกอ
“นี่มันอะไรกัน?” จวงเฉียงแทบไม่อยากจะเชื่อ
หลินเจียวก็ยิ่งแล้วใหญ่ เธอเอามือปิดปากด้วยความตกใจ
เดิมทีเธอย่ามใจที่จะได้เห็นเฉินเกอโดนรุมตี
เเต่ผลปรากฏว่าเขาเข้าไปข้างในได้จริงๆ
ใบหน้าพวกเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจ้าวยีฟาน ถ้าไม่เห็นกับตา ตีให้ตายอย่างไรเธอก็ไม่เชื่อ
ในสายตาของเธอ เฉินเกอเป็นไอ้กระจอกที่โดนคนอื่นดูถูกมาโดยตลอด
เธอรู้ว่าเสี่ยวหนานตั้งใจที่จะสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง
อย่างไรก็ตามตั้งแต่เรื่องที่เฉินเกอซื้อกระเป๋ามาจนถึงเหตุการณ์ ณ ตอนนี้ ทำให้จ้าวยีฟานรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่เสแสร้งจนไม่รู้จะเสแสร้งอย่างไรเเล้ว
พอมองเเล้วก็รู้สึกเอือมระอา
แต่ตอนนี้เขาก็สามารถเข้าออกวิลล่าเวินฉวนได้อย่างอิสระ
ซึ่งแม้กระทั่งจวงเฉียงก็ยังไม่สามารถพาคนเข้าไปในวิลล่าเวินฉวนเยอะๆได้
“พี่ยีฟาน ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?”
หลินเจียวจ้องมองพวกเฉินเกอที่เดินไปไกลแล้ว เธอรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
จ้าวยีฟานหันไปสบตากับจวงเฉียงและหลี่ห้าวที่อยู่ด้านข้างราวกับสอบถาม
ต้องรู้ไว้ว่าพ่อของจวงเฉียงมีความสามารถพอที่จะทำให้หลี่เฟยหงแห่งตี้หวางKTVยอมงอเข่าได้ ถ้าพ่อเขาเป็นคนออกตัวจัดการแล้วล่ะก็ จะต้องไม่มีปัญหา!
ตอนนี้สีหน้าของจวงเฉียงนั้นดูแทบไม่ได้
เหมือนเฉินเกอได้ตบหน้าพวกเขาทั้งสองโดยตรง
หากตอนนี้จวงเฉียงตามเฉินเกอเข้าไปต่อยได้ก็คงทำไปแล้ว!
ทำอย่างไรดี?
หรือจะโทรศัพท์หาพ่ออีกครั้ง!
เขาไม่อยากล้มต่อหน้าจ้าวยีฟาน
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเริ่มโทรหาพ่อเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์
ทางด้านพ่อของจวงเฉียงก็เป็นคนเห็นแก่หน้าเช่นกัน พอได้ยินว่าลูกชายตัวเองโดนคนใช้เงินตบหน้า
ก็ยอมไม่ได้
เขาสัญญาทันทีว่าวันนี้จะจัดการค่าใช้จ่ายให้จวงเฉียงด้วยเงินหนึ่งเเสนหยวนเพื่อกู้หน้ากลับมา
แม้ว่าจะเข้าเนื้อ แต่เรื่องเห็นแก่หน้านั้นเรื่องใหญ่
“ฮึ มีอะไรจะทำไม่ได้ ยีฟาน พวกเราก็เข้าไปข้างในกันเถอะ วันนี้ฉันจะพาทุกคนเข้าไปเที่ยวถึงข้างในวิลล่าเอง!”
จวงเฉียงยิ้มมุมปาก
“ดีจังเลย! พี่จวงเฉียงหล่อที่สุด! ใช่เเล้ว ไอ้คนจนนั่นเทียบไม่ได้เลยสักนิด!”
