ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 21 พี่เฉินพูดได้มีเหตุผลมาก
บทที่ 21 พี่เฉินพูดได้มีเหตุผลมาก
เหนือเมฆ
เฉินเกอ หยางฮุยและเสี่ยวหนาน พวกเขานั่งด้วยกัน
ชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามรอบข้าง
สำหรับความตกตะลึงของหม่าเสี่ยวหนาน เฉินเกอก็อ้างเหตุผลเดียวกัน
แต่ที่ทำให้เฉินเกอคาดไม่ถึงคือ วันนี้เจิ้นกั๋วให้เกียรติภรรยาของตัวเอง
รับประทานอาหารในสถานที่แห่งนี้ ราคาน่าจะแพงน่าดู
เมื่อคิดทบทวนอีกครั้ง ว่าทั้งวิลล่า ก็เป็นของพี่สาวและตัวเอง ในใจของเฉินเกอก็รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ
ในเวลานี้ จ้าวยีฟานและหญิงสาวทั้งหมดก็ได้มาถึงแล้ว
ใบหน้าของจ้าวยีฟานดูไม่ดีเล็กน้อย
เพราะว่า เธอคิดมาตลอดว่า เฉินเกอเป็นชายกระจอกแสนธรรมดาคนหนึ่ง เป็นสิ่งที่ เธอจ้าวยีฟานไม่เคยมองดูในสายตาเลย
แต่ตอนนี้ เหมือนมีความรู้สึก แหงนมองด้านหลังของเฉินเกอจริงๆ
ทำให้จ้าวยีฟานคับแค้นใจมาก
“เฉินเกอ! นายมีเงินมาที่นี่ได้อย่างไร?”
ดังนั้น ทันทีที่จ้าวยีฟานขึ้นมา ก็ถามคำถามที่ใจเธออยากจะถามมากที่สุดก่อน และเป็นคำถามที่กลัวที่สุด
เธอกลัวเฉินเกอจะบอกว่าเธอว่า ตัวเองรวย
อย่างนี้ จ้าวยีฟานจะเสียใจมากยิ่งขึ้น
“ใช่อ่ะ พี่เฉินเกอ ทำไมพี่มีเงินมาที่นี่แล้ว ที่นี่แพงมากเลยนะ
น้ำเสียงของหลินเจียวดีขึ้นไม่น้อย และยังรู้สึกเขินเล็กน้อยด้วย
จวงเฉียงกับหลี่ห้าวก็ขยับเข้ามารับฟังด้วย
เฉินเกอ หัวเราะและพูดว่า “อ้อ ฉันบังเอิญรู้จักผู้จัดการที่นี่ เขาเลยชวนฉันมาทานอาหารที่นี่ ยังสามารถพาเพื่อนมาได้!”
!!!
ทุกคนใบหน้าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
แม้ว่าการรู้จักผู้จัดการจะเป็นเรื่องจริง แต่นี่มันอลังการมากเกินไปหรือเปล่า?
จ้าวยีฟานจ้องไปที่เฉินเกอ
ในเวลานี้ หม่าเสี่ยวหนานถึงทนไม่ได้ที่จะพูดความจริงออกมา
ก็ได้เล่าให้ทุกคนฟังว่า เฉินเกอรู้จักกับผู้จัดการคนนั้นได้อย่างไร และมาที่วิลล่านี้ได้อย่างไร
จ้าวยีฟานถึงได้ถามด้วยความโล่งใจ
“เสี่ยวหนานความหมายของนายคือ Hermes ล้ำค่าที่เฉินเกอซื้อมาในตอนแรก และที่เขาสามารถมาทานข้าวในที่ที่มีเกียรติมากที่สุดของวิลล่าในครั้งนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะเขาได้ช่วยลูกสาวของผู้จัดการไว้ เลยได้รับการต้อนรับที่อลังการยิ่งใหญ่เช่นนี้?”
หม่าเสี่ยวหนานพยักหน้า “นี่ก็เป็นเพราะว่าเฉินเกอโชคดี ยังไงคนดีทำดีก็ต้องได้ดี!”
ตกใจหมดเลย!
