ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 203 มาหาฉันซะ
ตอนที่ 203 มาหาฉันซะ
“เห้อ ทำไมละ ทำไมคนอื่นจะเป็นหมอแท้ได้ แต่มีแค่ฉันไม่ได้ ถ้าจะพูดตรงๆแล้ว มันก็แค่ไม่ให้หน้าของพ่อเขา หรือมันไม่รู้สถานะของพวกฉันสองคนหรอ?ให้หมออีกคนได้เป็นก็ไม่ยอมให้ฉันได้!”
ลี่หมิงเฉว่หงุดหงิดจนจะหักตะเกียบแล้ว
ลี่กังที่อยู่ข้างๆนั้นก็คอยปลอบ
เฉินเกอก็กินไปฟังไป ก็ฟังจนพอรู้เรื่องแล้ว
รวมๆแล้วก็คือ ลี่หมิงเฉว่ได้เข้ามาเป็นหมอฝึกหัดที่โรงพยาบาลนี้เพราะว่าพ่อของลี่กังที่เป็นรองผู้บริหารช่วยจัดการนั้นเอง
และแน่นอน ลี่หมิงเฉว่ก็พอเก่งอยู่ รวมทั้งทักษะอาชีพก็ดีเหมือนกัน ได้คำชมจากคนในโรงพยาบาลรวมทั้งผู้ป่วยด้วย
แต่เหมือนกับว่าพ่อของลี่กังกับผู้บริหารจะไม่ถูกกัน
เพราะอย่างนั้นลี่หมิงเฉว่จึงกลายเป็นตัวแทนรับโทษของทั้งสองฝั่ง
น่าจะกลายเป็นหมอหลักได้ยาก แล้วผลที่ตามมาถ้ากลายเป็นหมอหลักไม่ได้ นั้นก็คือออกจากโรงพยาบาล
เอาชื่อให้ไปกับคนที่อยู่ฝั่งผู้บริหารนั้น แต่ว่าหมอฝึกหัดของฝั่งนู้น เทียบกับตนแล้วแย่ไปมากเลย
ดูแล้วจะเป็นเพราะผู้จัดการนั้นตั้งใจจะให้พ่อของลี่กังเสียหน้านะ
ส่วนพ่อของลี่กังละ ฟังจากความหมายของลี่กังแล้วคือ ใกล้จะเกษียณแล้ว อำนาจก็โดนเอากลับไปเยอะแล้ว
เพราะอย่างนั้นจะน่าอายอยู่
เรื่องนี้ก็อาจทำไม่ได้แล้ว!
เพราะอย่างนั้นลี่หมิงเฉว่จึงอยากจะขอพวกลี่เชาเขา
พวกลี่เชาเขาก็รู้จักเฉินเกอเป็นเรื่องปกติ เป็นก้องเดียวกัน พ่อของลี่เชาก็ทำงานอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนแม่นั้นก็ทำงานที่สถานีอนามัย มีหน้ามีตา
ยังไงแล้วพวกเขาสองคนก็คนละคำปรึกษากันขึ้นมา
เฉินเกอฟังอยู่ข้างๆนั้นก็ทำตัวไม่ค่อยถูก
จึงรีบกินจนหมด
“แกกินหมดแล้วหรอ?กินอิ่มหรือยัง?แกก็เห็นว่าฉันมีเรื่องอยู่ไม่น้อย ดูแลไม่ดีก็ขอโทษด้วยนะแกไม่ต้องดูแปลกนะ!”
ลี่หมิงเฉว่ก็บอกกับเฉินเกอเบาๆ
แต่ท่าทีนั้นไม่ได้ดีเท่าเมื่อกี้แล้ว
ก็ใช่นะ คนในสังคมตอนนี้ก็แค่ทำดีอยู่บนหน้าแค่นั้นแหละ ก็แค่ดีกับคุณสามนาที เวลานานไป ใครรู้จักแกละ!
“ไม่เป็นไรหรอก ใช่แล้วลี่หมิงเฉว่เมื่อกี้คุณบอกว่างานของคุณทำยาก?เรื่องนี้คุณก็ไม่ต้องรีบ ไว้ใจเถอะ เดี่ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง!”
ยังไงเฉินเกอก็จะเป็นคนที่กินเสร็จแล้วก็ตบก้นเดินหนีไม่ได้นะ
จึงปลอบไปหนึ่งประโยคในตอนนั้น
เฉินเกอคิดถึงกับว่า ถ้าตนช่วยอะไรได้ ก็จะลองช่วยดูหน่อย
ถึงแม้จะมองออกว่า ลี่หมิงเฉว่ไม่ได้ดูดีกับตนขนาดนั้น แต่อย่างน้อยเขาก็เลี้ยงตนกินข้าวแล้วไม่ว่าสูงต่ำ นี้ก็เป็นมิตรภาพอีกแบบนะ!
เพราะอย่างนั้นเฉินเกอจึงคิดว่าจะมีอะไรให้ช่วยมั้ย จะได้คืนบุญคุณนี้
“ขอบคุณนะเฉินเกอ ใช่แล้วเฉินเกอแกช่วยบอกเลขห้องลุงแกหน่อย ฉันจะให้ลี่กังช่วยไปบอกให้!”
“ได้!”
เฉินเกอก็บอกเลขห้องผู้ป่วยไป
แล้วก็ไม่ได้รบกวนพวกลี่หมิงเฉว่เขาอีก ตนเองก็เดินออกมา ไม่ดูแลอากงหวูต่อแล้ว
เวลาเดียวกัน ก็โทรไปหาหลี่เจิ้นกั๋ว ให้เขาช่วยงานหน่อย ช่วยหางานให้ลี่หมิงเฉว่ในโรงพยาบาลด้วย
เรื่องนี้ไม่ได้ยากอะไรอยู่แล้ว
เพราะว่าการลงทุนของเฉินเกอรอบนี้ นอกจากก่อสร้างกิจการอิสระแล้ว ยังลงทุนหลายอย่างให้กับอำเภอผิงอันด้วยแน่นอน
โรงพยาบาลกับการสอนกับรวมไปหมด
“ใช่แล้วคุณชายเฉิน ไม่รู้ว่าคืนนี้คุณมีเวลามั้ย?”
สิ้นประโยคของหลี่เจิ้นกั๋ว ก็ถามอีกว่า
“ทำไม?”
“คือแบบคุณชายเฉิน พวกผู้นำของ
รู้ว่าคุณกลับมาตั้งแต่วันก่อนหน้านั้นแล้ว โทษผมเอง พูดหลุดปากไปตอนดื่มสุรา พวกเขายังมีรถส่วนตัวไปรับคุณที่สถานีรถยนต์นะ แต่ก็ไม่ได้รับ นี้ก็ พวกเขาจัดงานต้อนรับขึ้นมาโดยเฉพาะเลยนะ จะต้อนรับการมาถึงจองคุณ!อยากให้ผมช่วยถาม คุณมีเวลาหรือไม่?”
“ถ้าเป็นตอนกลางคืน……ได้ ผมจะไปดู!”
วันนั้นตรงทางออกสถานี น่าจะมารับตนจริงๆด้วย
พูดตามตรง ทำให้เขาต้องรอขนาดนี้ เฉินเกอก็รู้สึกไม่ค่อยดี
ส่วนงานที่จัดในคืนนี้ ถ้าเฉินเกอยังไม่ไปอีก ก็พูดต่ออีกไม่ได้แล้ว
จึงตอบตกลงไว้
ตอนค่ำ หลังจากที่ดูแลให้อากงหวูนอนลงแล้ว เฉินเกอก็ออกตัว
สถานที่คืออยู่ในอำเภอผิงอันที่ชื่อว่าโรงแรมชุนหัวนั้น
ยังไงแล้วการลงทุนนั้นก็สำคัญอย่างยิ่งต่อเขต เพราะอย่างนั้นงานต้อนรับในคืนนี้ ก็จะสำคัญมากด้วย
ขนาดพวกผู้จัดการที่มาทำงานในอำเภอผิงอันก็มาถึงหมดแล้ว
เพราะสาเหตุที่ต้องดูแลอากงหวูนั้น เฉินเกอจึงไม่ได้มาพร้อมกับพวกหลี่เจิ้นกั๋วจ้าวจื่อซิ่งเขา ให้พวกเขามาก่อนแล้ว
ตอนนี้เฉินเกอก็มองดูตรงหน้าประตู แล้วเตรียมตัวจะเข้าไป
ส่วนอีกด้านหนึ่ง รถคันหนึ่งเพิ่งจอดลงตรงที่จอดรถ จากบนรถนั้น มีชายหนึ่งหญิงหนึ่งเดินลงมา คล้องมือกันไว้
ฝ่ายหญิงแต่งได้สง่ามากๆ ส่วนฝ่ายชายก็ใส่เสื้อสูทมา
“ไอ้ย๊ะ ให้คุณมาเช้าหน่อยนะ คุณดูตอนนี้กี่โมงแล้ว น่าเกลียดนะ!”
