ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่138 ความกังวลของหลินยียี
บทที่138 ความกังวลของหลินยียี
คนทั้งหมดนั้นช็อกจนนิ่งไป
“คุณชายเฉินคะ คนนี้คือ?”
ถังหรานเดินมาอยู่ข้างๆเฉินเกอ มองพวกเธอแล้วถามขึ้นด้วยความสงสัย
โดยเฉพาะถังหรานที่เห็นว่าหลินยียีสวยขนาดนี้ ทำให้ในใจของถังหรานก็รู้สึกหึงหวงมา
สรุปก็คือเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีประมาณนั้น
แต่ว่านี่กลับทำให้เฉินเกอลำบากใจ
จะให้พูดไปตรงๆว่าหลินยียีเป็นแฟนของตัวเองก็คงไม่ได้หรอกใช่ไหม?
ถ้าเกิดว่าไปบอกซูมู่หานขึ้นมาจะทำยังไง? นั่นมันไม่ใช่เรื่องไม่มีมูลแล้วเกิดหายนะหรือไง
“เรื่องนี้ค่อยบอกพี่ทีหลังแล้วกัน! คนพวกนี้เป็นแขกของผม ช่วยสั่งให้คนมาดูแลต้อนรับหน่อยนะครับ!”
เฉินเกอยิ้มบางๆ
“ค่ะ คุณชายเฉิน!”
ถังหรานพยักหน้า
แต่ที่เรียกกันคำนี้ก็คุณชายเฉินคำโน้นก็คุณชายเฉิน ทำให้หลินหงเซียะถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก
“อะไร อะไรนะ? แกเป็นคุณชายเฉิน? คุณชายเฉินแห่งจินหลิง?”
หลินหงเซียะราวกับกำลังตะโกนออกมา
“ใช่ครับ! คุณป้าสอง! ผมนี่แหละ!”
แต่เฉินเกอกลับยิ้มขึ้นมาอย่างสนใจ
“ยียี นี่เรื่องจริงนั้นเหรอ?”
ลี่หงจู๋วเองก็เอ่ยขึ้นด้วยความตกตะลึง แค่รู้สึกว่าหน้าของตัวเองกำลังจะบวมแล้ว
คนจนน่ารังเกียจที่โดนเยาะเย้ยมาตลอดทาง กลับกลายเป็นคุณชายเฉิน!
หลินยียีพยักหน้าอย่างจริงจัง
ทั้งสามสาวพี่น้องก็สูดลมหายใจเย็น
ชัดเจนว่าชื่อของคุณชายเฉิน พวกเธอคงได้ยินมาไม่น้อยแล้ว
คิดไม่ถึงว่า คนๆนั้นกำลังยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง
ภายในใจของหลายคนก็เกิดความรู้สึกเสียใจขึ้นมา
เมื่อกี้ยังอวดโน่นนี่อยู่ต่อหน้าเฉินเกออยู่เลย ผลลัพธ์ราวกับแสดงเป็นตัวตลกต่อหน้าคนอื่นอย่างไรอย่างนั้น!
หลังจากนั้นก็ดูสนุกสนานขึ้นมาถนัดตา
หัวข้อบทสนทนายังคงล้อมรอบอยู่บนตัวเองเฉินเกอ
แต่ไม่ว่าเฉินเกอจะพูดว่าอะไร พวกเธอก็ตอบแต่ค่ะๆๆ
แต่ละคนเงียบกันเหมือนจิ้งหรีดในฤดูใบไม้ร่วง
เหอะๆ เฉินเกอรู้ การตอกกลับของเฉินเกอในครั้งนี้ทำให้พวกเธอนั้นตายสนิท
ก็ดี ต่อไปจะได้ไม่ต้องผิดใจกัน
“คุณชายเฉิน บ้านตกแต่งเสร็จแล้วค่ะ? คุณจะย้ายเข้ามาเมื่อไหร่คะ?”
ตอนที่กำลังจะไป ในตอนนี้ถังหรานก็ถามขึ้นเสียงเบา
“อีกไม่กี่วันนี้แหละ จ้าวจื่อซิ่งจัดการเรื่องได้เร็วดีนี่ บอกเจ็ดวันแต่ใช้เวลาแค่หกวันเอง!”
เฉินเกอตอบกลับมาประโยคหนึ่ง แล้วก็พาพวกหลินยียีลงไปจากบนเขา
“เฉินเกอ นายอยู่ไหนน่ะ? ตอนเย็นฉันอยากจะไปกินข้าวที่โรงอาหารพร้อมนาย มีเรื่องที่จะต้องพูดกับนายด้วย!”
เป็นซูมู่หานที่อยู่ๆก็ส่งข้อความมาหาเฉินเกอในวีแชท
แถมยังทำให้เฉินเกอใจหายใจคว่ำ และยังทำให้เขารู้สึกกลัวราวกับตัวเองเป็นโจร
“อ้อๆ ฉันอยู่ที่มหาลัยนี่แหละ ได้ ตอนเย็นฉันจะไปรอเธอที่โรงอาหาร!”
