ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 92 คฤหาสน์หยุนติ่ง
บทที่ 92 คฤหาสน์หยุนติ่ง
“อะไรนะ?เขาก็คือคุณชายเฉิน?”
ทุกคนได้ยินคำพูดของไป๋เสี่ยวเฟย ต่างก็มองด้วยความตกตะลึง
และหวูเฉียงยิ่งจ้องตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อเลย
ซูเหมยยิ่งอ้าปากกว้าง
“พี่ชายบุญธรรม เป็นท่านหรือครับ?คุณคือพี่ชายของผม เฉินเกอหรือครับ?”
หวงหยงหาวก็คิดไม่ถึงว่าเฉินเกอจะปรากฏตัวด้วยวิธีนี้ เขาจึงมีเหงื่อไหลเต็มตัวเลย
“ใช่ ผมเอง!”เฉินเกอพูดอย่างยากลำบากหนึ่งประโยค อยากจะลุกขึ้นมา แต่มีเสียง อุ้ย สูดลมหายใจเข้าหนึ่งครั้ง
ถูกผู้หญิงพวกนี้นั่งจนชาไปหมดทั้งตัวแล้ว
“ใครก็ได้ ประคองผมที!”
“หา!คุณชายเฉินคุณชายเฉิน!”
เหล่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าช็อคไปตามๆกัน เสียงกรีดร้องของพวกเธอได้กลบกลืนเสียงของเฉินเกอ
หลินยียีถึงวิ่งมาประคองเฉินเกอขึ้นมา
อันที่จริงเมื่อกี้หลินยียีเกือบจะเอ๋อไปแล้ว เหตุผลหลักก็คือกลัวนั่นเอง
ครั้งที่แล้วตัวเองขัดใจกับคุณชายเฉิน เพราะเห็นแก่หน้าของพ่อตัวเอง คุณชายเฉินจึงได้ลงโทษเบาๆ
แต่ครั้งนี้รุนแรงมาก เธอไม่รู้ว่าต่อจากนี้คุณชายเฉินจะระเบิดความโมโหอย่างไร จึงยืนอยู่ข้างๆไม่กล้าพูดอะไรสักคำ เพราะสมองยังหมุนไม่กลับมา สมองโดนอุดตันแล้ว!
“คุณชายเฉิน!ใครตีคุณจนเป็นสภาพแบบนี้ครับ?”
หวงหยงหาวรีบกระโจนเข้ามาทันที ประคองเฉินขึ้นมา
ภาพนี้ทำให้ลี่เฉว่โน่มึนตึ๊บ พวกสาวสวยที่สวมใส่ชุดบิกินีก็มึนไปด้วยไ
ที่แท้แขกคนสำคัญของวันนี้คือเขานี่เอง คนที่เป็นอภิมหาเศรษฐีก็คือเขาคุณชายเฉิน!
โอ้!พระเจ้า เมื่อกี้ตัวเองทำอะไรลงไป?
คุณชายเฉินโปรดปรานพวกเธอ ถึงได้มองพวกเธอ แต่ตัวเองล่ะ กลับไปเหยียบหยามคุณชายเฉิน
พลาดโอกาสที่ดีในการรู้จักคุณชายเฉินไปแล้ว
โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย!
รวมทั้งลี่เฉว่โน่ด้วยอายจนลำไส้จะช้ำไปหมดแล้ว
คนที่เสียใจภายหลังที่สุดเห็นจะเป็นหวูเฉียงกับซูเหมยแล้ว
วันนี้หวูเฉียงกดขี่เฉินเกอทั้งวัน คุยอวดเส้นสายของตัวเองสารพัด และอวดถึงอำนาจความสามารถของตระกูลของตน เพื่อจะเทียบให้เขาต่ำลงไป
และระหว่างนั้น เฉินเกอแค่ยิ้มไม่พูดอะไรกับสิ่งที่ตนได้โอ้อวด
ยังคิดว่าตัวเองเยาะเย้ยได้ผล ทำให้เฉินเกอขายหน้าจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา
OMG ที่แท้เขาหัวเราะที่ตัวเองนั้นโง่เขลาต่างหาก!