ฝ่ายหญิงก็บ่น
“เห้อๆ โทษผมหรอ เพราะว่าคุณไง แต่งหน้านานขนาดนั้น!พ่อผมโทรมาเร่งตั้งหลายสาย อีกอย่างวันนี้คุณชายเฉินจะมา!ถ้าสายก็คงน่าอายแน่!”
ฝ่ายชายเถียงกลับ
และชายหญิงคู่นี้ ไม่ใช่คนอื่น ก็คือหลิวหมินกับสามีของเธอหวังเฉียงนั้นเอง
“ไม่ต้องพูดแล้ว รีบเข้าไปดีกว่า!”
หวังเฉียงก็พูด
ทันได้นั้น สายตาของเขาก็มองมา เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้าโรงแรมเช่นกัน ก็เลยชี้ผู้ชายคนนั้นแบบห้ามไม่ได้พร้อมกับถามด้วยความงงๆว่า:
“เสี่ยวหมินคุณรีบดูสิ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่นักเรียนของคุณหรอ คนที่ชื่อว่าเฉินเกอนั้นนะ?”
“อะไรอะไร?คุณดูผิดหรือเปล่า เฮ้ย เป็นเขาจริงด้วย!”
หลิวหมินอึ้ง พอมองไปตาม ก็ตกใจจริงๆ
“เฉินเกอ!แกหยุดก่อน!”
ส่วนเฉินเกอนั้น ก็กำลังจะเดินเข้าไปแต่ก็ได้ยินเสียงมีคนเรียกเขา หันหัวไปดู บังเอิญอย่างยิ่ง ก็คือหลิวหมินนั้นเอง
“คุณครูหลิว ทำไมเป็นพวกคุณ?”
เฉินเกอก้มพร้อมทักทาย
เอาตามตรง เฉินเกออยากถีบหลิวหมินมากๆ
“คุณยังถามพวกฉันอีก พวกฉันยัง งงกับคุณเลย คุณรู้มั้ยว่าตรงนี้เป็นที่ไหน?วันนี้จัดงานอะไรตรงนี้ คุณมาที่นี่ทำไม?”
หลิวหมินกอดไหล่แล้วถาม
ไม่รอให้เฉินเกอตอบ หลิวหมินก็พูดแบบเข้าใจอะไรบางอย่าง:
“ฉันรู้แล้ว คุณมาทำงานตรงนี้แน่ๆเลย?เห้อๆ ได้นะเฉินเกอ ดูไม่ออกเลยนะ มีตาดีจริงๆเลย รู้ว่าคืนนี้โรงแรมชุนหัวยุ่งมากแน่นอน แค่ได้ยินก็มาแล้วสินะ?ไม่ผิดๆ!”
หลิวหมินยิ้มพลางพยักหัว
“ดี ตั้งใจทำ เดี๋ยวฉันจะให้ทิปกับคุณแน่!”
หลิวหมินตบไหล่เฉินเกออีกที จากนั้นก็คล้องมือหวังเฉียงแล้วเดินเข้าไป
เห้อๆ……
เฉินเกอแค่ส่ายหัวแล้วยิ้มแห้ง:”เดี๋ยวจะมีเวลาให้คุณร้องไห้แน่ ไอ้ผู้หญิง!”
จากนั้นก็เข้าไปในนั้นเช่นกัน
ภายในห้องโถงนั้น มีคนมาเยอะมาก เบียดไปเบียดมา
เฉินเกอเอามือไขว้หลัง กำลังหาโต๊ะของพวกหลี่เจิ้นกั๋วเขานะ
และแล้ว หน้าของตนเหมือนกับว่าจะโดนของเล็กๆอะไรปาใส่
เห้ย!ใครวะ?ว่างเกินไปหรอ?
เฉินเกอหันหัว ก็คือที่นั่งอยู่บนโต๊ะนั้น หลิวหมินที่กำลังเอามือปิดปากแล้วขำไม่ใช่หรอ
แล้วที่นั่งกับเธอนั้น ยังมีเด็กสาวที่อ่อนเยาว์อีกหลายคน ดูๆแล้วพวกเธอน่าจะรู้จักกันดี
ก็กำลังมองดูเฉินเกอแล้วขำนะ
“ยังยืนโง่ๆอีกนะ มาหาฉันซะ!”
หลิวหมินมองดูเฉินเกอแล้วตะโกน