ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่ 95 ความหึงของผู้หญิงนั้นร้ายกาจเกินไป
- Home
- ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี
- บทที่ 95 ความหึงของผู้หญิงนั้นร้ายกาจเกินไป
บทที่ 95 ความหึงของผู้หญิงนั้นร้ายกาจเกินไป
แท้ที่จริงแล้ว สิ่งที่เจิ้งยวี่พูดว่าเปลี่ยนไปแล้ว ก็คือก่อนที่พี่สาวอย่างเฉินเสี่ยวตอนที่หลี่เจิ้นกั๋วก่อนจะออกงานนั้น ได้ที่มอบอำนาจของถนนการค้าจินหลิง ให้คนอื่นดูแลแล้ว
สำหรับส่งใครมานั้น เฉินเกอไม่ได้ถาม พี่สาวอย่างเฉินเสี่ยวก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
เดี๋ยวกลับไปถามก็ได้แล้ว
และเจิ้งยวี่ ด้วยเหตุนี้ ทำงานในวิลล่าเป็นอย่างดี จึงได้ถูกย้ายไปที่ห้องครัวเจียหยวน ในฐานะผู้จัดการของที่นี่
ดูเหมือนว่าจะได้รับการเลื่อนขั้นแล้ว แต่จริงๆแล้วมันคือการลดขั้น
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ อย่างน้อยสิ่งนี้ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเฉินเกอ
ในเวลานี้เฉินเกอหันไปสนใจหญิงสาวที่อยู่ข้างๆคนนั้น พูดตามตรง ไม่เพียงแค่น่าทะนุถนอมเหมือนดั่งหยกเท่านั้น ความเห็นอกเห็นใจของเฉินเกอก็ผุดขึ้นมาแล้ว เขามองเห็นผู้หญิงคนนี้ ก็ทำให้เฉินเกอนึกถึงตัวเองในเมื่อก่อน
ในตอนนั้นตัวเองยากจนมาก จนถึงขนาดไม่มีข้าวทาน ปกติในวันหยุดสุดสัปดาห์ ต้องทำงานหลายอย่างด้วยตัวเองคนเดียว การถูกทุบตีและดุด่าเป็นเรื่องปกติธรรมดามากๆ
“เจิ้งยวี่ เธอไปทำอย่างอื่นเถอะ ไม่ใช่แค่ทุบชามพระขูดกำแพงหรอกเหรอ และก็ไม่ได้ทำให้ใครได้รับบาดเจ็บ เธอแค่ใช้ให้ในครัวทำอีกหนึ่งชามก็ได้แล้วนี่!”
เฉินเกอเอ่ยสั่ง
เจิ้งยวี่ไม่กล้าฟังที่ไหนกันล่ะ เหลือบมองตาขวางไปที่หญิงสาวคนนี้หนึ่งครั้ง แล้วก็ไปสั่งคนในห้องครัว
เจิ้งยวี่ รู้โดยธรรมชาติว่าหานเฟยเอ๋อเป็นพิธีกรสาวไลฟ์สดคนโปรดปรานของเฉินเกอ ดังนั้นจึงมองว่าเธอเป็นแขกผู้มีเกียรติที่สุดในหมู่แขกผู้มีเกียรติ ถ้ามิฉะนั้น เฉินเกอจะใช้เงินทุนหนึ่งร้อยล้านหยวนเพื่อทำให้หานเฟยเอ๋อพอใจได้อย่างไร
นี่เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เจิ้งยวี่อิจฉาได้พอดิบพอดี และเก็บไว้ในใจไม่สามารถพูดออกมาได้
“ขอบคุณค่ะ…..ขอบคุณนะคะ!”
หญิงสาวก้มศีรษะลง และโค้งคำนับเฉินเกอ
“ไม่ต้องเกรงใจ!”
