ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 35 เกิดเรื่องแล้ว
บทที่ 35 เกิดเรื่องแล้ว
“ชื่อเสียงพังทลาย แผนไหนล่ะ”
เฉินเกอเองก็ชักจะอยากรู้แล้ว
เมื่อครู่ที่จวงเฉียงมาหาไป๋เสี่ยวเฟยที่นี่นั้น เฉินเกอก็พอมองออก ถึงแม้นว่าจวงเฉียงจะดูเกรง ๆ ใจ แต่เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนไม่ลงรอยกัน
แต่เพียงแค่กลัวอำนาจของครอบครัวไป๋แค่นั้นเอง
“เหอะ ๆ จะให้คุณดูวิดีโอนี้”
เมื่อพูดเสร็จ ไป๋เสี่ยวเฟยก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วให้เฉินเกอดูวิดีโอที่พวกเขาได้ทำการบันทึกไว้
นี่คือห้องนอนขนาดใหญ่
จะเห็นว่าจวงเฉียงกำลังอุ้มผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในอาการสลบเดินเข้าห้องไป ผู้หญิงคนนี้อายุราว ๆ สามสิบได้ สวยด้วย
เรื่องราวหลังจากนั้น คงไม่ต้องคิดแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แต่เสียดาย วิดีโอนี้มีความยาวแค่สามนาที จวงเฉียงคงจะถึงคาดแล้ว
เฉินเกอเห็น จนเกิดความรู้สึกไม่อยากดู
“นี่ไม่สามารถทำลายชื่อเสียงเขาหรอ พฤติกรรมแบบนี้ สำหรับพวกเธอมันปกติไม่ใช่หรือ”
เฉินเกอพูด
ทำเอาไป๋เสี่ยวเฟยเองรู้ก็สึกไม่ดี “คุณชายเฉิน พวกเราเองก็เที่ยวผู้หญิงเสมอนะ แต่ไม่เหมือนกับจวงเฉียง คุณรู้ไหมว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร เธอเป็นแม่เลี้ยงของเขานะ”
“เหี้ย”
เฉินเกอรู้สึกตกใจจนตาค้าง
อย่างนั้นนี่คงจะสะเทือนใจมากน่าดู
“นายเกลียดเขาขนาดนี้เลยหรอ แถมยังไปสำรวจข้อมูลเขามาด้วย” เฉินเกอพูดขึ้นลอย ๆ
ไป๋เสี่ยวเฟยพูดขึ้น“ใครอยากให้บ้านจวงเล่นสกปรกแบบนี้ คุณชายเฉิน ตอนแรกภัตตาคารหมิงหวางจะประมูลแล้ว และครอบครัวเราเองก็ว่าจะซื้อไว้ และก็สุดท้ายก็ประมูลราคามาได้ เพราะว่าเข้าร่วมงานประมูลบ่อยครั้งจนรู้จักแนวทาง นั้นก็คือสามนาทีสุดท้าย เสนอราคาไม่ได้อีกแล้ว และสุดท้ายครอบครัวเขาเองก็เป็นฝ่ายแย่งไป แจ่ม! จนกระทั่งนาทีสุดท้ายถึงประมูลราคามาได้สำเร็จ ”
“เขาเล่นสกปรกกับบ้านฉัน งั้นฉันก็จะเอาคืนเขาเหมือนกัน”
เฉินเกอเข้าใจแล้ว เมื่อก่อนพวกเขาไม่กล้าทำเรื่องอย่างนี้ เพราะกลัวหลี่เจิ้นกั๋วจะติดตามเรื่องนี้ อีกอย่างเพราะว่าเขาเป็นคนดูแลธุรกิจภายในทั้งหมด และการก่อเรื่องมันเป็นธุรกิจที่ต้องห้ามด้วย
“ดังนั้นพวกคุณจึงต้องการที่จะได้รับการยอมรับหรอ”
“ใช่ เพียงแค่คุณให้คุณอาหลี่ไม่ต้องมากล่าวโทษก็พอ ส่วนเรื่องที่เหลือ ก็ยกให้พวกเราจัดการ”
เฉินเกอไม่ได้พูดอะไร แล้วจากนั้นก็ยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกไปหนึ่งคำ
และไป๋เสี่ยวเฟยทันใดก็เข้าใจ จากนั้นก็ส่งสัญญาณด้วยสายตาให้กับน้องอีกคน
น้องคนนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มา “โอเค สักพักพวกคุณคอยดูให้ดี ๆ นะ……”