ซูเหมยแค่ปรับอารมณ์ไม่ทัน มองเฉินเกอด้วยสีหน้าตกใจ
เธออยากจะพูด แต่ตอนนี้มีเสียงเหมือนระเบิดต่างๆดังขึ้น มีช่องว่างให้เธอพูดสักที่ไหนกันล่ะ
“คุณชายเฉิน!คุณชายเฉิน!”สาวสวยทั้งหลายเริ่มตะโกนเรียกเสียงดัง
“พวกคุณสังเกตเห็นไหมว่า คุณชายเฉินหล่อเหลาคมคายยิ่งนัก!”
“ใช่ๆ พวกคุณดูสิ คุณชายเฉินใส่เสื้อตลาดยังหล่อขนาดนี้เลย คนธรรมดาทำอย่างนี้ไม่ได้นะ?”
“ไม่ทราบว่าคุณชายเฉินมีแฟนหรือยังค่ะ?โอ้ สวรรค์ คุณชายเฉินเป็นคนแบบผ้าขี้ริ้วห่อทอง ผู้ชายอย่างนี้มีน้อยมากนะ อยากเป็นแฟนกับเขาจังเลย!”
ผู้หญิงมากมายกำลังหารือเนื้อหาประมาณนี้อยู่
แสดงความปรารถนารักที่มีต่อเฉินเกอ
พูดตามความจริง ตอนนี้ในใจของเฉินเกอรู้สึกดีมาก
ถูกสาวๆสวยๆมากมายมองด้วยสายตาโปรดปราน
ยังเป็นครั้งแรกด้วย
“คุณชายเฉิน ขอโทษค่ะ!”
ขณะนี้ พวกผู้หญิงอย่างเช่นลี่เฉว่โน่ต่างคำนับเฉินเกอด้วยท่าทางที่นอบน้อม
โดยเฉพาะลี่เฉว่โน่ ตอนนี้เริ่มบีบเต้าที่ขาวนวลของตัวเอง หวังว่าจะสามารถดึงดูดใจความสนใจของเฉินเกอได้
“คุณชายเฉิน เมื่อกี้พวกเธอเสียมารยาทอย่างนี้ จะลงโทษพวกเธอยังไงดีครับ?”
เวลานี้หวงหยงหาวถามขึ้นมาเอง
ในใจของหวงหยงหาวรู้ดีกว่าใครว่าหนักหรือเบา อะไรคือสิ่งที่สำคัญ
และท่าทีอย่างลี่เฉว่โน่ มีหรือที่หวงหยงหาวจะดูไม่ออก?
เขาคิดว่าผู้หญิงทั่วไปต่างวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยตัวเอง ไม่ง่ายเลยที่จะเห็นคนที่แกล้งทำเป็นหวนตัวอย่างลี่เฉว่โน่มาอยู่กับเขา
หวงหยงหาวก็อยากสัมผัสรสชาติการตามจีบผู้หญิงด้วยเหมือนกัน
แต่ตอนนี้ก็แค่นี้เอง
แต่ตอนนี้ผู้หญิงที่โง่เขลาตีคุณชายเฉิน ทำให้ทำลายแผนเตรียมการพบเจอครั้งแรกกับคุณชายเฉินอย่างไม่มีชิ้นดี หวงหยงหาวมีความคิดที่จะตีลี่เฉว่โน่ให้ตายด้วยซ้ำ!
ดังนั้นเขาจึงได้ถามขึ้น
เฉินเกอเหล่ตามองพวกลี่เฉว่โน่แวบหนึ่ง
พูดตามความจริง หญิงพวกนี้ยุโมโหเฉินเกอไม่ใช่น้อย
ไม่ลงโทษคงจะไม่ได้!
“ง่ายมาก ลงโทษพวกเธอใส่บิกินีแล้วไปเล่นวอลเลย์บอลกัน!”
เฉินเกอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“หา?ง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ?”
ความเพ้อเจ้อในใจของลี่เฉว่โน่ได้บังเกิด หรือคุณชายเฉินคิดจะปรองดองและปกป้องตัวเธอ เป็นห่วงเธอ?