เฉินเกอยิ้มจาง ๆ
อยากจะให้ผู้หญิงคนนี้เงยหน้าขึ้นมาจริงๆ เฉินเกอจะได้มองเห็นภาพรวมของเธอได้อย่างชัดเจน เพราะว่าดูจากด้านข้าง ผู้หญิงคนนี้สวยมากจริงๆ เป็นความงามหนึ่งอย่างที่ถูกมองข้ามไป
แต่เธอระมัดระวังเป็นอย่างมาก เฉินเกอจึงไม่สนใจที่จะแกล้งคนอื่น
หลังจากพูดจบ เขาก็ขึ้นไปชั้นบน
ชั้นบน หานเฟยเอ๋อและคนอื่น ๆ เริ่มทานอาหารแล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เฉินเกอถูกจัดให้อยู่บนโต๊ะที่ด้อยที่สุด และนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นที่ด้อยที่สุดด้วยเช่นกัน
และบนโต๊ะหลัก มีเมิ่งไฉ่หรูและหวังเสี่ยวยาเพื่อนสาวของหานเฟยเอ๋อจากบริษัท
ครั้งที่แล้วเคยเจอกันแล้ว
การจัดเลี้ยงแบบสี่โต๊ะนั้นรวมอยู่ในห้องVIP คึกคักมีชีวิตชีวามากเป็นธรรมชาติ
“ฮัลโหลๆ สวัสดีเพื่อนๆ ช่วยฉันชาร์จแบตโทรศัพท์ได้ไหม?”
เฉินเกอ อยู่บนโต๊ะอาหารไม่พูดไม่จา ซัดโครงกระดูกหมูตุ๋นไก่และอื่น ๆ มีพละกำลังจริงๆ ใกล้จะหิวตายแล้ว
เพราะเขาพิงที่นั่งข้างๆปลั๊กไฟ ดังนั้นในเวลานี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาต้องการให้เฉินเกอช่วย
“หึๆ แท้ที่จริงแล้วเป็นนายเองนี่!”
เพียงแค่เฉินเกอเงยหน้าขึ้น หญิงสาวคนนั้นก็ยิ้มเยาะโดยทันที
เธอคือพิธีกรสาวไลฟ์สดคนนั้นหวังเสี่ยวถี ครั้งที่แล้วเคยเจอในสวนสาธารณะ พูดได้ว่าผู้หญิงคนนี้ดูเงียบ ๆ และสวยมากๆ เพียงแค่ว่าเธอชอบมองคนในแง่ลบไปหน่อย
เดิมทีเธอมาร่วมงานเลี้ยงฉลองของหานเฟยเอ๋อ เป็นผู้หญิงที่งดงามเป็นอย่างมาก ตอนที่พูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนของหานเฟยเอ๋อ ก็งดงามเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน
เพราะเธอรู้แล้วว่า ผิงผันหนุ่มหล่อบ้านรวยคนนั้นเป็นเด็กคณะเดียวกันกับหานเฟยเอ๋อ เมื่อเธอถามไปอย่างไร หานเฟยเอ๋อก็ไม่พูดเลยสักนิด ตอนนี้ความจริงถูกเปิดเผยแล้ว
ดังนั้น เธอจึงคิดว่า ถ้าสามารถทำความรู้จักกับหนุ่มหล่อบ้านรวยคณะวรรณกรรมของมหาวิทยาลัยจินหลิงได้ แบบนี้ ในวันข้างหน้าเธอจะได้มีเหตุผลไปเดินเล่นที่คณะวรรณกรรมแล้ว ถ้าหากว่าตัวเธอเองบังเอิญพบเจอพี่ผิงผันเข้า แล้วเป็นที่ชื่นชอบของเขาอีกคนล่ะ?
ถึงอย่างไรก็ตามหวังเสี่ยวถีคิดกเสมอว่า หน้าตาของตัวเธอเองก็ไม่ได้แย่ไปกว่าหานเฟยเอ๋อตรงไหน
คิดไม่ถึงว่าเมื่อเงยหน้าขึ้น จะเห็นภาพเฉินเกอที่กำลังทานอาหารน้ำมันเต็มปาก
ทำให้เธอผิดหวังและรังเกียจเล็กน้อยจริงๆ
ถึงอย่างไรก็ตามแล้วไอ้กระจอกนี่มันโง่มากแค่ไหน ครั้งที่แล้วนับว่าเห็นเป็นครั้งสุดท้าย
“อ๋อ เป็นเธอนี่เอง! มา ฉันช่วยเธอชาร์จแบตให้!”
เฉินเกอเห็นเธอตั้งนานแล้ว เพียงแค่ไม่ได้ทักทายก็เท่านั้นเอง เขาจึงใช้กระดาษทิชชูเช็ดมือ และเตรียมที่จะรับโทรศัพท์มือถือมา
“เฮอะๆ ไม่ต้องแล้ว เพื่อนๆ ช่วยฉันหน่อยสิ!”
