ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 41 ดอกฟ้ากับหมาวัด
บทที่ 41 ดอกฟ้ากับหมาวัด
ชายหนุ่มตั้งมากมายต่างรายล้อมเข้ามา
หลี่เนี่ยนก็เดินไปทางนั้นเหมือนกัน
เฉินเกอมองอย่างแปลกใจ แล้วเฉินเกอก็เดินตามไปหนังตาเขากระตุกเล็กน้อย
หญิงสาวได้เดินออกมาแล้ว ต้องสวยอย่างแน่นอน
และเฉินเกอก็รู้จักด้วย เพิ่งรู้จักกัน
หากไม่ใช่ซูมู่หานแล้วจะเป็นใครละ
“สวยมากจริงๆ หากเป็นแฟนฉันคงจะดีมากเลย!”
ชายที่ยืนด้วยกันกับหลี่เนี่ยนรำพึงออกมา
หน้าอย่างกับหมู
“ไอ้ห่าเอ๊ย เป็นแฟนนาย ฉันจะบอกนายเอาบุญนะ นี่คือผู้หญิงที่พี่หยางรุ่นพี่ในคณะได้หมายปองไว้ พวกนายดูเพื่อความเพลิดเพลินก็พอ อยากได้เป็นแฟนอะไรอีก?”
หลี่เนี่ยนพูดอย่างดูถูก
“อ๋า!”พี่หยาง เฮ้ย ถึงว่าละ พี่หยางก็หล่อขนาดนี้ ผู้หญิงที่หมายปองก็ต้องไม่ธรรมดา!”
ชายคนนั้นได้ยินชื่อพี่หยาง ก็หงอยลงทันที
พี่หยางก็คือหวังหยาง เป็นรองประธานของคณะมนุษยศาสตร์สาขาภาษาจีน ที่บ้านมีทั้งเงินมีทั้งอำนาจ ขับรถออดี้ A6
ในมหาวิทยาลัยไม่มีใครที่ไม่รู้จัก
เป็นคนที่เขาไม่กล้าล่วงเกิน
“ใครที่กล้าไปขอวีแชทของสาวสวยคนนั้น หากขอวีแชทมาได้ ฉันยินดีออกให้หนึ่งร้อย!”
“ไม่มีประโยชน์หรอก มีคนไปขอแล้ว สาวสวยเขาไม่ให้!”
“อีกอย่าง ไม่ได้ยินที่นายคนนั้นพูดเหรอ สาวสวยคนนี้เป็นคนที่หวังหยางจะจีบ……”
“หวังหยางก็คือคนที่อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับพวกเราขับรถออดี้ A6 นี่เบ๊ของเขายังมาคอยสอดส่องดูแลโดยเฉพาะ รีบตัดใจ
กันเถอะ!”
หญิงสาวบางส่วนยังกล่าวอย่างไม่พอใจ การปรากฏตัวของซูมู่หาน ทำให้ความสวยของพวกเธอโดนปิดบังซักมิด ส่วนคนอื่นๆ
กำลังดูอยู่
เฉินเกอก็เป็นหนึ่งในนั้นที่จ้องมองซูมู่หานอยู่
“พรับ!”
ทันใดนั้น ได้มีก้อนหินเล็กๆถูกปาใส่หน้าตัวเขาเอง
แม่งเอ๊ย ใครน่ะ?
เฉินเกอหันหน้าไปดู คือ เจิ้งเชียนเชียนที่กำลังโกรธและจ้องมองตัวเขาอยู่
“เฉินเกอนายไอ้โคตรจน คนอื่นมองสาวสวย นายก็มามองสาวสวย ไม่ดูสารรูปตัวเองว่าเป็นยังไง?”
เจิ้งเชียนเชียนมาเพราะเฉินเกอไอ้โคตรจน แพ้พนันหลี่เนี่ยน เธอจะไปกินข้าวกับไอ้จอมตะกละคนนี้
จากนั้น ทำให้เธออิจฉาซูมู่หานคนนี้ หรือว่า ตัวเธอยังไม่สามารถที่จะดึงดูดนายไอ้โคตรจน มาสนใจได้?