เฉินเกอรีบตอบกลับไปหนึ่งประโยค!
“เอ่อยียี ที่มหาลัยมีเรื่องนิดหน่อย ฉันจำเป็นต้องกลับไป คงไม่ได้ไปกับพวกคุณป้าของเธอแล้วนะ ตอนเย็นเธอก็พาพวกเขาไปที่วิลล่าสปานะ!”
เฉินเกอพูดขึ้นมาเบาๆหนึ่ประโยค
“โอ๊ย เสี่ยวเกอ เธอยุ่งก็โอเค ไม่ต้องมาสนใจพวกเราหรอก พวกเราโตกันขนาดนี้แล้วไม่มีเรื่องอะไรให้เธอกังวลหรอก !”
หลินหงเซียะพูดขึ้นยิ้มๆ
“ใช่น่ะสิเสี่ยวเกอ ดูสิวันนี้รบกวนเธอแล้ว พวกเธอพี่น้องนี่ยังไม่รีบไหว้พี่เขยอีกเหรอ พี่เขยจะไปแล้วนะ!
หลินหงจู๋วก็รีบแย่งพูด แถมยังสั่งสอนพี่น้องที่มีท่าทีอิดออดทั้งสามคนอีก
“พี่เขย พี่ไปทำงานเถอะค่ะ!”
พี่น้องทั้งสามคนพูดขึ้นพร้อมกัน แถมยังยิ้มแบบนั้นให้กับเฉินเกออีก จะว่ายังไงดี ถ้าบอกว่ายิ้มยั่วก็จะดูแรงไป ถ้าบอกว่าไม่ใช่ ตอนนี้ในใจหญิงสาวทั้งสามคนมีจินตนาการต่างๆเกี่ยวกับเฉินเกออยู่จริงๆ
คิดว่าเฉินเกอไม่ได้แค่หน้าตาดูสะอาดสะอ้านเท่า แต่พอมองอีกครั้งแต่งตัวบ้านๆ แต่กลับหล่อได้ขนาดนี้ ไม่ว่าจะมองยังไงก็ดูดีกว่าแฟนตัวเอง!
“เอ่อ……”
เฉินเกอรับไม่ได้กับความใส่ใจมากมายขนาดนี้ ไม่นานก็รีบจากไป
ส่วนเรื่องที่เกลียดหรือไม่เกลียดพวกเธอนั้น? ก็บอกไม่ได้ อย่างน้อยตัวเองกับหลินยียีก็แค่แสดงละครฉากหนึ่งเท่านั้น
“พระเจ้ายียี เฉินเกอก็คือคุณชายเฉิน เธอกลับไม่พูดออกมา ทำเอาป้าเกือบจะว่าร้ายคุณชายเฉินแบบที่ป้าใหญ่ของเราทำเสียแล้ว!”
หลินหงเซียะตบมือแล้วพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
หลินหงจู๋วได้ยินคำพูดนี้ก็ไม่ยินดีเสียแล้ว “ฉันว่าหงเซียะ คนที่พูดจาว่าร้ายก็คือเธอชัดๆ ทำให้คุณชายเฉินรู้สึกไม่ดีก็คือเธอ เธอจะมาพูดว่าเป็นฉันได้ยังไง ไม่เชื่อเธอก็ลองถามลูกสาวขอฉันดู ก่อนหน้านั้นฉันพูดกับเฉินเกอ น้ำเสียงนุ่มนวลใช่ไหม? เป็นคุณน้ารองของพวกเธอที่พูดจาเยาะเย้ยใช่ไหม?”
หลินหงจู๋วถามลูกสาวที่อยู่ข้างๆ
ลูกสาวเองก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรดี
ดีที่หวางเผิงลูกเขยของเธอเอ่ยขึ้น “ไม่น่าจะนะครับ! แหะๆๆ! จะว่าไปแล้ว เมื่อกี้ตอนที่คุณชายเฉินออกไปอารมณ์ก็ดีนะครับ คงจะไม่มาคิดเล็กคิดน้อยกับพวกเราหรอกครับ!”
หลินหงจู๋วมองหวางเผิงด้วยสีหน้ารังเกียจ “ดูพฤติกรรมแกสิ ฉันถามลูกสาวของฉัน ถามแกหรือยัง? แกมีเงินน้อยแค่นั้นมาอวดอะไรกันห๊ะ? หน้าตาคนถ่อย เมื่อไหร่ตะหัดเป็นแบบเสี่ยวเกอเขาบ้าง คนที่มีความคิดแบบผู้ใหญ่แล้วก็หนักแน่น!”
หวางเผิงโดนด่าจนหน้าม้าน
แฟนหนุ่มของน้องรองหลี่เฟยทำได้แค่ยิ้ม
“ยิ้ม? ยิ้มอะไรหา? แกนึกว่าแกดีแล้วอย่างนั้นเหรอ? ทั้งวันวางท่าทำเหมือนว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ วางท่าว่าตัวเองสุขุม แกต้องมีเงินสิแกถึงจะมาวางท่าได้? ต่อไปอยู่ให้ห่างจากลูกสาวฉันเลยนะ!”