เมื่อพูดจบ จากนั้นก็แอบ ๆ เดินไปยังม่านฉากหลังของพิธี
เมื่อก่อนเฉินเกอเขาจน เขาจึงต้องรองรับอารมณ์โกรธหรือการดูถูกจากผู้อื่น แต่ตอนนี้มีเงินแล้ว ทำไมยังต้องรองรับการรังแกจากคนอื่นอยู่
ดังนั้น หากสามารถแก้เผ็ดไอ้จวงเฉียงนี่ได้ เฉินเกอเองก็คงจะรู้สึกดีเหมือนกัน
และอีกอย่าง ทำเอาแม่เลี้ยงเขาได้รับการเหยียดหยามอย่างมาก
แต่พิธีการก็ยังดำเนินไปเรื่อย ๆ
จนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ต้องตัดริบบิ้น
และคุณชายน้อยของภัตตาคารหมิงหวางอย่างจวงเฉียง แน่นอนว่าต้องขึ้นไป
“ยีฟาน คุณขึ้นไปพร้อมกับผมเถอะ”
จวงเฉียงจับที่มือของจ้าวยีฟานอย่างเบา ๆ
จนทำให้คนที่อยู่ในงานรู้สึกอิจฉา
โดยเฉพาะหยางเสว่ ที่คิดว่าทำให้ชีวิตของตัวเองทำไมไม่ดีอย่างนี้ ตอนแรกก็คบหากับ เฉินเกอซึ่งเป็นคนไม่มีอะไรเลย และหลังจากนั้นก็คบกับลู่หยางซึ่งเป็นลูกคุณหนูธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
ถ้าหากเจอคนอย่างจวงเฉียง
หรือมีอำนาจแบบนี้ก็คงดี
จ้าวยีฟานเองก็จะไม่ได้ปฏิเสธ
เลยโดนจวงเฉียงจูงมือไปแบบนั้น และทั้งสองคนก็เดินตรงไปยังหน้าเวที
ในขณะที่เดินผ่านโต๊ะของเฉินเกอที่นั่งอยู่นั้น
สายตาของจ้าวยีฟาน ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังเฉินเกอ
โดยมีความนัยน์บอกเขาว่า มองเห็นหรือยัง ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ใด แต่ก็ยังคงห่างกันอยู่ดี
และจวงเฉียงเองก็มองที่เฉินเกอด้วยความพอใจแกมเยาะเย้ย ในสายตาของผู้คนในงาน เขามีความรู้สึกว่ากำลังเหยียบเฉินเกอไว้ใต้เท้า
เพียงเพราะว่าจวงเฉียงตั้งแต่เด็กนั้น เป็นคนมีปมในใจ พอดีวันนี้มีไอ้โง่อย่างเฉินเกอมาแล้ว
“หนทางยังเหลืออีกยาวไกล ฉันจะค่อย ๆ เหยียบนายให้จม และจะทำให้นายจนอย่างทรมานที่สุด”
จวงเฉียงคิดในใจ
เฉินเกอกำลังดื่มเหล้าอยู่ และไม่ทันไรลูกน้องของไป๋เสี่ยวเฟยก็กลับมายังข้าง ๆ แล้วพยักหน้าให้กลับเฉินเกอ เป็นสัญญาณว่าแผนนี้สำเร็จแล้ว รอดูผลงานได้เลย
เฉินเกอก็เลยมองไปยังบนเวทีที่จวงเฉียงยืนอยู่
พ่อและแม่เลี้ยงของเขาก็อยู่ และเห็นได้ชัดว่า ตอนที่จวงเฉียงกำลังจูงมือของจ้าวยีฟานนั้น สีหน้าของแม่เลี้ยงเขาดูไม่ปกติ
“ทุกท่านครับ ผมจะแนะกับทุกท่านสักหน่อย นี่คือแฟนผมครับ เธอคือจ้าวยีฟาน!”
ในเวลานั้น แขกในงานที่อยู่ด้านล่างของเวทีต่างก็มองยังมือตัวเองที่จับกับมือของจ้าวยีฟานไว้
แล้วแนะนำให้แขกในงานได้รู้จัก
จ้าวยีฟานเป็นคนหน้าตาดี แม้แต่คนที่เธอไม่ชอบแล้วอย่างเฉินเกอก็ยังรู้สึกว่าเธอสวย และจวงเฉียงเองก็พลอยดีมีหน้ามีตาไปด้วย
“ยีฟาน ทักทายแขกหน่อย”
จวงเฉียงพูดบอกเธอเบา ๆ
จ้าวยีฟานรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย“สวัสดีค่ะทุกท่าน ดิฉันจ้าวยีฟาน!”
“ว้าว คนสวย เธอรู้จักกับคุณชายจวงได้อย่างไร หรือว่า,การสบตาครั้งหนึ่ง,ทำให้มีเยื่อใยกัน? ”
“ใช่สิ รีบบอกมา ให้พวกเราได้รู้หน่อยว่าคุณชายจวงเคยทำอย่างไรมา”
ข้างล่างเวที มีทายาทเศรษฐีหลายระดับจำนวนมาก เพราะพวกเขารู้ว่าคงจะตีสนิทคนสมบูรณ์แบบอย่างไป๋เสี่ยวเฟยไม่ได้ จึงสนิทได้แค่จวงเฉียง
จ้าวยีฟานสางผมไปแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันรู้จักกับจวงเฉียงมานานแล้วค่ะ ลุงจวงกับคุณพ่อของฉันเคยเป็นคู่ค้ากัน แล้วเรื่องที่ฉันตกลงคบกับจวงเฉียงนั้น ก็ตอนหลังจากที่จวงเฉียงกลับมาจากนอก และเคยช่วยฉันทำธุระเรื่องหนึ่ง จนทำให้ฉันรู้สึกประทับใจ”
“ว้าว ๆ ๆ !”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง คุณชายจวงนี่สุดยอดจริง ๆ การตามจีบผู้หญิงที่ดีที่สุด ก็คือการทำให้เธอรู้สึกประทับใจนี่เอง”
เมื่อทุกคนได้ฟังดังนั้น ก็เริ่มถกเริ่มเถียงกันใหญ่และมีความรู้สึกอิจฉาที่จวงเฉียงนั้นได้แฟนสวย
เฉินเกอที่อยู่ข้างล่างของเวทีก็เกิดความรู้สึก
“ที่เขาว่าชายหล่อหญิงสวย วันนี้เหมือนเป็นวันดีที่มีเรื่องดีเกิดขึ้นสองเรื่อง ต่อไป ก็เป็นพิธีการเปิดภัตตาคารหมิงหวางด้วยการตัดริบบิ้น และจากนั้น ก็จะเปิดวิดีโอที่บรรดาเฒ่าแก่ทั้งหลายที่ได้ส่งคำอวยพรมาให้ทุกท่านดู ทุกท่านกรุณาที่หน้าจอ”
พิธีกรมีวาทศิลป์มาก เพื่อเป็นการประหยัดเวลา เขาเลยรีบพูดต่อในประเด็นอื่น
จากนั้นแสงไฟก็ค่อย ๆ ดับลง
จ้าวยีฟานยังคงมองดูเฉินเกอด้วยแววตาเหมือนเดิม
แต่ยิ้มของเฉินเกอนั้น กลับโดนเธอยิ้มเยอะเย้ยไว้เหมือนกัน
เชิญอิจฉาไป เหอะ!
จากนั้น ที่จอภาพก็มีการแสดงเริ่มขึ้น
และสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าทุกคนนั้น กลับไม่ใช่คำอวยพรที่ส่งมา แต่เป็นวิดีโอภาพที่โรงแรม
“อะไรน่ะ”
ทุกคนที่อยู่ข้างล่างของเวทีต่างเพ่งสายตามอง
“นี่คือ…… เชี่ย!”
เมื่อมองเห็นภาพที่จวงเฉียงอุ้มผู้หญิงเข้าห้อง และผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นแม่เลี้ยงของเขา
“ตูม!”
ทุกคนในงานต่างตาค้างกันไปตาม ๆ กัน
จวงเฉียงที่อยู่บนเวที ทันใดก็มีสีหน้าที่ซีดเผือด
และจ้าวยีฟานเองก็ดูมีสีหน้าที่งงงวยด้วยเหมือนกัน
ที่สุดกว่านั้นคือ ผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียของพ่อเขาซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของเขาด้วย
“นี่……แก มันสารเลว ไอ้สารเลว!”
พ่อของจวงเฉียงโกรธแทบจะกระอักเลือด
“ไม่!นี่ไม่ใช่ผม ใครเป็นคนเปิดวิดีโอนี้”
จวงเฉียงพูดขึ้นด้วยอาการสั่นเทา
ถึงแม้ว่าเขาจะพูดเสียงดัง แต่ความตึงเครียดก็คงยังดำเนินต่อไป
ทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว
สีหน้าของจ้าวยีฟานดูผิดหวังจากนั้นก็ส่ายหัว เธอไม่เพียงแค่ผิดหวังเท่านั้น แต่วันนี้เธอยังได้รับการเหยียดหยามอย่างหนัก
เพราะเมื่อครู่เธอเพิ่งแนะนำตัวไปว่าเป็นแฟนของจวงเฉียง แต่ตอนนี้ เพิ่งจะได้รู้จักกับอีกด้านที่ชั่วร้ายของจวงเฉียง
ยิ่งไปกว่านั้น ข้างล่างยังมีนักข่าวจากสำนักต่าง ๆ อีกมากมาย
จ้าวยีฟาน ดังแล้ว
เมื่อครู่ ยังดูมีสีหน้าที่น่าภูมิใจ แล้วไหนเลยจะเห็นธาตุแท้ได้
“เธอนี่มันสารเลวจริง ๆ ”
เปี๊ยะ!