จ้าวยีฟานอดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจในใจ
แม้แต่พวกจวงเฉียงก็ถอนหายใจยาวๆ
แม้ว่าในตอนนี้ เฉินเกอจะได้รับการต้อนรับที่ดีกว่าพวกไฮโซทั้งหมด
แต่ว่า นี่เป็นเพียงน้ำใจที่คนอื่นมอบให้เขาเท่านั้น หลังจากวันนี้ เฉินเกอก็ถือว่าเป็นตัวอะไรล่ะ?”
หลังจากที่ทำความเข้าใจกับเรื่องทั้งหมด อารมณ์ของจ้าวยีฟานและพวกสาวๆ ก็รู้สึกดีขึ้นมาก
แน่นอนว่า เฉินเกอได้มองเห็นว่า แม้ว่าจ้าวยีฟานจะไม่มีการดูถูกเหยียดหยามอย่างรุนแรงเหมือนแต่ก่อน แต่ในสายตาเธอ ก็ไม่มีความรู้สึกขอบคุณตัวเองแบบนั้น
ความหมายคือ เธอสามารถมาได้ ก็ถือว่าให้เกียรติเฉินเกอแล้ว
สำหรับเรื่องนี้เฉินเกอแค่เพียงยิ้มอ่อนๆ
“พวกคุณดู นี่เป็นภาพวาดสีน้ำมันหรือเปล่า? ยังวาดโดยศิลปินใหญ่ของต่างประเทศด้วย ของจริงหรือเปล่าเนี่ย?”
ทุกคนกินดื่มผ่อนคลายกันอย่างสนุกสนาม
ในเวลานี้ หลินเจียวทอดสายตาไปที่ภาพวาดสี่ภาพ ที่แขวนอยู่บนเสาใต้หลังคา ที่สไตล์แตกต่างกัน
หนึ่งในนั้น คือภาพวาดสีน้ำมัน ฝีมือของจิตรกรชื่อดังในประวัติศาสตร์ของต่างประเทศ
หลินเจียว ดูออกได้ในพริบตา
“น่าจะเป็นของจริงนะ……”เฉินเกอยิ้มแล้วพูด
ในวิลล่านี้ดูเหมือนว่าจะมีของปลอมน้อยมาก
ก็เพราะว่าได้มีการลงทุนจำนวนมาก
“เหอะ น่าจะหมายความว่ายังไง มันเป็นของจริงอยู่แล้ว!”
หลังจากได้ยินคำพูดของเฉินเกอ จวงเฉียงที่อยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะดูถูก
เขาเคยเรียนที่ต่างประเทศ
การวิเคราะห์ผลงานศิลปะของต่างประเทศ เขาก็ต้องเหนือกว่าเป็นธรรมดา
จ้าวยีฟานไอ้ยาจกนี่ ทั้งๆที่มีความสามารถในการเลี้ยงทุกคน กลับทำให้ตัวเองต้องเสียไปแปดเก้าหมื่น เสียไปเปล่าๆเลย
ดังนั้นจวงเฉียงจึงต้องกู้หน้าตัวเองกลับมาหน่อยด้วยทางอื่น!
ในตอนนี้เขาพูดอย่างมั่นใจว่า
“ราคาในตลาดของภาพวาดนี้ที่ต่างประเทศ แค่เริ่มต้นก็เป็นล้านแล้ว! แพงล้ำค่ามาก ภาพวาดอีกสามภาพบนห้องใต้หลังคาที่วิลล่าก็มีค่าไม่น้อยเช่นกัน ไม่เช่นนั้น รับประทานอาหารที่นี่ จะแพงมากขนาดนี่หรือ!”
“โอ้แม่เจ้า เริ่มต้นเป็นล้าน!”
พวกสาวรู้สึกยกย่องมากยิ่งนัก
หลินเจียวยิ่งพูดอย่างตื่นเต้น “ไม่ได้ ฉันจะต้องถ่ายรูป ถ่ายรูปคู่กับภาพวาดชื่อดังราคานับล้านเหล่านี้!”
ทำให้ทุกคนหัวเราะไม่หยุด
และเฉินเกอก็ลุกขึ้นยืนในเวลานี้ หยิบวาดภาพชื่อดังนั้นลงมาโดยตรง “พวกคุณอยากดู ก็เอาลงมาดูได้เลย!”
“เฮ้ยๆๆ เวรกรรมเฉินเกอนายอย่าจับไปเรื่อยได้ไหม ปัดโธ่ ถ้าทำเสีย ใครจะรับผิดชอบไหว!”