หลินหงจู๋วโมโหแล้ว
ใช่นะสิ วันนี้หลังจากได้เจอกับคุณชายเฉินเฉินเกอ หลินหงจู๋วก็พบว่าลูกเขยในอนาคตทั้งสองคนของตัวเองนั้นทำไมถึงได้ไร้ศักยภาพแบบนี้? ไม่ใช่ไร้ศักยภาพ ทำไมถึงมองแล้วดูไม่เหมือนกับมนุษย์เลย!
ส่วนหลินหงเซียะก็ไม่สนใจพี่สาวแล้ว
หมุนตัวกลับมาดึงมือของหลินยียี “ยียี ต่อไปพวกเราก็ไปมาหาสู่กันบ่อยๆนะ อ๋อใช่ ป้ายังไม่เคยมาวิลล่าสปาเลย ยังไงเสี่ยวเกอก็พูดแล้ว เธอก็ช่วยพาพวกเราไปเดินดูหน่อย!”
“ใช่แล้วยียี พาพวกเราไป!”
“ฉันไม่มีอารมณ์ พวกคุณป้าไปกันเองเถอะค่ะ!”
หลินยียีกลับพูดขึ้นมาเบาๆหนึ่งประโยค
น้ำเสียงเย็นชามาก
นี่ไม่ใช่เพราะต้องการจะประชดคุณป้าทั้งสองคน แต่ว่าในใจของหลินยียีตอนนี้พันกันยุ่งเหยิงไปหมด
เพราะว่าเมื่อกี้ หลินยียีกับเฉินเหอนั่งด้วยกัน ตอนที่เฉินเกอได้รับข้อความในวีแชท หลินยียีเห็นเข้าพอดี
เป็นผู้หญิงคนหนึ่งชื่อซูมู่หลาน ขอให้เฉินเกอไปกินข้าวเป็นเพื่อนเธอ
ส่วนเฉินเกอนะเหรอ ก็โกหกเธอว่าจริงๆแล้วเขาอยู่ที่มหาวิทยาลัย ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นเขาจะกลับไปก็เถอะ
แค่ความกล้าที่จะบอกเธอว่าอยู่กับผู้หญิงอีกคนหนึ่งของเฉินเกอยังไม่มีเลย
อีกอย่างก็มองออกด้วยว่าเฉินเกอนั้นแคร์เธอมาก!
ทำให้หลินยียีรู้สึกเหมือนว่าหัวใจของเธอนั้นโดนบีบรัด
พูดตามตรง ตัวเธอเองขอให้เฉินเกอมาช่วยตัวเองตั้งหลายครั้ง เพราะว่าอะไร?
เพราะต้องการให้เฉินเกอช่วยจริงๆ?
ว่าไปแล้ว เรื่องเป็นแฟนกำมะลอ หลินยียีเธอหาใครก็ได้ไหม?
ทำไมถึงจะต้องมาหาเฉินเกอ?
ไม่ใช่เพราะว่าจะสร้างโอกาสให้ตัวเองได้อยู่เฉินเกอหรือไง!
แต่ว่า ในใจของเฉินเกอคิดถึงแต่ผู้หญิงที่ชื่อซูมู่หลานคนนั้น แค่มองท่าทางกระวนกระวายเมื่อกี้ของเขาก็รู้แล้ว
ดังนั้นตอนนี้สมองของหลินยียีขาวโพลนไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น!
อยากจะอยู่เงียบๆคนเดียว
ส่วนเฉินเกอก็กลับไปถึงมหาวิทยาลัยแล้ว
แถมยังตรงไปที่ประตูโรงอาหารเลยด้วย
ในขณะเดียวกันพอถึงแล้ว เขาก็ส่งข้อความในวีแชทไปหาซูมู่หานในทันที
“ทำไมยังไม่มาโรงอาหารอีกล่ะ? ฉันยังรอเธออยู่ที่หน้าประตูนะ!”
เฉินเกอคิดถึงอุบายจริงเท็จที่หม่าเสี่ยวหนานกับหยางฮุยบอกกับตัวเอง พูดขึ้นแล้วก็หยุด
“หึหึ กำลังจะไปแล้ว สาขาวิชาวิทยุกระจายเสียงเพิ่งจะเลิกประชุม แหะๆ ให้นายรอก็เกรงใจเหมือนกันนะ!”
ซูมู่หานเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด
แผนนี้นี่ใช้ได้ผลจริงๆด้วย!
ในใจเฉินเกอคิด
“นี่ พวกเธอได้ยินหรือยัง วันนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งเกือบฆ่าตัวตายด้วยนะ?”
ในตอนนี้ สิ่งที่กลุ่มผู้หญิงที่เดินผ่านตัวเขาไปกำลังพูดกัน ก็ลอยเข้ามาในหูของเฉินเกอ……