ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 321 พัวพัน
บทที่ 321 พัวพัน
ในท้องฟ้ามีเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์มากมายกำลังบินวนเป็นรูปวงกลมล้อมรอบอยู่บนหลังคาบ้าน
ประมาณสามสิบกว่าลำ
โห๋ซานตกตะลึงตาค้าง
ส่วนจ้าวถงถงนั้นตกตะลึงจนต้องเอามือปิดปาก
โอ้โห ถึงแม้ว่าจ้าวถงถงจะเติบโตมาในเมืองใหญ่ แต่ก็ไม่เคยเห็นฉากตระการตาเช่นนี้มาก่อนเลย!
“เฉินเกอ คุณเล่นถึงขนาดนี้เลยหรือ!”
โห๋ซานตะโกนพูดด้วยความตกตะลึง
บัดนี้อยากจะเอาเงินแล้วชิ่งหนี
แต่มีบอดิการ์ดลงมาจากบันไดพาดตั้งนานแล้ว
และได้เข้าสกัดกั้นล้อมรอบโห๋ซานไว้
“เป็นนายจริงด้วยโห๋ซาน ตอนแรกคิดว่านายจะไม่กล้ากลับมาแล้ว คิดไม่ถึงว่านายไม่เพียงแต่กลับมายังคิดไม่ดีต่อคุณชายเฉินด้วย นายไม่กลัวว่าท่านประธานเฉินเสี่ยวจะรู้เหรอ?”
หลี่เจิ้นกั๋วเดินลงมา ข้างกายมีบอดี้การ์ดเทียนหลงตี้หูมาด้วย
บัดนี้กำลังกล่าวด้วยความเยาะเย้ย
เห็นได้ชัดว่าเมื่อก่อนพวกเขารู้จักกันมาก่อนแล้ว
และเห็นเทียนหลง ตี้หูกับหลี่เจิ้นกั๋วก็มากัน
โห๋ซานจึงไม่คิดที่จะหลบหนีอีก
ใช่ ตอนนี้พูดอะไรก็สายไปเสียแล้ว หากหลี่เจิ้นกั๋วรายงานเรื่องนี้ให้เฉินเสี่ยวทราบ เฉินเสี่ยวต้องไม่ปล่อยเขาไปแน่ๆ พอถึงตอนนั้นแม้แต่ศพก็อาจจะไม่ครบสามสิบสองประการก็ได้
หากยอมจำนงแต่โดยดีก็อาจมีโอกาสรอดชีวิตได้
“เห้อ!เห้อ!เห้อ!เป็นเพราะคุณหนูใหญ่ให้ผมไสหัวออกมา ผมจึงไม่มีทางเลือก และอีกอย่างพี่เจิ้นกั๋วครับ ถึงผมจะร่วมขบวนการทำร้ายคุณชายเฉิน แต่ผมก็ประสงค์ดีนะครับ พี่ไม่รู้หรอกว่าวันนั้นหลงเช่าหยุนไม่เพียงแต่จะใส่ร้ายคุณชายเฉินเท่านั้น ยังให้ผมตีคุณชายเฉินให้สลบแล้ววางยาคุณชายเฉินด้วยนะครับ ดังนั้นผมจึงได้ปฏิเสธไป และตอนนี้ท่านดูสิครับว่าผมอาสาจะเอาหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณชายเฉินด้วยนะครับ!”
โห๋ซานพูดด้วยรอยยิ้มที่ประจบประแจง
“พี่เจิ้นกั๋วครับ พี่เห็นแก่มิตรภาพที่พวกเราสามพี่น้องเคยทำงานรับใช้คุณหนูใหญ่มาด้วยกัน และเมื่อก่อนผมก็เคยช่วยพี่ด้วย พี่ปล่อยผมไปเถอะครับ?พี่ดูสิครับ ตอนนั้นผมยังเป็นเด็กอมมืออยู่เลย ตอนนี้ถึงจะโตแล้วแต่ก็ยังอยู่ในสภาพอย่างนี้อยู่เลยครับ?”
“นายยังจำได้อยู่เหรอว่าเมื่อก่อนเป็นลูกน้องของคุณหนูใหญ่?ผมยังคิดว่านายลืมไปแล้วสักอีก ส่วนเรื่องจะจัดการอย่าง
ไงกับนายก็ต้องฟังคำสั่งจากคุณชายเฉิน!”
พวกหลี่เจิ้นกั๋วเดินมาข้างๆเฉินเกอ
“โห๋ซานเคยเป็นลูกน้องของพี่สาวผมเหรอ?”
เฉินเกอถามด้วยความประหลาดใจ มิน่าล่ะโห๋ซานถึงได้กลัวพี่สาวมากนัก
“ใช่ครับคุณชายเฉิน ตอนที่คุณหนูใหญ่มาอยู่ที่เมืองจินหลิง มีผม จ้าวจื่อซิ่งและโห๋อ้านผิง ซึ่งก็คือโห๋ซานคนนี้ สามคนครับ ตอนนั้นโห๋ซานยังมีอายุแค่ยี่สิบกว่าๆ แต่ทำตัวเหลวไหล ซึ่งครั้งนั้นดื่มเหล้าจนเมาแล้วไปข่มขืนพนักงานสาวจนตั้งครรภ์ คุณหนูใหญ่โกรธมาก จึงได้ไล่สัตว์เดรัจฉานคนนี้ออกครับ!”