จวงเฉียงเบิกตากว้างทันที
หลี่ห้าวที่อยู่ข้างๆก็พูดอย่างชังน้ำหน้าว่า “คนอื่นเขาเลี้ยงข้าวนาย ก็คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าภาพจริงๆหรือ?”
แม้ว่าจ้าวยีฟานจะไปส่งเสียงอีก แต่ก็ได้มองไปที่เฉินเกอ
ยังคงส่ายหน้าอย่างผิดหวัง
เฉินเกอไม่ว่าจะทำตัวเข้าหาสังคม หรือพูดถึงความรู้ เมื่อเทียบกับพวกจวงเฉียงด้อยกว่าไม่ต่ำกว่าหนึ่งขั้นจริงๆ
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ความรู้สึกที่ให้เธอ ก็คือแย่ แย่มากจริงๆ!
เฉินเกอเอาภาพวาดให้พวกเขา เดิมทีเพื่อปรับความสัมพันธ์หน่อย
โดยไม่คาดคิดว่า กลับทำให้โดนคนมองเป็นคนบ้าบิ่น
ช่วงเถอะ ไม่ดูก็ช่าง
เฉินเกอเลยจะนำภาพสีน้ำมันไปแขวงกลับที่เดิม
แต่กระนั้น มือก็สั่นเล็กน้อย แขวงไม่ถูกตำแหน่ง ลมพัดกระโชกเข้ามาโดยบังเอิญ
ภาพสีน้ำมันหลุดออกจากมือ ถูกลมพัดปลิวลงไปทันที ตกลงไปในน้ำด้านล่างน้ำตก!
“อ๊าก!”
การกระทำในครั้งนี้ ทำให้พวกสาวๆ ส่งเสียงอุทานออกมาโดยตรง
แม้แต่จ้าวยีฟานก็ยังยืนขึ้นด้วยความตกใจ
ตายแล้วๆ ภาพนี้ตายอย่างสมบูรณ์แล้ว
หนึ่งล้านนะ!
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอ
มีเพียงจวงเฉียงและหลี่ห้าวสองคนเท่านั้น ที่แอบขำหนักในใจ พระเจ้า ภาพวาดสีน้ำมันหนึ่งล้าน เสียหายทันที คนอื่นเป็นหนี้บุญคุณนาย แค่เพียงทานอาหารในดาดฟ้าชั้นเมฆนี้ ก็ถือว่าได้คืนให้แล้ว แต่ภาพวาดสีน้ำมันนี้ ดูสิว่านายจะอธิบายยังไง!
ฮิๆ!
“เฉินเกอ เรากลับกันเถอะไหม เพราะก็ได้ทานกันพอสามควรแล้ว!”
หม่าเสี่ยวหนาน ถามอย่างระมัดระวังในเวลานี้
ถ้ายังอยู่ต่อ หนึ่งล้าน เฉินเกอไม่ชดใช้ ก็ไม่ได้แล้ว!
“โอ้ยๆ ไม่ดีแล้ว พวกคุณรีบมองดูข้างล่างสิ มีคนขึ้นมาแล้ว!”
ในตอนนี้ หลินเจียว ชี้ไปข้างล่าง พูดด้วยความตื่นเต้น
เฉินเกอก็เงยหน้ามอง
ก็เห็นหลี่เจิ้นกั๋วพาพนักงานเสิร์ฟสองสามคน ยกเหล้าชั้นดี กำลังเดินขึ้นมาทางนี้
ดูเหมือนจะมาดื่มแสดงความเคารพนับถือ
เฉินเกออดไม่ได้รู้สึกจนปัญญา
ตัวเองได้บอกกับหลี่เจิ้นกั๋วแล้ว ตัวตนของตัวเองยังไม่เหมาะที่จะเปิดเผยในขณะนี้ เขายังมาดื่มแสดงความเคารพนับถือทำไม?
ไม่นาน หลี่เจิ้นกั๋วก็ เดินขึ้นมา
และจวงเฉียงก็ต้องรู้จักหลี่เจิ้นกั๋วอยู่แล้ว
“หลี่……ประธานหลี่!”
จวงเฉียงพูดตะกุกตะกัก
คิดไม่ถึงว่าผู้จัดการที่เฉินเกอ พูดถึง แท้จริงแล้วคือหลี่เจิ้นกั๋วเศรษฐีผู้ร่ำรวยในจินหลิง
เห็นได้ชัดว่าจ้าวยีฟานก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกัน แม้กระทั่งยังไม่ค่อยกล้าที่จะพูดด้วยซ้ำ
เฉินเกอคนนี้ โชคดีจริงๆ!
และหลี่เจิ้นกั๋วพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการทักทายกับทุกคน
แล้วมองไปที่เฉินเกอด้วยความเคารพ “เฉิน……”
ทันใดนั้นก็นึกถึงคำเตือนก่อนหน้านี้ของจ้าวยีฟานว่าไม่เหมาะที่จะเปิดเผยตัวตน
หลี่เจิ้นกั๋วกล่าวว่า “พี่เฉิน การต้อนรับสำหรับคุณในวันนี้ รู้สึกอย่างไรบ้าง? ยังพอใช่ไหม?”
เฉินเกอยิ้มพยักหน้าเบาๆ
และในเวลานี้ จวงเฉียงกลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “แต่ว่าประธานหลี่ เฉินเกอนายคนนี้ เมื่อกี้ได้ทำลายภาพวาดสีน้ำมันของท่านลงในน้ำแล้ว?”
“ใช่ค่ะ ประธานหลี่ ทั้งหมดเป็นเพราะเฉินเกอ นายคนนี้เลย เขาดันจะเอาภาพสีน้ำมันลงมา สุดท้ายภาพสีน้ำมันถูกเขาหลุดออกจากมา ปล่อยทิ้งลงไป!”
หลินเจียวยังรีบชี้แจง ตัดความสัมพันธ์กับเฉินเกอ
หม่าเสี่ยวหนานรีบพูดขึ้นอย่างร้อนรน “แต่ว่า ประธานหลี่เฉินเกอเขาไม่ได้ตั้งใจจริงๆ!”
หยางฮุยก็ได้ช่วย เฉินเกอพูด หนึ่งล้านนะ ถ้าจะต้องชดใช้ ต้องทำยังไงดี?
และหลี่เจิ้นกั๋วซึ่งเฉลียวฉลาด จะดูไม่ออกความผิดปกติในสถานการณ์ได้อย่างไร
ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ ก็ไม่ใช่จะเป็นเพื่อนของคุณชายเฉินทุกคน และเห็นได้ชัดว่า คุณชายเฉิน ยังไม่ได้เปิดเผยตัวตนของตัวเอง
ก็ต้องเป็นเช่นนี้ คุณชายเฉินบุคลิกเก็บตัว ไม่เปิดเผย เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ดูเหมือนว่าไม่อยู่สูงตระหง่าน จนหมดความติดดิน
บวกกับคำเตือนก่อนนี้ของเฉินเกอ หลี่เจิ้นกั๋วก็ไม่ได้โง่ จะไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเฉินเกอโดยตรงแน่นอน
สีหน้าเคร่งขรึมในทันที
“อะไรนะ! ภาพวาดสีน้ำมันนั้นตกลงไปในลำธารแล้ว!” หลี่เจิ้นกั๋วสั่นไปทั้งตัว พร้อมกับสีหน้าที่ตกตะลึงมาก ดูแล้วเหมือนจะใส่ใจในภาพสีน้ำมันนี้มาก!
บรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที
หม่าเสี่ยวหนานพูดขึ้นอย่างร้อนใจ “ประธานหลี่ขอโทษจริงๆ!”
“พี่เฉินภาพวาดชื่อดังของฉันรูปนั้น มีมูลค่าหนึ่งล้านกว่านะ…… อีกอย่าง นี่คือภาพที่หัวหน้าของฉันโปรดปรานมาก คุณจะให้ฉันอธิบายยังไง?”
หลี่เจิ้นกั๋วจ้องมองไปที่เฉินเกอ
เฉินเกอรู้ดีว่า นี่คือหลี่เจิ้นกั๋วหาทางลงให้กับตัวเอง เขาเองไม่สามารถที่เปิดเผยตัวตนของตัวเองได้ เลยทำได้เพียงเช่นนี้
เหอะๆ หลี่เจิ้นกั๋วคนนี้ น่าสนใจจริงๆ
เฉินเกอเลยแสดงท่าทางที่เสียใจมาก
“ประธานหลี่ฉันก็คิดไม่ถึงเลย ความผิดส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ที่ฉัน!”