“เจิ้งเชียนเชียน เธอมันประสาทหรือไง ดูซิเธอทำอะไร!”
โดนเฉินเกอโวยวาย
เขาอยากที่จะตบปากหลี่เนี่ยนกับเจิ้งเชียนเชียน
“เฉินเกอ!”
และในขณะนี้ ซูมู่หานที่ลงมาเห็นเฉินเกอเข้า เลยทักทายอย่างประหลาดใจ
ซูมู่หานที่เมื่อกี้รีบร้อน จะมาเรียนขับรถ
ไม่คิดว่าหลังจากที่มาแล้ว ก็ถูกชายกลุ่มหนึ่งรายล้อมจ้องมอง
ถึงแม้ผู้หญิงส่วนใหญ่จะชอบความรู้สึกที่ถูกผู้ชายมอง
แต่ท่าว่า มองตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วยังเป็นเวลาที่มาเรียนขับรถ ยังมาวิจารณ์ อย่างนี้มันทำให้ซูมู่หานอึดอัด
ยังดีที่ ตอนที่กำลังจะจอดรถ ซูมู่หานแวบแรกก็เห็นเฉินเกอ
ทั้งสนามฝึก หากจะพูดถึงคนที่รู้จัก ดูเหมือนจะมีแค่เฉินเกอคนเดียว
เฉินเกอก็ยิ้มให้ซูมู่หานพร้อมพยักหน้าให้
“ว้าว นี่มันอะไรยังไงกัน ทำไมอาซ้อถึงได้รู้จักนายโคตรจนคนนี้?”
หลี่เนี่ยนรู้สึกอึ้งนิดหน่อย
รวมทั้งผู้ชายคนอื่นๆ ต่างก็แปลกใจมองมาทางเฉินเกอ
“นายคนนี้ใส่เสื้อผ้าแย่อย่างนี้ ทำไมถึงรู้จักกับเทพธิดานะ?”
“พวกนายดูซิ ดูเหมือนความสัมพันธ์ของเขากับเทพธิดาจะไม่เลว พูดคุยหยอกล้อกัน!”
สายตาที่อิจฉาและสงสัยต่างเล็งมาที่เฉินเกอ ความหมายก็คือ ดูสารรูปของนายสิ ทำไมเทพธิดาถึงมองนายแต่ไม่มองพวกเรา?
พูดก็พูดเถอะตอนนี้เฉินเกอยังรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
“ไม่คิดว่า เธอก็ฝึกขับรถอยู่ที่นี่………”
เฉินเกอยิ้มนิดๆ
“อืมๆ ฉันมาเมื่อวาน! แต่เราสองคนก็มีวาสนากันจริงๆน้อ ใช่แล้ว ขอบคุณอีกครั้งที่ตอนเที่ยงช่วยฉันออกค่าชานมนะ…..”
เฉินเกอสนทนากับเธออย่างง่ายๆ
นอกจากหยางเสว่และหม่าเสี่ยวหนานผู้หญิงสองคนนี้
น้อยมากที่เฉินเกอจะเสวนากับผู้หญิงคนอื่นๆ เพราะเขาก็ไม่รู้จะคุยอะไร
ก็คือนึกขึ้นได้หนึ่งคำก็พูดหนึ่งคำ หรือว่าคนอื่นถามหนึ่งคำ เฉินเกอก็ตอบหนึ่งคำ
คนพูดไม่คิดมาก คนฟังเอาไปใส่ใจ
ได้ยินที่เฉินเกอช่วยซูมู่หานออกค่าชานม
หลี่เนี่ยนที่อยู่ข้างๆขมวดคิ้วขั้นทันที
ดูออกว่า เขาทั้งสองรู้จักกัน อีกทั้งเฉินเกอยังซื้อชานมให้กับมู่หาน ในนี้ มันคงไม่มีอะไรใช่ไหม?