หลี่เจิ้นกั๋วมองโห๋ซานพลางยิ้มเยาะเย้ย
“ที่แท้ยังมีเรื่องอย่างนี้อีกด้วยเหรอ!ในเมื่อเขาเอาหลักฐานออกมา ผมก็จะไม่ถือสาเอาความก็ได้”
พูดตามความจริง ตอนแรกเฉินเกอคิดจะหาคนนั้นเจอแล้วกระทืบให้เละไปข้างหนึ่งเลย
แต่ตอนนี้โห๋ซานกำลังยิ้มให้กับเฉินเกออย่างประจบประแจง
เฉินเกอจึงไม่อยากจะสนใจคนไร้ยางอายอย่างเขาอีก
“หือ ถือว่านายโชคดีมากโห๋ซาน เอาเงินวางไว้แล้วก็ไสหัวไปซะ!ครั้งนี้จะปล่อยนายไป!”
ขณะที่หลี่เจิ้นกั๋วกำลังโกรธเคืองอยู่ก็แอบเบาใจลงมาก
เพราะถึงยังไง เมื่อก่อนพวกเขาก็เคยอยู่ด้วยกัน และโห๋ซานยังเคยช่วยชีวิตเขาไว้ครั้งหนึ่งอีกด้วย
เมื่อกี้ยังกังวลว่าคุณชายเฉินใจแข็งจะเอาชีวิตของนายคนนี้
“ผม……ผมไม่ไปครับ!”
โห๋ซานกล่าว
“นายคิดจะทำอะไร?”
“คุณชายเฉินครับ คุณดูสิผมไม่มีที่ไปแล้วครับ คุณรับผมไว้ด้วยคนนะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำความผิดอะไรอีกแล้ว คุณชายเฉินครับให้ผมติดตามคุณเถอะครับ!?”
โห๋ซานกล่าว
ใช่แล้ว ครั้งแรกที่เขาเห็นเฉินเกอที่โรงแรมก็ดูออกว่าเฉินเกอเป็นคนที่มีความเมตตากรุณามาก
และคำพูดเมื่อกี้ก็ไม่ได้พูดเล่นๆเท่านั้น
จริงอยู่ที่หลงเช่าหยุนเคยให้ตนใช้วิธีสกปรกทำร้ายเฉินเกอ
แต่โห๋ซานก็แค่ทำตามคำสั่งอย่างผิวเผิน จะไปทำร้ายจริงๆได้อย่างไรกัน
เพราะสาเหตุแรกคือเกรงกลัวเฉินเสี่ยว
สาเหตุที่สองคือเฉินเสี่ยวมีบุญคุณต่อเขา
เขาไม่กล้ากลับมา เพียงแต่คิดว่าเมื่อขโมยเงินได้สักก้อนหนึ่งแล้วจะไปจากที่เต็มไปด้วยอันตรายแห่งนี้
ความจริงแล้วคลิปอัดเสียงนี้ได้แอบอัดไว้ตอนที่อยู่กับหลงเช่าหยุน ถ้าหากได้เงินมาอย่างร่ารื่น เฉินเกอก็จะถูกเข้าใจผิดมากสุดก็แค่เจ็ดแปดวัน เมื่อตัวเองหลบไปไกลอยู่ในที่ปลอดภัยแล้วก็จะส่งคลิปอัดเสียงนี้มาให้หลี่เจิ้นกั๋ว
ตอนนี้ดูเหมือนว่าตัวเองจะหนีไปไม่ได้แล้ว
ก็ขอร้องให้เฉินเกอรับเขาไว้ก็แล้วกัน!
“นาย?”
เฉินเกอหัวเราะ“ช่างมันเถอะ วันนี้ผมจะปล่อยนายไป และจะไม่ให้พี่สาวเอาเรื่องนายวันหลังด้วย นายไปได้แล้ว!”
โห๋ซานมีท่าทางที่เจ้าเล่ห์ เฉินเกอไม่รู้ว่าคำพูดของเขาคำไหนเป็นความจริงคำไหนเป็นความเท็จกันแน่
“อย่าครับ ได้โปรดเถอะครับคุณชายเฉิน ผมมอบของขวัญชิ้นโบว์แดงให้คุณ ถือว่าเป็นของกราบไหว้เข้าร่วมวงการครับ!คุณชายเฉินต้องชอบแน่นอนครับ!”
โห๋ซานกล่าว
เฉินเกอสบตากับหลี่เจิ้นกั๋วแวบหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าพูดว่า“ก็ได้ แต่ต้องดูว่านายเอาของขวัญอะไรมาให้นะ!”
พูดจบก็หันหน้าไปมองฉินหยากับจ้าวถงถง“ประธานหลี่ จัดรถส่งพวกเธอกลับไปด้วย!”