“ไม่ได้อยู่ที่คุณ?”หลี่เจิ้นกั๋วขมวดคิ้ว
หลินเจียวอยู่ข้างๆ ยังคิดว่าเฉินเกอ จะปัดความรับผิดชอบทั้งหมดมาให้ตัวเอง รีบพูดว่า “ฉันบอกให้นายเฉินเกอ ก็คือนายนั่นแหละ ภาพวาดนี้ได้หลุดออกจากมือของนายชัดๆ นายอย่าโทษคนอื่น!”
“ใช่เลย ทำผิดก็ต้องยอมรับผิดอย่างกล้าหาญ นายยังถือว่าเป็นลูกผู้ชายอยู่ไหม?”
ผู้หญิงทั้งหลายต่างก็พูดดูถูก
“น่าจะกลัวเงินหนึ่งล้าน ไม่กล้าชดใช้สินะ ก็เลยจะหาข้อแก้ตัว!” หลี่ห้าวอยู่ด้านข้าง พูดอย่างหมั่นไส้
เฉินเกอยิ้มเยาะอยู่ในใจ
ในตอนนี้ยังคงต้องแสดงต่อไป “คืออย่างนี้ครับ ประธานหลี่ เมื่อกี้ฉันได้หยิบภาพวาดลงมาจริงๆ เหตุผลที่บอกว่า ความผิดไม่ได้อยู่ที่ฉัน เพราะตอนที่ฉันต้องการที่จะแขวนมันกลับไป มีลมพัดเข้ามา ลมพัดเข้ามา ก็เลยพัดภาพวาดปลิวไปเลย!”
“เหอะๆ นี่มันโทษฟ้าโทษดินโทษอากาศจริงๆ!”
ทุกคนล้วนดูถูกในใจ
จวงเฉียงยิ่งพูดว่า “เฉินเกอ นายขี้ขลาดมากเกินไปแล้วมั้ง นายถึงกับปัดความรับผิดชอบไปให้ลม นายนี่มันมีวิธีจริงๆ!”
แต่หลี่เจิ้นกั๋วกลับทำท่ากำลังคิดหนัก
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ตบหน้าผากในทันใด “พี่เฉินที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าใจคุณผิดแล้ว ภาพวาดนี้ ถูกลมพัดปลิวลงไป! นั้นความรับผิดชอบดูเหมือนจะไม่ใช่คุณ!”
“ใช่เลย พวกคุณแขวนภาพไว้ที่นี่ ลมแรงมากขนาดนี้!” เฉินเกอรีบพูดขึ้น
“ใช่ๆๆ พี่เฉินไม่เตือนฉันก็ลืมไปแล้ว ดูเหมือนว่า จะเป็นความรับผิดชอบของเราทั้งหมด!”
อะไร???
เมื่อเห็นหลี่เจิ้นกั๋วเป็นแบบนี้ ทุกคนก็ตกตะลึงยิ่งนัก
พูดเพียงไม่กี่คำ หลี่เจิ้นกั๋วก็เชื่อแล้ว?
จวงเฉียงรู้สึกเหมือนมีก้างปลาติดคอ อึดอัดจะแย่ และพวกจ้าวยีฟานก็ยิ่งไม่เข้าใจ
“นั้นดี ถ้าเป็นอย่างนี้ วันนี้ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่ของประธานหลี่เราก็กลับไปก่อนนะ!”
เฉินเกอยิ้มอ่อนๆ
เหตุการณ์นี้ หลี่เจิ้นกั๋วให้ความร่วมมือได้อย่างน่าตลกมาก
หลังจากที่ทุกคนจากไป สายตาที่ทุกคนมองดูเฉินเกอ มีความงุนงงเล็กน้อย
โดยเฉพาะจ้าวยีฟาน ความรู้สึกที่เฉินเกอให้เธอ มีความรู้สึกถึงความแท้จริงบางอย่าง
“เฉินเกอ นายเก่งจังเลย นายพูดแบบนั้น ถึงกับพูดชนะใจประธานหลี่ที่ใส่ใจในภาพวาดนั้นมาก!”
ออกจากวิลล่า หม่าเสี่ยวหนานชื่นชมนับถือเฉินเกอมากโดยที่ไม่ต้องพูดถึง
จ้าวยีฟานก็ได้ฟังอยู่ข้างๆ
ในใจสงสัยยิ่งนัก ความจริงของเรื่อง เป็นเช่นนี้จริงหรือ?