คิดถึงจุดนี้ เขารีบส่งข้อความให้กับหวังหยาง
แล้วมองดูเฉินเกอที่กำลังจะคุยกับซูมู่หานแล้วกล่าวขึ้นว่า “เฉินเกอ นายมาเรียนขับรถหรือมาคุยกันแน่ ไม่ง่ายที่จะรวบรวม
ค่าเรียนมาเรียนได้ จะทำให้มันเสียเปล่าอย่างนี้เหรอ นายน่าจะดูเยอะๆฝึกขับเยอะๆหน่อยนะ?”
หญิงสาวที่อยู่ข้างๆก็เริ่มมองเฉินเกออย่างดูแคลน ยังนึกว่าเขาเป็นคนซื่อตรง ที่ไหนได้เวลาเห็นคนสวย อะไรก็ไม่สนแล้ว
ซูมู่หานทำไมถึงจะฟังไม่ออกว่าหลี่เนี่ยนกำลังโจมตีเฉินเกอ แล้วพูดขึ้นว่า หลี่เนี่ยนนายจะเป็นห่วงเรื่องคนอื่นทำไม สอบปฏิบัติ
ข้อสอง นายตกสองรอบแล้วนะ ยังว่าคนอื่นอีก ถ้านายมีแรงเยอะ นายก็ตั้งใจฝึกขับดีๆแล้วกัน …….
“ฉัน!”
ชั่วขณะหน้าของหลี่เนี่ยนจ๋อยลง
โวง!
และในขณะนี้ ด้านข้างสนาม มีเสียงเร่งแรงม้าของรถดังขึ้นกะทันหัน
ทุกคนต่างมองไปข้างๆ
มีหญิงสาวหลายคนชี้ไปนอกสนามแล้วพูดว่า
“รถออดี้คันนี้สวยจังเลย!”
“ว้าว เขาก็คือพี่หยางคนที่พวกนั้นพูดถึงเมื่อกี้ใช่มั้ย? รองประธานสหภาพนักศึกษาของสาขาภาษาจีน!”
“หล่อจังเลย”
หญิงสาวหลายคนอดไม่ได้ที่จะมองไปทางนั้นอย่างกระตือรือร้น
ในที่สุดรถก็ได้มาจอดตรงหน้าของซูมู่หาน
หวังหยางที่รูปร่างสูงใหญ่ลงมาจากรถ
ยังมีคนที่ตามมาจากด้านหลังเขา ก็คือเจียงเวยเวย
ทันทีที่ลงรถ สายตาก็มองไปที่ร่างของมู่หานกับเฉินเกอ
ตอนแรกที่ได้รับข้อความเขายังไม่เชื่อ ตอนนี้ ซูมู่หานกลับยืนอยู่ข้างกายเฉินเกอจริงๆ
“มู่หานเธอรู้จักเฉินเกอได้ยังไง?”
หวังหยางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
เขาเพียงแต่กลัวว่าเฉินเกอจะใช้แผนการอะไรบางอย่างมาหลอกซูมู่หาน
“วันนี้เราเพิ่งรู้จักกันเอง ทำไมเหรอ? ซูมู่หานถามหวังหยางอย่างไม่พอใจ
“ไม่มีไร เฉินเกอคนนี้คงไม่ได้บอกอะไรกับเธอใช่มั้ย? เขาไม่ได้โม้กับเธอว่าเขารู้จักเพื่อนที่ขับรถเฟอร์รารี่นะ? ฉันจะบอกเธอ มันไม่ใช่ความจริง พวกเราได้ตรวจสอบกันแล้ว!”
หวังหยางได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้ว มีความเป็นได้ว่าเฉินเกอเสียเงินห้าหมื่น เพื่อลองรถเฟอร์รารี่ แล้วใช้โอกาสนี้ในการจีบหญิง
แต่ไม่คิดว่า จุดสนใจกลับกลายเป็นมู่หาน
ซูมู่หานที่ไม่เข้าใจดังนั้นจึงขมวดคิ้วขึ้น
แต่เฉินเกอที่อยู่ข้างๆ กลับมองเจียงเวยเวยที่อยู่ข้างๆด้วยสายตาที่ขำขัน
ไม่ต้องพูดก็รู้ ครั้งที่แล้วที่ตัวเขาโกหกเธอ เธอคงเก็บเอาไปใส่ใจ
อีกทั้งยังไปสืบมาอีกด้วย
ผู้หญิงคนนี้ ต้องการอะไร?
