ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 26 จัดงานต้อนรับให้กับคุณชายเฉิน
- Home
- ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี
- บทที่ 26 จัดงานต้อนรับให้กับคุณชายเฉิน
บทที่ 26 จัดงานต้อนรับให้กับคุณชายเฉิน
“ฉัน……ฉันไม่รออยู่ที่นี่!”
หยางเสว่มองไปที่ ลู่หยาง ก็รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
อับอายขายหน้าเกินไป!
หยางเสว่ รีบส่ายหัว
“ที่รัก เธอเห็นแก่ที่ฉันทำดีกับเธอ เธอรอฉันที่นี่ครู่เดียว ฉันไปเอาเงิน เอาได้แล้วก็ขับรถกลับมารับเธอ เราพักข้างนอกโดยตรงเลย!”
ขณะที่ลู่หยางพูดก็มองไปที่ หยางเสว่
และเป็นการเตือน หยางเสว่ด้วย
วันนี้ที่พวกเขามา เพื่อให้เฉินเกออับอายขายหน้า อย่าทำให้เสียเรื่อง
ก็ใช่!
หยางเสว่นึกถึง เฉินเกอก็สงบลง
เธอหยางเสว่แฟนใหม่ที่หามา ต้องดีกว่า เฉินเกอร้อยเท่า ดีกว่าหมื่นเท่า!
ตัวเองจะต้องไม่อับอายขายหน้าต่อหน้าเฉินเกอแน่นอน
“ได้ ฉันรออยู่ที่นี่! ยังไงฉันก็รู้ว่าคุณมีเงินอยู่แล้ว!”
หยางเสว่ จงใจพูดให้เสียงดัง
และเมื่อลู่หยาง เห็นว่า หยางเสว่ตกลงรออยู่ที่นี่ ก็รีบออกไปทันที
สำหรับกลุ่มเพื่อนของหยางเสว่ เดิมทีหยางเสว่ต้องการให้คนอื่นอยู่เป็นเพื่อนกับเธอ
แต่เมิ่งไฉ่หรูบอกว่า คนเยอะขนาดนี้ไม่กลับหอพักจะไม่ดีนัก ก็เลยพาคนที่เหลือกลับไปหมด
เฉินเกอเป็นคนสุดท้ายที่จากไป
พูดตามความจริง เห็น หยางเสว่เช่นนี้ เฉินเกอยังรู้สึกเจ็บปวดใจเล็กน้อย!
จริงๆ!
ลู่หยางทิ้งหยางเสว่ไว้ที่ร้านอาหารคนเดียว ในเวลากลางค่ำกลางคืนแบบนี้เลย หัวใจของเฉินเกอ เจ็บแปลบขึ้นมาทันที
ทั้งสองคบกันเป็นเวลาสามปี ถ้าพูดว่าไม่มีความรู้สึกเลยนั้นก็ไม่จริง
แม้ว่าเฉินเกอจะรู้สึกผิดหวังกับหยางเสว่มาโดยตลอด แม้กระทั่งเป็นเกลียดด้วยซ้ำ
ยังชักชวนตัวเองว่า หยางเสว่เป็นผู้หญิงตอแหล
และยังพูดกล่อมตัวเองเสมอมาหยางเสว่ก็เป็นแค่ผู้หญิงแรดเงียบคนหนึ่งเท่านั้น
แต่เมื่อ หยางเสว่เป็นแบบนี้จริงๆ หัวใจของเฉินเกอ ก็เสียความรู้สึก
ถ้า หยางเสว่สามารถขอร้องเขาในเวลานี้เฉินเกออาจใจอ่อนแล้วตกลงเลย
แต่หยางเสว่ กลับกอดอกไว้ แล้วมอง เฉินเกอด้วยความเย็นชาโดยตลอด
ซึ่งก็หมายความว่า นายรอดูเถอะ เดี๋ยวลู่หยางก็จะมารับเธอแล้ว
เฮ้ย!