หวังเสี่ยวถีพูดกับนักศึกษาที่อยู่ข้างๆเฉินเกอ
หลังจากชาร์จแบตได้แล้ว หวังเสี่ยวถีก็มองตาขวางไปที่เฉินเกอหนึ่งครั้ง ก่อนจะกลับไปที่โต๊ะหลัก
เห็นได้ชัดว่า เธอเกลียดเฉินเกอเป็นอย่างมาก และตอนนี้ก็ดูหมิ่นมากขึ้นไปอีกด้วย
สำหรับเรื่องนี้ เฉินเกอเพียงแค่ยิ้มอย่างเฉยเมย ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็เคยชินแล้ว ดูเหมือนว่าเขาเกิดมาพร้อมกับคุณลักษณะที่ทำให้ผู้หญิงสวยดูหมิ่นดูแคลน เฮ้อ~
“ ทุกๆคน วันนี้เป็นวันที่สำคัญมากสำหรับฉัน ที่นี่ นอกจากจะต้องขอบคุณเพื่อนร่วมชั้นที่ดูแลฉันมาโดยตลอดนั้น ยังต้อง ขอบคุณพี่ผิงผันของฉัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มา เพราะเขาไม่อยากตัวตนของตัวเอง แต่บอกได้เลยว่า ถ้าหากไม่มีเขา ก็คงจะไม่มีเฟยเอ๋อในวันนี้! ”
“ฉันจะดื่มสามแก้วติดต่อกันเพื่อขอบคุณ!”
หานเฟยเอ๋อ ถือแก้วไวน์แดงและดื่มมันจนหมด
ภายในห้องVIP ทันใดนั้นก็มีเสียงปรบมือต้อนรับอย่างอบอุ่น
“ฉันสงสัยว่า พี่ผิงผันน่าจะชอบเฟยเอ๋อเข้าแล้ว และก็ชอบมากๆด้วย!”
รูมเมทของหานเฟยเอ๋อกล่าวขึ้นในเวลานี้
ประโยคนี้ค่อนข้างดึงดูดความสนใจ และก็ได้ดึงดูดสายตาของทุกคนในทันทีอีกด้วย
“ไปๆๆ เสี่ยวเหม่ย อย่าพูดเรื่องไร้สาระ! ถ้าพี่ผิงผันชอบฉันจริงๆ เขาคงจะมาเจอฉันตั้งนานแล้ว!” หานเฟยเอ๋อพูดด้วยความรู้สึกเย็นชาในใจเล็กน้อย
เธอถามตัวเองด้วยคำถามนี้นับครั้งไม่ถ้วน
ทำไมพี่ผิงผัน ถึงดีกับตัวเธอเองขนาดนี้?
ชอบเธอเหรอ?
ถ้าหากว่าชอบ เขาคงจะเปิดเผยตัวตนของเขาไปตั้งนานแล้ว แม้ว่าสายตาของหานเฟยเอ๋ออย่างเธอจะสูงมาก แต่ว่าพี่ผิงผันพี่รู้ไหมว่า พี่อยู่ในสายตาของเฟยเอ๋อ ไม่ได้เป็นคนสูงหล่อรวยปกติที่สามารถเปรียบเทียบกับผู้อื่นได้อีกแล้ว!
หากพี่มีความชอบเฟยเอ๋อสักครึ่งหนึ่งล่ะก็ แม้ว่าเธอจะต้องตามจีบพี่ รอพี่ก็ตาม หานเฟยเอ๋อก็เต็มใจที่จะทำเช่นนั้น
ไม่เคยพบเจอ แต่การพิมพ์แชทคุยกับพี่ผิงผันนั้น ยังสามารถช่วยเหลือตัวเธอในยามวิกฤตได้ หัวใจที่เย็นชาของหานเฟยเอ๋อดวงนั้น ถูกทำให้ละลายไปตั้งนานแล้วและไม่สามารถกลับมารวมตัวได้อีกต่อไป
ดังนั้นคำถามนี้ ทำให้หานเฟยเอ๋อคาดเดาไม่ได้จริงๆ และหัวใจของเธอก็เต้นแรง
“ฉันพูดจริงๆ ถ้าหากว่าไม่ได้ชอบเฟยเอ๋อจริงๆ เขาจะยอมทุ่มเทให้เฟยเอ๋อมากขนาดนี้ได้อย่างไร ดังนั้นในจุดนี้แทบจะยืนยันได้แล้ว แต่ว่า ทุกคนก็รู้ดีว่า พี่ผิงฟานเป็นคนถ่อมตัวมากๆ ไม่ชอบถูกรบกวน ฉันเดาว่าความคิดของเขาก็คือ แสดงความในใจให้เฟยเอ๋อรู้ก่อน บอกเฟยเอ๋ออย่างลับๆ ว่ามีคนหนึ่งชอบเธอมาโดยตลอดนะ จากนั้นเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เขาก็จะแสดงตัวตนให้เฟยเอ๋อเห็น แล้วทั้งสองคนก็คบกัน!”