หลินเจียวและคนอื่นเริ่มพูดให้กำลังใจ
ค่าเข้าชมประมาณหนึ่งหมื่นหยวนต่อคน ไม่รวมค่าบริการบ่อน้ำพุร้อนและพวกอาหาร นับประสาอะไรกับกอล์ฟและกิจกรรมบันเทิงอื่นๆ
พวกเขาแปดคนจ่ายไปแล้วแปดหมื่นหยวน
“พวกเขาเข้ามาแล้วอย่างไร? ก็ทำได้แค่ด้อมๆมองๆ วันนี้ฉันจะเลี้ยงค่าโบว์ลิ่งเอง!”
จวงเฉียงและหลี่ห้าวขยิบตากัน จ่ายไปแปดหมื่นหยวนก็เริ่มเลือดร้อนขึ้นหัวแล้ว
วันนี้ถือว่าร้ายแรงพอสมควร อาจจะจ่ายถึง 150,000 หยวน!
โบว์ลิ่งน่าจะเป็นกิจกรรมที่ถูกที่สุดของวิลล่า อย่างน้อยก็ถูกกว่าทานอาหาร!
ทุกคนเดินตามจวงเฉียงเข้ามาเป็นกลุ่ม
ภายในย่อมแตกต่างจากภายนอกอย่างมาก เหมือนเข้ามายังโลกใบใหม่
ไม่น่าแปลกใจที่แม้แต่เศรษฐีต่างถิ่นจะมองว่าสถานที่พักผ่อนอย่างภูเขาน้ำพุร้อนที่สร้างขึ้นบนแถบภูเขานั้นจะเป็นสวรรค์ มันงดงามราวกับสรวงสวรรค์จริงๆ
จ้าวยีฟานประหลาดใจเล็กน้อย
ตอนนี้อารมณ์ที่เหมือนโดนเฉินเกอตบหน้าเมื่อกี้ก็เริ่มสงบลง
“อ๊ะ! พวกเธอดูนั่น นั่นอะไร?”
ในขณะนี้หลินเจียวที่กำลังยุ่งอยู่กับการแต่งหน้าและเตรียมถ่ายภาพเซลฟี่พบว่าตรงหน้ามีน้ำพุร้อนที่สวยที่สุดไหลลงมาเหมือนน้ำตก อีกทั้งยังมีพื้นที่ส่วนชั้นลอยที่หรูหรา
ข้างในมีคนกำลังทานอาหารอยู่
ละอองน้ำรอบๆระเหยขึ้นมาราวกับฟูกสีรุ้ง
ทำให้คนที่อยู่ด้านล่างรู้สึกราวกับทานอาหารอยู่บนปุยเมฆ
สวมงามมาก
จ้าวยีฟานก็พบว่ามันสวยงามจริงๆ และยังเผลอคิดว่าตัวเองกำลังนั่งทานอาหารอยู่ในนั้น ทั้งยังรับรู้ได้ถึงความอิจฉาของผู้คนที่พบเห็น
“นั่นร้านอาหารยู่เวยนี่? นั่นคือร้านอาหารยู่เวย!”
จวงเฉียงอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความอิจฉา
“พี่จวงเฉียง ร้านอาหารยู่เวยคืออะไร? ฟังดูก็งั้นๆ? มันแพงมากหรือ?”
หลินเจียวและคนอื่นๆถามด้วยความประหลาดใจ
“งั้นๆอะไรกัน? แพงมากไหม? แพงมากน่ะสิ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องสั่งอาหารแค่เข้ามาใช้ร้านอาหารยู่เวย พวกเธอรู้ไหมว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่? สามแสนหยวน!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็ถึงกับตกตะลึง
แค่ใช้สถานที่ก็เป็นเงินถึงสามแสนหยวนเลยหรือนี่?
แม่จ๋า!
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าจวงเฉียงก็รู้อะไรมามากเหมือนกัน “อีกอย่างไม่ใช่ว่าทุกคนที่มีเงินแล้วจะเข้าไปข้างในได้ จะต้องมีสถานะทางสังคมด้วยถึงจะสามารถเข้าไปทานอาหารข้างในได้ ต้องรวยในอันดับต้นๆ และใช้สำหรับการพบปะทางธุรกิจระดับสูง”
จ้าวยีฟานตกใจ
“เอ๊ะ ไม่ใช่แล้ว! พี่ยีฟาน พี่จวงเฉียง พวกคุณรีบมาดูคนพวกนั้นที่กำลังทานอาหารสิ ทำไมเหมือนเฉินเกอกับพวกเพื่อนๆที่หอ?”
หลินเจียวตั้งใจมองอยู่นาน สุดท้ายก็พบว่ามันแปลกๆ
สวีเสียที่อยู่ข้างๆก็เอียงศีรษะมองแล้วพยักหน้า “ใช่แล้ว ฉันเห็นหยางฮุย!”
จ้าวยีฟานใจเต้นตุบตับ เธอมองออกไปพร้อมกับจวงเฉียงและหลี่ห้าว
พอมองอย่างละเอียดอีกทีก็เป็นร่างที่เหมือนกับเฉินเกอและเพื่อนๆจริงๆด้วย
“เป็นไปไม่ได้!”
จ้าวยีฟานไม่อยากจะเชื่อ ไอ้คนจนๆคนนั้นจะอยู่ในที่แบบนั้นได้อย่างไร?
เป็นไปไม่ได้!
ตู้ตตู้ตตู้ต
ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของจ้าวยีฟานก็ดังขึ้น
หม่าเสี่ยวหนานเป็นคนโทรมา
“ยีฟาน ทำไมเธอถึงเพิ่งมาล่ะ อาหารขึ้นโต๊ะหมดแล้ว ฉันเห็นเธอแล้ว พวกเธอรีบเข้ามาเร็วเข้า! วิวข้างบนสวยมากๆ!
ในขณะที่คุยโทรศัพท์ จ้าวยีฟานก็เห็นหม่าเสี่ยวหนานยืนโบกไม้โบกมือให้พวกเธออยู่บนชั้นลอยเพื่อเป็นสัญญาณให้พวกเธอรีบขึ้นมา!
“สวรรค์ เป็นพวกเฉินเกอกับเสี่ยวหนานจริงด้วย …นี่…นี่…นี่…”
หลินเจียวกลืนน้ำลาย นี่มันไม่จริง!
สีหน้าจวงเฉียงและหลี่ห้าวกลายเป็นมะเขือเผา วันนี้หน้าแตกจนไม่มีชิ้นดี!
“พี่ยีฟาน ไปเถอะ พวกเรารีบขึ้นไปข้างบนเถอะ!”
หลินเจียวไม่อยากรอช้าเพราะที่สำคัญก็คือตอนนี้มีพวกผู้ดีมีเงินหลายๆคนมาเที่ยวเล่นที่วิลล่า และพวกเขาก็มองมาทางพวกเธอด้วยความอิจฉา
หัวใจที่ฟุ้งเฟ้อก็พอใจอย่างมาก
จ้าวยีฟานกัดฟันกัดริมฝีปากพูด “อืม! ขึ้นไปเถอะ!”
เธอจะต้องถามให้รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฉินเกอ? ไม่อย่างงั้นวันนี้เธอจะต้องนอนไม่หลับแน่ๆ
หลี่ห้าวมองจวงเฉียงด้วยความประหม่า “จวงเฉียง ไอ้คนจนนั่นมันสุดยอดขนาดนี้เลยหรือ หรือว่าพวกเราจะปล่อยไปก่อน พวกสาวๆนั่นก็ไม่ต้องแช่น้ำแล้ว?”
หลี่ห้าวเริ่มกลัวเเล้ว
จวงเฉียงพูดด้วยความเย็นชา “ฮึ นายกลัวไอ้กากนั่นหรือ! ฉันไม่เชื่อว่าไอ้กระจอกนั่นจะทำอะไรได้ ไป พวกเราก็ขึ้นไป ดูซิว่ามันทำได้ไปถึงไหน!”