เรื่องของตัวเขาไม่น่าจะเกี่ยวกับเธอ
“ฮึ่ม เฉินเกอ ฉันจะบอกอะไรนายนะ นายควรอยู่ห่างๆมู่หานจะดีที่สุด มู่หานเป็นผู้หญิงที่ในชีวิตนี้ของนายจะไม่มีวันได้สัมผัส อีกอย่าง คนจอมปลอมอย่างนาย ทำให้ฉันดูแคลนนายเป็นอย่างมาก!”
แค่คิดถึงวันนั้นที่เขาลงมาจากรถเฟอร์รารี่ เขายังบอกด้วยว่าเพื่อนของเขารู้สึกประหม่าขณะขับรถ
ก็โกรธอย่างมาก นายคนนี้ จะแกล้งอะไรอีก!
ตอนนี้เป็นไง ยังได้ยินที่หวังหยางพูดว่า เฉินเกอซื้อชานมให้มู่หานอีกด้วย
อันนี้มันดอกฟ้ากับหมาวัดไม่ใช่รึ?
ที่เจียงเวยเวยพูดพ่นไฟแบบนี้ ก็เพื่อที่จะให้พวกหลี่เนี่ยนหัวเราะเยาะเฉินเกอ
“เวยเวยเธอทำไมว่าเฉินเกอแบบนี้……”
ตั้งแต่ครั้งก่อนซูมู่หานก็ดูออกแล้ว เวยเวยปากร้ายกับเฉินเกอเป็นอย่างมาก
“มู่หานฉันแค่ห่วงว่าเธอจะถูกเฉินเกอคนนี้หลอก เขาไม่ได้ซื่อตรงอย่างที่เธอคิดแน่นอน!” เจียงเวยเวยมองเฉินเกออย่างแรง “ใช่แล้ว
มู่หานคืนนี้มีเวลาว่างมั้ย พี่หยางเป็นเจ้ามือ อยากพาเธอไปทานข้าวที่ห้องครัวเจียหยวน ฉันก็อาศัยลาภปากของเธอ!”
เจียงเวยเวยพูดอย่างตอแหล
“ตอนบ่ายฉันต้องฝึกขับรถ ดังนั้นกลางคืนอาจจะไม่มีเวลา……….” ซูมู่หานไม่อยากไป
“ไอ้หยา ฝึกขับรถฝึกเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ใช่ครึ่งวันนี้ก็ได้มั้ง เธออยากบอกฉันนะ เธออยากจะฝึกขับรถพร้อมนายโคตรจนคนนี้
อยู่กับเขา เสียเวลาเปล่าๆ!”
คำพูดเหล่านี้ของเจียงเวยเวย ทำให้ซูมู่หานรู้สึกอายนิดหน่อย
เธอจะไปก็ไม่ใช่ ไม่ไปก็ไม่ใช่
เพราะว่า หากไป ก็เท่ากับว่าตัวเธอไม่อยากอยู่กับเฉินเกอ ทำให้เฉินเกอดูไม่ดี เขาเป็นคนดี ซูมู่หานรู้สึกแบบนี้
หากไม่ไป ทางนี้ก็คือเจียงเวยเวยเพื่อนสมัยเด็ก
สุดท้าย ซูมู่หานพูดขึ้น: “ฉันไป ฉันขอพาคนไปด้วยหนึ่งคน วันนี้เขาช่วยเหลือฉัน ดังนั้นวันนี้ฉันขอเป็นเจ้ามือ พวกเราไปกิน
ด้วยกันดีมั้ย?”
พูดจบ ซูมู่หานมองไปที่เฉินเกอที่ยืนอยู่อย่างเงียบๆ……..