จ้าวยีฟานตบยังบ้องหูของจวงเฉียงไปหนึ่งที
เหมือนกับว่าเธอกำลังเจอแล้วสวรรค์ จากนั้นก็โยนเธอลงมาสู่โลกมนุษย์
จ้าวยีฟานใช้มือกุมปากไว้ แล้วก็วิ่งร้องไห้ออกไป
“ยีฟาน ยีฟาน!”
หม่าเสี่ยวหนานเองก็ไม่นึกว่าเรื่องราวมันจะมาถึงขั้นนี้ เธอเองก็รู้ว่าวันนี้ยีฟานคงจะเจ็บหนัก กลัวเธอจะคิดสั้น จึงรีบวิ่งตามเธอออกไป
บนเวที พ่อจวงกำลังตีจวงเฉียงสั่งสอนด้วยอารมณ์โกรธ
ข้างล่างเวที แขกทั้งหลายก็ได้แต่ยืนมอง
“ฮา ๆ ……”
ไป๋เสี่ยวเฟยหัวเราะ “คุณชายเฉิน สะใจไหม ที่ไอ้เด็กเมื่อวานซืนการฉีกหน้าคุณ จึงทำให้คุณรู้สึกไม่ได้ดี และคงคิดไม่ถึงล่ะสิว่าเราจะมีปัญญาเอาคืน”
เฉินเกอก็ได้แต่ยิ้มด้วยความพอใจ
ที่เห็นจวงเฉียงอยู่บนเวทีและกำลังเอามือกุมหน้าไว้ไม่ให้นักข่าวถ่ายรูป
เขาเลยพูดขึ้นว่า“พอแล้ว ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว แยกย้ายได้แล้ว”
แกล้งคนอย่างนี้ เฉินเกอเองก็ไม่เคยทำมาก่อน
แต่ว่าลองคิดไป ไอ้จวงเฉียงคนนี้เหมาะแล้วกับคำว่า สมน้ำหน้า
เมื่อบอกกับไป๋เสี่ยวเฟยและคนอื่นแล้ว เฉินเกอก็กลับไปยังที่นั่งของหยางฮุยและคนอื่น ๆ
หากถ้าอยู่ต่อไปก็คงไม่มีความหมาย จึงเตรียมตัวกลับจากภัตตาคารด้วยการเรียกรถแท็กซี่กลับ
และในตอนนั้น ลู่หยางกำลังพาหยางเสว่ผ่านถนนไป แถมยังตั้งใจลดความเร็วรถใส่หน้าเฉินเกออีกด้วย
“โย่ ดึกขนาดนี้ รถคงเรียกยากล่ะสิ”
ลู่หยางยิ้มด้วยความพอใจและพูดขึ้น เพราะตอนแรกวันนี้ที่เขามาที่นี่ก็เพื่อจะมาแกล้ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้แกล้งอะไร
แถมเกือบจะโดนเฉินเกอหักหน้าอีก
เพราะว่าคุณชายไป๋และคนอื่น ได้เรียกเฉินเกอไปนั่งด้วย
ถ้าหากว่าไม่ใช่จวงเฉียงมาเคลียร์ คืนนี้หยางเสว่กับลู่หยางเกรงว่าคงจะนอนไม่หลับแน่
เมื่อพูดจบ แล้วทั้งสองจากไปอย่างน่าหมั่นไส้
“แม่งเอ่ย ผยองทำไมวะ”หยางฮุยด่าไปหนึ่งคำ
“เออ ได้ยินมาว่าไอ้ลู่หยางกลับมามีเงินอีกแล้ว วันนั้นให้เขาออกสองหมื่นยังยากเลยไม่ใช่หรอ แล้ววันนี้ไม่รู้ว่าเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ แถมยังซื้อของให้หยางเสว่อีกมากมาย”หลี่ปินถอนหายใจแบบหมดปัญญา
หยางฮุยสะกิด ๆ หลี่ปินแล้วจึงทำให้เขารู้สึกได้ว่า ลู่หยางเป็นคนแย่งแฟนของพี่เฉินไป แล้วจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ที่จริงเฉินเกอเองก็สงสัย แต่เรื่องเหล่านี้กับเฉินเกอแล้วมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่
ในเวลานี้ โทรศัพท์ของเฉินเกอก็ดังขึ้น เป็นหม่าเสี่ยวหนานที่โทรมา
“เฉินเกอ พวกแกอยู่ไหนกัน รีบ ๆ มาที่ตี้หวางKTVเร็ว ยีฟาน เกิดเรื่องแล้ว”