น้ำเสียงมีความเฉื่อยชาเล็กน้อย
ส่วนฉินหยายังต้องรอคอยหวังว่าเฉินเกอจะพูดอะไรกับตนเล็กน้อยในทำนองที่ห่วงใย
แต่ทว่าไม่มีเลยสักคำ
หลังจากที่รถมาถึง เฉินเกอก็ขึ้นรถแล้วจากไป
เขาจงใจจะทำเช่นนี้
อย่างนี้ก็ดีไปอย่าง แสดงออกให้ชัดเจนจะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดในภายหลังอีก
ส่วนฉินหยามองหลังของเฉินเกอที่เดินจากไป ในใจก็รู้สึกหดหู่ยิ่งนัก นับแต่นี้เป็นต้นไปตัวเองกับเฉินเกอก็เป็นได้แค่นี้แล้วใช่ไหม?เขาหมดใจต่อเธอแล้วจริงๆหรือ?
ไม่มีแม้กระทั่งมิตรภาพความเป็นเพื่อนกันเลยหรือ?
หือหือ ใช่ ใช่แน่นอน
เฉินเกอเขาแค่มาหาหลักฐานแล้วผ่านมาช่วยเธอพอดี ตัวเองคิดฟุ้งซ่านไปไกลอะไรกัน
คิดว่าตัวเองเป็นใคร?คิดอยากจะให้เฉินเกอมาเสี่ยงอันตรายเพื่อตัวเอง
ฉินหยาเอ่ย ทำไมเธอถึงโง่เช่นนี้ ยังจะไปซาบซึ้งกับเรื่องเล็กๆอีก?
ในใจของเขามีเพียงซูมู่หานเท่านั้น ซึ่งชัดเจนมากว่าได้ถือโอกาสนี้ขอเลิกกับตน?
ฉินหยาเตือนตัวเองด้วยความทุกข์ใจ
ตอนแรกยังนึกว่ามีผู้ชายเสียสละชีวิตเพื่อจะมาช่วยตน มันเป็นการหลอกลวงทั้งเพ!หลอกลวง!
คืนนี้ฉินหยากลับไปก็นอนไม่หลับพลิกตัวไปมาอยู่ตลอด
พอถึงเช้าตรู่ถึงจะนอนหลับ
เช้าวันรุ่งขึ้นประมาณเก้าโมงกว่า ฉินหยาถูกเสียงวุ่นวายข้างนอกปลุกให้ตื่นขึ้นมา
“คุณเสี้ยงหนาน คุณต้องหาวิธีช่วยนะครับ ตอนนั้นพวกเราออกจากบ้านตระกูลฉินเพื่อติดตามคุณมา คุณต้องรับผิดชอบต่อพวกเรานะครับ ตระกูลเราจะพยุงต่อไปไม่ไหวแล้วนะครับ!”
พ่อแม่ของฉินหยา ซึ่งก็คือฉินเสี้ยงหนานพวกเขากลับมาแล้ว
และยังมีรุ่นอารุ่นลุงอยู่ด้วย
กำลังหารือวิธีเผชิญหน้ากับตระกูลหลง และตระกูลฉินแห่งเยี่ยนจิงอย่างไรดี
ตอนนั้นด้วยเรื่องบางอย่าง ทำให้ฉินเสี้ยงหนานโกรธจนนำพาทุกคนออกมาจากบ้าน ตอนนี้ธุรกิจที่ทุกคนได้ร่วมลงทุนด้วยกันจะไปไม่รอดแล้ว
จึงต้องมีความรับผิดชอบต่อทุกคน
“จนถึงตอนนี้เสี่ยวหยายังไม่มีความคืบหน้ากับคุณชายสามของตระกูลหลงเลย มันไม่เข้าท่าเสียเลย วันนี้หลงเช่าหยุนจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่วิลล่าสปา ต้องการให้เสี่ยวหยาไปร่วมงานด้วย เห็นได้ชัดว่าอยากจะให้เสี่ยวหยาตอบตกลงหมั้นกับเขา!”
คนในเชื้อตระกูลเดียวกันกล่าว
“พอแล้วพอแล้ว พวกคุณก็รู้ว่าเมื่อคืนเสี่ยวหยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ยังไม่เห็นว่าคุณชายหลงจะทำอะไรเพื่อลูกสาวผมเลย ตอนนี้เสี่ยวหยากำลังพักผ่อนอยู่ เฮ้ย !เวรกรรมจริงๆ!”
ตอนเช้าตรู่พวกฉินเสี้ยงหนานก็ได้รีบกลับมาถึงบ้าน เพราะลูกสาวเกือบจะถูกลักพาตัว มันเป็นเรื่องที่ใหญ่หลวงมาก
ในขณะที่ทุกคนกำลังหารือกันอย่างร้อนใจอยู่นั้น
ประตูห้องก็ได้เปิดออก
ฉินหยาเดินออกมาด้วยสีหน้าที่แย่เล็กน้อย“พ่อค่ะ แม่ค่ะ พวกท่านอย่ากังวลเลยค่ะ วันนี้หนูไปก็ได้ค่ะ!”