เฉินเกอถอนหายใจออก ถ้าเป็นเช่นนี้ ตัวเองก็ไม่ต้องทำตัวไร้ค่า!
บางทีที่ตัวเองรู้สึกเจ็บปวดใจ คือหยางเสว่คนก่อน ที่น่ารักเชื่อฟัง และยังช่างเอาอกเอาใจ ออดอ้อน แต่ไม่ใช่หยางเสว่คนนี้ ที่หลงระเริงในวัตถุภายนอก
เฉินเกอหันหลังจากไปอย่างเสียอารมณ์
กลับไปที่หอพัก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร วันที่มีความสุขแบบนี้ ตัวเองได้ระบายความแค้นกับลู่หยางอย่างสะใจ ต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้น
แต่กลับไม่มีความสุขเลย
ในตอนนี้หยางฮุยได้เดินเข้ามาตบไหล่เฉินเกอเบาๆ “พี่เฉิน วันนี้นายใช้เงินแบบนี้ ไม่เป็นไรใช่ไหม? มากเกินไปแล้ว พวกเราเพื่อนๆห้ามนายก็ห้ามไม่ไหวเลย! เฮ้ย! นายมีเงินสองแสนนี่ เอาไปเรียนให้จบดีๆ ดีกว่าเยอะ!”
เฉินเกอยิ้มแล้วพูดว่า “อ๊าก? ฉันไม่ได้บอกว่าฉันถูกสองแสนนี่……”
“อะไรนะ?”
พวกเพื่อนๆล้อมเข้ามาทันที ตกตะลึงกันหมดเลย
“เฮ่ๆ ฉันถูกมากกว่านี้ และอาหารมื้อนี้ในคืนนี้ ดูเหมือนจะใช้ไปหลายแสน ที่จริงฉันไม่ได้ใช้เงินไปเท่าไหร่……”
เฉินเกออธิบายให้กับเพื่อนๆ
“งั้นนายถูกลอตเตอรี่เท่าไหร่ พี่เฉิน?”
“ใช่อ่ะ อย่าเล่นตัวแล้ว รีบพูดกับเพื่อนๆเร็วเข้า……”
พวกหยางฮุยนอนอยู่บนเตียงของเฉินเกอ ทำท่าเหมือน นายไม่พูด อย่าคิดว่าจะได้นอน
เฉินเกอจนปัญญา เลยยื่นฝ่ามือให้กับพวกเขา
“ห้า? ห้าแสน?”
พวกหยางฮุย ตกตะลึง
“นอนแล้ว พรุ่งนี้วันเสาร์ นอนก็เร็วตื่นเร็ว ยังต้องไปศึกษาที่ห้องสมุดอีกนะ!”
เฉินเกอหาข้ออ้างส่งๆ คลุมหัวแล้วนอนทันที
ห้าแสน หรือ ห้าล้านอ่ะ?”
พวกหยางฮุย กระตือรือร้นยิ่งนัก
ทุบเฉินเกอ อย่างเมามันผ่านผ้าห่ม จึงยอมจบลง
ที่จริงแค่พูดเล่นกันตามสนุก ไม่ว่า เฉินเกอจะถูกห้าแสนหรือห้าล้านก็ไม่สำคัญ แค่เขามีเงินก็พอแล้ว
พวกหยางฮุยคิดเช่นนี้ในใจ
แต่เฉินเกอ อยู่ในผ้าห่ม แม้ว่าอยากจะนอน แต่ก็นอนไม่หลับ
ยังทำตัวไร้ค่า คิดถึงหยางเสว่อยู่
ไม่รู้ว่าเธอออกมาหรือยัง
เมื่อก่อนเฉินเกอเคยสืบเรื่องลู่หยางพ่อของเขาก็แค่เปิดโรงงาน แต่ละเดือนให้ลู่หยาง ค่าใช้จ่ายห้าถึงหกพันหยวน ลู่หยางมีเงินออมมากสุดสามสี่หมื่นเท่านั้น
เงินไม่พอแน่นอน
และตามพฤติกรรมมนุษยสัมพันธ์ของเขา ยากนักที่จะกลับไปรับหยางเสว่
เฉินเกอ คิดว่า หยางเสว่จะโทรหาตัวเอง
แต่รอจนถึงเที่ยงคืน ก็รอไม่ได้
เหอะๆ ตัวเองทำตัวตกต่ำที่นี่ทำไม
คนที่เธอรักคือ ลู่หยาง ไม่ใช่นายกระจอกอย่างตัวเองเสียหน่อย……
เฉินเกอคิดออกอย่างจำใจ
วันรุ่งขึ้นคือวันเสาร์
เพื่อนร่วมหอยังไม่ตื่น
เฉินเกอรับสายตั้งแต่เช้า ดูแล้วไม่ใช่ หยางเสว่ที่โทรมา แต่เป็นหลี่เจิ้นกั๋ว!
เฉินเกอลุกขึ้นจากเตียง แล้วไปรับสายที่ห้องน้ำ
“คุณชายเฉิน อรุณสวัสดิ์ !”
หลี่เจิ้นกั๋วพูดด้วยความเคารพ
“ประธานหลี่ คุณโทรมาพอดี ฉันยังคิดว่าจะโทรหาคุณวันนี้……” เฉินเกอหัวเราะเบาๆ
“คุณชายเฉิน มีเรื่องอะไร คุณรับสั่งได้เลย!”
เฉินเกอก็เลยพูดถึงเรื่องที่ไปใช้จ่ายที่ห้องครัวเจียหยวนในเมื่อวานนี้
“อ๊ะ! คืออย่างนี้นี่เอง นั้นคุณชายเฉิน ที่คุณใช้จ่ายไปก็ไม่ได้ถึงหกเจ็บหมื่นนะ ไวน์แดงระดับหรูราคาหกหมื่นนั่น ผลิตโดยอุตสาหกรรมของครอบครัวเฉินเองในต่างประเทศ เมื่อรวมกันแล้ว ราคาทุนเพียงพันกว่าหยวนเท่านั้น ฮ่าฮ่า……”
หลี่เจิ้นกั๋วยิ้มเบาๆ บอกตามตรง คุณชายเฉินยอมใช้เงินแบบนี้แล้ว แม้ว่าจะใช้ไปเพียงแค่แสนกว่าเท่านั้น ตัวเลขน้อยจนน่าสงสาร
แต่นี่ก็กำลังดำเนินไปสู่งานที่ประธานเฉินเสี่ยวมอบหมายให้ตัวเองไม่ใช่หรือ?
“คุณชายเฉินความหมายของคุณคือ ให้ฉันคืนเงินแสนกว่าหยวนของคุณใช่ไหม? ทั้งหมดนี้ ก็เพียงแค่คำพูดของคุณคำเดียว……”
หลี่เจิ้นกั๋วฟังแล้วพูดอีกครั้ง
“อะแฮ่ม ช่างดีกว่า เงินพวกนั้น โอนเข้าบัญชีร้านอาหารทั้งหมดแล้วกัน”
เดิมทีเฉินเกอตั้งใจจะขอกลับมาจริงๆ
แต่เมื่อฟังจากน้ำเสียงของหลี่เจิ้นกั๋วแล้ว แสนกว่าหยวนนี้ เหมือนธาตุอากาศ ไม่สนใจเลยสักนิด
ถ้าเขาขออีก ก็จะลดคุณค่าหน่อยแล้ว
โอนเข้าในบัญชีโดยตรงดีกว่า เพราะยังไงเงินที่พี่สาวให้กับตัวเอง ก็มาจากอุตสาหกรรมเหล่านี้
“ใช่แล้ว ประธานหลี่ วันนี้ที่คุณโทรหาฉัน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เฉินเกอถามขึ้น
“คือเรื่องเล็กน้อยเรื่องหนึ่ง คุณชายเฉิน ทราบข่าวว่า เวลาการเลี้ยงด้วยความยากจนของคุณสิ้นสุดลงแล้ว เจ้าของร้านค้าใหญ่ใน ถนนการค้าจินหลิงได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับให้กับคุณโดยเฉพาะ เจิ้นกั๋วคิดว่าวันนี้เป็นวันเสาร์ ไม่ทราบว่าคุณจะมีเวลาว่างไหม?”
หลี่เจิ้นกั๋วถามด้วยเสียงเบา
เดิมทีวันนี้เฉินเกอคิดไว้ว่าจะออกไปเดินเล่นข้างนอกพักผ่อนหย่อนใจ
แต่เมื่อคิดดูแล้ว ในเมื่อจัดงานเลี้ยงต้อนรับโดยเฉพาะ ตัวเองก็ไม่อยากทำให้ทุกคนผิดหวังในใจ
และเฉินเกอก็ต้องการติดต่อสัมพันธ์กับผู้คนมากขึ้นจริงๆ ไม่เช่นนั้นก็เหมือนเด็กโง่คนหนึ่ง
ก็เลยตอบตกลงในทันที
และสถานที่จัด เพื่อแสดงให้ถึงความอลังการ ไม่ได้เลือกที่ถนนการค้าของบ้านตัวเอง แต่เป็นโรงแรมที่อีกแห่งหนึ่งในจินหลิง
ร้านอาหารฮุยหวง!
หลังจากที่พูดคุยกับพวกหยางฮุยแล้ว เฉินเกอก็ลงจากตึกเลย เดินเล่นก่อน แล้วค่อยไป
เมื่อเดินผ่านหอพักหญิงเฉินเกอก็เงยหน้าขึ้น เห็นคนคนหนึ่งเดินออกมาจากหอพักหญิงพอดี
ซึ่งก็คือ หยางเสว่
“ฮืม? ทำไมเธอถึงกลับหอพักแล้ว?”
เดิมทีเฉินเกอยังคิดว่า หยางเสว่ตาม ลู่หยาง ที่ไปช่วยเธอ ไปเปิดห้องที่โรงแรมแล้วเสียอีก
เฉินเกอเป็นเพราะเหตุนี้ ถึงรู้สึกเสียอารมณ์
และหยางเสว่ก็ได้เห็นเฉินเกอเหมือนกัน
“เหอะๆ เฉินเกอวันหยุดสุดสัปดาห์ จะออกไปทำงานพาร์ทไทม์เหรอ? เมื่อคืนใช้เงินจนหมดแล้วใช่ไหม?”
“ฉันบอกนายนะ นายไม่มีวันเทียบกับคุณชายลู่ได้ นายรู้ไหม เมื่อคืนคุณชายลู่ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็กลับมาแล้ว เดิมทีเราสองคนวางแผนที่จะออกไปนอนข้างนอก ถ้าไม่ใช่เพราะว่าประจำเดือนของมา หืมๆ……”
หยางเสว่จ้องมอง เฉินเกออย่างมีชัย พูดประโยคนี้ ก็เพื่อตั้งใจจะยั่วยุอารมณ์ เฉินเกอ
ฉันหยางเสว่ก็คือเทพธิดาที่นาย เฉินเกอไม่มีทางที่จะได้ครอบครอง!
“โอเค!”
เฉินเกอยิ้มเยาะเบาๆ คิดในใจว่าตัวเองทำตัวตกต่ำจริงๆ
และในเวลานี้ รถบีเอ็มดับเบิลยูสีขาวซีรี่ย์ 3 คันหนึ่ง ได้ขับผ่านเข้ามาในมหาวิทยาลัย
จากนั้นได้ลดกระจกรถลง ลู่หยางมองหยางเสว่ด้วยรอยยิ้ม แน่นอนว่าก็มองเห็นเฉินเกอด้วย
“เหอะๆเฉินเกอฉันรู้ว่าเมื่อคืนนายรอดูเรื่องตลกของฉัน แต่ว่าทำให้นายผิดหวังแล้ว นายคิดว่าข้าไม่มีเงินแล้วจริงๆเหรอ?”
ลู่หยาง ยิ้มแสยะ
จากนั้นก็หยิบแหวนเพชรออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“หยางเสว่ นี่คือที่ฉันสั่งจองไว้ให้กับเธอ ดูสิว่าชอบไหม?”
“ว้าว! แหวนเพชร ต้องราคาหมื่นกว่าแน่เลย คุณชายลู่รวยจริงๆ ไม่ใช่พวกคนที่แค่ถูกลอตเตอรี่นิดหน่อย จะสามารถเทียบเทียมได้!”
“ฮืมๆ ต้องมีเงินแน่นอน เสว่เสว่วันนี้พาเธอไปที่ดีๆอีกที่หนึ่ง เราไปใช่จ่ายระดับสูง! แต่ว่าใครบางคน ต่อไปก็จะต้องกลายเป็นคนยากจนแล้ว! ขึ้นรถ!”
หยางเสว่รู้สึกตื่นเต้นไม่หยุด รีบขึ้นรถทันที
ลู่หยางเหลือบมองเฉินเกออย่างดูถูกจากนั้นก็ขับรถออกจากมหาวิทยาลัย
ระหว่างทางหยางเสว่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “หยางหยาง คุณรีบบอกฉัน เมื่อคืนคุณหาเงินมากขนาดนั้นได้ยังไง? และมีเงินมากมายขึ้นมากะทันหัน! พ่อของคุณให้คุณเหรอ?”
ลู่หยางหัวเราะเบาๆ เล่นโทรศัพท์มือถือขณะขับรถไปด้วย
ในขณะเดียวกัน ก็ลบแอพพลิเคชั่นหนึ่งในโทรศัพท์โดยไร้ร่องรอย “เรื่องนี้เธอก็ไม่ต้องสนใจแล้ว เธอแค่จำไว้ว่า นายเฉินเกอนั่น อยู่ในสายตาของฉัน เป็นเพียงแค่ธาตุอากาศก็พอ!”
“ว้าว! มีความสุขจะแย่แล้ว!”
แม้ว่าเฉินเกอ จะถูกทั้งสองเยาะเย้ยตั้งแต่เช้า ไม่มีอารมณ์ที่จะออกไปเดินเล่นแล้ว
แค่มีความสงสัยนิดหน่อย ลู่หยางนี่ ทำไมถึงได้มีเงินมากมายในชั่วข้ามคืน?
เหอะ……
เฉินเกอหัวเราะเยาะตัวเอง เขาคิดเรื่องนี้ทำไมกัน……
เขาตรงไปที่ห้องสมุดอ่านหนังสือสักพัก
พอเวลาเกือบจะถึงเที่ยง ก็นั่งแท็กซี่ไปที่ร้านอาหารฮุยหวง
นี่คือร้านอาหารระดับหกดาวในจินหลิง แน่นอนว่าเทียบกับถนนการค้าจินหลิงไม่ได้ แต่แน่นอนว่าเกรดก็ไม่เลว
เนื่องจากการอ่านหนังสือ บวกกับการจราจรติดขัด สายไปหลายนาทีจากเวลาที่นัดกันไว้แล้ว
ในตอนนี้เลยไปอย่างเร่งรีบ
ปั้ง!
“อ๊ะ! นายคนนี้สติไม่ดีใช่ไหม!”
ตอนที่เข้าสู่ประตูหมุน เฉินเกอค่อยๆผลักประตูหมุน ไม่คาดคิดว่า หญิงสาวที่อยู่ข้างหลังชนเข้าใส่กะทันหัน!
เธอด่าทอเฉินเกอ ทันที ซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนในห้องโถงเข้ามามองดูมากมาย……