เพราะตัวเองสวยขนาดนี้ ทำไมผู้ชายจะไม่หลงใหลล่ะ?
เวลานี้ลี่เฉว่โน่คิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนาๆ
แต่นาทีต่อมา เฉินเกอไดสาดน้ำเย็นเข้ามาใส่อย่างจัง
“แน่นอน ไม่ใช่ตรงนี้ แต่เป็นที่ถนนที่มีผู้คนพลุกพล่านและเป็นที่คนนิยมในย่านเมืองหยุนก่างใส่ชุดบิกินีแล้วแข่งวอลเลย์บอลหนึ่งนัด!”
“หา!”
ลี่เฉว่โน่ตัวแข็งไปทั้งตัว
มันช่างขายหน้าเหลือเกิน!
“เชอะ ยังไม่รีบขอบคุณคุณชายเฉินอีก ก็ลงโทษพวกคุณอย่างนี้แล้วกัน ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว คนน้อยมาก รอพรุ่งนี้ตอนกลางวัน ที่ถนนหยุนก่างจะคนเยอะ พอถึงเวลานั้น ผมจะจัดเตรียมการแข่งขันให้พวกคุณ!”
หวงหยงหาวยกแขนขึ้น
เชื้อเชิญเฉินเกอเข้าไปที่เรือสำราญกัน
“คุณชายเฉิน ฉันรักคุณ!นะนะนะ!”
หลังจากที่เฉินเกอเดินเข้าเรือสำราญแล้ว มีผู้หญิงหลายคนที่เกาผมของตัวเองแล้วพูดอย่างบ้าคลั่ง
ยังมีผู้หญิงสวยๆหลายคนที่สวมใส่บิกินีแล้วควงแขนของเฉินเกอไว้อย่างใกล้ชิด
พระเอกในค่ำคืนนี้ ที่แท้ก็เป็นเฉินเกอ คุณชายเฉินนี่เอง!
“พี่ยียี พี่ยียี!”
ซูเหมยร้อนใจจนอยู่ไม่นิ่ง ตอนแรกหลินยียีจะตามเฉินเกอเข้าไปที่เรือสำราญ แต่ตอนนี้ได้ยินเสียงของน้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน จึงได้เดินออกมา
“เฉินเกอก็คือคุณชายเฉินเจ้าของถนนการค้าจินหลิง ทำไมพี่ไม่พูดกับฉันก่อนล่ะ หล่อมากเลย เฉินเกอหล่อจริงๆ ฉันผิดไปแล้ว เป็นความผิดของฉันเอง พี่สาว พี่ต้องช่วยฉันอธิบายกับคุณชายเฉินนะ!”
“เออเสี่ยวเหมย พี่ได้เตือนน้องหลายครั้งแล้วใช่ไหม เวลาจะพูดจะจาอะไรให้มีขอบเขตหน่อย แต่เธอวางใจได้ ดูท่าแล้วคุณชายเฉินไม่ได้โทษน้อง!รายละเอียดค่อยคุยกันวันหลังนะ ใช่แล้ว เรื่องเฉินเกอก็คือคุณชายเฉิน น้องอย่าไปบอกใครโดยพลการล่ะ เก็บเรื่องวันนี้ไว้ในอก ขอแค่คุณชายเฉินไม่ยินดีที่จะเปิดเผยด้วยตัวเอง ก็จะไม่ให้หลุดออกจากปากของพวกเราเด็ดขาดเชียวนะ!”
“หา?แต่พี่ยียีค่ะ วันนี้มีคนตั้งมากมายเห็นคุณชายเฉินแล้วนี้ค่ะ!”
หลินยียีส่ายหัวไปมา ชี้ไปข้างๆ “น้องเห็นบอร์ดี้การ์ดสวมใส่เสื้อดำที่เดินไปมาหรือยัง?”
