ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 39 บังเอิญเจอกันที่ร้านชานม
บทที่ 39 บังเอิญเจอกันที่ร้านชานม
ผู้จัดการหวัง นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เว่ยลี่ไม่ได้มีปฎิกิริยาตอบรับในทันที
แต่เซ้นของเธอบอกว่า เธออาจจะทำเรื่องที่ทำให้เธอไม่สามารถให้อภัยได้ตลอดชีวิตก็เป็นได้
เธอรีบร้อนตอบกลับไป
ออกไปให้พ้น แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ฝากไว้ก่อนเถอะ
หวังเฉียงจ้องเว่ยลี่ อย่างไม่ละสายตาด้วยความโกรธ
ผู้จัดการการเงินที่อยู่ข้างหลังเขา พนักงาน ก็ต่างเข้ามารวมตัวกัน
ทอดมองเฉินเกอด้วยสายตาที่น้อมน้อม
เว่ยลี่กลายเป็นบ้าไปแล้ว
เอาจริง ๆ นะ เธอคิดไปว่าเฉินเกอเป็นคนจนมากๆ
มาเพื่อเปิดหูเปิดตา
ดังนั้น เพื่อที่จะไม่ขัดใจวัยรุ่นหนุ่มสาวที่สามารถซื้อรถชนิดนี้ได้ เว่ยลี่ก็ยอมที่จะไม่ขัดใจคนจนคนนี้แน่นอน
หากแต่ว่า คนจนคนนี้ ทำไมสามารถทำให้ผู้จัดการกลายเป็นแบบนี้ได้ และเขาจะซื้อแลมโปกินี่ถึงสองคันเลยหรอ
พระเจ้า ! เขามีเงินเยอะขนาดนั้นเลยหรอ
วัยรุ่นหนุ่มสาวต่างตกใจงงงันอย่างกะทันหัน
โดยเฉพาะชายนั้นก็รู้สึกเหมือนตัวได้รับการดูถูกเหยียดหยามอย่างหนักเขาพูดว่า “ผู้จัดการ ฉันคือว่าคุณควรจะทำให้มันชัดเจน ฉันน่ะเป็นลูกค้าของพวกคุณนะ”
“ใช่ พวกเราจะซื้อGallardo ก็ต้องหาเธอ คุณทำกับเธอแบบนี้ ระวังว่าเราจะไม่ซื้อล่ะ”
ผู้หญิงพูดออกไปว่า
“คุณอยากจะซื้อก็ซื้อ คุณก็ด้วย ใครให้คุณนั่งในรถ ออกมาเดี๋ยวนี้”
หวังเฉียง คิดว่า พวกเธอเทียบกับพวกที่มีบัตรทองดำไม่ติดเลยซักนิดเดียว
ตอนนั้น ก็ชี้ไปที่ผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่เบาะคนขับ ที่มีประสบการณ์มาก
“ฉัน……… ”
ผู้หญิงคนนั้นโกรธมากจนหน้าแดง
หวังเฉียงขำออกมาและพูดกับเฉินเกอว่า “ คุณเฉิน กรุณาดูตรงนี้ ต่อจากนี้………. ”
เฉินเกอรู้ว่าเขาอยากจะถามว่าเราสามารถเริ่มต้นขั้นตอนได้รึยัง
เขาพยักหน้า และหยิบบัตรทองดำขึ้นมา
เมื่อปรับกล้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว กดเริ่มใส่รหัสเข้าไป
จากนั้นบนจอก็ปรากฏรหัสผ่านออกมา
“ ติ้ด”
“เงินสิบแปดล้านสี่แสนหยวน เข้าบัญชีเรียบร้อย!”