“โอ๊ย เสี่ยวเหม่ย น่าเสียดายที่เธอไม่ไปเขียนนิยายลึกลับ แต่การวิเคราะห์ของเธอมันสมเหตุสมผลจริงๆ อาจจะเป็นตอนที่พวกเราจบการศึกษา วันนั้นถึงจะเป็นวันที่พี่ผิงผันสารภาพรักกับเฟยเอ๋ออย่างเป็นทางการ และช่วงเวลานี้ เฟยเอ๋อแม้ว่าเธอจะเริ่มทำงานแล้ว แต่ว่าห้ามเข้าใกล้กับผู้ชายคนอื่นมากเกินไปเป็นอันขาดนะ! ”
หญิงสาวอีกคนก็เอ่ยขึ้นมา
“ฉันเข้าใจแล้ว!” หานเฟยเอ๋อพยักหน้า ในความเป็นจริง ตอนนี้ในใจของเธอนอกจากพี่ผิงผัน ก็ไม่สามารถเพิ่มผู้ชายคนอื่นได้อีกแล้ว แม้ว่าในตอนสุดท้ายจะพบว่า คุณรวยมากกว่าพี่ผิงผันก็ตาม!
“ฉันไปเอาโทรศัพท์มือถือก่อนนะ!”
เพล้งหนึ่งเสียง หวังเสี่ยวถีวางแก้วไวน์ลง ล้วนแต่พูดกันว่าพี่ผิงผันชอบหานเฟยเอ๋อ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกอิจฉาและอึดอัดในใจเป็นอย่างมาก
ทุกคนไม่สามารถจินตนาการได้ว่า วันนั้นที่พี่ผิงผันจัดเงินทุนใน Apps ไลฟ์สดให้หานเฟยเอ๋อหนึ่งร้อยล้านนั้น ความอิจฉาในใจของหวังเสี่ยวถีมีมากถึงขั้นไหน
อิจฉาราวกับว่าหานเฟยเอ๋อไปแย่งแฟนของเธอมาเช่นนั้น
หวังเสี่ยวถีเดินมาถึงด้านข้างของเฉินเกอ
“หลีกทางให้ฉันหน่อย!” หวังเสี่ยวถีฉีกเสื้อผ้าของเฉินเกอไปถึงอีกข้างหนึ่งอย่างหยาบคาย
ในใจของเฉินเกอคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นบ้าไปแล้ว
จากนั้นก็อยากที่จะส่งโทรศัพท์มือถือให้กับเธอและปล่อยเธอออกไปอย่างรวดเร็วนั้น
แต่คิดไม่ถึงว่ามือของเฉินเกอเพียงแค่สัมผัส ก็ราวกับว่าเขาจุดดินปืน
“นายเป็นใคร นายมาแตะต้องโทรศัพท์มือถือของฉัน ดูสิว่านายต่ำช้าขนาดไหน!นายคู่ควรที่จะแตะต้องโทรศัพท์มือถือของฉันเหรอ!!!”
หวังเสี่ยวถีตบไปที่มือเฉินเกอ อย่างรุนแรง
“นายมีอะไรดีงั้นเหรอ นายไม่ใช่แค่ไอ้กระจอกคนหนึ่งเหรอ นายแตะต้องของของฉันทำไม! โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ ฉันไม่เอาแล้ว!”
“ผลัวะ!”
หวังเสี่ยวถีราวกับบ้าคลั่ง หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วก็กระแทกลงพื้นโดยทันที
ในมือยังถือไวน์แดงต่อหน้าเฉินเกอ และสาดไปบนใบหน้าของเฉินเกอโดยตรง
ภายในห้องVIP ก็เงียบลงมาโดยทันที
ทุกคนตกตะลึงไปหมดแล้ว
เฉินเกอ ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยไวน์แดง ก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน…