ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 27 ขโมยกิน
บทที่ 27 ขโมยกิน
“ขอโทษ……”
เฉินเกอรีบขอโทษทันที
เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวคนนี้ ตกใจกับรูปลักษณ์ที่สวยงามของหญิงสาวในพริบตา
เธอสวมชุดเดรสสั้น ผมยาวคลุมไหล่ รูปร่างสูงตระหง่าน โดยเฉพาะดูแล้วน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับตัวเอง
เป็นหนึ่งในสาวสวยเพียงไม่กี่คน ที่เฉินเกอเคยพบเห็น
“ขอโทษ? ขอโทษก็จบแล้วเหรอ? นายกระจอก!”
หญิงสาวด่าทออย่างรุนแรง
ในตอนนี้กำลังนวดบริเวณหน้าอกของตัวเองเบาๆ
เมื่อกี้ที่ชนกระแทกกับเฉินเกอ ชนเข้าที่หน้าอกของเธอโดยตรง ในขณะนี้ส่งความปวดแสบปวดร้อนเข้ามา
ทั้งๆที่เธอชนเข้าเอง แต่เห็นเฉินเกอ แต่งตัวสวมเสื้อผ้าตลาดล่าง เธอรู้หงุดหงิดไม่น้อย
“ถ้าฉันไม่รีบ ฉันจะสั่งสอนนายให้ตายเลย!”
หญิงสาวตะโกนด่า
เข้าไปผลักเฉินเกออย่างกะทันหัน “ไสหัวให้พ้น ไอ้ตัวกระจอก!”
หลังจากด่าเสร็จ ก็เดินไปที่ลิฟต์โดยตรง
เฉินเกอคิดไม่ถึงว่า สาวสวยแบบนี้ จะรุนแรงมากขนาดนี้
ทำให้เขาอดที่จะยิ้มเยาะไม่ได้
แต่เขาก็กำลังจะขึ้นลิฟต์เหมือนกัน ก็เลยก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างใน
“นายเข้ามาทำไม?”
คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่เข้าไป หญิงสาวก็มอง เฉินเกอด้วยท่าทีที่ไม่เป็นมิตรในทันที
ความหมายก็คือ คนกระจอกแบบนาย กล้าที่จะขึ้นลิฟต์พร้อมกับผู้หญิงอย่างฉัน เสียราคาจริงๆ
“ออ ฉันต้องไปชั้นบนไปธุระนิดหน่อย!”
เฉินเกอตอบกลับคำหนึ่ง ก็ไม่พูดอะไรอีก
ส่วนหญิงสาวก็หันหน้าหนี
เฉินเกอเหลือบมอง เขาแกล้งทำเป็นมองไปข้างๆราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็แอบเหลือบมองอีก ตอนที่หญิงสาวไม่ทันสังเกต
ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ!
ใครให้ยัยเด็กบ้าอย่างเธอ ชนเข้ากับประตูโดยอย่างซุ่มซ่าม ยังตะโกนใส่ตัวเองอีก
ตัวเองฉวยโอกาสเธอหน่อย คิดดอกเบี้ยหน่อย ก็ถือว่าสมเหตุสมผลใช่ไหม?
เฉินเกอเอียงศีรษะ อยากที่มองอีก
ในตอนนี้ ก็พบว่าเท้าของหญิงสาวกำลังหันเข้าหาตัวเองเธอได้หันกลับไปแล้ว
ตอนนี้ได้จ้องมอง เฉินเกอด้วยความรังเกียจและเกลียดชัง
“นายๆๆ……ตัวกระจอกอย่างนาย อยู่ในที่มีระดับสุดหรูแบบนี้ กลับทำตัวทะลึ่งแบบนี้? นายกล้าที่จะแอบมองฉัน?”
หญิงสาวพูดด้วยความโกรธ
ไอ้คนนี้กระจอกยังไม่พอ แล้วยังทะลึ่งน่าขยะแขยงขนาดนี้อีก
เกือบจะทำให้เธอโมโหจนบ้าคลั่งจริงๆ!
“ใครแอบมองเธอ ฉันแค่ก้มหน้า ก็ถือว่าแอบมองเธอแล้วเหรอ?”
เฉินเกอตอบโต้ด้วยความร้อนตัว
“เพี้ยะ!”
หญิงสาวยกมือขึ้นแล้วตบหน้าเฉินเกอ ทันที “ไอ้กุ๊ย นายอย่าไป! คุณรอไว้เลยนะ!”
หลังจากพูดจบ ก็กดลิฟต์ทันที เดินออกไปด้วยความโกรธ
“เฮ้ย เสียดายที่เกิดมาสวยแบบนี้ แต่อารมณ์ดุร้ายขนาดนี้!”
เฉินเกอปิดหน้าไว้ ถ้าไม่ใช่ว่าเพราะเธอเป็นผู้หญิง เฉินเกอจะต่อยกลับจริงๆด้วย!
เฮ้ย!
แต่เมื่อคิดดูแล้วก็ไม่ถือว่าขาดทุน เพราะเมื่อกี้ตัวเองได้ทะลึ่งนิดหน่อยจริงๆ!
ดูเหมือนว่า หลังจากหยางเสว่จำเป็นต้องหาแฟนอีกคนแล้ว!
เฉินเกอคิดถึงสิ่งนี้ ก็ได้ขึ้นลิฟต์มาถึงห้องรับรองวีไอพีชั้น 7 ที่ หลี่เจิ้นกั๋วบอกตัวเอง
นี่คือห้องรับรองสไตล์ล็อบบี้ขนาดใหญ่
เหมาะสำหรับจัดงานปาร์ตี้ และงานสังสรรค์ขนาดใหญ่
เมื่อเข้ามาแล้ว ข้างในผู้คนมากันไม่น้อย
ครื้นเครงเฮฮายิ่งนัก มีทั้งชายและหญิง ทั้งแก่และอ่อน
มีประมาณร้อยคนเต็มๆ
พนักงานเสิร์ฟเดินไปมา เครื่องดื่มทั้งหมดเป็นแบบบริการตัวเอง
ถ้าเฉินเกอเดาไม่ผิด คนเหล่านี้ก็น่าจะเป็นเจ้าของร้านค้าใน ถนนการค้าจินหลิง
เฉินเกอกวาดมองรอบหนึ่ง แต่ไม่พบตัวของหลี่เจิ้นกั๋ว
หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กำลังคิดจะโทรหาเขา แล้วถึงได้พบว่า โทรศัพท์มือถือของตัวเอง แบตหมดตั้งนานแล้ว
เฮ้ย!
เมื่อคืน เฉินเกอเล่นโทรศัพท์มือถือตลอด ลืมชาร์จแบตแล้ว!
ช่างเถอะ! รอหลี่เจิ้นกั๋วมา ตัวเองบอกทักทายกับเขาโดยตรงก็ได้แล้ว
เห็นในล็อบบี้แขวนประโยคอย่าง ยินดีต้อนรับ คุณชายเฉิน ชี้แนะแนวทางในการทำงาน งานเลี้ยงต้อนรับสำหรับคุณชายเฉิน อะไรทำนองนี้ แขวงเต็มไปทั่ว เฉินเกอยิ้มเยาะอย่างจนปัญญา หาที่นั่งแถวหัวมุมแล้วนั่งลง
เอาเครื่องดื่มและผลไม้มาทานก่อน
พนักงานเสิร์ฟกำลังยุ่งไปมา ก็ไม่ได้สังเกตเห็นร่างของเฉินเกอ แต่กลับเป็นเฉินเกอที่กำลังกินดื่มอยู่ ถูกกลุ่มคุณหนูคุณชายลูกหลานไฮโซในถนนการค้าจินหลิงมองสังเกตแล้ว
“พวกคุณรีบดูคนคนนั้นสิ นั่งกินดื่มอยู่ตรงนั้นมาสักพักแล้ว พวกคุณใครรู้จักเขาบ้าง? เป็นคนในถนนการค้าจินหลิงของเราไหม?”
“ฉันไม่เห็นเลย!”
หญิงสาวหลายคนขมวดคิ้วและส่ายหัว
“คนใน ถนนการค้าจินหลิง อะไรกัน พวกคุณไม่ได้เห็นการแต่งตัวของเขาหรือยังไง เป็นแค่นายกระจอกคนหนึ่งชัดๆ ปัดโธ่! คือแอบเข้ามาขโมยกินอาหารหรือเปล่า?”
“ขโมยกิน? คงไม่ใช่มั้ง? สมัยนี้ยังมีคนหน้าด้านแบบนี้เหรอ?”
“ทำไมจะไม่มี ฉันคิดว่านายคนนี้ก็ใช่เลย พวกคุณดูเขาสิ แต่งตัวสภาพยากจนข้นแค้น ยังเลือกที่จะนั่งในหัวมุมอีก!”