ไม่ทันไร ก็มีเสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นมา
“อะไรน่ะ”
ตอนนี้เอง คนที่อยู่ในนั้น รวมถึงคนที่มาซื้อรถ ต่างก็ตกใจ
สิบแปดล้านสี่แสนหยวน แค่นี้ก็สามารถซื้อรถแลมโปสั่งทำพิเศษที่หรูหราขนาดนี้ได้แล้วหรอ คนรวยอะเนอะ
“เขาเป็นใคร แต่งตัวดูซอมซ่อ ตอนแรกคิดว่าเขาแค่ จะดูเฉยๆ เชี่ย เหมือนมีออร่ามหาเศรษฐีมาแยงตาฉันเลย”
“ดูภายนอกคิดว่าเป็นนักศึกษา หรือไม่ก็ลูกรางวัลลอตเตอรี่ แม่เจ้า นี่ต้องถูกรางวัลเท่าไร ต้องไม่น้อยกว่าร้อยล้านแน่ ๆ”
“แม่เจ้า ไม่รู้เขามีแฟนรึยัง ถ้าเกิดว่ายังไม่มี ฉันจะแนะนำน้องสาวฉันให้เขา! ”
เหตุการณ์ตอนนี้มันอึกทึกขึ้นมา
ทุกคนต่างก็จ้องมาที่เฉินเกอ
มองจน เฉินเกอหน้าเริ่มแดง
และข้างๆ ที่เป็นคู่รักที่ดูสมบูรณ์แบบนั้น รู้สึกอายมากจนแทบจะหาทางไปไม่ได้
เขาซื้อรถรุ่น gallardo 1 คันสามารถซื้อรถรุ่น Gallardo ได้ตั้ง 6 คันเลยนะ
เมื่อกี้ยังไล่ให้รีบลงจากรถอยู่เลย รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าเลย
“คุณผู้หญิง รบกวนขอทางหน่อยค่ะ ฉันต้องการดูการตกแต่งภายในอีกที”
เฉินเกอเดินไปที่ข้างประตูรถ มองผู้หญิงที่กำลังแสดงท่าทีอาลัยอาวรณ์พร้อมกับพูดอย่างเย็นชาว่า
“อ่ออ ฉันฉันฉัน ! ” เธออยากจะเข้าไปในรถ มีคนนำทางขับไป ถึงตอนนั้น ก็จะดึงดูดทุกสายตาเอง
เรื่องแบบนี้สำหรับผู้หญิง ชีวิตนี้ก็พอใจแล้ว
แล้วผู้ชายตัวเองล่ะ? สามารถซื้อได้แค่รถรุ่น garllardo ได้ อยากจะบ้าตาย อาาาาาาา
ผู้หญิงคนนั้น วิ่งไปอีกฝั่งด้วยอารมณ์ทั้งอายและโกรธ
ทุกคนอยู่ข้างนอกต่างรอดูรถของเฉินเกอ
สุดท้าย เฉินเกอดูรถเสร็จจึงเดินออกมา
ประจวบกับ หวังเฉียงดำเนินขั้นตอนให้เสร็จพอดี
นายเฉิน นี่คือกุญแจรถที่คุณรัก และนามบัตรของผม
ต่อไป ถ้านายเฉิน มีความต้องการใด ๆ หรือมีปัญหาในด้านอื่น ๆ ติดต่อมาเลยไม่ต้องเกรงใจ
หวังเฉียง พูดอย่างน้อมน้อม
เพราะว่า เฉินเกอ ซื้อรถอย่างง่ายดาย มันพิสูจน์แล้วว่าเค้าต้องมาจากตระกูลใหญ่อย่างแน่นอน
ถ้าได้รู้จักกับคุณชายเฉิน ก็ถือว่าหวังเฉียงประสบความสำเร็จแล้วในชีวิต
โอเค ขอบคุณผู้จัดการหวัง มาก ๆ แต่พูดตรง ๆ ผมยังมีอีกเรื่องอยากให้คุณช่วยอยู่
เฉินเกอยิ้ม
“คุณพูดมาครับ พูดมาเลยครับ”
“คุณช่วยหาคนขับรถไปส่งผมหน่อย เหอะ ๆ ผมยังไม่ได้สอบใบขับขี่เลย”
“อย่างนี้นี่เอง คุณควรไปทำนะครับ”
“นายเฉิน ให้ผมช่วยคุณขับไหม? ”
“นายเฉิน ให้ผมช่วยคุณขับเถอะ ผมมีใบขับขี่มาสองสามปีแล้ว ”
“นายเฉิน คุณเรียนขับรถที่สถาบันไหนหรอครับ? ”
เขาไม่ได้ยินอะไรแล้ว มีสาว ๆ มากมายล้อมรอบแกะแขนเฉินเกอ อย่างบ้าคลั่ง
ตลอดทางเขาก็ถามว่าคุณเรียนที่มหาลัยไหน สถาบันขับรถที่ไหน
เฉินเกอทำท่าไม่สนใจ แต่ยังดีที่หวังเฉียง ทำงานละเอียด เขาจึงได้ขับรถไปส่ง เฉินเกอ ด้วยตัวเอง
เว่ยลี่ ยืนอยู่ที่ประตู มองดูเงาด้านหลังของเฉินเกอ และคนอื่น ๆ ที่ไกลออกไป อดไม่ได้ที่จะกัดปาก ตัวเอง และแทบอยากจะตบปากตัวเองมาก
เรามองคนผิดไป ไม่คิดว่าจะเจอคนจริง!
เว่ยลี่หมดแรงแล้วทรุดลงไปกับพื้น งานของเธอคงจะจบลงแล้ว
หลังจากที่เฉินเกอกลับไปนั้น ก็ไม่ได้ให้หวังเฉียง ไปส่งที่มหาวิทยาลัยแต่อย่างใด
อาจจะเป็นเพราะรถแลมโปคันนี้มันเด่นเกินไป ขับไปทางไหนก็เจอคนตามถ่ายเต็มไปหมด
ถ้าหากขับเข้าไปในโรงเรียนล่ะก็ คงจะมีแต่คนมาชำเลืองมองอย่างไม่ขาดสาย
มันดูโอ้อวดเกินไป
มีความรู้สึกอวดรวย
และ การอวดรวยแล้วชอบโชวร์เป็นสิ่งที่เฉินเกอไม่ชอบที่สุดหรอกหรอ
ดังนั้น เฉินเกอจึงให้หวังเฉียงจอดรถตรงใกล้ๆประตู และไม่ไกลจากนั้น มีที่จอดรถพอดี
จากนั้นเลยให้หวังเฉียง หารถกลับไปเอง
เฮ้ออ ตัวเองซื้อรถมาแต่เกรงใจไม่กล้าขับ นี่มันบ้าไปแล้ว
แต่ว่ารถคันนี้ทำให้ เฉินเกอรู้สึกพอใจอย่างมาก
รู้สึกเหมือนฝันไปเลย
พิจารณาดูกุญแจรถ วันนี้ทั้งวันเหนื่อยเสียจนน้ำลายในปากแห้ง เฉินเกอ เลยอยากจะไปซื้อชานมตรงร้านที่ข้าง ๆ มหาวิทยาลัย
“ถ้าคุณไม่มีเงินสด ใช่ qr code สแกนก็ได้นี่นา”
“ขอโทษจริง ๆ ครับ โทรศัพท์ฉันแบตหมด แล้วก็ดันลืมเอากระเป๋าตังมาด้วย งั้นเอาอย่างงี้รึกัน ฉันขอชาวาง
ไว้ตรงนี้ก่อน ฉันจะกลับไปเอากระเป๋าตังค์ที่หอ แล้วกลับมาเอา………. ”
เฉินเกอเดินมา เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถือชานมอยู่ในมือ และกำลังพูดกับพ่อค้าอยู่
ดูจากสภาพแล้ว ผู้หญิงคนนี้กำลังซื้อชานมอยู่ แต่เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองไม่ได้พกกระเป๋าตังมา มือถือก็ไม่มีแบต เลยจ่ายเงินไม่ได้ เรื่องแบบนี้ค่อนข้างจะดูน่าอาย
แต่ว่าหลังจาก เฉินเกอเห็นหน้าจากทางด้านข้างของเธอก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงงันไม่ได้
“ฮะ นั้นเธอนี่นา”
เฉินเกอ รู้สึกประหลาดใจ
เธอก็คือสาวสาวที่เจอในเมื่อครั้งก่อนเจียงเวยเวยที่บอกให้ตัวเองมาทำความสะอาดให้ เพราะว่าตัวเองมัวแต่ฟังเรื่องที่หวังหยางจะซื้อรถ แล้วไม่ทันระวังเท่าไร จึงทำรองเท้าขาวของเธอเลอะ
เพราะว่าผู้หญิงคนนี้สวยมาก ซึ่งไม่เหมือน เจียงเวยเวยที่มองคนอื่นด้วยทัศนคติที่ติดลบ สรุปแล้วเธอคือผู้หญิงที่ดูสุภาพและสงบเสงี่ยมคนหนึ่ง
ดังนั้น เฉินเกอมีความจำที่ลึกซึ้งกับผู้หญิงคนนี้
และยังจำชื่อของเธอได้อีกด้วย ซูมู่หาน!
“คุณผู้หญิง คุณอย่าล้อผมเล่น คุณดู คุณซื้อชานมมาตั้ง 6 แก้ว และหนึ่งในนั้นคุณดื่มไปแล้วหลายคำ ถ้าเอาวางไว้ตรงนี้ ถ้าคุณไม่กลับมาแล้วฉันจะไปตามทวงเงินจากไหน คุณผู้หญิง คุณอย่าต่อว่าผมเลย เราเป็นแค่ร้านชานมเล็ก ๆ ”
พ่อค้าพูดอย่างไม่มีทางเลือก
ซูมู่หานมีท่าทีเร่งรีบ เหมือนมีเรื่องอะไรบางอย่าง
เธอเร่งรีบเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก
“ราคาเท่าไร ผมจ่ายให้ครับ”
ในตอนที่ ซูมู่หานกำลังร้อนรน ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาข้างๆหู
เธอถอนหายใจ หันหลังมอง และมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ประหลาดใจ
“นายหรอ”
“อือ เจอกันอีกแล้วนะ “
เฉินเกอยิ้ม พร้อมกับอาการสีหน้าที่เริ่มแดง