เมื่อซูเหมยมองไป เห็นเพียงบอร์ดี้การ์ดใส่เสื้อสีดำที่มีสีหน้าเย็นชาสิบกว่าคน กำลังเตือนทายาทเศรษฐีที่อยู่ในเหตุการณ์ พวกคุณหนูลูกเศรษฐีฟังแล้วต่างพยักหน้ารับ
เห็นได้ชัดว่าไม่กล้าปฏิเสธ
“นี่ถึงจะเป็นคุณชายอย่างแท้จริงใช่ไหม?”
ซูเหมยตกตะลึงตาค้าง
ต่อมา งานเลี้ยงในเรือสำราญได้เริ่มขึ้นบนผิวน้ำทะเล
เฉินเกอนั่งเรือสำราญครั้งแรก ดูวิวทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตาในยามค่ำคืนและฟังเสียงคลื่นทะเลอย่างสุนทรีย์ เป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายและมีความสุขมาก
สำหรับเรื่องสถานะที่แท้จริงของตัวเอง เฉินเกอก็มิได้ไปติดใจเอาความอะไรมาก
ก็คืออยากจะใช้ชีวิตปกติเฉกเช่นคนสามัญธรรมดาทั่วไปเหมือนเดิม เพราะวิถีชีวิตที่หรูหราอย่างหวงหยงหาว เฉินเกอรู้สึกไม่ชื่นชอบสักเท่าไหร่
สิ่งนี้ก็เปรียบเหมือนกับปลาตัวน้อยๆตัวหนึ่ง ซึ่งเคยแหวกว่ายอยู่ในน้ำอย่างอิสระเสรี และคุณกลับให้มันขึ้นฝั่งแล้วให้ปีนขึ้นต้นไม้ที่สูงลิ่ว
มันจะทำได้ในเวลาอันสั้นไหม?
เป็นไปไม่ได้!
สรุปก็คือ ณ ตอนนี้เฉินเกอไม่เป็นแบบนั้น
ดังนั้นเมื่อสักครู่นี้จึงได้ให้ไป๋เสี่ยวเฟยไปจัดการธุระเรื่องนี้
ปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ เฉินเกอเล่นกับพวกหวงหยงหาวกับไป๋เสี่ยวเฟยเกือบทั้งคืน พอจะเข้านอนก็ปาเข้าไปถึงตีสี่ตีห้าเสียแล้ว
ทายาทเศรษฐีคนอื่นๆที่อยู่ในเรือสำราญก็เช่นกัน สรุปแล้วทุกคนต่างมันส์หลุดโลกกันทั้งนั้น
วันรุ่งขึ้นพวกเขาก็ได้ออกทะเลกัน
จนถึงตอนบ่าย ปาร์ตี้บนเรือสำราญก็ถือเป็นอันจบสิ้นลง
“พี่ชาย อีกสามวันผมจะไปที่เมืองจินหลิง แล้วผมจะไปเยี่ยมท่านนะ!เพราะยังไงผมก็ต้องไปอยู่แล้ว!”
ระหว่างทางที่กลับจากทะเล หวงหยงหาวพูดอย่างสนิทสนม
“มีธุระอะไรถึงไปเมืองจินหลิง”
“ไปร่วมนิทรรศการขายคฤหาสน์หยุนติ่งหรือเปล่า?”
ไป๋เสี่ยวเฟยพูดอย่างยิ้มแย้ม
หวงหยงหาวพยักหน้า“พ่อผมบังคับให้ผมไปเปิดโลกทัศน์ให้ได้!”
เฉินเกอฟังแบบมึนๆงงๆ แต่ฟังดูชื่อของคฤหาสน์หยุนติ่งน่าจะไม่เลว เนื่องจากช่วงนี้เฉินเกออยากจะซื้อบ้านสักหลังหนึ่งอยู่พอดี
จึงถามว่า
“คฤหาสน์หยุนติ่ง ทำไมผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย มันหรูหรามากเลยหรือ?”
หวงหยงหาวกลืนน้ำลายแล้วพูดด้วยท่าทีที่ตกตะลึง “พี่ชาย คฤหาสน์หยุนติ่งมันไม่ใช่แค่หรูหราเท่านั้นนะ!”