“มีเหตุผล!”
พวกคุณชายคุณหนูตระกูลไฮโซ วิพากษ์วิจารณ์ เฉินเกออย่างดูถูก
“วันนี้เป็นวันที่ท่านประธานใหญ่ในถนนการค้าของเรา คุณชายเฉิน
เฉินเกอเข้ามา ถ้าหากถูกนายคนนี้ ทำให้ในงานเกิดเรื่องอับอาย
เฉินเกอจะคิดยังไงกับความสามารถในการทำงานของของพ่อแม่พวกเรา ยังปล่อยให้คนแบบนี้เข้ามาได้!”
“ไป พวกเราเข้าไปถามเขาหน่อย ในเวลาที่จำเป็น เรียกหน่วยรักษาความปลอดภัยโยนเขาออกไป!”
คุณชายที่สวมชุดขาว บุคลิกไม่ธรรมดา ยิ้มเยาะ
“พวกคุณดูสิ ยียีมาแล้ว!”
ทันใดนั้น หญิงสาวคนหนึ่งชี้ไปที่ทางเข้าประตู แล้วร้องอุทาน
“ยียี ทางนี้!”
หญิงสาวโบกมือให้กับหลินยียี
เมื่อเห็นหลินยียีเข้ามาในงาน ดวงตาของพวกคุณชายทั้งหลาย ก็สว่างขึ้นทันที
หลินยียีสวมชุดเดรสสั้น ผมยาวคลุมไหล่
รูปลักษณ์ที่สวยงดงาม เป็นดั่งเทพธิดาของพวกสาวสวยในงานแน่นอน
โดยเฉพาะ หลินยียีขยับขายาวคู่นั้น แม้แต่พวกชายแก่บางคน ก็อดไม่ได้ที่จะมองอย่างละโมบ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกคุณชายไฮโซเลย พวกเขาตาตั้งหมดแล้ว
“ยียี ทำไมเธอถึงเพิ่งมา บอกว่าจะมาพร้อมกันไม่ใช่หรือ?”
“อุ้ย ยียี ทำไมสีหน้าเธอไม่ดีเลย”
ชายหนุ่มในชุดขาวถามต่อเนื่อง ใบหน้าเต็มไปด้วยความห่วงใย
“ฮืม ไม่ต้องพูดถึงแล้ว เมื่อกี้ตอนที่อยู่ชั้นล่าง ฉันได้เจอกับนายกระจอกที่ทะลึ่งคนหนึ่ง โธ่เว้ย! ตอนแรกแตะต้องบริเวณส่วนหนึ่งของฉัน จากนั้นก็แอบมองฉันในลิฟต์อีก ฉันเลยไปที่ห้องน้ำเพื่อจัดเรียงเสื้อผ้าใหม่!”
หลินยียีโกรธเล็กน้อย สีหน้าขาวซีดนิดหน่อย
แต่เธอพูดอย่างใจกว้างมีสง่า
และเมื่อกี้ที่เธอรีบออกจากลิฟท์ ข้อแรกก็เพราะว่าไม่อยากด้วยกันอยู่กับชายทะลึ่งคนนั้นจริงๆ
อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ เสื้อผ้าส่วนตัวของเธอ เนื่องจากกรอบประตูกระแทกโดน ดูเหมือนจะขยับตำแหน่งแล้ว เธอจึงไปที่ห้องน้ำถอดแล้วสวมใส่ใหม่
น่าโมโหจริงๆเลย!
“เฮ้ย มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ!”
ชายหนุ่มในชุดขาว แล้วพวกคุณหนูคุณชายได้ยินเข้า ก็โกรธขึ้นมาทันที
กล้าทำกับเทพธิดา ยียี เช่นนี้ หาที่ตายชัดๆ!
พวกเขาแม้แต่มือของหลินยียียังไม่เคยได้สัมผัสเลย
“เดี๋ยวนะ ยียี ตอนนี้เราไล่คนที่มาขโมยกินออกไปก่อน แล้วค่อยไปดูกล้องวงจรปิดของร้านอาหาร ตามหาคนคนนั้น!”
ชายหนุ่มชุดขาวในตอนนี้ จ้องมองไปที่เฉินเกอที่กำลังกินสลัดผลไม้อยู่
“ใช่ ไล่คนที่มาขโมยกินคนนี้ก่อน แล้วค่อยว่ากัน!”
เหล่าสาวงามคล้อยตาม……